หลังจากกินไอศกรีมเสร็จฟาโรห์และภรรยาก็พาน้องฟีน่าไปซื้อเสื้อผ้าหลายชุดจนหญิงสาวเกรงใจมากต้องห้ามให้หยุดซื้อ
"พอแล้วค่ะท่านประธานเยอะไปแล้วค่ะแพรเกรงใจ"
"ไม่เป็นไรหนูแพรอาสองคนไม่ได้เดือดร้อนอะไร นิดหน่อยเอง"
"แต่ว่า..."
"เอารองเท้าด้วยนะคะสองคู่นั้น"
เบบี๋หันไปสั่งพนักงานให้หยิบรองเท้ามาอีก หญิงสาวถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาบางๆเมื่อลูกสาวชอบอกชอบใจใหญ่กับของมากมาย
"เรียบร้อยค่ะทั้งหมดสองหมื่นห้าพันบาทค่ะ"
"สะ...สองหมื่น!"
แพรหวานอ้าปากค้างอย่างตกใจไม่คิดว่าพวกท่านจะใจดีซื้อของให้มากมายขนาดนี้ นี่แค่เจอครั้งแรกเองนะถ้ารู้ว่าเป็นหลานไม่เปย์หมดหน้าตักเลยเหรอไง
"ขอบคุงค่าคุงปู่คุงย่า ฟีน่าช๊อบชอบค่ะ"
"ใส่ทุกวันเลยนะหนูฟีน่า แล้ววันหยุดเรานัดเจอกันดีมั้ยคะ"
"คุงปู่คุงย่าจะมาเล่งกับฟีน่าเหรอคะ"
"คุณแม่หนูอนุญาตรึเปล่าล่ะถ้าจะขอมาเลี้ยงบ้าง แพรจะได้ทำงานไม่ต้องกังวลไงทำงานแบบสบายใจ"
หญิงสาวนิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิดหรือว่าเธอจะยอมให้ท่านอยู่ใกล้ชิดฟีน่ามากขึ้นและจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดพ่อของลูกด้วย ถ้าเขาเจอลูกและได้อยู่ด้วยกันบ้างเขาอาจจะใจอ่อนกับลูกก็ได้ บอกตามตรงเธออยากให้ลูกสบายตัวเธอเองลำบากยังไงก็ได้แต่สำหรับฟีน่าเธออยากให้ลูกสบายที่สุด
"ได้สิคะวันหยุดจะพาไปอยู่ด้วยที่บ้านนะคะ"
"จริงนะ... งั้นขอเบอร์ติดต่อไว้เลยจะได้คุยกัน"
"ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะท่านประธาน คุณหญิงที่เอ็นดูน้องฟีน่า แพรกับลูกอยู่กันสองคนค่ะน้องคงเหงาพอมีคนคุยด้วยน้องดูร่าเริงมากเลยค่ะ"
แพรหวานลูบผมลูกสาวอย่างหวงแหน ท่านทั้งสองคนยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูทั้งสองคนน่ารักทั้งแม่และลูกเลยแถมยังสู้ชีวิตมาก
"เอาไว้เจอกันวันหยุดนะคะสาวน้อย ไปเล่นบ้านคุณปู่คุณย่านะมีสระว่ายน้ำด้วย"
"ว้าว อยากเลงน้ำค่าคุงแม่ชอบพาไปว่ายที่สระสนุกมากค่ะ"
"ไปเล่นที่บ้านปู่ดีกว่า ปรับน้ำอุ่นได้ด้วย"
"ว้าว ไปค่ะ"
ผู้ใหญ่สองคนหัวเราะชอบใจมากที่เด็กน้อยดูท่าทางสนใจสระว่ายน้ำ น่ารักน่าชังขนาดนี้ทำไมพ่อของเด็กถึงใจร้ายไม่รับผิดชอบได้นะ
"น่ารักขนาดนี้พ่อของลูกทำไมใจร้ายจัง เจอหน้าขอสั่งสอนหน่อยได้มั้ยเนี่ย"
"แหะๆ ช่างเค้าเถอะค่ะคนนั้น"
แพรหวานไม่อยากให้พ่อกับแม่ของพี่ฟีฟ่าด่าลูกชายเยอะเดี๋ยวจะสำนึกผิดไม่ทัน ทั้งสี่คนแยกจากกันต่างคนต่างกลับแพรหวานพาลูกสาวไปพักผ่อนเพราะออกมานานหลายชั่วโมงแล้ว เสื้อผ้าชุดใหม่เยอะมากและเป็นแบรนด์ดังทั้งนั้น
"คุณปู่คุณย่าของหนูท่านใจดีจังเลย"
"คุงปู่คุงย่าใจดีค่ะ ฟีน่ารักคุงปู่คุณย่านะ"
"แหม... อยู่เป็นนะเรา"
แพรหวานอมยิ้มยีผมลูกสาวเล่นอย่างหมั่นไส้รู้ว่าควรเข้าหาและเอาใจใครเป็นพิเศษ และตอนนี้ท่านทั้งสองคนหลงฟีน่าหนักมากเลยด้วยเธอจะให้ลูกเข้าทางคุณปู่คุณย่าดีกว่าส่วนพ่อของลูกให้โง่ต่อไปเถอะ
หลายวันผ่านไป...
ท่านประธานโทรศัพท์มาขอเอาฟีน่าไปเลี้ยงที่บ้าน ปกติเธอไม่ไว้ใจให้ใครเลี้ยงลูกแต่ท่านทั้งสองคนเป็นปู่กับย่าเธอจึงยอมให้ไปด้วยเพราะรู้ว่าพวกท่านไม่มีทางปล่อยให้เด็กน้อยเป็นอะไรไป
"งั้นแพรไปทำงานนะคะ เดี๋ยวตอนเย็นแพรมารับค่ะ"
"ขอบคุณมากนะภรรยาอาถามหาทุกวันเลย สงสัยอยากเลี้ยงหลานผู้หญิง"
"นี่ยาของน้องฟีน่าค่ะ"
"จ้ะไม่ต้องห่วงนะแม่บ้านเยอะแยะช่วยกันดูแลไม่ต้องห่วง"
แพรหวานยกมือไหว้ขอบคุณท่านที่เอ็นดูและเมตตาเด็กน้อย เธอมองฟีน่าที่ตอนนี้หิ้วกระเป๋ากอดคอคุณย่ายิ้มอารมณ์ดีไม่เกรงกลัวใครเลยก็อดยิ้มไม่ได้
"เข้ากับคนง่ายเกินไปจริงๆเด็กคนนี้"
"นั่นสิแปลกใจมากเลยนะว่าสนิทกันเร็วมากได้ยังไง งั้นหนูแพรไปทำงานเถอะเดี๋ยวอาดูแลให้เอง"
"ขอบคุณค่ะฝากน้องด้วยนะคะ"
แพรหวานยกมือไหว้บอกลาท่านอีกครั้งก่อนจะขึ้นรถขับออกไปทันที เธอต้องไปทำงานต่อส่วนท่านรองวันนี้ไม่รู้ว่าจะเข้ามารึเปล่าแต่เธอก็ต้องเตรียมเอกสารต่างๆไว้ให้พร้อม
ฟีฟ่าที่เพิ่งตื่นก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทำงานที่บริษัท เขาเดินลงมาด้วยใบหน้าง่วงซึมเดินวนเข้าไปห้องอาหารก่อนจะชะงักไปเมื่อมีเสียงเด็กเจือแจ้วพูดไม่หยุดอยู่ในห้องอาหารพร้อมกับพ่อแม่ของเขา
"คุงปู่คะฟีน่าช๊อบกิงปลาค่ะ คุงแม่บอกว่ากิงปลาฉลาดม๊าก"
"ใช่แล้วค่ะกินปลาฉลาดหนูต้องกินเยอะๆนะรู้มั้ย"
"รู้ค่ะ"
เด็กน้อยตักปลาทอดเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยหันซ้ายหันขวาเจอกับฟีฟ่าก็ยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยความคุ้นชิน
"คุงพ่อ คุงพ่อนี่นา"
ฟีฟ่าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกเด็กที่ไหนก็ไม่รู้เรียกว่าพ่อ เขาเดินไปนั่งลงตรงหน้าเด็กผู้หญิงก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"ฉันไม่ใช่พ่อเธอ"
"ไอ่ฟีฟ่าแกพูดกับเด็กให้มันน่ารักหน่อย"
"แล้วมาเรียกผมพ่อสาวๆมาได้ยินผมขึ้นคานพอดี แล้วไปเอาเด็กที่ไหนมาเลี้ยงครับพูดเยอะมากเลยน่ารำคาญหู"
เขาแอบมองเด็กน้อยอยู่เป็นพักแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพียงแต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกันยังไงอย่างงั้น
"ลูกของหนูแพรเลขาของแกไง"
"อะไรนะ! นี่พ่อเอาลูกชะ... ผมหมายถึงเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงทำไม เอาไปคืนเลยครับลูกใครก็ให้เลี้ยงกันเอาเอง"
เขาทำหน้าบึ้งบูดไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากที่พ่อกับแม่เอาลูกชู้เข้ามาเลี้ยงถึงในบ้าน ฟีน่ายื่นไส้กรอกไปให้ชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
"คุงพ่อกิงไส้กรอกมั้ยคะ"
"ไม่กินแล้วฉันก็ไม่ใช่พ่อเธอห้ามมาเรียก"
"คุงพ่อใจร้าย"
ฟีน่ามองเขาน้ำตาคลอเอาไส้กรอกวางลงในจานก่อนจะสวมกอดคุณย่าของเธอด้วยความรู้สึกเสียใจที่ถูกเขาดุ
"คุงย่าคุงพ่อใจร้าย"
"แกนี่มันจริงเลยกับเด็กก็ไม่เว้นนิสัยไม่น่ารักถ้าหนูฟีน่าเกลียดแกขึ้นมาจะทำยังไง"
"ช่างดิลูกผมก็ไม่ใช่จะเกลียดก็เกลียดไปดิไม่แคร์หรอก นี่ยัยเด็กขี้เหร่กลับไปหาแม่เธอเลยไม่ต้องมาที่นี่อีก ห้ามเรียกฉันว่าพ่อด้วย"
เขาขู่เด็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เขาผิดเหรอที่เกลียดแม่ของเด็กแล้วจะเกลียดลูกเธอด้วย ยิ่งเป็นลูกของคนอื่นเขาไม่อยากจะเห็นหน้าด้วยซ้ำ
"ไอ้นี่มันจริงๆเลย เฮ้อ!"
ฟาโรห์ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจก่อนจะหันไปโอ๋เด็กน้อยให้อารมณ์ดีขึ้นจะได้กินข้าวต่อ ฟีน่ามองตามชายหนุ่มไปก่อนจะปาดน้ำตาด้วยความน่าสงสาร พอเธอรู้เรื่องรู้ราวบ้างคนเป็นแม่ก็เอารูปของฟีฟ่าให้ดูตลอดและเธอจำได้ว่าเขาคือคุณพ่อของเธอ
"คุงพ่อใจร้ายค่ะ"
"ช่างเถอะลูกไม่เอาไม่ร้องกินข้าวดีกว่าค่ะ"