มาดาม ไม่ใช่คุณผู้หญิง

1386 คำ
“มะ มัมมี้!” เสียงเล็ก ๆ ที่แสนสดใสดังขึ้น ตามด้วยอีกเสียงที่ฟังเหมือนกับว่าเพิ่งผ่านพ้นการร้องไห้อย่างหนักมา “น้อง หิว... หิว!” หญิงสาวลืมตาช้า ๆ การหายใจของเธอยังไม่เป็นปกติ และรู้สึกว่าตัวชื้นเหนียวเหนอะไปด้วยเหงื่อ แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่มือเล็ก ๆ ที่พอจะอุ่นอยู่สักหน่อยลูบแก้มเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจหญิงสาวอ่อนยวบ “มะ มามี้ มะ ไม่ ตะ ตาย!” เธอฉงนแต่ก็พยายามตั้งสติ การที่ต้องอยู่ในรถคันนั้นและไม่มีอากาศหายใจทำให้เธอกลัวจัด และเธอเชื่อว่าตนเองตายไปแล้ว ทว่าระหว่างที่เธอกำลังอยู่ในช่วงของความเป็นและความตาย เธอกลับได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ จวบจนลืมตาได้อีกครั้ง จึงเห็นพวกเขาทั้งสองคน “หนู...” เสียงของเธอแหบจัดและอ่อนแรง “มามี้... น้องไม่ร้อง แต่เฮียผิง งอแงจะกินขนมตลอด” คนที่เอ่ยกับเธอเป็นเด็กผู้ชายที่คุยเก่ง อายุคงราว ๆ สี่ถึงห้าขวบ ส่วนอีกคนจ้ำม่ำกว่า แก้มย้อยน่ารัก กำลังทำหน้าบึ้ง เขาสื่อสารติด ๆ ขัด ๆ อยู่สักหน่อย เพราะทำท่าเหมือนกับพยายามจะพูด แต่อ้าปากแล้วหุบอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะมีเสียงดังให้ได้ยิน “ผะ ผิงเกอ” ผิงเกอเรียกชื่อตัวเองก่อนจะทุบที่อกของเขาเสียงดังปั้ก ๆ ดวงตาคู่นั้นแดงระเรื่อ ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก คนที่ฟื้นจากความตายเลยรีบเข้าไปสวมกอดและปลอบขวัญ “ผิงเกอ หนูหิวใช่ไหม” “ผิง หะ หิว และ กะ กลัวมัม มะ มี้ ทะ ทิ้งผิง... ไป!” เขาบอกพร้อมกอดหญิงสาวไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะจากเขาไป “มามี้ไม่ตาย” ผิงกั่วเอ่ยได้เท่านั้นแล้วก็ร้องไห้โฮ พลอยให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันที่ตอนแรกยังยิ้มแย้มอยู่สะอื้นไปด้วย “มัมมี้ เจียวเกอ ก็หิว!” คราวนี้ฝาแฝดคนน้องร้องเอาอย่างผิงกั่ว คนที่เพิ่งฟื้นจากความตายต้องรีบปรับตัวโดยด่วน สิ่งที่เธอรู้ตอนนี้คือตัวเองกลายเป็นคุณแม่ลูกฝาแฝด พอเด็ก ๆ มีความอยากอาหาร เธอก็พลอยแสบท้องไปด้วย ก่อนที่มันจะดังโครกครากน่าขายหน้าจนผิงกั่วที่กอดเธออยู่ทำหน้าประหลาดใจ เธอเลยต้องหาเรื่องกลบเกลื่อน “คนนี้ผิงเกอ...” เธอลูบศีรษะเด็กชายที่กอดเธอเอาไว้แน่นมาก และยังคงสะอื้นไม่หยุด “คนนี้เจียวเกอ” ฝาแฝดคนน้องตอบเธอ ก่อนจะยิ้มกว้าง รอยยิ้มนี้ช่างสดใส ทำเอาหญิงสาวน้ำตาคลอหน่วยอย่างไม่รู้ตัว ความซื่อและบริสุทธิ์ปลอบโยนหัวใจของวิญญาณที่มาสิงร่างผู้อื่น “มัมมี้ ร้องไห้” เซียงเจียวไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ เขายื่นมือเล็กป้อมพยายามเช็ดน้ำตาให้คนเป็นแม่ “ฮึบ ๆ ๆ ไม่ร้อง มัมมี้ น้องจะดูแลมัมมี้และเฮียผิง เจียวเกอเก่ง” เซียงเจียวเอ่ยแล้วก็ลุกขึ้น เป็นยามนั้นที่หญิงสาวเห็นว่าเขาไม่ได้สวมเสื้อ แต่กลับห่อตัวเองด้วยผ้ากันเปื้อนของผู้ใหญ่ มืออีกข้างถือตะหลิวไม้เอาไว้ ท่าทางเช่นนี้ดูแล้วพาให้เธอปลื้มใจ เมื่อเห็นว่าเขาทั้งเป็นเด็กดี ทั้งแจ่มใส เขาเป็นลูกชายของเจ้าของร่างที่เธอมาอาศัย ช่วงเวลานี้คงจะเป็นในอดีต เนื่องจากเมื่อกวาดตาดูรอบห้องนอนแล้วทำให้รู้ว่า คงแตกต่างจากปัจจุบันหลายสิบปี นอกจากนั้นบ้านหลังนี้คงไม่ใช่คนร่ำรวยสักเท่าไร “เจียวเกอจะทำข้าวผัดไข่ให้ทุกคนกิน!” เด็กน้อยเสนอและกำลังจะเดินไปยังห้องครัว แต่จู่ ๆ กลับหยุดเสียอย่างนั้น ก่อนหันมาบอกแม่ว่า “แหะ ๆ น้องลืม เราไม่มีข้าวสวย!” ได้ยินอย่างนั้นเธอก็อยากจะหัวเราะ เพราะทั้งชีวิตของหญิงสาวไม่เคยขาดแคลนสิ่งใด เธอหาเงินร้อยล้านเหรียญได้ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการที่จะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ! หญิงสาวตัดสินใจลุกจากฟูก ตั้งสติอยู่เพียงเล็กน้อย เธอก็เตรียมเดินเข้าครัว โดยมีร่างเล็ก ๆ แสนน่ารักของเซียงเจียวนำทาง เป็นตอนนั้นที่ประตูด้านหลังบ้านมีเสียงกุกกัก ก่อนที่ร่างของเด็กสาวจะก้าวเข้ามา “คุณผู้หญิง...” เยว่จือเอ่ย ก่อนที่จะทำถุงยาและถุงมันฝรั่งในมือหล่นลงไปบนพื้น เด็กสาวนึกว่าตนเห็นผีกลางวันแสก ๆ ก่อนหน้านี้คุณผู้หญิงของเธอได้สลบไป ซ้ำร้ายยังนอนตัวสั่น ร้องครางด้วยพิษไข้ เธอจึงตัดสินใจออกไปขอร้องเถ้าแก่โจว อยากให้เขาตามรถพยาบาลให้ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ทำได้แค่มอบยามาจำนวนหนึ่ง กระนั้นเยว่จือก็ต้องเสียเวลากลางทางเนื่องจากถูกแก๊งมังกรซิ่งข่มขู่และขวางทางไว้ “คุณผู้หญิงหรือ...” หญิงสาวทวนคำอีกฝ่าย เธอไม่ชอบคำนี้ ปกติคนอื่นจะเรียกเธอว่า ‘ตั่วเจ้’ หรือ ‘มาดาม’ ไม่ก็เชฟเจ้าหญิงผู้กอบกู้วงการอาหารริมทาง การเป็นคุณผู้หญิงช่างห่างไกลจากตัวตนเธอเหลือเกิน “ใช่แล้ว เอ... หรือว่าพิษไข้ทำให้คุณผู้หญิงสติเลอะเลือน” เยว่จือเอ่ยเช่นนั้น เพราะสองสามคืนที่ผ่านมาคุณผู้หญิงของเธอฝันร้าย และในบางคืนก็ถึงกับกรีดร้องว่าเธอกำลังจะจมน้ำตาย! เมื่อถูกเยว่จือเรียกเช่นนั้น เธอก็เหมือนจะระลึกหลายสิ่งได้ แน่นอนยามนี้เธอไม่ใช่ ลิซ่า จาง หากอยู่ในร่าง ม่านอวี้อัน คุณแม่ลูกแฝด ซึ่งถ้าโชคดีหน่อย สามีเธออาจแค่หายสาบสูญไปในเหตุการณ์ระทึกขวัญระดับชาติเมื่อหลายปีก่อน แต่ถ้านึกถึงขั้นร้ายแรงที่สุดแล้วละก็ เขาคงจะตายไปแล้ว และเป็นซากศพไหม้เกรียมที่ระบุตัวตนไม่ได้ อย่างไรก็ตามมันช่างน่าสมเพชเหลือเกินที่ในความจริงเธอกับ แจ็คสัน หยวน นับว่าเป็นคนแปลกหน้ากัน อีกฝ่ายคือสามีคืนเดียวของเธอ และน้ำเชื้อของเขาคงดีมาก เพราะหลังจากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนเข้าหอ เธอก็ตั้งครรภ์ในเวลาต่อมา ในอดีต ม่านอวี้อันถูกป้ากับลุงใจร้ายบีบบังคับให้แต่งงานแทนแม็กกี้ หรือ ม่านลี่ถี ลูกพี่ลูกน้องที่ป่วยอย่างกะทันหัน ซึ่งอาการป่วยที่ว่าคือการที่ฝ่ายนั้นรักสนุกไปใช้ยาเสพติดจนมีอาการประสาทหลอน จึงถูกส่งเข้าบำบัดในโรงพยาบาลก่อนที่เธอจะหลบหนีไป และทั้งหมดเป็นเพราะเธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมีอิทธิพลทั้งที่ตัวเองกำลังคบหาอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งอย่างลึกซึ้ง แต่เขาเป็นพวกขี้ขลาด ไม่กล้าเปิดเผยฐานะอันแท้จริงของตนให้ม่านลี่ถีรู้ ดังนั้นม่านลี่ถีจึงแอบคบหาผู้ชายคนอื่นเพื่อให้ตนมีความสุขโดยไม่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ อย่างที่ผู้ชายคนนั้นปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นนางบำเรอ เวลาต่อมาม่านหงกับถานเซียะจึงส่งม่านอวี้อันเข้าหอกับผู้ชายตระกูลหยวนแทนม่านลี่ถี และการเข้าหอกับชายหนุ่มอย่างไม่จำยอมในครั้งนั้นก็ส่งผลให้ม่านอวี้อันช้ำใจหนักจนเธอเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายลุงกับป้าทั้งปลอบและขู่ พร้อมสัญญาว่าเมื่อเธอได้เป็นภรรยาแจ็คสันแล้ว เขาย่อมดูแลเธอตามสมควร ทว่าสิ่งที่ทั้งสองคนบอกเธอมันเป็นเรื่องโกหก อีกทั้งแจ็คสันยังไม่ได้สนใจเลยว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร สำหรับเขาการแต่งงานครั้งนั้นก็เหมือนกับว่าเธอเป็นแค่สมบัติชิ้นเล็ก ๆ ที่มีเลือดเนื้อซึ่งถูกส่งมาขัดดอก เพื่อที่ลุงกับป้าของหญิงสาวจะได้ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด ฝ่ายเขาก็แค่ทำตามหน้าที่เจ้าบ่าวไปเท่านั้น ทว่าเรื่องราวดังกล่าวกลับสร้างบาดแผลในใจแก่ม่านอวี้อันจนเธอไม่อาจลืม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม