ตอนที่ 4
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก ทำตามที่ฉันสั่งแล้วกัน ไปเถอะ” นายแฟรงค์หันมาพูดกับชายหนุ่ม พร้อมกับมองไล่หลังลูกสาวตัวเองที่เพิ่งเดินออกไปอย่างระอาใจ
“ครับนายท่าน” รับคำแล้ว แพทริคก็เดินออกจากห้องไปอีกคน
เมื่อขัดคำสั่งผู้เป็นบิดาไม่ได้ ราชาวดีก็จำเป็นต้องกลั้นใจให้แพทริคคอยมาตามเกาะติดควบคุมพฤติกรรมของเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามหาเรื่องกวนประสาทเขาเท่าไหร่ ก็ไม่อาจทำให้เขาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้สักที และไม่ว่าเธอจะพยายามแอบหนีชายหนุ่มกี่ครั้ง แต่ทุกครั้งเขาก็จะตามหาเธอได้ทันทุกครั้ง จนเธอเองเป็นฝ่ายเหนื่อยไปเองในที่สุดทุกครั้ง
เช้าวันนี้ขณะที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกร่วมรับประทานอาหารกันอยู่นั้นผู้เป็นบิดาก็เอ่ยถามลูกสาวขึ้น
“แล้วเมื่อไหร่เราจะเลิกไปถ่ายแบบโชว์นั่น โชว์นี่สักที ไม่อายบ้างเหรอไง เอารูปร่างตัวเองไปให้ชาวบ้านชาวช่องเค้าดู เงินทองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ยังต้องไปทำอะไรแบบนั้น”
“คุณพ่อคะ ราเชลไม่ใช่เด็ก ๆ ในสังกัดของคุณพ่อนะคะที่จะมาขายเรือนร่าง ตัวเอง” พูดจบหญิงสาวก็ชักสีหน้าขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด บิดาเธอทำธุรกิจอาบอบนวด แต่มานั่งบ่นเธอเรื่องที่ว่าเธอเป็นนางแบบให้กับนิตยสารต่าง ๆ
“งานนางแบบของลูก มันก็ต้องมีอวดรูปร่างกันบ้าง ลูกไม่ได้ไปแก้ผ้าถ่ายรูปโชว์คนอื่นซะหน่อยนี่คะคุณ” เรื่องนี้ผู้เป็นแม่ก็เข้าข้างลูกอยู่ไม่น้อยเพราะเนื่องจากเธอก็เคยเป็นอดีตนางแบบเก่าที่เคยแสดงในงานแฟชั่นแห่งหนึ่งแล้วไปสะดุดตาแฟรงค์ จนถึงขั้นให้ลูกน้องไปลักพาตัวเธอมาลักจากจบงานเดินแบบ
“อีกอย่างมันเป็นงานศิลปะที่ลูกรัก งานที่ต้องใช้รูปร่างของเราพรีเซนต์เสื้อผ้าให้คนอื่นดูก็แบบนี้ล่ะค่ะ คุณจะให้ลูกใส่ชุดนักบินอวกาศทำงานเหรอไงคะ” ไม่อธิบายเปล่า ภรรยายังยอกย้อนสามีตรงหน้าเพื่อช่วยบุตรสาวเต็มที่
“หนูอิ่มแล้ว ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็วางช้อน แล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปทันที แต่ก็ไม่วายจะแวะ
กระแทกไหล่ของชายตัวโตที่ยืนรออยู่หน้าห้องเพื่อระบายความหงุดหงิด แต่ที่น่าหงุดหงิดเหนือความหงุดหงิดก็คือการได้เห็นคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้า แต่ยังตามเธอไปไหนมาไหนทุกแห่ง แถมเขายังทำหน้าระรื่นกวนประสาทในบางครั้ง และยังทำท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าทำให้เธอหงุดหงิดเลยสักนิด เมื่อมองดูแล้วมันช่างน่าโมโหเป็นที่สุด และเมื่อมาส่งเธอที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุง เพราะเธอเปิดร้านเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเองอยู่ที่นั่นแล้ว ชายหนุ่มก็ยังคงวน ๆ เวียน ๆ รอเธออยู่หน้าร้านเหมือนที่ทำเป็นประจำอยู่ทุกวัน
“นี่นายแพทริค” หญิงสาวเรียกชื่อชายหนุ่มตรงหน้าขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าร้านไปทำงานด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ดูเป็นมิตรที่สุด
“นายอยากไปพักร้อนบ้างมั้ย ทำงานแบบนี้มันเหนื่อยนะฉันรู้ ฉันอนุญาตให้นายไปพักร้อนได้เลยนะ”
“ผมยังไม่อยากไปพักร้อนครับ” แพทริคตอบกลับมาเสียงเรียบ ใบหน้าเรียบเฉย
“ทำไมล่ะ” เสียงหญิงสาวถามขึ้นเสียงใสอย่างพยายามเก็บอารมณ์
“ผมอยากได้เงินเยอะ ๆ ผมกำลังเก็บเงินอยู่” แพทริคตอบกลับไปแบบพยายามที่จะไม่ให้ยิ้มเต็มที่ เพราะเข้าใจความหมายในคำพูดของหญิงสาว และนึกขันในมุกของหญิงสาวตรงหน้า จริง ๆ แล้วก็อยากจะให้เขาไปให้พ้น ๆ นั่นล่ะ
“เอาแบบนี้สิ ฉันให้นายไปพักได้เลย นานเท่าไหร่ก็ได้เลยนะ แล้วฉันจะจ่ายเงินเดือนให้ด้วยนะ จ่ายเต็มเลยไม่หักเลยดีมั้ย” หญิงสาวเสนอเงื่อนไขให้แบบใจป้ำ
“ไม่ล่ะครับคุณราเชล ผมชอบทำงานมากกว่าอยู่เฉย ๆ แล้วได้เงิน” และก็ได้ผลเกินคาด ทันทีที่ได้ยินคำตอบ ร่างบางตรงหน้าก็หน้าหงิกขึ้นมาทันที จากนั้นจึงเจริญพรเขามาแบบไม่พูดดีด้วยอีกต่อไป
“ไอ้คนบ้า” แล้วเธอก็สะบัดหน้าเดินเข้าร้านไป และยิ่งหงุดหงิดหนักเข้าไปอีกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง
แม้จะบังคับตัวเองให้ทำงาน แต่สายตาก็ทรยศต่อความคิด เพราะบ่อยครั้งที่ราชาวดีแอบมองออกไปทางหน้าร้านว่าชายหนุ่มตัวโตที่ตามมาคอยดูเธอนั้นเขาทำอะไรอยู่ เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผิวออกสีแทนนิด ๆ ผมสีดำขลับ คิ้วหนาเข้ม ดวงตาออกจะดูขี้เล่นในบางทียามที่ต่อล้อต่อเถียงกับเธอ มองไปมองมาทำไมถึงคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก
‘ไม่เบื่อเหรอไงนะมานั่งรอเธออยู่แบบนี้ทุกวัน’ หญิงสาวคิดในใจ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมทับด้วยสูทสีดำ ยามที่หันข้างน้อย ๆ เอามือประสานกันตรงหน้าแบบนี้ ทำให้ดูราวกับนายแบบในหนังสือก็ไม่ปาน นายคนนี้มองไปมองมาก็ดูดีเหมือนกันนะเนี่ย เขามีรูปร่างดี อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นบอดี้การ์ดของคุณพ่อ เลยจำเป็นต้องทำร่างกายให้ฟิตอยู่เสมอก็เป็นได้
และขณะที่กำลังเพลินไปกับความคิดของตัวเองอยู่นั้น ดวงตาสีดำเข้มแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนของชายตัวโตหน้าร้านก็หันมาสบตาเข้ากับหญิงสาวพอดี ราชาวดีสะดุ้งไปเล็กน้อย แต่ก็แก้เก้อด้วยการหันไปหยิบเสื้อผ้ายกขึ้นมาทำทีว่ากำลังตรวจเช็กชิ้นงานตรงหน้า ทำเอาชายหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าร้านฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันที
‘อีตาบ้า ฉันเกลียดรอยยิ้มนั้นที่สุดเลย’
“ฉันจะไปสปา” ราชาวดีเดินออกมายืนตรงหน้าชายหนุ่ม เมื่อได้ยินคำสั่ง เขาก็หันไปมองดูนาฬิกาข้อมือเล็กน้อย
เธอเพิ่งเข้าไปทำงานไม่ทันครบชั่วโมงดีด้วยซ้ำ ชายหนุ่มคิด ก็คงจะหาเรื่องงอแงอีกนั่นล่ะ หากแต่ว่าเขาไม่ได้พูดอะไร แต่เดินตามหญิงสาวไปเงียบ ๆ
“รออยู่ตรงนี้ล่ะ หรือนายอยากจะเข้าไปลองนวดสปาด้วยกัน เอามั้ยฉันเลี้ยงเอง” หญิงสาวหันมาถามแบบกวน ๆ หลังจากทั้งคู่เดินทางมาถึงโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งที่หญิงสาวมานวดสปา