บุรุษรูปงาม

1551 คำ
“งานในวันนี้พกอาวุธติดกายไปได้หรือไม่เจ้าคะ” อดีตนายทหารหญิงที่คุ้นชินกับการพกพาอาวุธในยามที่อยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ ตัดสินใจซักถามในเรื่องที่นางเป็นกังวลมากที่สุด “ไม่ได้ เพราะจะมีผู้ตรวจค้นอาวุธก่อนเข้าร่วมงานเลี้ยงในท้องพระโรง ฮูหยินต่อสู้เป็นเช่นนั้นหรือจึงกล่าวถามถึงอาวุธติดกาย” เว่ยหวังจิ้งนึกแปลกใจไม่น้อย ที่สตรีท่าทางบอบบางมีวิชาต่อสู้ถึงขั้นอยากพกพาอาวุธติดกาย “ก็นิดหน่อยเจ้าค่ะ เห็นท่านกล่าวว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ข้าเลยอยากพกพาอาวุธไปด้วยเอาไว้ป้องกันตนเองก็เท่านั้น มิได้มีเจตนาไม่ดีต่อผู้อื่น” เหลียนเฟยเจินตอบความจริงแค่บางส่วน หากบอกไปว่านางต่อสู้ได้เยี่ยงบุรุษคงจะดูแปลกพิกล เพราะสตรีในแคว้นหลงไม่ค่อยมีผู้ใดร่ำเรียนวิชาการต่อสู้ จะมีเพียงบุรุษที่ทำงานเกี่ยวกับการรักษาและคุ้มภัยเท่านั้นที่ร่ำเรียนวิชาการต่อสู้ “หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นข้าจะปกป้องเจ้าเอง มิได้ปล่อยให้ต้องเผชิญอันตรายเพียงลำพังหรอก รองแม่ทัพมู่ฉินซีผู้ที่ทำหน้าที่อารักขาฮ่องเต้ในวันนี้เป็นสหายสนิทของข้า หากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆคงจะพอขอเบิกอาวุธจากเขาได้” เว่ยหวังจิ้งเอ่ยคำมั่นออกไป เขาพานางไปร่วมงานเลี้ยงย่อมต้องปกป้องไม่ให้นางได้รับอันตรายใดๆตามที่สมควรกระทำ “เป็นเช่นนั้นก็ดีเจ้าค่ะ” ถึงจะตอบรับอย่างว่าง่าย แต่เฟยเจินก็คิดอยู่ในใจว่านางต้องเฝ้ามองรองแม่ทัพมู่ฉินซีผู้นั้นให้ดี เผื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจะได้รีบไปขออาวุธจากเขาได้ทันเวลา แล้วจะมีผู้ใดแนะนำให้นางรู้จักกับรองแม่ทัพมู่หรือไม่เล่า ภายใต้ใบหน้างดงามที่วางตัวสงบราบเรียบ กลับเต็มไปด้วยความนึกคิดถึงทางหนีทีไล่ของตนเอง นางพึ่งตายมาครั้งหนึ่งอย่างไรเสียก็จะไม่ยอมตายง่ายๆอีกครั้งเป็นแน่ เมื่อยามบ่ายมาเยือน ร่างอรชรก็ก้าวเดินออกจากเรือนนอน เหลียนเฟยเจินสวมใส่อาภรณ์สีชมพูกลีบบัว ขับผิวพรรณที่ขาวนวลเนียนให้โดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น ทั้งยังแต่งแต้มเครื่องประทินโฉมบางเบาในแบบที่นางถนัดลงบนใบหน้าที่งดงามเป็นทุนเดิม และสวมใส่เครื่องประดับจนสมเกียรติของฮูหยินเอกเสนาบดีกรมคลัง สองขาเรียวเดินย่างกรายแผ่วเบางดงามตามกิริยามารยาทที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เฟยเจินเดินตรงไปยังห้องโถงของจวนที่สามีให้คนมาแจ้งว่าเขารอคอยนางอยู่ที่นั่น “มาก็ดีแล้วเราจะได้ออกเดิน…..” เสนาบดีหนุ่มเอ่ยค้างคำกล่าวไว้เพียงเท่านั้น เมื่อพบเห็นโฉมสะคราญที่แต่เดิมก็งดงามจนเขาเสียอาการอยู่บ่อยครั้ง ทว่ายามนี้นางกลับงดงามมากกว่าเดิมอีกเท่าตัว จนรู้สึกได้ถึงความวุ่นวายที่จะมาถึงตัวเมื่อพานางไปร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ “ข้ามาตรงเวลาที่นัดหมายไม่ขาดไม่เกินไปสักเพลาเดียว” หมอทหารหญิงที่นับเรื่องการตรงเวลาเป็นหนึ่ง เอ่ยออกไปเมื่อได้ยินคำกล่าวที่กำลังจะเหน็บแนมนาง แต่เขาก็หยุดค้างไว้เสียก่อน คงเพราะรู้ตัวว่าตนเองกำลังจะพ่นวาจาร้ายกาจออกมาอย่างที่เคยกระทำ “อะ…อืม ข้าก็ไม่ได้ว่ากระไร พวกเรารีบเดินทางกันเถิดประเดี๋ยวจะเข้างานล่าช้า” รถม้าคันใหญ่จากจวนเสนาบดีเว่ยหวังจิ้งมาจอดอยู่หน้าประตูทางเข้าวังหลวง จากจุดนี้ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกสักพักจึงจะถึงพระราชวัง เสนาบดีหนุ่มรีบลงจากรถม้าเพื่อมารอรับฮูหยินให้ทันท่วงที ก่อนที่นางจะกระโดดลงมาเองเฉกเช่นเมื่อครั้งวันแต่งงานที่เขายังจดจำได้ไม่ลืมเลือน “ครั้งนี้เจ้าต้องยินยอมให้ข้าช่วยเหลือ ห้ามกระโดดลงมาเองอย่างเด็ดขาด จะกระทำสิ่งใดต้องเห็นแก่เกียรติของฮูหยินเสนาบดีกรมคลัง” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยสั่งการให้คนในรถม้าได้ยิน “เจ้าค่ะๆ สั่งมากจริง” เฟยเจินรับคำแต่ก็มิวายเอ่ยค่อนขอดเล็กน้อย เหตุเกิดจากการหมั่นไส้เล็กๆเมื่อสามีเอาแต่จ้องมองนางไม่พูดไม่จา ทั้งยังทำหน้าตาบึ้งตึงตั้งแต่อยู่ในรถม้าแล้ว ยิ่งมองใบหน้าบึ้งตึงนั้นนางยิ่งเหม็นเบื่อและขัดลูกตายิ่งนัก ‘จะมีวันไหนที่ท่านไม่ขี้เหร่บ้าง’ เสียงรำพึงรำพันในใจของคนที่ชื่นชอบบุรุษยิ้มง่ายแต่มักได้พบเจอแต่บุรุษหน้าตึง แต่ละวันที่พบเจอหัวคิ้วของเขาแทบจะชนกันจนขมวดขึ้นเป็นปม แค่คิดเฟยเจินก็ห่อเหี่ยวในหัวใจ เมื่อคร้านจะโต้เถียงเอ่ยการให้มากความ มือเรียวงามขาวผ่องจึงวางลงบนมือใหญ่ที่เอื้อมมารอคอยนางอย่างจำยอม ก่อนที่วงแขนแข็งแรงจะโอบรัดร่างบางขึ้นอุ้มแนบอกหนั่นแน่น ก่อนที่จะพานางก้าวลงจากรถม้าอย่างปลอดภัย “อ๊ะ!! แค่พยุงข้าก้าวลงจากรถม้าก็เพียงพอแล้ว ท่านอุ้มข้าทำไมดูสิผู้อื่นมองมาทางนี้กันทั้งนั้น” เฟยเจินกระซิบถามข้างหูสามีเสียงเบา แต่ก็ระมัดระวังไม่ให้ใบหน้างามแสดงอาการโมโหให้ผู้อื่นรับรู้ เพราะบริเวณนี้มีเหล่าบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ที่ทะยอยเดินลงจากรถม้า เพื่อเดินเท้าเข้าไปร่วมงานเลี้ยงในเขตพระราชวัง “เจ้าจะได้ลงจากรถม้าอย่างรวดเร็วอย่างไรเล่า ชักช้าประเดี๋ยวเดินเข้างานช้ากว่าผู้อื่นจะถูกจ้องมองเอาได้ หรือเจ้าชื่นชอบให้ผู้คนจ้องมองกระนั้นหรือ” เว่ยหวังจิ้งก็กระซิบตอบด้วยใบหน้าผ่อนคลายเช่นกัน จมูกคมเผลอสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากกายสาวที่เขาเคยได้กลิ่นมาแล้วครั้งหนึ่งในวันแต่งงาน ภาพบุรุษหนุ่มรูปงามโอบอุ้มโฉมงามล่มแคว้นลงจากรถม้า เป็นการยืนยันในความรักของสามีภรรยาที่พึ่งเข้าพิธีแต่งงานไปเมื่อวานนี้ ให้บรรดาขุนนางที่มาร่วมงานพร้อมครอบครัวได้มองเห็น สยบข่าวลือที่มีผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวลือไปทั่วเมืองหลวง ว่าเสนาบดีกรมคลังไม่ได้รักใคร่ฮูหยินเอกเลยสักนิด แต่ที่ยินยอมแต่งงานเนื่องจากบิดามารดาเห็นสมควรก็เท่านั้น สายตาหลายคู่ที่จ้องมองมาต่างตกตะลึงในใบหน้าที่งดงามล่มเมือง ของสตรีที่อยู่ในอ้อมกอดของเสนาบดีกรมคลังคนใหม่ของแคว้นหลง สตรีผู้นี้คงจะเป็นฮูหยินน้อยของจวนตระกูลเว่ยเป็นแน่ สายตาคู่คมคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถม้า ก็กำลังจ้องมองมาที่คนทั้งสองเช่นกัน เขาตั้งใจออกมารอรับสหายกับฮูหยินรับจ้างของสหายที่เขายังไม่เคยพบหน้านางเลยสักครั้ง แต่ก็รับรู้เรื่องราวทุกอย่างถึงสาเหตุที่ทั้งสองคนต้องแต่งงานกัน ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของนางเขาถึงกับยืนนิ่งค้างไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อตั้งสติได้จึงก้าวเดินเข้าไปหาทั้งสองคนอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก “เว่ยหวังจิ้ง” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายสหายเพียงสั้นๆ ร่างสูงใหญ่แต่งกายเต็มยศรองแม่ทัพของแคว้นหลง ทั้งยังมีอาวุธครบครันเพราะรับหน้าที่เป็นผู้อารักขาฮ่องเต้และบรรดาเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ ร่วมกับท่านแม่ทัพใหญ่ มู่เฉินเทียน บิดาของเขานั่นเอง “รองแม่ทัพมู่ฉินซีเจ้ามารอข้าหรืออย่างไร อ้อ สตรีผู้นี้คือเหลียนเฟยเจินฮูหยินของข้า ฮูหยินบุรุษผู้นี้คือรองแม่ทัพมู่ฉินซีสหายสนิทของข้า” เสนาบดีเว่ยหวังจิ้ง รีบเอ่ยแนะนำสหายสนิทให้ฮูหยินรู้จัก เมื่อเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของบุรุษที่ไม่เคยสนใจสตรีใดมาก่อน ความรู้สึกหงุดหงิดเข้าจู่โจมเขาทันที เมื่อเห็นสายตาอ่อนโยนของสหายที่ลอบมองเหลียนเฟยเจิน ทั้งๆที่ในยามปกติมู่ฉินซีมักจะแสดงสีหน้าเรียบเฉยและส่งสายตาแววตาดุดันใส่สตรีทุกนาง ไม่เว้นแม้กระทั่งองค์หญิงรอง สตรีที่เฉียนหลงฮ่องเต้ กำลังจะมอบสมรสพระราชทานให้กับรองแม่ทัพมู่ฉินซี “คารวะรองแม่ทัพมู่เจ้าค่ะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยออกไปอย่างมีมารยาท นางก้มหน้าแต่พองามเพราะเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว จึงไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่หากจะยิ้มแย้มทักทายและจ้องมองบุรุษอื่นที่ไม่ใช่สามี “ฮูหยินน้อยอย่ามากพิธีเลย” รองแม่ทัพมู่ฉินซียิ้มกว้างแบบที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยเห็นมาก่อน เพื่อตอบรับการทักทายจากสตรีที่เขาถูกชะตาตั้งแต่แรกพบ จนเหลียนเฟยเจินต้องรีบหลบสายตา เพราะบุรุษผู้นี้ทั้งรูปงามและยิ้มเก่งเป็นบุรุษรูปงามในคำนิยามของนางโดยแท้จริง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม