ลูกสาวคนเล็ก

1751 คำ
ในตอนเย็นที่บ้านของสรวิช ลูกสาวคนโตกำลังทำให้เขาคิดหนัก เมื่อเดียร์น่าแผลงฤทธิ์ ไม่ยอมทำตามในสิ่งที่บิดามารดาปรารถนา เพราะหล่อนมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แม้จะเพิ่งคบกันได้ไม่นาน แต่อิริคก็เป็นทั้งแฟนและนักธุรกิจหนุ่ม ที่สนใจในแบรนด์ชาของโรงงาน ซึ่งกำลังผลิตออกมาให้ดูมีกลิ่นที่หลากหลาย แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพของชา เพื่อตระหนักถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับสูงสุด ซึ่งแม้แต่สรวิชเองก็หวังอยากจะตีตลาดต่างประเทศ มันจึงเป็นโอกาสที่เดียร์น่าจะสานฝันให้กับธุรกิจของครอบครัวได้สำเร็จ เพราะมีอีริคอยู่เบื้องหลัง เขาเป็นนักธุรกิจที่กล้าลงทุน บวกกับที่ชายหนุ่มนั้นประทับใจในตัวของเดียร์น่าด้วย จึงทำให้การง่ายต่อการเจรจาและตกลงทำสัญญาลงทุนร่วมกัน “พ่อคิดว่าคุณดินคือผู้ชายคนหนึ่งที่ดีพอ เขาสามารถทำให้ลูกของพ่อมีความสุขได้อย่างแน่นอน บางครั้งความรักก็อาจจะไม่ใช่สิ่งตายตัว ที่กำหนดให้คนเราใช้ชีวิตร่วมกัน มันต้องอาศัยองค์ประกอบหลายๆ อย่างมารวมกัน แค่รักคำสั้นๆ มันคงไม่พอ” สรวิชกำลังฝืนใจ ใช้เหตุผลที่ไม่มีหลักการเอาเสียเลย เพราะชีวิตคู่หากปราศจากความรักแล้วไซร้ จะมีความหมายอะไร ถ้าหากคนเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไร้ใจ ไปตลอดชีวิต “เหมือนพ่อใช่ไหมคะ พ่อไม่เคยรักแม่เลย” เดียร์น่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงระคนน้อยใจ เมื่อหญิงสาวกำลังจะถูกคลุมถุงชน จึงเอ่ยถามบิดาออกไปแบบนั้น “ใครบอก แม่อาจจะไม่ใช่รักแรก แต่แม่ของลูกคือรักสุดท้ายของพ่อ คุณดินก็เช่นกัน พอลูกใช้ชีวิตร่วมกันไป เดียร์ก็อาจจะรักเขาจนหมดหัวใจเลยก็ได้” สรวิชยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะให้ลูกสาวคนโตได้แต่งงานกับปฐพี เพราะเขาเองก็ไม่อยากให้เดียร์หน้าได้สมหวังกับอิริค เนื่องจากเขาไม่ปรารถนาที่จะให้ลูกสาวไปอยู่ไกลหูไกลตา แม้ว่าชาของเขาอาจจะไม่ได้ส่งออกนอก แค่ผลิตขายในประเทศก็แทบจะรับเออเดอร์ไม่ทันอยู่แล้ว บางเดือนเขาต้องไปซื้อใบชาจากไร่จิรายุมาเพิ่มด้วยซ้ำ “แต่เดียร์ไม่ได้รักคุณดินนี่ค่ะพ่อ ทำไมไม่ให้จีน่าแต่ง ในเมื่อน้องก็ยังไม่มีแฟน” หญิงสาวเริ่มคิดหาทางออก เพราะยังไงคำตอบของเธอก็ยังยืนยันคำเดิม เดียร์น่าจะไม่มีวันแต่งงานกับปฐพีอย่างแน่นอน “น้องยังเด็กอยู่เลย” “เด็กที่ไหน ยัยจีเรียนจบปริญญาตรีแล้วนะคะพ่อ” เดียร์น่าพูดขึ้นเสียงแหลม เมื่อบิดาหยิบยกเอาเหตุผลมาพูดที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด “คุณหมอกับภรรยา อยากได้ลูกไปเป็นสะใภ้ ไม่ใช่จีน่า เข้าใจหรือยัง” ในที่สุดสรวิชก็พูดถึงความประสงค์ที่นายแพทย์จิรายุและฝนสุดาภรรยาของเขาต้องการ นั่นคงเป็นเพราะว่าจีน่าชอบทำตัวแก่นแก้ว เลยทำให้ไม่ถูกเลือก ผิดกับเดียร์น่าที่ดูอ่อนหวาน แต่ก็เอาแต่ใจตัวเช่นกัน ขณะที่สองพ่อลูกกำลังพูดถกเถียงกันไปมา ต่างคนต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง สองแม่ลูกที่อยู่บนบ้านก็เช่นกัน เมื่อค่าร่ากำลังแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับลูกสาวคนเล็ก “ทำไมต้องเป็นจีด้วยค่ะ แม่ก็รู้ว่าจีไม่ชอบงานเลี้ยง” หญิงสาวกำลังทำหน้าหงิกงอ เมื่อมารดาจับแต่งชุดเดรสสั้นรัดรูปสีเงินดูหรูหราเลอค่ามาก แฝงความเซ็กซี่เอาไว้ในตัวอย่างมีเสน่ห์จนน่าหลงใหล เปลือยแผ่นหลังขาวนวลเนียนจนน่ามองอย่างไม่อยากกะพริบตา ผมของเธอเกล้าขึ้นไว้หลวมๆ ด้วยการมวยซ้อนชั้นแซมด้วยกิ๊บคลิสตัล ยิ่งดูสวยเก๋ไปอีกเข้ากับโครงหน้ารูปไข่ที่มองยังไงก็ตราตรึงใจ ซึ่งฝีมีของคาร่ามารดาของเธอไม่เป็นรองใคร ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าทำผม หรือแม้แต่การเลือกชุด “อย่าบ่น ถ้าบ้านเราไม่มีใครไปงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายของพ่อเลี้ยง ภูผา ที่จบโทมาจากเมืองนอกเมืองนา มันจะเป็นการเสียมารยาทมากเลยนะ เขาอุตส่าห์มีการ์ดเชิญให้ไปร่วมงาน อีกอย่างพ่อเลี้ยงภูผาก็มาเชิญด้วยตัวเองอีกด้วย” คาร่าพูดพร้อมกับกวาดสายตามองลูกสาวคนเล็กตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความชื่นชมและภาคภูมิใจ เพราะนอกจากฝีมือของเธอจะยังดูดี ความสวยของจีน่าเองก็ไม่เป็นรองใครรับรองว่าคนในงานต้องตกตะลึง เนื่องจากจีน่าไม่เคยแต่งตัวในลุคแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต “แล้วนั่นอะไรอยู่ในกล่องค่ะแม่” หญิงสาวเอ่ยถามออกมาด้วยแววตาที่ดูใสซื่อ เมื่อกล่องสีแดงนั้นประดับด้วยริบบิ้นผูกโบสีทองดูสวยสะดุดตา แต่จีน่าจะรู้หรือเปล่าว่าพ่อเลี้ยงภูผาได้มาทาบทามเธอกับบิดามารดา ให้กับลูกชายคนเดียวของเขา นั่นคือขุนพลเพื่อนสนิทของปฐพี แต่สรวิชและคาร่ายังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะแค่เรื่องของเดียร์น่าก็เป็นทุกข์ใจมากพออยู่แล้ว ถ้าหากจีน่ากับขุนพลจะต้องแต่งงานกัน สองสามีภรรยาก็ปรารถนาอยากให้จีน่ารักชายหนุ่มด้วยหัวใจ ไม่ใช่การถูกคลุมถุงชนเหมือนกันลูกสาวคนโต และนั่นคือเหตุผลที่หญิงสาวต้องไปงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ พร้อมกับของขวัญที่ขุนพลต้องถูกใจอย่างแน่นอน “ของขวัญข้างในรับรองว่าขุนพลต้องถูกใจ เพราะลูกสาวของแม่เป็นคนถือไปให้มือ” คำพูดของมารดา ทำให้จีน่าเลิกคิ้วก่อนจะขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ทำไมขุนพลต้องถูกใจ ในเมื่อของข้างในเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร “ไม่ต้องทำหน้ามุ่ยแบบนั้น แม่แต่งให้ออกจะสวย ไปได้แล้วเดี๋ยวพ่อจะไปส่ง” “อ้าว! พ่อไม่ได้ไปด้วยเหรอคะ” “พ่อกำลังเครียดเรื่องงานแต่งของพี่สาวเราไม่เห็นรึไง สองคนยังตกลงกันไม่ได้เลย งานก็จะเริ่มในอีกไม่กี่วันนี่เอง ไปได้แล้ว ขากลับเดี๋ยวพ่อเลี้ยงภูผาจะให้คนขับรถมาส่งนะ” “จีเอารถไปเองก็ได้ค่ะแม่ ขากลับจะได้ไม่ต้องรบกวนคนของพ่อเลี้ยง” จีน่ายังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจไปงานเลี้ยงสักเท่าไหร่ “ขับรถคนเดียวดึกๆ มันอันตราย ให้คนของพ่อเลี้ยงมาส่งน่ะดีแล้ว” คาร่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมกับส่งรอยยิ้มอ่อนให้กับลูกสาว เพื่อให้จีน่ายอมจำนนทำตามในสิ่งที่มารดาต้องการอย่างว่าง่าย “ก็ได้ค่ะ เห็นแก่พ่อกับแม่หรอกนะ ไม่อย่างนั้นจีไม่มีทางไปงานนี้อย่างแน่นอน” จีน่าเองก็พอจะทราบในความพยายามของขุนพล เพราะก่อนไปเรียนต่อเขาเคยตามจีบเธอมาก่อน แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธออกไปอย่างไม่รักษาน้ำใจ เมื่อจีน่านั้นมีใครบางคนอยู่เต็มหัวใจ ถึงแม้ว่าเขาคนนั้นของเธอจะไม่เคย แม้แต่จะชายตาแล แต่การเก็บความรู้สึกในส่วนลึกของก้นบึ้งหัวใจ เอาไว้แบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ทีแรกหญิงสาวคิดว่าแค่แอบปลื้มเขา แต่นับพันความรู้สึกที่มียิ่งก่อเกิดเป็นสายใย ทำให้หญิงสาวผูกพันรักเขาข้างเดียวมากขึ้นในทุกๆ วัน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าชายหนุ่มไม่มีทางที่จะหันมามองผู้หญิงอย่างเธอ “สวยจังพี่จำแทบไม่ได้ เสียดายพรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า ไม่อย่างนั้นจะแต่งสวยไปแข่งน้องสาวให้คนทั้งงานตกตะลึง ในความงามของลูกสาวทั้งสองของพ่อสรวิชกับแม่คาร่าสักหน่อย” เดียร์น่าเอ่ยชมน้องสาวออกมาจากใจจริง ซึ่งถ้อยคำที่เธอเรียบเรียงออกมาสักครู่ช่างน่าฟัง จนทำให้ผู้เป็นบิดาอย่างสรวิชฉีกยิ้มกว้างออกมาได้อย่างไม่ยาก “พร้อมหรือยัง” เสียงทุ้มของบิดาเอ่ยถามขึ้น “พร้อมแล้ว ไปกันเลยค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวานอย่างนุ่มนวลน่าฟัง เมื่อเธอนั้นไม่อยากให้บิดามารดาเครียดมากไปกว่านี้ เมื่อสองพ่อลูกนั่งรถออกไปจากบ้าน คาร่าได้นั่งลงที่โซฟากว้างฝั่งตรงข้ามเดียร์น่า นางทอดถอนใจออกมาเสียงดัง ก่อนจะมองไปยังใบหน้าของลูกสาวคนโต “ช่วงนี้สุขภาพของพ่อไม่ค่อยดี ลูกอย่าพูดเรื่องให้พ่อเครียดหรือไม่สบายใจเลยนะ” “บางทีเดียร์ก็คิดว่า พ่อกับแม่ไม่ควรทำตามสิ่งที่ลุงหมอกับป้าฝนขอก็ได้ เดียร์ไม่อยากแต่งงานกับคุณดิน ซึ่งเขาเองก็คงไม่อยากแต่งงานกับเดียร์เช่นกัน” เมื่อหญิงสาวจะถูกตามใจมาตั้งแต่เล็กจนโต จึงทำให้เธอคิดหาทางปฏิเสธที่จะไม่แต่งงานกับปฐพี เหตุผลหลักก็คือเธอนั้นมีคนรักอยู่แล้ว “พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหม เจ้าของไร่วายุมีบุญคุณกับครอบครัวของพ่อมาก การแต่งงานระหว่างลูกกับคุณดิน พ่อกับแม่เองก็ลำบากใจ แต่ในเมื่อทุกอย่างถูกกำหนดเอาไว้แล้ว จะให้พ่อกับแม่ปฏิเสธยังไง” Rrrr!! เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของเดียร์น่าดังขึ้น ทำให้แววตาของหญิงสาวดูตื่นเต้นดีใจไม่น้อย เมื่อสายที่โทรเข้ามานั้นคืออิริค แฟนหนุ่มของเธอ “เดียร์ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะแม่” พูดจบหญิงสาวก็รีบเดินออกไปจากบ้านทันที เพื่อหามุมที่สะดวกคุยกับแฟนหนุ่ม ซึ่งบรรยากาศในสวนกำลังเป็นใจ เมื่อได้คุยกับคนที่หัวใจปรารถนา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม