บทที่ 08 โคตรเฮงซวย

1849 คำ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ชีวิตฉันก็ยังวนเวียนอยู่ในวงโคจรเดิมซ้ำ ๆ ตอนเช้าไปตลาดตกเย็นเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านเหล้าไม่มีวันหยุด แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือตอนนี้ฉันเหมือนคนที่กำลังหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่ตบหน้าไอมาเฟียโรคจิตนั้นเขาก็หายเงียบไปเลย แรก ๆ ฉันจิตตกมากไม่รู้ว่าเขาจะส่งลูกน้องมาเก็บฉันวันไหน แต่นี่ก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วสิ่งที่ฉันคิดกลับไม่เกิดขึ้น ปั๊ดโถ่…ที่แท้ก็พูดขู่ฉันไปแบบนั้นแต่ไม่ได้ทำจริง ๆ ฉันค่อยสบายใจที่นายนั้นถือว่าเป็นมาเฟียที่พูดส่ง ๆ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่เจอกับคนจริงทำจริงตามที่พูด ไม่งั้นฉันคงกลายเป็นฝุ่นผงธุลีตั้งเก็บไว้ใกล้ ๆ โกศของพ่อแน่นอน "แกจะไปไหน?" เท้าเรียวที่กำลังจะออกไปตลาดชะงักเมื่อดันไปเห็นร่างของอีกคนที่กำลังเดินสวนมา "เปล่า" ไอต้นกล้ามองฉันด้วยท่าทีเลิ่กลัก ฉันจะไม่เอ่ยถามมันเลยถ้าตอนนี้ไม่เป็นเวลาตีห้าของวัน มันไม่เคยตื่นเช้าเป็นกับเขาหรอก ต้องมีอะไรมากกว่านั้น "ฉันถามว่าแกจะไปไหน?" "เพิ่งกลับมา พอใจหรือยัง!?" มันชักสีหน้าใส่ด้วยความรำคาญ "แกไปไหนเพิ่งจะกลับมาเวลานี้" "พี่อย่าถามเยอะได้ปะ ง่วงนอนจะตายห่าละ หลบ!" "ไอต้นกล้า!" ฉันขึ้นเสียงเรียกไอคนที่เดินชนไหล่แล้วเดินหนีเข้าห้องไป "เสียงดังอะไรวะ คนจะหลับจะนอน" จนมีเสียงของอีกคนที่ตะโกนออกมาด้วยความรำคาญนั้นคือเสียงแม่เลี้ยงของฉัน ทำให้ฉันปล่อยมันไว้ก่อนแล้วรีบออกจากบ้านเพื่อไปขายของ เพราะคำว่าบุญคุณที่ยังทำให้ฉันยังทนอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ สองคนไม่มีใครช่วยกันทำมาหากินเลยโดยเฉพาะแม่เลี้ยงที่นอนหายใจทิ้งไปวัน ๆ พ่อแต่งงงานใหม่ตั้งแต่ตอนที่แม่ฉันเสียซึ่งตอนนั้นฉันยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉันโตมาด้วยเสียงของแม่เลี้ยงที่บ่นและก่นด่าทุกวัน แต่พ่อฉันก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ท่านทำได้แค่แอบยัดเงินใส่มือฉันในตอนที่แม่เลี้ยงเผลอ วันไหนที่ขับแท็กซี่แล้วแอบเงินกับแม่เลี้ยงได้ก็จะให้ฉันทั้งหมด ค่าขนมไปโรงเรียนของฉันมาจากตรงนั้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่เมื่อท่านเสียภาระทั้งหมดก็ตกมาที่ฉัน ฉันเลือกที่จะไม่เรียนต่อแล้วทำงานหาเงินส่งน้องเรียน ความจริงก็ไม่ได้เป็นคนรักน้องขนาดนั้นหรอกแต่ทำยังไงได้ในเมื่อโดนแม่เลี้ยงกรอกหูมาตลอดว่าถ้าวันนั้นเขาไม่แต่งงานกับพ่อ ฉันคงไม่โตได้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งสิ่งที่ฉันกำลังทำคือการตอบแทนบุญคุณคน ไม่รู้มันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหนทำงานหาเงินไม่เว้นแต่ละวันไม่รู้จะอดทนอยู่ไปเพื่ออะไร คิด ๆ ไปฉันก็โง่เหมือนกันที่ไม่ออกไปจากตรงนี้สักที ทั้งที่มีคนฉุดลากให้ฉันออกไปแต่ฉันก็ยังเลือกที่จะอยู่ คงต้องรอวันที่หมดความอดทนฉันคงเดินออกไปอย่างไม่หันกลับมา หมดเวลาตัดพ้อในโชคชะตาของตัวเองแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพสามชีวิตรวมตัวเอง วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ร้านขายผลไม้ถูกเปิดในตลาดเช้าของหมู่บ้าน ลูกค้าเข้าร้านไม่ขาดสาย เพราะมาตรฐานผลไม้ร้านฉันสูงกว่าร้านอื่น ๆ ทำให้ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ไม่เคยนอกใจไปไหน "แก้วตาเอาส้มห้าโล" "ได้จ้าน้าเกศคนสวย" ฉันรีบจัดตามคำขอของลูกค้าที่มาอุดหนุน ที่เห็นว่าสนิทกันก็เพราะลูกค้าคนนี้เป็นแม่ของไอกัลป์ เจ้าของตลาดที่ทั้งใจดีและโคตรเอ็นดูฉันมาก "ได้แล้วค่ะ" ฉันยื่นให้ด้วยรอยยิ้มกว้างตาหยี ก่อนที่อีกคนจะควักเงินสีม่วงให้ในทันที "ไม่ต้องทอนนะลูก" "ไม่เยอะไปเหรอคะ" "ไม่หรอก คนขยันก็สมควรได้แล้ว" "ขอบคุณค่ะ แล้ววันนี้น้าเกศมาคนเดียวเหรอ?" "ใช่…กัลป์มีสอบที่มหาวิทยาลัยน่ะลูก" "อ๋อ งั้นเดี๋ยวหนูไปส่งที่รถนะคะ น้าคงแบกคนเดียวไม่ไหว" "ขอบใจนะ เพราะหนูน่ารักแบบนี้ไงลูกน้าถึงตัดใจจากหนูไม่ได้สักที" ไม่ต้องแปลกใจหรอก…ไม่ใช่แค่คุณน้าที่รู้ว่าไอกัลป์มันตามตอแยฉัน แต่ทุกคนในตลาดก็รู้กันหมดนั้นแหละ มันเป็นคนหน้าด้านที่ฉันไล่แค่ไหนก็ไม่ยอมไป ทุกวันที่มันมาหาเราก็ยืนเถียงกันตลอด จนคนในตลาดนี้เขาเริ่มชินกันแล้วแหละ "แหะ!…หนูไม่อยากเป็นคนนั้นเลยค่ะ" ฉันยิ้มแหย่ ๆ แล้วตอบไปตามตรง ส่วนคนเป็นแม่ของเพื่อนที่ไม่คิดแค่เพื่อนก็หัวเราะชอบใจ "ขับรถดี ๆ นะคะ" เมื่อยืนส่งผลไม้ให้น้าเกศเสร็จฉันก็รีบหมุนตัวหมายจะกลับเข้าไปในแผงของตัวเอง แต่แล้วอยู่ ๆ เท้าบางก็ต้องชะงักเมื่อมีชายชุดดำสองคนเข้ามายืนขวางไว้ก่อน ฉันมองสองคนด้วยใบหน้าสงสัย ในหัวก็พยายามคิดว่าพวกมันเป็นใคร คงไม่ใช่คู่อริของไอต้นกล้าแน่เพราะส่วนใหญ่พวกนั้นจะอยู่ในชุดนักเรียนและวัยใกล้ ๆ กัน แต่สองคนนี้ไม่ใช่ เขาแต่งตัวภูมิฐานเหมือนลูกน้องของมาเฟียซึ่งฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน "ตามมาดี ๆ ถ้าไม่อยากให้ที่นี่วุ่นวาย" หนึ่งในสองคนเอ่ยเสียงเข้ม "พวกแกเป็นใคร?" "อยากรู้ก็แค่เดินตามมา" "ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าพวกแกจะไม่ทำอะไรฉัน" "เธอจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าไม่เดินตามมาน้องชายกับแม่ของเธอไม่แน่…" ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คงจะไม่ผิดตัวแน่เพราะเหมือนจะรู้ประวัติบ้านฉันหมดแล้ว "อืม…เดินนำไปสิ" ฉันพยายามตั้งสติแล้วเดินตามพวกมันไปแต่โดยดี มือบางโดนกระชากให้ขึ้นรถหรูสักคันก่อนที่จะขับไปทางไหนสักทางที่ฉันจำได้ดีว่ามันคือทางกลับบ้านฉัน "พวกแกต้องการอะไร?" ระหว่างนั้นก็สาวความหาต้นเรื่อง ฉันขึ้นรถมาโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันเป็นใคร แต่ในเมื่อพวกมันเอาน้องชายและแม่เลี้ยงฉันมาขู่ ฉันก็ต้องจำใจเดินขึ้นรถมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ "ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง" ฉันเม้มปากแน่นอย่างทำอะไรไม่ได้ สองแม่ลูกคู่นั้นคงไม่ได้ทำอะไรไว้หรอกใช่ไหม ฉันเริ่มตะหงิดใจแล้วเพราะพวกมันแต่งตัวเหมือนพวกทวงหนี้ ชีวิตฉันคงจะไม่ถึงคราวซวยขนาดนั้นหรอก… รถหรูแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าบ้านของฉันพอดิบพอดี ฉันรีบวิ่งลงจากรถโดยเร็วก่อนที่จะเห็นว่าภายในบ้านกระจัดกระจายข้าวของอยู่คนละทิศคนละทางไปหมด "น้า…ไอต้นกล้า…" ฉันเอ่ยเรียกสองคนที่นั่งพนมมืออยู่บนพื้น โดยที่แม่เลี้ยงฉันร้องไห้น้ำตาเป็นสายกอดลูกชายสุดที่รักของเขาแน่น ขณะที่ไอต้นกล้ามีแผลตรงมุมปากแล้วตัวสั่นด้วยความกลัว "นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?" ฉันตวัดสายตามองชายชุดดำอีกคนที่อยู่ในบ้านก่อนแล้ว มันหันมามองฉันนิ่งแล้วกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นร่างของฉัน "ถามน้องแกสิว่าไปสร้างเรื่องอะไรไว้" ชายคนนั้นเอ่ยตอบ ฉันจึงเหลือบไปมองต้นกล้าเพื่อต้องการคำตอบที่แท้จริง "…" มีแต่ความเงียบที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มันมองมาที่ฉันนิ่งๆ โดยไม่ยอมพูดอะไร "ตอบสิวะ แกไปทำอะไรมา!?" ฉันตะคอกใส่อย่างเหลืออด "ฉะ ฉันติดหนี้พนันบอล" เหมือนมีเสียงฟ้าผ่าดังตรงกลางใจ สิ่งที่ฉันคิดไว้เกิดขึ้นไม่มีผิด อยากเข้าไปกระชากคอมันตอนนี้แต่ติดตรงที่ว่ามีเจ้าหนี้ยืนอยู่เต็มบ้าน คงเคลียร์ตอนนี้ไม่ได้ "เท่าไหร่?" ฉันหันไปถามชายชุดดำต่อ จนสิ่งที่มันพูดในประโยคต่อไปกำลังจะทำให้ฉันแทบทรุดกับพื้น "แปดแสน" "แปดแสน!" ให้ตายเถอะพนันบอลเฮี้ยไรตั้งแปดแสน หาเงินทั้งชาติฉันยังไม่รู้เลยว่าจะหามาคืนได้ยังไง "แต่ผมติดแค่ห้าแสนเองนะ" ไอน้องชายตัวดีรีบพูดแย้งขึ้น มันใช้คำว่า 'แค่' กับเงินครึ่งล้าน โคตรเฮงซวย "ก็ดอกเบี้ยสิวะ แกติดมานานแค่ไหนแล้วมันก็ต้องมีดอกบ้าง" "ดอกเฮี้ยไรตั้งสามแสน!" คราวนี้คนที่เดือดดาลไม่ใช่ไอต้นกล้าแต่เป็นฉัน ฉันตะคอกใส่พวกมันเสียงดังฟังชัด ได้ยินแค่นี้ก็รู้แล้วว่าพวกมันคิดไม่ซื่อ "ตอนนั้นก็ตกลงกันไว้แค่นี้ มันก็ดูโอเค แต่เสือกมีปัญหาตอนจ่าย" แม่งหมดคำจะพูดกับคนอย่างมันจริง ๆ วัน ๆ ไม่ช่วยอะไรเสือกสร้างแต่ปัญหา ทำไมฉันต้องเกิดมาเพื่อมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยวะ! "พวกแกจะเอายังไง?" "นายฉันยังใจดีให้โอกาสพวกแกแบ่งจ่ายแปดงวด งวดละแสน และวันนี้ฉันต้องได้แสนหนึ่งก่อน" "แสนหนึ่ง!" เงินหนึ่งแสนไม่ใช่หนึ่งร้อย ฉันจะไปหาจากที่ไหนทัน "ใช่…แสนหนึ่ง วันนี้และตอนนี้" "…" ฉันยืนนิ่งเงียบไป ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่แค่ห้าหมื่นเงินค่าเทอมของไอต้นกล้า แค่ครึ่งหนึ่งของเงินแสนด้วยซ้ำ "ไอแก้วแกก็เอาให้พวกมันสิ จะยืนบื้อทำไม?" เสียงของคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่เลี้ยงดังขึ้น "น้าคิดว่าฉันรวยขนาดนั้นเลยหรือไง!?" "แกก็ไปหามาสิ ยืมของใครมาก่อนก็ได้ อยากให้ฉันกับน้องตายหรือไงวะ" เธอไม่เคยรักใครเลยนอกจากตัวเธอเองและลูกของเธอ ส่วนฉันเหรอ…หมาตัวหนึ่งที่คอยหาเงินให้เท่านั้นแหละ "เอาไง…" "ฉันมีแค่ห้าหมื่น ช่วยพูดกับนายแกหน่อย อีกเดือนหนึ่งฉันจะหามาให้อีกห้าหมื่น" "สามวัน" "ฉันให้เวลาเพิ่มอีกแค่สามวัน เงินอีกห้าหมื่นต้องได้กลับคืน ส่วนอีกเจ็ดแสน เจอกันทุก ๆ สิ้นเดือน" "ฉันจะเอาเงินจากไหน" "ฉันไม่สนใจ ช่วยได้แค่นี้"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม