EP.9 เจ้าสาวที่ถูกย่ำยี
“ครับ พอรู้มาบ้าง”
ชายหนุ่มจงใจปิดบังเรื่องที่เขาไปอวยพรงานแต่งงานให้กับแทนไทและวาดฟ้า เมื่อเห็นว่ามารดาไม่ได้ติดใจเขาจึงเอ่ยขอตัวไปสะสางงานที่คั่งค้างเพื่อรอรับวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง...
หญิงสูงวัยรูปร่างผอมบางเดินสำรวจรอบๆ เรือนหอ สอดส่ายสายตาตรวจตราดูความสงบเรียบร้อย แล้วจึงเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังลูกสะใภ้สาวที่เอาแต่นั่งเหม่อลอยจนมองไม่เห็นว่าเธอเดินเข้ามาในเรือนหอนานแล้ว นวลพรรณแสร้งกระแอมขึ้นเบาๆ นั่นล่ะวาดฟ้าจึงรู้สึกตัว
“คุณแม่! มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
หญิงสาวลุกขึ้นยืนต้อนรับแล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนน้อม เชื้อเชิญให้แม่สามีนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งไว้กลางห้องรับแขก
“มาได้สักพักแล้วจ้ะ เดินดูรอบๆ บ้านตรวจดูว่าชมนาดเขาจัดการเรียบร้อยอย่างที่แม่สั่งไว้หรือเปล่า”
นิสัยหนึ่งที่ทุกคนในบ้านล้วนเกรงใจหญิงสูงวัยตรงหน้า ก็คือความเป็นระเบียบเรียบร้อย ค่อนข้างเข้มงวดแต่มิได้บังคับฝืนใจสมาชิกในครอบครัวให้ปฏิบัติตาม นวลพรรณดูแลบ้านช่องตามแบบฉบับแม่ศรีเรือนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง บุตรและสามีแทบไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว และสาเหตุนี้เองที่ทำให้วาดฟ้าต้องไปเรียนทำอาหารเพิ่ม แม้ว่านวลพรรณจะอาสาสอนเธอก็ตาม แต่เธอควรจะมีวิชาติดไม้ติดมือมาบ้างมิใช่ว่าต้องให้สอนสั่งทุกอย่างจนอาจกลายเป็นความแหนงหน่าย ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย...
“แล้วนี่ทำไมมานั่งเหม่อคนเดียวแบบนี้ล่ะ เก็บข้าวของเตรียมไปฮันนีมูนเสร็จแล้วหรือ เย็นนี้ต้องขึ้นเครื่องบินไปญี่ปุ่นตั้งเจ็ดวัน น่าจะตรวจดูให้แน่ใจว่าข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเอาติดตัวไปครบหรือเปล่า พวกหยูกยาต้องเตรียมให้พร้อมจะลืมไม่ได้เด็ดขาดรู้หรือเปล่าลูก”
“ค่ะคุณแม่ วาดจัดของไว้แล้วเดี๋ยวจะขึ้นไปตรวจดูอีกครั้งค่ะ ในส่วนของแทนวาดก็จัดเอาไว้เรียบร้อยแล้วเหมือนกันค่ะ”
วาดฟ้าพยายามฝืนยิ้ม ประหวัดคิดไปถึงเหตุการณ์น่าอดสู เธอจะให้ทุกคนรู้ไม่ได้เป็นอันขาด แทนไท นวลพรรณ ทรรศนัย ล้วนเป็นบุคคลที่เธอรัก ใกล้ชิดผูกพันมานานนับสิบปี ณ เวลานี้เธอกำลังเสียใจราวกับกำลังจะขาดใจตาย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเธอขอเก็บมันไว้แต่เพียงผู้เดียว เจ็บครั้งเดียวดีกว่าต้องเจ็บซ้ำๆ เมื่อเห็นคนที่ตนรักต้องทุกข์ทรมานใจ
“แล้วนี่ไปจดทะเบียนสมรสกันมาหรือยัง”
นวลพรรณถามเพราะตามฤกษ์ที่ขอจากพระที่นับถือ ท่านว่าวันแต่งกับวันจดทะเบียนสมรสควรแยกคนละวันกัน โดยให้จดทะเบียนในช่วงเช้าเพื่อความเป็นสิริมงคล
วาดฟ้ามีสีหน้าอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด มือบางผสานเข้าหากันแล้วบีบแน่นเหนือหน้าตัก จดทะเบียนสมรสอย่างนั้นหรือ...เธอจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร แม้หัวใจของเธอจะเป็นของแทนไท แต่ทว่าร่างกายนั้นกลับไม่ใช่
“เลื่อนออกไปก่อนค่ะคุณแม่ พอดีว่าเมื่อเช้าวาดปวดศีรษะเลยไม่ได้ไปที่เขต”
หญิงสาวบอกตามที่ได้กล่าวอ้างกับแทนไท นวลพรรณพยักหน้าด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ไม่เป็นไรลูก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแม่จะไปขอฤกษ์จากหลวงพ่อมาให้ใหม่ ระหว่างนี้ก็เร่งมีหลานให้แม่เร็วๆ แม่อยากอุ้มหลานจะแย่แล้ว”
นวลพรรณวางมือลงบนไหล่ พิศมองใบหน้าหวานของลูกสะใภ้ด้วยสายตาชื่นชม ทั้งรักและเอ็นดูวาดฟ้าราวกับบุตรสาวแท้ๆ ด้วยเห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่ยังถักเปียใส่ชุดนักเรียนคอกะลาสีจนกระทั่งโตเป็นสาวร่ำเรียนระดับสูง วาดฟ้าเองก็รักเธอเหมือนแม่แท้ๆ เพราะหญิงสาวเสียมารดาจากอุบัติเหตุตั้งแต่ยังแบเบาะ เมื่อบิดาแต่งงานใหม่แล้วย้ายไปอยู่นิวซีแลนด์ วาดฟ้าจึงอาศัยอยู่คนเดียวที่คอนโดฯ ใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีครอบครัวของเธอคอยดูแลหญิงสาวราวกับเป็นคนในครอบครัวเรื่อยมา
“แล้วนี่ตาแทนไปไหนเสียล่ะ ทำไมปล่อยให้หนูวาดอยู่คนเดียว”
“ไม่ทราบค่ะ เห็นรับโทรศัพท์แล้วบอกกับวาดว่ามีธุระเรื่องงานนิดหน่อย แต่จะเร่งกลับมาให้ทัน”
“อะแฮ่ม สองสาวนินทาอะไรผมหรือเปล่าครับ”
เสียงสดใสติดแววทะเล้นดังมาจากด้านหลังสองสาวต่างวัย เมื่อหันตามไปจึงเห็นแทนไทยืนหอบกุหลาบสีแดงช่อใหญ่สาวเท้าเข้าหาด้วยใบหน้าแช่มชื่น ยิ้มจนดวงตาเล็กหยี เขาเดินเข้ามาโอบเอวภรรยาสาวเอาไว้ แล้วก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่
“ดอกไม้สำหรับภรรยาคนสวยครับ”
วาดฟ้าจ้องมองดอกกุหลาบสีแดงเขม็ง มือเย็นเฉียบเมื่อต้องยื่นไปรับช่อดอกไม้แสนสวยนั้นมาถือไว้ เธอก้มลงมองสีแดงสดด้วยความรู้สึกพิพักพิพ่วนใจเหลือจะกล่าว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอต้องแสร้งยิ้มขอบคุณแทนไท ทั้งที่ใจจริงเธออยากจะโยนมันทิ้งแล้วบดขยี้มันให้แหลกลาญ
หญิงสาวกลายเป็นคนเกลียดดอกกุหลาบสีแดง ทั้งที่มันเป็นดอกไม้ที่เธอเคยชื่นชอบมากที่สุด
“ขอบคุณนะคะแทน ความจริงคุณไม่น่าซื้อมาให้เปลืองเงินเลย”
“เห็นคุณปวดศีรษะผมเลยซื้อดอกไม้มาให้ เผื่อว่ามันจะทำให้วาดอารมณ์ดีขึ้น จริงมั้ยครับคุณแม่ ผู้หญิงสวยๆ ต้องคู่กับดอกไม้สวยๆ”
แทนไทพูดพลางเดินเข้าไปโอบเอวมารดาบ้างแล้วยื่นดอกลิลี่สีขาวที่แอบไว้ด้านหลังให้มารดา นวลพรรณหัวเราะร่วนรับดอกไม้มาถือไว้อย่างถูกใจกับความทะเล้นช่างเอาอกเอาใจของบุตรชาย เธอเชื่อว่าความอ่อนโยนและช่างสังเกตคนรอบข้างของบุตรชาย จะช่วยให้ชีวิตคู่ของทั้งสองคนราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง
“จริงเลยลูกคนนี้ไม่รู้จักโต”
“ได้ยังไงล่ะครับผมมันหลายใจรักผู้หญิงถึงสองคน ก็ต้องหมั่นเอาใจหน่อย”
ไม่พูดเปล่าแทนไทโน้มกายลงหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ แล้วทำท่าชื่นอกชื่นใจเสียจนนวลพรรณอดส่งตาค้อนบุตรชายไม่ได้ วาดฟ้าหัวเราะจนน้ำตาซึม แทนไทนั้นมีนิสัยอ่อนโยนเหมือนมารดา ส่วนบิดาของชายหนุ่มนั้นวาดฟ้าไม่ค่อยสนิทนัก เพราะท่านเป็นคนไม่ค่อยพูด มักเป็นผู้ฟังเสียมากกว่า ในดวงตาของท่านนั้นลึกลับและดูอ้างว้างจนเธอนึกกลัว
ใช่แล้ว...เทวามีดวงตาเหมือนบิดานั่นเอง และนิสัยก็คงถอดแบบกันมา แต่เรื่องความโหดเหี้ยมใจดำนั้นเขาถอดแบบมาจากใครเธอก็ยากที่จะคาดเดา
“แม่ไปดีกว่า จะไปเอนหลังเสียหน่อย นี่เพิ่งได้นิยายเรื่องใหม่มาว่าจะไปนอนอ่านแล้วนอนกลางวันเสียเลย ยังไงก็อย่าลืมตรวจดูข้าวของอีกรอบนะหนูวาด”
ยังไม่วายหันมากำชับตามนิสัยเจ้าระเบียบ วาดฟ้ายิ้มกว้างพยักหน้ารับ