บทที่ 6 ความทรงจำในวันวาน

2029 คำ
พี่ธีร์ธามตามติดชนิดที่เรียกว่าฉันไม่สามารถมุดหนีไปไหนได้ กว่าจะซื้อของเข้าคอนโดฉันอยู่ในโหมดหัวเสียและหงุดหงิดในความเจ้ากี้เจ้าการยัดเยียดซื้อของให้จนมันจะยัดเข้าห้องไม่ได้หมด "พี่เตือนแล้วนะห้ามให้ผู้ชายคนไหนเข้าห้องถ้าไม่ใช่พี่ โดยเฉพาะไอ้จืดนั่นห้ามเห็นมันมาคอนโดนี้ ถ้าเตือนแล้วไม่ทำตามจะว่าพี่ร้ายไม่ได้นะข้าวปุ้น" ฉันเบะปากมองบนนึกกว่าฉันจะสลดทำตามพี่ธีร์ธามพูดงั้นเหรอฝันไปเถอะ ทำตัวอย่างกับผู้ปกครองของฉันคิดควบคุมฉันเหมือนน้องสาวของตัวเองอีกคนไม่ง่ายหรอกนะฉันไม่ใช่ข้าวปุ้นคนที่หลงรักพี่ธีร์ธามหัวปักหัวปำคนนั้น "ค่าาาา...พ่อ" ฉันลากเสียงยาวน้ำเสียงประชดประชันพูดย้ำยียวนกวนโมโหจนทำให้พี่ธีร์ธามหน้าตึงหงุดหงิด ฉันได้แต่แอบยิ้มที่ทำให้พี่เขาหัวเสียได้ "เดี๋ยวเถอะยัยแสบ อย่าล้อเล่นคนหล่อๆอย่างพี่เป็นพ่อเธอไม่ได้ถ้าจะเป็นได้อย่างเดียวคือผะ......." สายแพรวพราวอย่างเสือร้ายที่จ้องตะครุบเหยื่อ แววตาหิวกระหายสอดส่ายสำรวจร่างกายจนฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆ กับสายตาคมกริบของจอมกะล่อนเจ้าเล่ห์ ฉันเข้าใจดีว่าเสือร้ายจอมเจ้าชู้อย่างพี่เขากำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร ฉันไม่ได้ไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกจนไม่เข้าใจเรื่องความต้องการทางร่างกายของมนุษย์ สายตาพี่เขาอ่านง่ายจนไม่ต้องคาดเดา "พี่ธามส่งเสร็จก็รีบกลับไปสักทีสิคะข้าวปุ้นจะได้รีบเข้าห้อง" ฉันต้องรีบพูดตัดบทเพราะรู้ว่าพี่ธีร์ธามเขากำลังไล่ต้อนให้ฉันจนมุม ฉันยอมไม่ได้ทีเมื่อก่อนเล่นตัวกับฉันดีนักเข้าใกล้ทีไรทำเหมือนฉันเป็นกิ้งกือ ตอนนี้คิดยังไงถึงได้เอาตัวเองมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้หรือพี่เขาจะไบโพล่าจำคำพูดตัวเองไม่ได้ อย่าคิดว่าคนอย่างข้าวปุ้นจะยอมง่ายๆเหมือนตอนนั้นจนกว่าฉันยังไม่ได้เอาคืนอย่างสาสามที่ทำฉันเสียใจผิดหวัง "พี่เหนื่อยหิวน้ำมากด้วยไม่คิดจะตอบแทนผู้มีพระคุณให้เข้าไปพักเหนื่อยและดื่มน้ำเย็นๆในห้องสักหน่อยหรือไงสวยแต่แล้งน้ำใจชะมัด" คิดว่าคำพูดยกยอพวกนี้จะใช้ได้ผลกับฉันอีกหรือยังไงฝันไปเถอะ แล้วไอ้สายตาออดอ้อนที่เคยทำให้ฉันหลงกลตอนนั้นคิดจะใช้มันอีกครั้งพี่เขาคิดผิด ฉันสร้างกำแพงเอาไว้สูงมันจะไม่มีผลต่อหัวใจของฉัน พี่ธีร์ธามรู้จักข้าวปุ้นจอมจุ้นคนนี้น้อยไปล่ะ ติ๊ด~ ติ๊ด~ "เสียใจค่ะพี่ธามบอกเองว่าไม่ให้ผู้ชายเข้าห้อง พี่ธามก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้นค่ะ บาย.." ฉันแตะคีย์การ์ดที่ประตูใช้ความคล่องตัวเปิดประตูเข้าห้องและปิดมันลงไม่ลังเล ปัง!! ฉันรีบเข้าห้องแล้วปิดประตูใส่หน้าพี่ธีร์ธามอย่างเร็วกลัวเขาจะตามเข้ามาในห้อง "เฮ้อ!! หนีพ้นสักที คราวนี้ฉันจะช่อนตัวเหมือนดักแด้ไม่ยอมไม่เจอกัน" ฉันรีบล็อกห้องหันมองรอบๆสำรวจให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าห้องฉันได้ ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อในห้องนี้มีเพียงฉันคนเดียว ก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~ เสียงเคาะประตูดังลั่น ฉันทำได้แค่แอบซุ่มดูเจ้าของเสียงเคาะห้องยืนทำหน้าบูดบึ้งอารมณ์เสีย ฉันแอบยิ้มสะใจปล่อยให้เคาะไปเดี๋ยวก็ถอยไปเอง "ยัยจุ้น... ข้าวปุ้น เปิดประตูให้พี่หน่อย" พี่ธีร์ธามยังไม่ลดความพยายามตะโกนเรียกให้ฉันเปิดประตูห้องให้ ถ้าฉันทำตามพี่ธีร์ธามเดี๋ยวจะคิดว่าฟฉันยังมีใจให้อีกอย่างพี่ธีร์ธามเป็นคนสั่งฉันเองนี่ว่าไม่ให้ผู้ชายเข้าห้อง ฉันทำตามทุกอย่างเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่ธีร์ธามไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าห้อง "ฝากไว้ก่อนเถอะยัยจุ้น อย่าให้ถึงทีพี่แล้วกันจะทำให้ร้องเรียกชื่อพี่ทั้งคืนคอยดู" ฉันได้ยินเสียงพี่ธีร์ธามพูดคาดโทษฉันเอาไว้เพราะเรียกยังไงประตูก็ไม่เปิด ฉันยังใช้ความเงียบเข้าสยบความเคลื่อนไหวข้างนอก ยืนส่องพี่ธีร์หันหลังเดินห่างออกไปแล้วหายไปในที่สุด ฉันหันหลังเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวโปรดแล้วนึกย้อนไปเมื่อสองปีก่อนตอนฉันวิ่งไล่ตามตื้อพี่ธีร์ธาม ฉันตกลงไปในหลุมพี่ธีร์ธามจนหาทางออกไม่เจอตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตากันหัวใจฉันล่องลอยตามพี่เขาไปทุกหนทุกแห่ง "พี่ธีร์ธามคิดถึงข้าวปุ้นไหมคะ ไม่เจอหน้ากันต้องสองชั่วโมง" เสียงอ๊อดเตือนหมดคาบทีไรฉันจะรีบออกจากห้องเรียนของตัวเองเอาหน้าไปโผล่ที่ห้องเรียนพี่เขาตลอดอยากให้พี่เขาจำหน้าฉันได้ "ยัยจุ้นไม่เบื่อไม่เหนื่อยบ้างหรือไง ทำไมไม่ไปอยู่กับเพื่อนๆของเธอโน่น พี่บอกไปแล้วยังไงไม่สนใจเด็กตามอยู่ได้ รู้ไหมมันน่ารำคาญ" โผล่หน้ามาให้เจอทีไรพี่ ธีร์ธามก็มีแต่ออกปากไล่ให้ไปไกลๆทุกที แต่ฉันเองก็ไม่เคยท้อดิ้นรนมาพาตัวเองมาหาพี่เขาได้ทุกที "ก็อยากมาเจอหน้าแฟนนี่คะทำยังไงได้คนมันคิดถึง" ฉันยังคงถือคติตื้อทุกวัน หยอดทุกทีที่มีโอกาสน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันต้องกร่อนและหวั่นไหวบ้างแหละ ฉันอยากแทรกซึมเข้าไปอยู่ในหัวใจของพี่ธีร์ธามช้าๆอย่างไม่รู้ตัว หวังว่าสักวันหนึ่งฉันจะได้ฝังรากและฟักตัวเป็นผีเสื้อสวยงามอยู่ในใจพี่เขา "เอาแล้วเว้ย!!ไอ้ธีร์ธามแฟนเด็กมาบอกคิดถึงที่ เมื่อไหร่กรวย..มึงจะอ่อนให้น้องมันบ้างวะ" เสียงพี่ติวเตอร์ที่คอยเป็นกองเชียร์ให้ฉันตลอดเวลาที่มาเจอพี่ธีร์ธาม นั่นคือความหวังเดียวของฉัน "กรวยกูคงอ่อนให้ยัยจุ้นจริงนั่นแหละ นิ่งไม่กระดิกดูมองตรงไหนก็ราบเรียบจนกรวย..หมดอารมณ์อ่อนยวบยาบ" พี่ธีร์ธามพูดเหยียดฉันต่อหน้าเพื่อนๆทำให้ฉันขายหน้าแทบแทรกแผ่นดินหนี ความมั่นใจที่เคยมีลดลงฮวบ เสียงแผ่วเบาในใจฉันคอยพูดเตือนคอยดูฉันให้ดีสักวันจะทำให้กรวย..พี่แข็งกับฉันแต่เอาออกมาใช้งานไม่ได้จะทำให้ทรมานทั้งคนทั้งกรวย Rrr rrr rrr เสียงสายเรียกเข้าทำให้ฉันสะดุ้งสติกลับมาที่ปัจจุบัน ฉันเหลือบมองที่หน้าจอปรากฏชื่อเพื่อนตัวแสบที่ปล่อยฉันไปกับพี่ธีร์ธามมันก็รู้ว่าฉันเป็นโจทย์เก่ากับพี่เขาแทนที่จะช่วยเป็นไม้กันหมาพาฉันออกมาจากสถานการณ์น่าอึดอัด กวินท์เรียนอยู่คนละห้องกับฉันเรามาสนิทกันได้หลังจากพี่ธีร์ธามจบออกไป ตอนนั้นฉันรู้สึกเฟลและเสียสสูญมาก ทำให้ฉันก็ไม่กล้ามองและตามผู้ชายคนไหนเพราะขาดความมั่นใจอย่างหนัก จนกระทั่งเจอกวินท์ที่เล่นบาสกับเพื่อนความหล่อเขาแตะตา ฉันอยากลองตัดใจจากพี่ธีร์ธามและเริ่มต้นใหม่ดูอีกสักครั้ง ฉันจึงเริ่มตามกวินท์ตั้งแต่ม. 5ตามบ่อยจนกวินท์เองเริ่มรำคาญพร้อมเฉลยว่าไม่ชอบผู้หญิง นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผู้ชายให้มาเป็นเพื่อนสนิทอีกคนจนเราเรียนจบกวินท์ก็ตามมาเรียนด้วยกัน "กวินท์แกทำอะไรของแกกล้าปล่อยฉันไปกับพี่เขาสองต่อได้ยังไง แกก็รู้ว่าพี่เขาไม่ค่อยชอบฉัน" ฉันรับสายของ กวินท์เปิดลำโพงคุยจะได้ด่าเพื่อนถนัดๆ "การแสดงออกของพี่เขาฉันดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่นะ ไม่มีอาการไหนที่แสดงออกว่าพี่เขาไม่ชอบแก ฉันคิดว่ามันตรงกันข้ามกับที่แกเคยเล่าให้ฉันฟังด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามดูพี่เขาหวงแก้อามากๆ สายตาอาฆาตทำฉันสยองขนลุกขนพองกลัวโดนฆ่าหมกมหาลัย" ฉันคิดว่ากวินท์มันต้องมองผิดแน่ๆคนเคยไม่ชอบกันจะมาหวงฉันทำไม "แกพูดอะไรของแกไม่มีทางที่พี่เขาจะหวงฉันแน่นอน เมื่อก่อนเขาไล่ฉันไปไกลๆพี่เขาด้วยซ้ำ แกคิดว่าคนเราจะเปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้นเลยรึไง" ฉันไม่มีทางเชื่อพี่เขาตอกย้ำว่าไม่ชอบยัยจุ้นอย่างฉันทุกวัน ไม่ชอบเด็กชอบไล่ฉันไปกินนมให้โตค่อยมาคุยกันฉันยังจำคำพูดนั้นได้ดี "เปลี่ยนได้สิแกยังเปลี่ยนได้เลย ฉันพิสูจน์ให้แกเห็นแล้วไงพี่เขาควันออกหูตอนฉันโอบเอวแกแทบจะจับมือฉันหักเป็นท่อนๆได้เลยนะ ออกอาการเหมือนหมาบ้าที่เตรียมขย้ำฉันแกไม่เห็นรึยังไง ฉันถึงรีบถอยใจจริงอยากเล่นกับแกต่อกลัวไม่มีชีวิตรอด" ฉันนิ่งฟังที่กวินท์มันวิเคราะห์มันก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะใช่ แต่อีกใจยังแย้งพี่เขาจะหวงฉันทำไมตัวเองเคยประกาศชัดว่าไม่ชอบ หรือฉันต้องพิสูจน์ให้รู้ชัดกันๆไป ถ้ามันเป็นอย่างที่กวินท์พูดฉันจะได้เอาคืนพี่เขาบ้าง อยากให้เขาเข้าใจและรับรู้ความรู้สึกของฉัน แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่อย่างที่ฉันกับกวินท์เข้าใจกันฉันจะได้ตัดใจอย่างเด็ดขาด "กวินท์ฉันคิดอะไรออกอย่างหนึ่ง และแกต้องช่วยฉันทำให้สำเร็จเพราะแกเป็นคนเริ่มแผนการเราต้องไปต่อให้สุด" "แผนอะไรของแก คงไม่คิดทำอะไรพิเลนนะพี่เขาท่าทางโหดน่าดู ฉันยังอยากมีชีวิตรอดยังใช้ชีวิตโสดไม่สุดฉันไม่อยากโดนสอยล่วงก่อนเวลาอันควร" ฉันอยากหัวเราะออกมาดังๆไม่คิดว่าพี่ธีร์ธามจะทำให้กวินท์มันกลัวจนไม่กล้าออกตัวแรง "เรื่องของแกสิเกี่ยวไรกับฉันล่ะ แกเป็นคนเริ่มเองแกก็หาทางเอาตัวรอดเอง งานนี้แกห้ามปฏิเสธเพราะฉันช่วยแกหลายเรื่องแม้แต่เรื่องจีบหนุ่มละอ่อน คราวนี้ถึงทีแกต้องช่วยเพื่อนสาวคนสวย ยุทธการเอาคืนกำลังจะเริ่มจากนี้" ฉันเริ่มนึกสนุกขึ้นมาอยากเป็นฝ่ายที่ถูกตามและเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธพี่เขากลับบ้าง "แกแน่ใจนะนั่นพี่ชายเพื่อนสนิท หญ้าหวานมันจะเห็นด้วยกับเราไหม" กวินท์ดูกังวลกับเรื่องของหญ้าหวาน "แกไม่ต้องห่วงหญ้าหวานก็อยากดัดนิสัยเจ้าชู้จอมกะล่อนของพี่ชายและเพื่อนพี่ชายตัวเองเหมือนกัน มันอยากให้พี่ชายและเพื่อนอยู่ในร่องในรอย มีพี่สะใภ้เป็นเพื่อนสนิทอย่างฉันดีกว่าได้พี่สะใภ้ที่ไหนไม่รู้ สรุปเอาตามนี้แหละแกห้ามปฏิเสธ" หญ้าหวานเองก็อยากให้พี่ชายตัวเองเลิกเจ้าชู้เลิกควงสาวไปเรื่อย ฉันมั่นใจว่าหญ้าหวานต้องให้ความร่วมมืออย่างดีแน่ ฉันวางสายจาก กวินท์ฉันจะมัวเดินหนีอย่างเดียวไม่ได้ เพราะถึงยังไงฉันก็ยังตัดใจจากพี่เขาไม่ได้จริงๆสักทียังคงคิดถึงแม้จะผ่านนานหลายปีพี่เขายังคงเป็นคนในความทรงจำ อยากลองเสี่ยงดูอีกสักครั้งถ้าครั้งนี้พี่เขายังยืนยันว่าฉันไม่ใช่ฉันจะได้เลิกคิดเลิกหวังตัดใจให้ได้ ครั้งนี้ไม่ใช่ฉันที่เป็นฝ่ายวิ่งตามคนที่ต้องวิ่งตามต้องเป็นพี่ธีร์ธาม ฉันจะปั่นและทำให้หัวหมุนเข้าใจหัวอกฉันตอนโดนปฏิเสธ ทำให้รู้สึกยิ่งกว่าที่ฉันเคยเจอจากพี่เขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม