“ระริน นี่ยังไม่หยุดร้องไห้อีกเหรอ” ครามออกมาจากห้องฉุกเฉิน ก็เห็นระรินสะอึกสะอื้นร่างกายไหวสะท้าน หลังจากเธอช่วยเขาห้ามเลือด ก็ต้องมาโรงพยาบาลเพื่อทำแผล ตอนที่ใช้มือค้ำยันสแตนด์เชียร์นั้น ได้ไปโดนบริเวณที่ชำรุดเข้า จึงเป็นแผลลึก ต้องเย็บแผลและฉีดยากันบาดทะยัก
“พวกกูปลอบจนไม่รู้จะปลอบยังไงแล้วเนี่ย” กริช กิตติกวิน นันทปภากร เพื่อนสนิทอีกคนของครามและเป็นเจ้าของเสียงที่ตะโกนให้ระวัง ว่าอย่างจนปัญญาที่จะทำให้เพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวของกลุ่มหยุดร้องไห้ไม่ได้
“ครามไม่เป็นอะไรแล้ว เย็บแค่ห้าเข็มเอง” ร่างสูงย่อตัวลงตรงหน้าระริน ยกมือข้างที่มีผ้าก๊อซพันไว้ให้เธอดู
“ตั้งห้าเข็มต่างหาก” เสียงหวานเจือสะอื้น น้ำตาเริ่มหยุดไหลตั้งแต่เห็นครามเดินออกมา โดยที่เขาไม่ต้องนอนโรงพยาบาลด้วยภาวะเลือดออกไม่หยุด
“กินไอติมไหม ครามเลี้ยงเอง”
“กิน” ระรินพยักหน้าหงึก ๆ ราวกับเด็กน้อยได้ของถูกใจ จมูกแดง ๆ ของเธอ ยิ่งทำให้ดูน่ารักขึ้นไปอีก เขากับเธอเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ทำไมจะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้เธอหยุดร้องไห้ ส่วนเชนกับกริช เพิ่งมาสนิทกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย
“อะไรวะ แค่ไอ้ครามเอาไอติมมาล่อหยุดร้องเลย” กริชงุนงง ตัวเองชักแม่น้ำทั้งห้ามาปลอบโยน ระรินก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้องไห้ ครามพูดคำเดียวทุกอย่างจบ
“ตอนมึงถูกรถชน ระรินก็ร้องไห้แบบนี้ ไอ้ครามเอาไอติมมาล่อ เงียบกริบ” เชนว่า กริชเคยประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อตอนเรียนปีสอง พอระรินรู้ก็ร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง และครามก็ต้องเอาไอศกรีมของโปรดเธอมาหลอกล่อ
“อ้าวเหรอวะ” กริชไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
“เพราะกริชปลอดภัยแล้วต่างหาก ระรินถึงหยุดร้องไห้”
“งั้นแสดงว่าที่ระรินหยุดร้องไห้ เพราะครามปลอดภัยแล้ว ถ้างั้นก็ไม่ต้องกินไอติมแล้วสินะ” ครามบอกอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่ได้นะ ครามบอกจะเลี้ยงแล้ว ก็ต้องเลี้ยงสิ”
“พาเด็กหญิงระรินไปกินไอติมเหอะ เดี๋ยวร้องไห้ขี้มูกโป่งขึ้นมาอีก” เชนแกล้งหยอกเย้า
“ระรินไม่ใช่เด็กนะเชน ระรินก็แค่ชอบกินไอติม กินของหวานเย็น ๆ ทำให้อารมณ์ดี ไม่รู้หรือไง”
“ข้ออ้างของคนจะกิน ระวังจะอ้วนกลายเป็นหมูระริน หมูระริน ๆ” เชนทำหน้าล้อเลียนใส่ ยิ่งเห็นระรินแสนงอน ก็ยิ่งแกล้ง
“เชนว่าระรินเป็นหมูเหรอ” ระรินง้างกำปั้น หมายจะทุบเชน แต่เขาก็หลบหลังกริชเสียก่อน
“ไม่เอาน่า ระรินไม่ใช่หมูซะหน่อย ไปกินไอติมกันดีกว่า” ครามกอดคอรั้งระรินไว้ ไม่ให้วิ่งไล่ตีเชน
“เชนเลี้ยงไอติมระรินเลยนะ” ระรินชี้หน้าคาดโทษ ยังเคืองที่เพื่อนว่าเป็นหมู
“ไอ้ครามก็เลี้ยงแล้วไง”
“แต่ระรินจะให้เชนเลี้ยง อยากมาว่าระรินเป็นหมู”
“ครามเลี้ยงเอง ไปเถอะ มึงสองคนจะไปก็เร็ว ๆ เลย” ครามกอดคอระรินเดินนำออกไปก่อน
“รอด้วย” เชนวิ่งเข้าไปกอดคอคราม และกริชก็กอดคอเชนอีกที พากันไปยังห้างสรรพสินค้า
“ครามห้ามกินเยอะ” ระรินเลือนถ้วยไอศกรีมเข้าหาตัวอย่างหวงแหน เมื่อครามยื่นช้อนของตัวเองมาที่ถ้วยไอศกรีมของเธอ
“กลัวครามแย่งกิน แล้วจะไม่อิ่ม ?”
“ไม่ใช่ซะหน่อย กินของหวานมาก ๆ ระรินกลัวครามฟันผุต่างหาก เพราะถ้าครามฟันผุก็ต้องถอนฟัน เลือดก็จะออก ซึ่งไม่เป็นผลดีกับคราม” ระรินให้เหตุผล
“อ๋อ เป็นห่วงครามนี่เอง”
“มึงก็รู้ว่าระรินขี้งก ก็ไม่สั่งมาอีกถ้วยเนอะ” กริชว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระรินกับครามแย่งไอศกรีมกันกิน
“ระรินไม่ได้ขี้งกนะ กริชอย่ามาว่า”
“จ้า ระรินไม่ขี้งกเลย ระรินแค่เป็นห่วงสุขภาพไอ้คราม กลัวไอ้ครามจะเลือดออกหมดตัวตาย” กริชว่าประชดประชันระคนเอ็นดูผู้หญิงหนึ่งเดียวของกลุ่ม ที่พวกเขาทั้งสามคนคอยพะเน้าพะนอ เพราะเดี๋ยวจะไม่มีใครติวหนังสือให้
“นั่นแหละ เหตุผลที่ถูกต้อง” แม้จะรู้ว่ากริชประชดประชัน แต่ระรินก็พอใจ
“สอบเสร็จไปเที่ยวทะเลกันไหม เป็นการผ่อนคลายสมองหลังสอบไง” เชนเสนอทริปเที่ยวหลังสอบเสร็จ
“ระรินอยากไปไหม ไปบ้านพักตากอากาศของครามที่ปราณก็ได้ ระรินชอบที่นั่นไม่ใช่เหรอ” ครามถามความเห็นคนที่ทำหน้าครุ่นคิด ระรินเคยไปบ้านพักตากอาการของเขาที่ปราณบุรีแทบทุกปี ไปกับกลุ่มเพื่อนบ้าง หรือไปกับครอบครัวของเขาบ้าง ด้วยความที่รู้จักกันมานาน ระรินจึงสนิทสนมกับครอบครัวของเขา และเป็นที่เอ็นดูของทุกคน
“เออ...ไปก็ไป” ระรินมีสีหน้าคิดหนัก ก่อนจะตอบออกมา
“ต้องอย่างนี้สิ” คราม เชน และกริช ดีใจราวกับสอบได้เอทุกวิชา