ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้น

1244 คำ
แกร๊ก~ มือเรียวบางจัดการประกอบปืนยาว​ ตั้งแต่ปลายลำกล้องจรดพานท้าย เพื่อความแม่นยำสูงเธอเลือกปืนสังหารที่มีซองกระสุนขนาดบรรจุห้านัด มีน้ำหนักรวมเมื่อติดกล้องเล็งระยะไกลประมาณหกจุดสองกิโลกรัม มีระยะยิงหวังผลไกลกว่าแปดร้อยถึงหนึ่งพันเมตร เป็นอย่างต่ำ สายตาของเพชฌฆาตจ้องมองเหยื่อผ่านกล้องส่อง มือเรียวสวยหันเล็งปากกระบอกปืนไปยังศีรษะของเป้าหมาย นิ้วชี้เรียวบรรจงสอดเข้าโกร่งไกอย่างใจเย็น ความเร็วในขณะที่กระสุนพ้นปากลำกล้องสองพันสี่ร้อยฟุตต่อวินาที กระสุนจะเจาะเข้าตรงกลางกะโหลกของเหยื่อและจะเสียชีวิตทันที ปังง!! เสียงปืนดังสนั่นซ้อนกันทันทีที่นิ้วเรียวกดลั่นไก รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏอยู่ใบหน้าสวยหวาน ซึ่งมันขัดต่อบุคลิกของเธออย่างสิ้นเชิง เรติกาจัดเก็บอาวุธปืนเข้ากับกระเป๋าสีดำขนาดกลาง มือเรียวดึงแว่นดำกันแดดที่เกยทัดผมไว้มาสวมใส่ ก่อนเดินจากไปท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงกรีดร้องของผู้คนที่ดังอยู่ไกลๆ จากจุดที่เธออยู่ “เมื่อเวลา 11:30 น. วันนี้ มือปืนจ่อยิง ส.ส. ......พรรคXXXX ด้วยอาวุธปืนขนาดXX เข้าที่บริเวณโหนกแก้มขวาทะลุโพรงจมูก อาการสาหัส ด้าน พล.ต.อ. เผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้อยู่เบื้องหลัง ยังมีความเชื่อมั่นว่าทีมตำรวจภาค 2 สามารถจับได้แน่ ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง ย้อนไปก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการเมืองหลายเหตุการณ์...” “ฝีมือแก?” คาริสาเอียงคอถามคนที่นั่งดูทีวีอย่างสบายใจอยู่ข้างๆ มือเรียววางแท็บเล็ตลงบนหน้าตัก หลังจากได้อ่านข่าวที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จึงอดที่จะสงสัยเพื่อนรักของตัวเองไม่ได้ หากว่าวันนี้เรติกาหายไปตั้งแต่เวลาช่วงเช้าสายและกลับมายังแชร์เฮาส์ในเวลาบ่ายโมง “...” คนโดนถามเหลือบตามองเพื่อนรักเพียงนิด ก่อนเอียงคอยักไหล่ให้ แล้วหยัดกายลุกขึ้นไปหยิบเบียร์กระป๋องในตู้เย็นมากระดกลงคอ “ทำท่าแบบนั้นหมายความว่าไงเรย์ อธิบายให้มันเคลียร์” คาริสาเอี้ยวหน้ามองตามเพื่อนรักพลางซักถามไม่หยุด “แล้วทำไมแกจะต้องมาหงุดหงิดใส่ฉันด้วยเนี่ย” เรติกาตอบโต้กลับไปเชิงย้อนถาม หลังจากที่กลืนน้ำสีอำพันลงคอ “ก็เหยื่อทุกรายที่แกลงมือ แกจะให้ฉันตรวจสอบข้อมูลของเหยื่อก่อนไม่ใช่เหรอ แกถึงจะตัดสินใจรับงาน แล้วนี่อะไร?” “คำสั่งบิ๊กบอส” เรติกาตอบเพื่อนรักกลับไปแค่นั้น ทำให้คาริสารู้ทันทีว่าไม่ควรซักถามอะไรต่อ หากว่าเป็นคำสั่งของบอสใหญ่ ไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงที่จะไม่รับงาน และทุกอย่างจะเป็นความลับ “ไปเที่ยวกับฉันไหมเคส” “เที่ยวเหรอ?” คนที่งุดหน้ามุ่ยเมื่อครู่เงยขึ้นมาอย่างดี้ด้า เมื่อได้ยินคำชวนจากเพื่อนสาว “โดนเตชินสั่งพักงาน ไม่ได้เข้าองค์กรตั้งหลายวันแกคงเบื่อแย่” ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากับฉันหน่อยไหม? ถ้าเตมันกล้าโวยวายเดี๋ยวฉันจัดการมันเอง” คาริสาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี เมื่อเพื่อนรักอย่างเรติการู้ใจเธอเสมอ @ผับz “พี่เรย์ขา วันนี้ไม่ให้พวกหนูไปนั่งเป็นเพื่อนเหรอคะ” “ห๊า?” เป็นคาริสาที่ชะงักไปก่อนส่งเสียงอุทานแล้วหันมองหน้าเพื่อนรักข้างๆ ซึ่งเริตกาก็ได้​แต่ยิ้มกริ่มกลับมา “ให้เด็กมันได้มีค่าเทอม” เรติกาวางแขนพาดกับพนักเก้าอี้ของคาริสาพร้อมเอียงคอไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างกกหูของเธอ ก่อนที่จะเงยมาพูดตอบโต้กับเด็กสองคนตรงหน้า “พี่มีคนนั่งด้วยแล้วจ๊ะ ไว้วันหลังนะ” “พี่คนนี้ แฟนพี่เรย์เหรอคะ” “หือ?” คาริสาอุทานอีกครั้งพร้อมไล้สายตามองเด็กรุ่นน้องมหาลัยเดียวกันกับที่เธอเรียนจบหมาดๆ พลางส่งยิ้มเจือนให้พวกหล่อน “เพื่อนของพี่เองจ๊ะ ชื่อพี่เคส” เด็กรุ่นน้องสองคนก้มหน้าทักทายคาริสาแล้วหันมากล่าวลาเรติกาก่อนเดินจากไป “อะไรยังไง?” คาริสาเอียงคอถามเพื่อนสาวสุดห้าวหาญ “บางวันนั่งคนเดียวมันก็เหงา เลยให้ทางร้านจัดหาเด็กมานั่งเป็นเพื่อนเฉยๆ” เรติกาพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบน้ำสีอำพันมากระดกลงคอกลบเกลื่อน ในขณะที่อีกฝ่ายมองเธออย่างจับผิด “อะไรๆ อะไรของแก หึ” คาริสาทำทีส่งเสียงโวยวายอย่างไม่ใส่ใจนัก เมื่อถูกเพื่อนรักใช้มือสัมผัสกับท่อนขาเหนือหัวเข่า จากเรียวขาที่นั่งอยู่ในท่าไขว่ห้างถูกดันลงให้นั่งในท่าที่สุภาพขึ้น “มีไอ้พวกหน้าหื่นมันมองขาอ่อนแก ไม่ชอบ!” คาริสาถอดหายใจพรืดใหญ่ ก็ที่เธอใส่เกาะอกสั้นรัดรูปสีแดงจัดเต็มมาขนาดนี้ ก็กะจะมาอวดเรือนร่างสักหน่อย ในขณะที่เรติกาใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาเดฟรัดรูปสีเดียวกัน ใครก็ตามที่มองมายังพวกเธอทั้งคู่ ก็คงคิดว่าเป็นเลสเบี้ยน “ไปเต้นกัน” เสียงเพลงภายในผับดังขึ้นต่อเนื่องอย่างครึกครื้น จนกลบทุกเสียงร้องโห่และเสียงพูดคุย คาริสาจึงต้องตะโกนชวนเพื่อนรักให้ออกไปวาดลวดลายท่าเต้น “ไม่ไป” นอกจากจะปฏิเสธไม่ไปเต้นเป็นเพื่อนคาริสาแล้ว เรติกายังโยนเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำของเธอให้เพื่อนรัก พรึ่บ! “เอาไปพันไว้รอบเอว แล้วอย่าอยู่ห่างจากสายตาของฉัน” “เป็นเพื่อนหรือผัวห๊ะ ไม่ทำตามเว้ย” คาริสาโยนเสื้อแจ๊คเก็ตคืนกลับไป​ ซึ่ง​กระทบเข้าตรงกลางใบหน้าของเพื่อนรักเหมาะเจาะ​ ก่อนสะบัดหน้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินไปโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลง ท่ามกลางผู้คนนับร้อยที่ต่างก็ออกแบบลวดลายท่าเต้นแข่งกันอย่างครึกครื้น พรึบ! ครื๊ด! ครื๊ด! เสียงโทรศัพท์สั่นในกระเป๋ากางเกง เรติกาขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ “เบอร์ใครวะ” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนกดรับสาย แต่เสียงเพลงในผับดังมากจนเธอไม่สามารถ​ได้ยินเสียงจากปลายสาย เรติกาละสายตาจากเพื่อนรักที่สะบัดสะโพกส่ายไปมาเข้ากับจังหวะเพลง เพื่อลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำ “ใครมันมาโทรกวนวะ” เรติกาพูดบ่นหลังจากที่วางสายจากเบอร์แปลกถึงสองรอบ และกำลังจะมีรอบที่สามเมื่อโทรศัพท์ในมือสั่นขึ้นมาอีกครั้ง “เห้ย!” เธอยังไม่ได้พูดอะไรก็ได้ยินเสียงเค้นหัวเราะอย่างเย้ยหยันดังออกมาจากปลายสาย ‘หึหึ’ “เหี้ยอะไรวะ กะ..แกเป็นใคร?” เรติกาสบถถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะหัวเสียหนักกว่าเดิมเมื่อโดนปลายสายตัดทิ้งไป เธอพยายามติดต่อกลับไปแต่ก็ไม่มีใครกดรับสายจากเธอ “ไอ้เวรเอ๊ย!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม