EP.8 เผชิญหน้า
ณ โรงแรมxxx
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” เมื่อรถจอดเอลหันมาขอบคุณมังกรและรีบลงจากรถพร้อมกับเร่งฝีเท้าเข้าไปในโรงแรมให้เร็วขึ้น
“พี่ตามมาทำไม” เอลที่หันไปเจอมังกรที่ยังเดินตามมาติดๆ
“ไปด้วยสิ”
“พี่จะไปด้วยทำไมฮะ” เธอรำคาญมังกรที่ตามติดเธอเป็นเงาทั้งวัน
“จะใจร้ายไปหน่อยไหม พี่ขับรถให้เราทั้งวันไม่คิดจะเลี้ยงข้าวพี่บ้างรึไง”
“เอลเลี้ยงพี่ได้อยู่แล้วแต่ต้องไม่ใช่วันนี้ วันนี้เอลนัดกับครอบครัวเอาไว้”
“ดีเลย พ่อพี่บอกว่าอาเคนอยากเจอพี่ งั้นวันนี้ก็ถือโอกาสเข้าไปทักทายท่านด้วยเลยแล้วกัน
“เอลว่าพี่น่าจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง เอลบอกไปไม่ได้ไงคะ” เธอเหนื่อยใจกับความดื้อด้านของชายหนุ่มอย่างมังกรเป็นอย่างมาก
“เธอนั่นแหละฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องพี่ก็บอกอยู่ว่าจะไปทักทายอาเคนไม่ได้จะไปรบกวนเธอสักหน่อย”
“ตามใจพี่แล้วกัน” เธอคิดว่าการที่เถียงหรือจะใช้เหตุผลกับมังกรยังไงก็ไม่มีทางที่จะชนะก็คงต้องว่าไปตามเขานั่นแหละ
ทั้งสองเดินไปยังห้องรับรองของครอบครัวอัครเดช พอเปิดประตูเข้ามาก็พบสมาชิกทั้งสามคนอยู่กันครบ สายตาสามคู่พุ่งเป้าไปที่ชายหนุ่มที่มาใหม่
“ใคร!!” เสียงเข้มจากแด๊ดดี้เอ่ยออกมาคนแรก
“พาใครมา!!” เสียงทุ้มต่ำปนดุของคนที่สองเอ่ยถามออกมา
“น้องเอลพาพี่เขาเข้ามาก่อนสิลูก” เสียงหวานใจดีของคนที่สามพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
มังกรมองไปที่บุรุษสองคนที่แววตาและสีหน้าเรียบนิ่งและเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามทำให้มังกรต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอแต่ก็ยังดีที่มีน้ำเสียงที่ใจดีที่เชื้อเชิญให้เข้าไปข้างใน
“ไม่ต้องทำเสียงดุแล้วก็มองน้องเอลแบบนี้เลยนะคะ พี่เขาไม่ใช่แฟนน้องเอล” เธอรีบอธิบายให้กับชายหนุ่มทั้งคู่ที่สบายใจ
“แล้วใคร!! ทำไมพาเขาขึ้นมา” อาเทอร์มองไปที่มังกรอย่างไม่สบอารมณ์เพราะเป็นคนที่ห่วงน้องสาวมาก ๆ
“ก็พี่มังกรลูกชายคนโตของน้าแก้วตากับลุงไมลาสไงคะ”
“เห็นไหมเอลบอกว่าไม่ให้ตามขึ้นมา” เอลหันไปบ่นให้กับมังกร
“สวัสดีครับ พอดีผมมาส่งน้องเลยถือโอกาสมาทักทายครับ ผมคงไม่ได้มารบกวนใช่ไหมครับ”
“รบกวน / ไม่รบกวนจ้า” เสียงของอาเทอร์และมามี้ตอบออกมาพร้อมกันแต่คำตอบที่ไม่เหมือนกันทำให้มังกรถึงกับหน้าเครียดขึ้นมาเล็ก
“แล้วทำไมวันนี้คิดจะขึ้นมาทักทายล่ะ ปกติเราไม่เคยที่อยากจะมาทำความรู้จักกับบ้านอาเลยนะ” ชายวัยกลางคนที่ยังดูหนุ่มและมีรัศมีความน่ายำเกรงอย่างยิ่งถามออกมาด้วยสายตาที่ยังจดจ้องไปที่มังกรอย่างไม่วางตา
“แล้วยังเคยปล่อยให้น้องเอลของเรานั่งรอที่ร้านอาหารอยู่หลายชั่วโมงเมื่อครั้งก่อนนายยังไม่เคยคิดที่จะมาขอโทษทางครอบครัวเราบ้างเลย” และยิ่งดูเหมือนพี่ชายแสนเพอร์เฟคของเอลยังเจ้าคิดเจ้าแค้นที่เขาเคยทำกับน้องสาวสุดที่รักของเขาเอาไว้
มังกรที่นิ่งฟังและสายตาของเขาก็มองไปยังผู้ชายสองคนที่กำลังพูดเหมือนตำหนิให้เขาได้คิดกับความเอาแต่ใจของเขาเมื่อก่อนและเขาก็รู้สึกผิดจริงๆที่ได้ทำแบบนั้นลงไปแต่มันก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ ก็ได้แต่น้อมรับกับคำตำหนิ
“เอาเถอะ ๆ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว อย่างน้อยวันนั้นก็มีไทเกอร์ไปดูแลน้องเอลของเราแทนอยู่แล้วและตอนนี้ไทเกอร์รับผิดชอบด้วยการทำหน้าที่ดูแลและะปกป้องน้องเอลของเราได้เป็นอย่างดี ไหนๆมังกรก็มาแล้วก็ถือซะว่ามาเริ่มทำความรู้จักกันเอาไว้ไม่ดีกว่าเหรอ
“ไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ น้องเอลหิวแล้วค่ะ” เอลที่เห็นสีหน้ามังกรแล้วก็เริ่มที่จะเห็นใจ ก็ผู้ชายบ้านเธอไม่ใช่จะเป็นคนใจดีและยอมให้อภัยใครง่ายๆเสียด้วยซะด้วยและสิ่งที่มังกรทำไว้กับเธอก็เหมือนไม่ไว้หน้าครอบครัวของเธอด้วย
ทั้งๆที่มีการนัดไว้เรียบร้อยแล้วแต่พอถึงเวลามังกรกลับไม่มาทำให้เอลต้องนั่งรอมังกรอยู่ที่ร้านอาหารจนดึกแต่ก็ยังดีที่ไทเกอร์ตามเข้ามาและเป็นคนรับเอลกลับไปส่งที่บ้านเอง
“มังกรมาแบบนี้แก้วตารู้ไหมเนี่ย” แอนถามมังกรยิ้มๆไม่อยากให้มังกรรู้สึกอึดอัดกับสองชายหนุ่มที่เอาแต่ทำหน้าเคร่งขรึมออกมา
“แม่ไม่รู้ครับ วันนี้ไทเกอร์ติดธุระผมเลยมาส่งน้องแทนครับ” มังกรหันไปตอบให้แอนผู้ที่เป็นแม่ของเอลที่ดูเหมือนจะใจดีกับเขามาก ๆ
มังกรแอบลอบมองไปที่เอลอยู่เป็นระยะ แอนที่สังเกตเห็นมังกรอยู่ก็พลอยเผลอยิ้มออกมา เธอพอจะเดาได้อยู่บ้างแล้วว่ามังกรนะสนใจลูกสาวของเธอแต่ไม่คิดว่ามังกรจะออกอาการชัดขนาดนี้
ในโต๊ะอาหารที่บรรยากาศแรกๆเต็มไปด้วยความอึมครึมชวนให้อึดอัดแต่พอเริ่มพูดคุยกันไปไม่นานมากก็ดูเหมือนแด๊ดดี้และอาเทอร์จะมีปฏิสัมพันธ์กับมังกรดีขึ้น พวกเขาพูดคุยกันเรื่องธุรกิจของกันและกันมังกรที่ดูเจ้าชู้แต่พอพูดเรื่องธุรกิจขึ้นก็กลับทำให้บุคคลแตกต่างออกไป เขาเข้าใจงานทุกอย่างของครอบครัวเพราะตัวมังกรเองก็เริ่มเข้าไปทำงานบางอย่างเต็มตัวแล้วและงานบางอย่างก็กำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาเรียนรู้เพราะเมื่อเรียนจบเขาก็จะเข้าไปรับช่วงต่อจากพ่อของเขาอย่างเต็มตัว
มังกรที่สามารถพูดคุยเรื่องงานออกมาอย่างไหลลื่นและทำให้แด๊ดดี้ของเอลเริ่มลดกำแพงที่มีอคติกับเขาลงไปมากเหมือนกัน ส่วนอาเทอร์นั้นถึงจะรู้สึกว่ามังกรเป็นคนเก่งมากเลยทีเดียวแต่ด้วยเรื่องความเจ้าชู้ที่มีมาตลอดทำให้อาเทอร์ไม่ค่อยอยากที่จะให้เขามารู้จักและสนิทกับเอลมากนัก เมื่อทานข้าวกันเรียบร้อยก็กลับมาที่ห้องรับรองและอยู่พูดคุยกันไม่นานมังกรก็ขอตัวกลับ
“ผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ ไว้โอกาสหน้าจะเข้ามาขอความรู้จากคุณอาเพิ่มเติม” เคนที่พยักหน้ารับรู้ตอบกลับให้มังกร
“น้องเอลไปส่งพี่เขาหน่อยสิลูก” แอนหันบอกลูกสาวที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์ไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่มาด้วยเลย
“ผมลงไปส่งเองครับ” ไม่ทันที่เอลจะตอบก็เป็นอาเทอร์ที่เสนอตัวออกมาแทน
“ไม่ได้สิจ๊ะ มังกรมาส่งน้องก็ต้องให้น้องลงไปส่งเอง อาเทอร์!” เสียงเข้มท้ายประโยคทำให้อาเทอร์ต้องทำตามเมื่อนายใหญ่ของบ้านตัวจริงออกคำสั่ง
“น้องเอลค่ะ ลุกแล้วไปส่งพี่เขาค่ะ” เอลถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหยุดเล่นโทรศัพท์ลุกเดินตามมังกรออกไปจากห้อง
“กลับคอนโดวันไหน” อยู่ดีๆมังกรก็เอ่ยถามขึ้นมา
“ถามทำไมคะ” เอลเอียงใบหน้าสวยเล็กน้อยก่อนจะถามออกไปและเธอก็ไม่รู้ตัวว่าท่าทางที่เธอทำมันน่ารักซะจนมังกยกยิ้มให้กับความน่ารักของเธอ
“ก็แค่อยากรู้” มังกรยักไหล่กลับให้เธอ
“แหม..นึกว่าอยากจะมารับเอลซะอีก” รอยยิ้มกวนๆปรากฏบนใบหน้าสวย ก่อนที่เธอจะก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ มังกรถึงกับอึ้งไม่คิดว่าเธอจะกล้าตอบย้อนกลับมาแบบนี้
มังกรเดินตามเข้าในลิฟต์แล้วเข้าไปยืนใกล้ๆกับเอล ความเงียบก็เกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่ไม่มีบทสนทนากันจนกระทั่งลิฟต์เปิดที่ชั้นล่าง เอลเดินคู่มากับมังกรจนถึงหน้าโรงแรม
“แล้วอยากให้มารับไหม” เสียงกระซิบข้างใบหูและลมหายใจร้อนๆเป่ารดต้นคอทำให้เอลถึงกับขนอ่อนลุกขึ้นมาก่อนที่จะผละตัวออกมานิดหนึ่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ เอลแค่ล้อเล่น” หญิงสาวหันไปตอบกลับยิ้มๆให้กับชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองที่ใบหน้าของเธอทำให้เธอรู้สึกร้อนๆที่ใบหน้าขึ้นมา
“แล้วหน้าทำไมแดง” พูดจบมังกรก็เอื้อมมือไปจับที่แก้มนิ่มแล้วบีบเบาๆก่อนจะเดินขึ้นรถและขับออกไปปล่อยให้เอลยืนงงกับการกระทำของเขา