หลังอาบน้ำมันก็จะสดชื่นแบบนี้แหละ นิยาดาสะบัดชุดที่สวมมาสามวันตากบนกิ่งไม้แห้งๆ ที่มีแดดส่องถึง ปลายผมยังชื้นอยู่ เพราะไม่มีผ้าแห้งสำหรับซับน้ำ ที่ทำได้ก็แค่ปล่อยผมให้สายลมขจัดความเปียกชื้นออกไปเอง
“มีกาแฟร้อนให้จิบสักหน่อย คงฟินน่าดู”
ทิวทัศน์สวยๆ เบื้องหน้าท้องทะเลกว้าง ที่เห็นลิบๆ นั่นก็ไร่องุ่น ถึงด้านหลังจะเป็นป่าเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายก็เถอะ แต่นี่คือวิวสวยๆ ที่เธอเพิ่งมีเวลาหยุดมองครั้งแรก หากไม่ถูกจับตัวมา เวลานี้เธอคงยุ่งหัวปั่นอยู่ในครัว หรือไม่ก็นอนหลับเป็นตายเพราะเหนื่อยจนหมดแรง ไม่มีเวลาเอ้อระเหยแบบนี้หรอก
นิยาดาหลับตามโนภาพกาแฟควันกรุ่นในหัว ด้านข้างมีขนมปังกรอบเคลือบเนย และตัวเองที่สวมชุดว่ายน้ำแบบบิกินนี่นอนเอนๆ อยู่บนเก้าอี้พลาสติกริมทะเล ใต้ร่มอันใหญ่ที่กางไว้สำหรับบังแสงแดด
“อยากมีความสุขกับการใช้เงินโดยไม่ต้องคิดเรื่องการหาสักครั้งจังเลย”
ชั่วชีวิตเธอไม่มีสักครั้งที่ทำแบบที่คิดได้ เธอยุ่งกับการทำมาหากินจนหัวปั่น รายได้ไม่เคยพอสำหรับการจ่ายสักที แต่นั่นก็ไม่เคยทำให้นิยาดาท้อ เธอยังพยายามขวนขวาย เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีต้นทุนติดตัวมาตั้งแต่เกิด หากยอมถอยตั้งแต่วันนี้ อนาคตเธอคงมืดมน
ทุกความพยายามนั่นก็เพื่ออนาคตทั้งนั้น
เธอวางแผนไว้ในใจคร่าวๆ เธอไม่มีใครในชีวิตเลย ดังนั้นหากไม่อยากให้คนเดินเข้ามาร่วมทางพลอยลำบากไปด้วย ก็ต้องยอมเหนื่อยตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่เลือกงานแบบเธอ สักวันคงลืมตาอ้าปากได้
“ดูเหมือนว่าเธอจะสุขสบายดีนะ” นิยาดาชะงัก เหลียวมองหาต้นเสียง เธอขมวดคิ้ว ไม่คุ้นหน้าคนมาใหม่เท่าไหร่ ท่าทางไม่เป็นมิตรนั่นสั่งให้เธอระวังตัว
“ตามสภาพค่ะ” เธอตอบแบบเสียไม่ได้ พาดเสื้อตัวสุดท้ายไว้บนกิ่งไม้ และกำเสื้อชั้นในไว้แน่น
“เธอปิดปากเงียบเหมือนต้องการช่วยฆาตกรอยู่รู้ตัวไหม” เบนเดอร์เปรยลอยๆ ลดตามองไล่ตั้งแต่ปลายคางลงมา เขาอมยิ้มเมื่อคะเนในใจ ใต้เสื้อสีทึมๆ นั่นไม่มีอาภรณ์อื่นอีก เหมือนหล่อนจะรู้ตัว หัวไหล่กลมกลึงห่อเข้าหากันเล็กน้อย และการเบี่ยงตัวหลบสายตานั่นอีก เขาเดาไม่ผิดจริงๆ
นิยาดาอายจนหน้าชา ท่าทางนิ่งๆ นั่นแต่กลับให้ความรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกคุกคามอ้อมๆ เธออยากรู้เหมือนกันชายตรงหน้าต้องการอะไรจากเธอ เขาเอาเธอมาโยนไว้ที่นี่ ไม่ใส่ใจความเป็นอยู่ ไม่สนใจด้วยว่าเธอจะเป็นหรือตาย
“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไรอยู่”
“แต่ฉันกลับรู้นะ เธอซ่อนอะไรไว้ในใจกันแน่”
“คุณจะมารู้ดีกว่าฉันได้ยังไงคะ”
“ฉันผ่านคนมามากมาย แค่มองตาฉันก็รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่”
นิยาดายิ้มเย็นๆ เดินเข้าไปประจันหน้าเขา เงยหน้ามองสบตาเบนเดอร์แล้วถามช้าๆ “ฉันคิดอะไรอยู่คะ เวลานี้”
เหมือนเป็นการท้าทาย แต่หมาจนตรอกอย่างเธอ ไม่ตายวันนี้ก็อาจเป็นพรุ่งนี้ ถ่วงเวลาไปก็ไม่มีประโยชน์ เจตนาของเขาต้องการให้เธอไร้ลมหายใจอยู่แล้วนี่นา
เบนเดอร์ก้มหน้าลง มองสบนัยน์ตากลมสวย เขากระตุกยิ้มมุมปาก “หิว” และตอบเสียงแผ่วๆ
นิยาดาหน้าร้อนวูบ เผลอยกมือกุมท้อง
“เธอคงไม่เคยอดแบบนี้สินะ อดอยากปากแห้งแล้วตาย มันคงทรมานไม่น้อย” เขาพูดต่อ
เรียวปากอิ่มแสยะยิ้ม ไม่ได้ตอบแต่คิดในใจ เธอไม่มีทางปล่อยตัวเองให้อดตายหรอก เขาดูแคลนความอดทนของเธอมากเกินไปสักหน่อย จริงอยู่ว่าเธอหิว คงเพราะว่างจัด ในสมองเลยคิดแค่เรื่องความเป็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะหิวจนตาย อย่างน้อยก็มีหัวมันกินกันตายอีกนานล่ะ
“ฉันไม่มีทางตายแบบน่าเวทนาแบบนั้นหรอกค่ะ” นิยาดาขยับถอยหลัง
แต่เพราะเธอประเมินความน่ากลัวของชายตรงหน้าน้อยเกินไป เธอลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขาขึ้นชื่อว่าเป็นคนใจคอโหดร้าย คงเพราะเสน่ห์ของเขาสมกับเป็นคนอิตาลี ผู้ชายผิวเข้ม ปากคอคิ้วคางคมไปหมด ผมหยักศกน้อยๆ ที่หล่นมาปรกหน้าผากก็ชวนมองจนชักสายตาหนีไม่ได้ เธอหลงเข้าไปในเครือข่ายมนต์ตราที่ผู้ชายคนนี้เป่าเอาไว้ บ่วงสวาทนั่นร้อยรัดเธอจนถอนตัวไม่ทัน ยิ่งลมหายใจร้อนๆ นั่นตกต้องผิวกาย ร่างกายของเธอเกิดปฏิกิริยาตอบรับทันที ท้องน้อยเธอหดตัว รู้สึกวูบวาบไปหมด ผิวกายเต้นระริก สะท้านสะเทือนเหมือนเลือดในกายกำลังเดือดปุดๆ
เธอไม่ใช่ผู้หญิงร่านร้อนง่ายที่พอสบตากับผู้ชายแล้วจะเกิดความกระสันสักหน่อย
สัญชาตญาณดิบ เถื่อนแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นสักที
แต่ครั้งนี้ไม่รู้เพราะอะไรสิ ความรู้สึกเหมือนคนใกล้คลุ้มคลั่งเกิดขึ้นอยู่ในใจ เธออยากกระชากชายตรงหน้าเข้ามาใกล้ และสูดกลิ่นฟีโรโมนตรงซอกคอของเขาที่ระเหยออกมากล่อมประสาทของเธอเสียยิ่งนัก
นิยาดาหลุบเปลือกตาลง เบือนหน้าหลบไอร้อนจากลมหายใจที่พวยพุ่งใส่หน้า พยายามรวบรวมสติ เธอหวั่นไหวเพราะชายตรงหน้าไม่ได้ เขาไม่ได้เมตตาหรือสงสารเธอสักหน่อย เขาต้องการบางอย่างจากเธอต่างหาก
“บอกฉันหน่อยสิ เธอเห็นอะไรในคืนนั้นบ้าง”
“สัญญามาสิคะ หากฉันบอกทุกอย่างให้คุณรู้ คุณจะยอมให้ฉันมีชีวิตอยู่”
“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเชียวเรอะ”
“ชื่อเสียงของคุณฉาวโฉ่ไม่เบาเลยล่ะค่ะ”
“ช่วยไม่ได้ โลกบังคับให้ฉันร้ายเอง” เบนเดอร์รับสมอ้างหน้าตาเฉย เขาไม่ได้อยากโหดเหี้ยมแบบนั้นสักหน่อย แต่เพราะคนรอบข้างและการแข่งขันบีบให้เขาต้องร้าย ไม่อย่างนั้นเขาเองก็จะอยู่ไม่ได้
“เธอไม่ใช่คนที่นี่”
“ค่ะ นิมาจากที่อื่น ทุกคนบนโลกนี้ต้องทำมาหากินนี่คะ” นิยาดาแอบเหน็บผู้ชายตรงหน้านิดๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นคนเดอร์ลาคัวล์แล้ว เขาไม่ต้องทำมาหากินก็รวยอยู่แล้ว อย่างว่าแหละ การขึ้นหลังเสือแล้ว มันยากเหลือเกินที่จะหาทางลง
“เอาเป็นว่า ฉันรับปากว่าจะไม่ฆ่าเธอ”
“นิเชื่อคุณได้ใช่ไหม”
ไม่มีความมั่นใจสักนิดว่าคนตรงหน้าจะรักษาสัญญา แต่เธอก็ต้องเสี่ยง ทนอุดอู้แบบไม่รู้อนาคตเช่นนี้ นานวันเข้าเธอเองนั่นแหละที่จะทนไม่ไหว
มือแข็งแรงดันหัวไหล่นิยาดาจนเธอเผลอเดินถอยหลังตามความต้องการของเขา “ไม่มีความจำเป็นที่ฉันต้องโกหกนี่นะ”
ปากสีเข้มขยับตอบ เขาก้มลงมาใกล้อีกครั้ง ครั้งนี้นิยาดาใจสั่นจนลืมที่จะหลบเลี่ยงเช่นเคย ปลายจมูกร้อนระอุกดลงข้างพวงแก้ม แรงกดเบาๆ นั่นกลับทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว และเผลอยกมือขึ้นยันแผงอกของเขาไว้
“จะทำอะไรคะ?”
ความจริงเธอไม่ควรถามด้วยซ้ำ คนตรงหน้าท่าทางไม่ยี่หระสักนิด เขาสอดมือรวบเอวเธอและกระชากเข้าหา “ทำไมล่ะ ไม่ชอบที่ฉันทำแบบนี้หรือไง”
เธอควรตอบเขาตามตรง แต่เพราะพลังงานลึกลับในดวงตาคู่นั้นสะกดให้เธอหุบปาก เขายิ้มเจ้าเล่ห์ โน้มตัวเข้าใกล้อีกครั้ง เพราะความตกใจเธอเลยเข่าอ่อน ทรุดลงไปที่พื้น มีคนตัวใหญ่คร่อมทับ
เคล้าคลึงหรือคาดคั้น
นิยาดาพยายามตั้งสติ และรีบขืนตัวไว้ เธอกับเขาอยู่ในท่วงท่าสุดอันตราย แถมไม่น่าจะมีใครโผล่หน้ามาขัดจังหวะได้
“เรื่องที่ฉันอยากรู้ เอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ฉันอยากทำอย่างอื่นมากกว่า” เขาพูดเสียงแหบ
มือแข็งแรงนั่นค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของเธอออกช้าๆ แล้วก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเช่นกัน หลังจากนั้นก็สอดมือร้อนผ่าวกอดเอวบางของเธอไว้ ในค่ำคืนมืดสนิทนั่น มีเสียงใบไม้เสียดสีกันดังแผ่วๆ ด้านนอก ร่างกายเปลือยเปล่าส่ายเสียดสีกันไปมา อากาศไม่ได้หนาวจัดอย่างที่คิดไว้ อุณหภูมิระอุเล็กน้อย เบนเดอร์ภาวนาในใจ วันนี้น่าจะมีฝนพรำเบาๆ บรรยากาศจะเหมาะกว่านี้ เขาสัมผัสร่างกายของเธอเบาๆ จูบเบาๆ ที่กลีบปากล่าง ในความเงียบงันนั่นมีเพียงลมหายใจแผ่วเบาที่ดังอื้ออึงอยู่ในหัวและเป่ารดซึ่งกันและกัน
“อือออ...” เสียงครางแผ่วหวิว ผสมเสียงลมหายใจหอบๆ