บท 4 สาโท

1877 คำ
บท 4 สาโท ทางด้านกำแก้ว พ่อและแม่ของเธอหย่าร้างกันตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอใช้ชีวิตอยู่กับพ่อและย่ามาโดยตลอด พ่อของกำแก้วปัจจุบันกลายเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ซึ่งวันมะรืนนี้พ่อของเธอแจ้งว่าเขาต้องไปประชุมแต่เช้าตรู่เลยไม่อาจไปส่งเธอที่ บขส. ได้ สุดท้ายเลยต้องมารบกวนฉลามซึ่งเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันเพื่อขอติดรถไปด้วย แต่ถ้าจะให้กำแก้วไปขอฉลามโดยตรงเธอคงไม่มีทางไปขอร้องเขาแน่ ฉะนั้นตอนนี้กำแก้วยืนรออยู่หน้ารั้วบ้านของฉลาม “น้าปลาส้มอยู่บ้านหรือโรงงานนะ” กำแก้วพึมพำ มองเข้าไปในบ้านไม่เห็นจักรยานก็คิดว่าฉลามคงไม่อยู่ ซึ่งนี่เป็นโอกาสดี ดวงตากลมโตมองเวลาบนโทรศัพท์มือถือเห็นว่าเกือบจะห้าโมงเย็นแล้วจึงตัดสินใจกดออดหน้าบ้าน รอไม่นานนักกลับกลายเป็น จอห์น พ่อของฉลามที่ออกมาเปิดรั้วให้แทน เพียงแค่เห็นใบหน้าหล่อเหลาวัยกลางคนของชายตรงหน้า กำแก้วก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เหมือนอุณหภูมิโดยรอบลดลงฉับพลัน “น้าจอห์นหวัดดีจ๊ะ” ทันทีที่ประตูรั้วถูกเปิดออก กำแก้วก็ยกมือไหว้จอห์นแล้วฉีกยิ้มสู้ ถามว่าทำไมเธอต้องกดดันเวลาเจอหน้าน้าจอห์น มันก็เพราะว่าพ่อของเธอแอบชอบน้าปลาส้มมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งหัวใจของน้าจอห์นมาตลอด ไม่เว้นกระทั่งตอนนี้ พ่อของเธอมักหาเรื่องกวนประสาทน้าจอห์นอยู่บ่อย ๆ “อีหล่า มาหยังล่ะ เข้ามาก่อนบ่?” (ยัยหนู มาทำอะไร เข้ามาก่อนไหม?) จอห์นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ความจริงเขาเอ็นดูเด็กสาวคนนี้มาก เห็นหน้ามาตั้งแต่เด็ก ทว่าทุกครั้งที่กำแก้วมากับไอ้ ปาล์ม พ่อของเธอ จอห์นมันจะทำหน้ายักษ์ใส่ ซึ่งเขาก็ดูออกว่ากำแก้วกลัวเขาไม่มากก็น้อย แต่เอาเถอะ! เร็ววันนี้เขาจะเชียร์ให้ฉลามจีบกำแก้วมาเป็นเมียเสีย ไอ้ปาล์มมันจะได้เลิกเพ้อฝันว่าปลาส้มจะทิ้งเขาไปเอามันเสียที “เอ่อ...น้าปลาส้มอยู่บ่จ้าน้าจอห์น?” (เอ่อ...น้าปลาส้มอยู่ไหมจ๊ะน้าจอห์น?) “อยู่นั่นเด้ะ” (อยู่นั่นไง) จอห์นส่งสายตาไปยังปลาส้มที่กำลังหอบกระติกเหล้าสาโทออกมานอกบ้าน เพื่อรินใส่ขวดเตรียมไว้ให้ลูกชายเอาไปแจกคนงานกินวันพรุ่งนี้ “พอดีเลย แฮ่ ๆ” กำแก้วทำสีหน้าเลิ่กลั่ก ขอบคุณที่น้าปลาส้มโผล่ออกมาในเวลานี้ เธอเกร็งแทบแย่ จอห์นเห็นว่ากำแก้วทำสีหน้าเกร็งตลอดเวลาก็ไม่รอช้า เดินนำหน้าพากำแก้วเข้าไปยังลานบ้านทันที “เอ้าอีหล่า มา ๆ มาซิมเบิ่งซ่อยน้าแหน่” (อ้าว ยัยหนู มา ๆ มาชิมดูช่วยน้าหน่อย) หลังจากเห็นหน้ากำแก้ว ปลาส้มก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รินสาโทใส่จอกให้กำแก้วลองชิมทันที กำแก้วรับมาด้วยท่าทีเงอะงะ อยากแอ๊บเหลือเกินว่าดื่มไม่เป็นเพราะคนในหมู่บ้านมองว่าเธอเป็นเด็กดีเรียบร้อยที่แอบแสบเล็กน้อยเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าตัวมัมแห่งการดริ้งค์ที่มหาวิทยาลัยคือเธอเอง หากยกรวดเดียวหมดเลยจะดูไม่ดีไหมนะ? ขณะที่กำแก้วกำลังลังเลอยู่นาน ปลาส้มก็แอบยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดเอ็นดูเล็กน้อย “กินโลดน่า ผีเห็นผี” (ดื่มเถอะน่า ผีเห็นผี) “เอ้า! น้าปลาส้มคือรู้” (อ้าว! ทำไมน้าปลาส้มรู้?) “ก่อนจะหยุดน้าก็สุดมาก่อน” ปลาส้มยักคิ้วให้เด็กน้อยตรงหน้าอย่างภาคภูมิใจ ระดับตำนานหมู่แปด เมาจนให้จอห์นเอาใส่รถไสน้ำไปส่งถึงบ้าน ผ่านมาหลายรุ่นก็ยังไม่เจอใครสุดเท่าเธออีกแล้ว “ของแทร่!” กำแก้วเอ่ยพร้อมกับยกโป้งให้ก่อนจะกระดกเหล้าสาโทในจอกรวดเดียวหมด ต้องยอมรับเลยว่าฝีมือการหมักเหล้าสาโทของน้าปลาส้มคือที่สุดแห่งที่สุดจริง ๆ ละมุนลิ้นไปหมด “คือบ่?” (ดีไหม?) “มากกกกก!” กำแก้วเอ่ยชมจากใจจริง ปลาส้มเห็นสีหน้าของเด็กน้อยตรงหน้าก็อดชื่นชมไม่ได้ ความจริงเธอก็ไม่รู้หรอกว่ากำแก้วกินเหล้าเบียร์เป็นถ้าไม่ได้ยินจากปากของฉลาม เห็นกำแก้วชอบ ปลาส้มก็รินให้อีกแก้วก่อนจะนั่งดื่มด้วยกัน ลูก ๆ ของเธอต่างก็โต เลี้ยงปากท้องตัวเองได้แล้ว ปลาส้มจึงวางใจและกลับมาดื่มสาโทได้อีกครั้ง ปกติเธอมักจะดื่มกับ ขนม แม่ของไทเกอร์ซึ่งอยู่บ้านติดกันเป็นประจำ แต่วันนี้ไม่ยักจะเห็นหน้าขนมผ่านมาทางนี้เลย นั่งกินเหล้าอยู่นานจนเมาคาโต๊ะ กำแก้วถึงจำได้ว่าตัวเองมีธุระจะมาคุยด้วยกับปลาส้ม เธอรีบตั้งสติเอนตัวขึ้นก่อนจะเอ่ย... “น้าปลาส้ม กำแก้วสิขอติดรถอ้ายฉลามกลับมหา’ลัยนำเด้อมื้อฮือ ฝากน้าปลาส้มบอกอ้ายหลามให้แหน่” (น้าปลาส้ม กำแก้วจะขอติดรถพี่ฉลามกลับมหา’ลัยด้วยนะวันมะรืนนี้ ฝากน้าปลาส้มบอกพี่ฉลามให้หน่อยค่ะ) “เออ พอดีเลย น้าสิให้หลามมันเอารถยนต์ไปอยู่ ค้านไปฮับไปส่งสนามบิน” (เออ พอดีเลย น้าจะให้หลามมันเอารถยนต์ไปพอดี ขี้เกียจไปรับไปส่งสนามบิน) ปลาส้มพยักหน้าเห็นด้วย “ขอบคุณจ้า” “แต่ว่ามื้ออื่นไปซ่อยอ้ายมันกู้มันสำปะหลังแหน่เด้อลูก” (แต่ว่าพรุ่งนี้ไปช่วยพี่มันเก็บมันสำปะหลังหน่อยนะลูก) ปลาส้มเอ่ยปากร้องขอ ความจริงกำแก้วก็ไปช่วยประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ไปช่วยตารงค์พ่อของปลาส้ม แต่ครั้งนี้มันคือการไปช่วยฉลามโดยตรง ด้วยความที่ลูกชายตัวดีของเธอไม่ยอมเรียนจบเสียที ปลาส้มจึงต้องออกกฎเหล็กด้วยการให้หาเงินไปเรียนเองแต่ ทว่าฉลามดันฉลาด ไปขอผู้เป็นตาทำไร่มันสำปะหลังเพื่อจะได้เถลไถลเรียนเล่นอีกยาว ๆ “จ้ะ” กำแก้วพยักหน้า พอดีเลย เธอจะไปถ่ายคอนเทนต์ครีมกันแดดเพื่อลงหาค่านายหน้าในแอปต็อกต็อกด้วย จอห์นเห็นผู้เป็นเมียกำลังคุยกับว่าที่ลูกสะใภ้ถูกคอ ก็เข้าครัวจะไปทำกับข้าวมาให้ทั้งคู่กิน เดินเข้าไปในครัว ร่างกำยำทั้งร่างสะดุ้งโหยงถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยสีหน้าแตกตื่น “โอ๊ย! พ่อตกใจเบิ่ด” (โอ๊ย! พ่อตกใจหมด) “ยังบ่ชินอีกติพ่อ” (ยังไม่ชินอีกเหรอพ่อ?) ปลานิลที่กำลังมาส์กหน้าด้วยแตงกวาบ่นอุบ “คนกะตื่นตั๊วะเนาะ หันหน้ามาเห็นแต่ตา” (ก็คนมันตกใจนี่ หันหน้ามาเจอแต่ตา) จอห์นลูบอกหายใจเข้าใจออกอยู่ครู่ใหญ่ ลูกสาวของเขาก็ผิวดีได้แม่อยู่แล้ว ยังจะต้องเสริมความงามไปทำไมอีก “แล้วสิงามไปไสก็ว่า” (แล้วจะสวยไปไหน ว่ามาสิ?) “คนอยากงามเนาะ เผื่อสิได้ผัวนำเขา” (คนอยากสวยเนอะ เผื่อจะได้ผัวกับเขา) ปลานิลพูดอย่างเขินอายก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไป ปล่อยให้จอห์นยืนงง “ร้อยวันพันปีคือบ่เห็นสนใจอยากงาม” (ร้อยวันพันปีก็ไม่เห็นสนใจอยากสวย) จอห์นเอียงคอมองตามแผ่นหลังผู้เป็นลูกสาวด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะส่ายหน้าน้อย ๆ ปกติปลานิลก็ไม่ต่างจากปลาส้ม ไม่ค่อยรักสวยรักงาม เพียงแต่บังเอิญผิวพรรณดีและหน้าตาดี นานทีจะเห็นห่วงสวยหรือลูกสาวของเขากำลังมีความรัก? คำถามคือ... ใคร!? “เฮ้อ ซ่างเถาะ อายุกะควรมีผัวแล้วล่ะ” (เฮ้อ ช่างเถอะ อายุก็ควรมีผัวแล้วแหละ) จอห์นเข้าครัวไปทำต้มยำปลาที่เพื่อนบ้านพึ่งเอามาฝากทันที ความจริงเขาไม่ได้เป็นคนที่จะหวงลูกจนไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองขนาดนั้น ยังไงเขาก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน ย่อมเข้าใจลูก ๆ ดี ถ้าปลานิลได้แฟนดี เขาก็สบายใจ ส่วนฉลามเป็นผู้ชายเขาไม่ได้ห่วงมากนัก แค่เลิกเกเร ตั้งใจเรียนเขาก็ดีใจแล้ว หลังจากทำเสร็จจอห์นก็ตักแกงไปให้สองสาวขี้เมาหน้าบ้าน เมื่อไปถึงดูท่าแล้วว่าที่ลูกสะใภ้เขาคงไม่ได้กินหรอก นอนฟุบไปกับโต๊ะม้าหินอ่อน แต่ปากยังคงบ่นไม่หยุด จอห์นมองปลาส้มที่แก้มแดงระเรื่อสลับกับกำแก้วที่กำลังขยับปาก “เงาสะท้อนปลาส้มคั้ก ๆ” (เงาสะท้อนปลาส้มชัด ๆ) “น้าปลาส้มฮู้บ่ มื้อนี่อ้ายหลามเอาหน้ากำแก้วจุ่มกองขี้ควายนำ ซั่วคักคน” (น้าปลาส้มรู้ไหม วันนี้พี่หลามเอาหน้ากำแก้วจุ่มกองขี้ควายด้วย ชั่วจริง) กำแก้วที่ไร้สติขยับปากบ่นออกมาโดยไม่รู้ตัว ปลาส้มเองก็เมาไม่น้อย ได้ยินดังนั้นก็พยายามฝืนตาเบิกกว้างขึ้น ส่วนจอห์นที่พึ่งวางถ้วยต้มยำถึงกับหูผึ่ง ลูกชายเขาทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? กับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เนี้ยนะ ไม่น่าเลย ไม่น่าฝากไอ้เฮงเลี้ยงบ่อย ๆ เลย! ขณะกำลังโมโหเสียงใส ๆ ของเด็กน้อยขี้เมาก็หัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยต่อ... “แต่บ่ต้องห่วงดอก กำแก้วเอาคืนด้วยการหยุมไข่เลาแล้ว สมน้ำหน้า!” (แต่ไม่ต้องห่วงหรอก กำแก้วเอาคืนด้วยการบีบไข่พี่แกแล้ว สมน้ำหน้า!) สิ้นเสียงสะใจของกำแก้ว จอห์นกับปลาส้มถึงกับหัวเราะลั่นบ้านออกมาพร้อมกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะสบตาอย่างรู้ใจ... นี่แหละ คนที่จะเอาไอ้หลามอยู่! ปลาส้มมองกำแก้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ แสบเหมือนเธอสมัยสาว ๆ เลย เห็นกำแก้วหลับไปเธอจึงส่งสายตาให้จอห์นไปเอารถไสน้ำมา “ที่รัก ไปเอารถมาไสลูกใภ้เฮากลับบ้านแหน่” (ที่รัก ไปเอารถมาเข็นลูกสะใภ้เรากลับบ้านหน่อย) “วาสนาบักจอห์นอีหลี” (วาสนาไอ้จอห์นจริง ๆ) สรุปต้มยำที่เขาตั้งใจทำก็ไม่มีใครได้กินสักคน แถมยังต้องมาเอากำแก้วใส่รถไสน้ำ ไปส่งกลับบ้านอีก หลังจากเอารถไสน้ำมาจอดไว้ปลาส้มก็ช่วยจับไว้ให้ จอห์นเดินไปหาเสื่อเพื่อนำมาปูก่อนจะช้อนตัวอุ้มกำแก้วมาวางบนรถ จากนั้นก็ให้ปลาส้มนั่งบนรถไสน้ำไปด้วย โดยที่จอห์นเป็นคนออกแรงไส และเป็นธรรมดาที่ชาวบ้านจะซุบซิบนินทา แต่จอห์นก็ไม่ได้สนใจ พร้อมทั้งไปส่งกำแก้วถึงบ้านด้วยสภาพปลอดภัยดี ทันทีที่เดินเข้าไปเหยียบที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ผู้ใหญ่ปาล์มพ่อของกำแก้วก็ออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายียวน “อ้าว ปลาส้มที่รัก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม