ท่ามกลางคลับหรู Blackwell Club เหล่านักท่องราตรีโยกย้ายส่ายเอวสะบัดพลิ้วไหวตามเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจ ที่เปิดและมิกซ์โดยดีเจมืออาชีพ ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นมีหญิงสาวรูปร่างงดงาม โดดเด่นด้วยชุดเดรสรัดรูปสีดำ ที่รัดรูปจนทำให้เห็นทรวดทรงองค์เอวชัดเจน หน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักบราเซียร์ออกมาเกือบครึ่งเต้า ช่วงขาเพรียวระหง แม้จะใส่รองเท้าสูงหลายนิ้ว แต่ร่างกายของเธอก็ส่ายเต้นพลิ้วไหวกับเสียงดนตรีตามจังหวะได้อย่างงดงาม เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้คนยิ่งนัก
เรือนร่างบอบบางงดงามดิ้นส่ายเอวบิดพลิ้วไปตามจังหวะดนตรีทำให้เธอดูทรงเสน่ห์เย้ายวนจนหมู่ภมรที่วนเวียนเต้นอยู่รอบข้างเธอนั้นแทบกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เพราะคิดไม่ซื่อกับร่างกายที่แสนเร้าใจเหลือเกินในความคิดพวกเขา แต่ไม่ใช่กับ คราม เธลิส อิทธิวิวัฒนกุล เจ้าของคลับแห่งนี้ ชายหนุ่มมากความสามารถ ซึ่งเป็นคู่หมั้นของเธอ ต่อให้เธอเปลื้องผ้าต่อหน้าเขาจนเนื้อตัวเปลือยเปล่า เขาก็ไม่มีทางรู้สึกอะไรกับเธอ
กว่าห้าปีที่เขากับเธอหมั้นหมายกัน ตามความต้องการของผู้ใหญ่ และด้วยเหตุผลทางธุรกิจ
เสียงรองเท้าส้นสูงกระแทกลงพื้นตามอารมณ์คุกรุ่น เข้ามายังห้องทำงานชั้นสองของคลับ ครามรู้ได้ในทันทีว่าเป็นใคร
“ออกไป ออกไปให้หมด !!” พลอย พิมมาดา เดชพิพัฒนพงศ์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแผดเสียงแหลมพาลใส่บอดีการ์ดของคราม
“ออกไปก่อน” บอดีการ์ดสองนายค้อมศีรษะให้คนเป็นนายที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะออกไปตามคำสั่ง
“นี่ครามไม่คิดจะหึงหวงพลอยบ้างหรือไง” และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลอยวีนเหวี่ยงใส่คนเป็นคู่หมั้น เธอเกลียดสายตาว่างเปล่าของเขายามมองมาที่เธอ ผู้ชายนับสิบนับร้อยหลงใหลในตัวเธอ แต่กลับไม่ใช่คราม มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ที่เธอกับเขาหมั้นหมายกัน
“ทำไมฉันต้องรู้สึกแบบนั้น” วันแรกที่พบกันเขาไร้เยื่อใยกับเธออย่างไร วันนี้เขาก็ยังคงไร้เยื่อใยกับเธออย่างนั้น
“เพราะพลอยเป็นคู่หมั้นครามไง พลอยเป็นคู่หมั้นครามมาห้าปี” พลอยย้ำเตือนสถานะของเธอกับคราม เธอกับเขาหมั้นหมายกันมาห้าปี ทุกคนในสังคมรับรู้ ก็มีแต่เขาที่ทำเป็นไม่รู้ ไม่เคยใส่ใจคู่หมั้นอย่างเธอ
“ก็แค่คู่หมั้น”
“ก็แค่คู่หมั้นงั้นเหรอ ครามลืมไปหรือเปล่าว่าอีกไม่นานเราก็ต้องแต่งงานกัน”
“มันจะไม่มีวันนั้น”
“เพราะนังระรินใช่ไหม เมื่อไรครามจะลืมนังระรินสักที มันตายไปจากชีวิตครามแล้ว”
“ระรินไม่เคยตายไปจากฉัน กลับไปซะ อีกไม่นานเรื่องของเราก็จะจบ” เมื่อถูกจี้ใจดำ ครามก็แสดงความเกรี้ยวกราดออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
“ครามพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผู้ครอบครอง Thales Group ก็คือฉัน”
“ถึงครามจะได้ครอบครอง Thales Group ก็ใช่ว่าเรื่องของเราจะจบลงง่าย ๆ ลุงชลธีคงไม่ยอมเป็นแน่ ครามก็รู้ว่าลุงชลธียึดมั่นในคำสัญญาที่มีต่อพ่อของพลอยมากแค่ไหน ถ้าครามขัดใจลุงชลธี ครามไม่กลัวเหรอว่าลุงชลธีจะโรคหัวใจกำเริบ” พลอยกล่าวอ้างถึง ชลธี อิทธิวิวัฒนกุล นั่นก็คือพ่อของคราม ซึ่งได้ให้คำมั่นสัญญากับพ่อของเธอ ที่เคยมีบุญคุณต่อลมหายใจให้ Thales Group หรือ Chonlathee Transport ในอดีต จนเป็นบริษัทเดินเรือรายใหญ่ที่มีสำนักงานทั่วโลกกว่าร้อยแห่งอย่างทุกวันนี้
“...” ครามกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ
“แล้วคนที่จะได้เคียงคู่กับประธาน Thales Group คนใหม่ คงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าพลอยแล้ว ครามยอมรับเสียเถอะ” พลอยพูดอย่างทะนงตน คนที่เหมาะสมกับประธาน Thales Group มากที่สุดก็คือเธอเท่านั้น
พลอยเดินมาหยุดยืนตรงหน้าคราม แววตาที่เธอมองเขาช่างเย้ายวน เธอค่อย ๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกาย รูปร่างที่งดงาม หน้าอกอวบใหญ่ เอวคอดรับกับสะโพกผายอันกลมกลึง หากใครได้เชยชมย่อมยากที่จะปฎิเสธ
“คราม พลอยต้องการคราม” มือเรียวค่อย ๆ ไล้สัมผัสใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ กลิ่นกายบุรุษจากตัวเขาช่างกระตุ้นอารมณ์หวามไหวในกายเธอให้ร้อนรุ่ม
“แต่ฉันขยะแขยงเธอ” ครามมองคู่หมั้นสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่อีกฝ่ายอยากจะคาดเดาความคิด แล้วจับมือของเธอที่ใช้สัมผัสเขา ก่อนแววตานั้นจะแข็งกร้าวขึ้นและสะบัดร่างเปลือยเปล่าจนล้มลงไปกับโซฟา
“คราม !!” ร่างเย้ายวนเปลือยเปล่าของพลอยไม่ได้มีผลต่อจิตใจของครามเลย เขามองเธอด้วยสายตาว่างเปล่าอย่างไร้ความรู้สึก และเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน ไม่สนใจเสียงกรีดร้องและเสียงกระทืบเท้าเร่า ๆ ด้วยความโกรธเกลียด
“กรี๊ดดดดด ฉันเกลียดแกนังระริน ฉันเกลียดแก !!!”