บทที่ 4

1182 คำ
“โอเค กูจะไปรอที่โรงแรมของกู ถ้าภายในสองชั่วโมงพวกมึงไม่ส่งยัยฟ้าครามไปถึงห้อง ก็ถือว่าเกมนี้เป็นอันโมฆะ และคนที่ชนะก็คือกู” คิวากรวางเงื่อนไขในเกมล่าสวาทในครั้งนี้ “โอเค ไม่เกินสองชั่วโมง ยัยบ้านนอกจะถูกนำไปสังเวยให้นายถึงเตียงนอน” ภูริศให้ความมั่นใจกับเพื่อน “ตามนี้” คิวากรกระดกแชมเปญหมดแก้วอีกรอบ จากนั้นก็หลุบสายตามองเวลาบนนาฬิกาเรือนแพง แล้วเงยหน้าบอกกับเพื่อนทั้งสอง “ตอนนี้สามทุ่มพอดี พวกมึงมีเวลาไม่เกินห้าทุ่มเพื่อส่งยัยบ้านนอกให้กู...กูจะล่วงหน้าไปรอที่โรงแรมก่อน ถ้าพวกมึงพายัยบ้านนอกมาไม่ทันห้าทุ่ม พวกมึงต้องเลี้ยงกูชุดใหญ่” “ไม่ต้องห่วง พวกเราพายัยบ้านนอกไปส่งก่อนห้าทุ่มแน่” จักรินรับคำอย่างมั่นเหมาะ เพราะมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถพาฟ้าคราม หญิงบ้านนอกคอกนาไปส่งเป็นเครื่องสังเวยให้กับคิวากรได้ตามเวลาที่กำหนด “แล้วพวกมึงจะได้รู้ว่ากูเป็นคนจริงแค่ไหน” คิวากรวางแก้วแชมเปญกระแทกลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินออกจากร้านอาหาร ตรงไปยังรถสปอร์ตสีแดงเพื่อขับไปรอเหยื่อที่โรงแรม ซึ่งแน่นอนว่าโรงแรมแห่งนั้นมีชื่อของบิดาของเขาเป็นเจ้าของ และอยู่ห่างจากร้านอาหารที่กำลังจัดงานเลี้ยงอยู่ในขณะนี้แค่เพียงห้ากิโลเมตรเท่านั้น เมื่อคิวากรล่วงหน้าไปรอเครื่องสังเวยอยู่ที่โรงแรมของเขาแล้ว หน้าที่ที่เหลือที่จะหลอกล่อพาหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายและน่าสงสารที่สุดอย่างฟ้าคราม ไปส่งให้คิวากร ‘เชือด’ ถึงที่ ก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนเลวทั้งสองคนที่กำลังเริ่มปฏิบัติการชั่วแล้ว “เฮ้ย! ไอ้จัก มึงใส่ยาเบามือหน่อย มึงใส่มากไปแล้ว เดี๋ยวนังบ้านนอกก็ช็อกยาตายพอดี” ภูริศกระซิบเตือนเพื่อน เมื่ออีกฝ่ายได้หยดยาไร้สี ไร้กลิ่น แต่มีประสิทธิภาพสามารถทำลายผู้หญิงบริสุทธิ์อย่างได้ผลชะงัก หยดลงในแก้วแชมเปญในปริมาณที่มากพอควร จนต้องกระซิบเตือนเพราะกลัวว่ายานรกอาจทำให้ฟ้าครามตายได้ จักรินถลึงตาใส่พร้อมกับเค้นเสียงต่อว่าเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน “มึงอย่าพูดเสียงดังสิไอ้ภู กูหยดยาลงไปแค่ไม่กี่หยด มันไม่ทำให้นังบ้านนอกตายหรอกน่า แต่จะทำให้นังนี่กลาย เป็นแมวป่าที่พร้อมข่วนให้ไอ้คิวาหลังลายกันไปข้าง” “มึงแน่ใจหรือวะไอ้จัก” ในขณะที่ภูริศยังเป็นกังวลเรื่องยาปลุกเซ็กที่ถูกหยดลงในแก้วแชมเปญ ผู้ที่มากด้วยประสบการณ์ชั่วก็ตอบให้ความมั่นใจกับเพื่อนว่า “แน่ใจสิวะ มึงอย่าลืมสิว่ากูเคยทำมาหลายครั้งแล้ว กูรู้ว่าต้องใช้ยาแค่ไหนถึงจะพอดีและทำให้นังฟ้าครามยอมสยบให้กับไอ้คิวาได้” “เออ กูลืมไปว่ามึงเคยทำกับผู้หญิงมาหลายคนแล้ว” “กูจะถือว่าเป็นคำชมจากมึงก็แล้วกัน” จักรินไม่ได้เดือดร้อนกับคำพูดแกมด่าจากภูริศ ก่อนจะบอกกับอีกฝ่ายว่า “ไปไอ้ภู ไปช่วยกันต้อนเหยื่อส่งให้ไอ้คิวาเชือดในคืนนี้” “ไปกันเลย หลังจากไอ้คิวาเชือดนังฟ้าครามเสร็จแล้ว กูจะแบล็คเมล์มันด้วยคลิปเพื่อเรียกเงินจากมันสักสี่-ห้าล้าน” “ฮ่าๆ มึงนี่ฉลาดกว่าที่กูคิดไว้มาก” จักรินหัวเราะร่าชมเพื่อนเลวไม่มีหยุดปาก ภูริศกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะถามต่อ “มึงคิดว่า...ไอ้คิวามันจะยอมจ่ายไหม” “จ่ายสิ ทำไมจะไม่จ่าย ไอ้คิวามันเป็นคนโง่ มันไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพวกเรา ยังไงๆ มันก็ยอมจ่ายอยู่แล้ว เงินแค่สี่-ห้าล้าน ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งมันร่วงหรอกน่า...” “ฮ่าๆๆ...กูเชื่อในสุภาษิตที่เขียนไว้ว่า คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด ไอ้คิวามันต้องจ่ายเงินให้กับพวกเราโดยไม่มีบิดพลิ้ว เพราะเรามีหลักฐานเป็นคลิปไว้แบล็คเมล์มัน” ภูริศหัวเราะร่วนด้วยความสะใจกับความโง่เขลาของลูกชายมหาเศรษฐี ที่ถูกเขากับจักรินทำตัวเป็นปลิงคอยเกาะกินตั้งแต่เรียนปีหนึ่งยันจบการศึกษา “เงียบได้แล้วไอ้ภู กูกำลังจะเริ่มเกมแล้ว” จักรินเค้นเสียงห้ามเพื่อนที่ยังหัวเราะไม่หยุด เมื่อหยดยาปลุกเซ็กไร้สี ไร้กลิ่นลงในแก้วแชมเปญเรียบร้อยแล้ว ก็แสยะยิ้มตรงมุมปาก ดวงตาไหววาบด้วยความเลวทรามกับการกระทำชั่วที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ฟ้าครามไม่ได้อยากมาร่วมงานเลี้ยงจบการศึกษาที่ลูกชายมหาเศรษฐีซึ่งเป็นเพื่อนในคณะได้จัดเลี้ยงให้กับบรรดาเพื่อนๆ ทุกคน เพราะหญิงสาวเจียมในฐานะของตนว่าเป็นแค่สาวบ้านนอกที่เผอิญเรียนเก่งมากกระทั่งได้ทุนมาเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ร่ำเรียนอยู่ในเมืองกรุง ฟ้าครามอาศัยอยู่ในหอพักเก่าๆ ราคาไม่กี่พันบาท และด้วยทางบ้านมีฐานะค่อนข้างยากจน หญิงสาวจึงรับจ้างทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานในร้านอาหาร รับเลี้ยงเด็ก สอนพิเศษให้กับเด็กๆ งานสุจริตที่ทำเงินได้หญิงสาวไม่เคยเกี่ยงและไม่เคยเลือกงาน ฟ้าครามไม่เคยทำให้ทางบ้านต้องผิดหวังในเรื่องการเรียน นอกจากจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวยังสอบชิงทุนเพื่อไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ด้วย ฟ้าครามรู้ว่าตนเองเป็นคนจนคนหนึ่ง จึงไม่กล้าเข้ามาสุงสิงกับกลุ่มเพื่อนในคณะบางกลุ่ม ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกมหาเศรษฐี มีชีวิตที่หรูหราสุขสบายบนกองเงินกองทอง หญิงสาวมีเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คน ซึ่งล้วนเป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกับเธอ เมื่อเพื่อนสนิทบอกว่า...คิวากร...ผู้หล่อเหลาลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ในประเทศไทยได้จัดงานเลี้ยงให้กับเพื่อนทุกคนในคณะ ทุกคนสามารถไปดื่มกินฟรีได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว ขอแค่เพียงระบุชื่อและคณะที่เรียนอยู่เท่านั้นก็สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงได้เลย ซึ่งเพื่อนสนิทของฟ้าครามอยากมาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ แต่หญิงสาวไม่อยากมาร่วมงานเลี้ยงด้วย เพราะเธอไม่มีเสื้อผ้าหรูหราสวมใส่มาร่วมงานเหมือนเพื่อนสาวคนอื่นๆ ไม่มีรองเท้า กระเป๋าราคาแพง ชุดที่ดีที่สุดสำหรับเธอคือเสื้อยืดคอกลม กางเกงยีนส์สีซีดๆ เก่าๆ และรองเท้าผ้าใบมือสองคู่ละไม่กี่ร้อยเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม