ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะแยม!!แยม!!” เสียงของไพรัตน์ตะโกนเรียกเด็กตัวน้อยที่กำลังวิ่งหนีเขาตอนแรกเขาก็อยากจะเก็บเด็กเอาไว้เพราะยังไงเขาก็เอ็นดูเธอเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแต่ว่าตอนนี้คงไว้ไม่ได้แล้วเพราะเธอรู้ว่าเขาฆ่าพ่อของเธอ
แยมเด็กตัวน้อยวิ่งอย่างหวาดกลัวพยายามหนีลุงที่เป็นเพื่อนพ่ออย่างสุดชีวิตเธอมีคนเดียวเพราะแม่เสียไปนานแล้ว ตอนนี้ก็ไม่เหลือใครทั้งนั้น
“แยม!!” ปัง! ไพรัตน์ตัดสินใจจะยิงเพื่อขู่เธอแต่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนยิงปืนเก่งอะไรทำให้กระสุนเฉียดแขนซ้ายของแยมไปบวกกับเธอใกล้ถึงบันไดส่งผลให้ร่างเด็กอายุสิบขวบร่วงสู่พื้นด้านล่าง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“แยม!!!” ตัก! ตัก! ตัก! ตุบบบบ!! ร่างเล็กกลิ้งลงไปก่อนจะกระทบพื้นอย่างแรงเลือดสีแดงไหลนองไปทั่ว ไพรัตน์มองภาพตรงหน้าอย่างตกใจแต่ในเวลาเดียวกันเขาก็โล่งใจที่เธอตายไปสักทีก่อนจะมองร่างแยมที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นบ้านหลังใหญ่ที่หนาวเย็น...
“เหอะ!!ยกโทษให้ลุงเถอะนะถ้าพ่อหลานยอมง่าย ๆ คงไม่ตายกันแบบนี้” เขาพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกผิดก่อนจะกลับเข้าไปที่ห้องทำงานของพีระอีกครั้งเพื่อจัดฉากว่าเขาฆ่าตัวตายหลังจากที่ฆ่าลูกสาวตัวเองเสร็จ
“เฮือก!!!” พรึ่บ!!
ฉันลุกขึ้นมาจากฝันร้ายเหงื่อท่วมตัวไม่สิ...มันไม่ใช่ฝันร้ายอะไรหรอกแต่มันเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดกับฉันตอนเด็ก ฉันเห็นเพื่อนพ่อที่สนิทกันมาตั้งนานก่อนฉันเกิดยิงพ่อของฉันก่อนจะโยนความผิดทั้งหมดมาให้พ่อของฉันและสร้างเรื่องว่าพ่อฉันฆ่าตัวตายหนีความผิด คนเลวนั่นมันต้องได้รับการตอบแทบอย่างสาสม!!!
“เริ่มจากทำลายคนที่มันรักที่สุดยังไงล่ะ?!” ฉันกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อนึกถึงเรื่องเก่า ๆ ฉันไม่ได้ฝันแบบนี้มานานแล้วคงจะเพราะว่าเจอลูกของมันนั่นแหละเลยเป็นแบบนี้
หลายวันต่อมา
มหาวิทยาลัย T
“ฮึบ!อื้อออ~” หมับ!
“ถ้าหยิบไม่ได้ทำไมไม่เรียกคนมาช่วย” ขณะที่ฉันกำลังพยายามหยิบหนังสือที่ชั้นบนสุดนั้นก็มีคนเข้ามาช่วยไว้ซะก่อน
“ขอบใจนะ” ฉันบอกกับเขาก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาคนเมื่อกี้ก็คืออาโปนั่นเองและเหตุการณ์เมื่อครู่มันก็เป็นความตั้งใจของฉันเองแหละที่แกล้งหยิบหนังสือไม่ถึง ความจริงตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันพยายามทำตัวให้อยู่ในสายตาของอาโปตลอดเวลาเดินผ่านบ้าง ต่อแถวซื้อข้าวบ้าง หรือพยายามเดินผ่านหน้าห้องเรียนบ่อย ๆ เพื่อให้เขาเห็นฉันเรื่อย ๆ และทุกวันแต่ไม่ได้มีการทักทายหรือพูดคุยอะไรทั้งนั้น และเมื่อก็เหมือนกันฉันตั้งใจเดินออกมาจากตรงนั้นทำกับเขาเหมือนคนอื่น ๆ ธรรมดาทั่วไป
“เดี๋ยวสิ” หมับ! แต่เหมือนว่าครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยฉันผ่านไปง่าย ๆ
“....?” ฉันเอียงคอมองหน้าของเขา
“อยากได้เล่มไหนอีกไหมเดี๋ยวเราหยิบให้เองจะได้ไม่ต้องเขย่งแบบเมื่อกี้ มันอันตราย” เขาบอกเหตุผลมาแบบนั้นก่อนจะยิ้มให้เราอย่างอ่อนโยน
“งั้น...ฝากด้วยละกัน” ฉันบอกแบบนั้นก่อนเริ่มบอกหนังสือที่ต้องการซึ่งฉันไม่ได้อยากได้สักนิดแค่หาเรื่องเท่านั้นแหละและก็เลือกหนังสือที่อยู่แต่สูงทั้งนั้น มายาหญิงมันเป็นแบบนี้นี่เองสินะ
ฉันเดินบอกหนังสือที่อยากกับเขาไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเขามาลึกขึ้นเรื่อย ๆ เช่นไม่ได้ยินเสียงของผู้คนอื่นเท่าไหร่แล้วต่อไปก็คงต้องเพิ่มความใกล้ชิดสินะ
หมับ!!
“บอกว่าให้บอกเราไง?” และเหมือนเขาเองก็อยากใกล้ชิดฉันเหมือนกัน
ฉันอาศัยจังหวะที่เขากำลังหยิบหนังสือที่ฉันบอกให้หยิบมาแกล้งหยิบอีกเล่มและเขาก็ไวชะมัดตามมาจับหนังสือได้ทันและยังกอดจากด้านหลังอีกต่างหาก มือของเขาจับมือฉันแน่นฉันยืนนิ่งไม่ได้ตอบโต้อะไร ไม่ได้ผลักไสและไม่ได้พูดอะไร
“เอ่อ โทษนะ” และเขาก็ยอมผละออกไปก่อนฉันหันไปมองก็พบว่าเขากำลังหน้าของกำลังแดง ทำตัวเป็นเด็กผู้ชายใสซื่อไปได้
หมับ!! ฉันเอามือไปจับที่ใบหน้าของเขาก่อนจะลูบเบา ๆ เขายอมเอนเอียงเอาหน้าถูมือกับมือของฉันอย่างเคลิบเคลิ้ม หึ
“อ๊ะ! โทษนะ” ฉันแกล้งเอามือออกทันที
“เราเห็นหน้าแดง ๆ เธอไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?” ฉันถามอย่างเป็นห่วง...ที่แค่แกล้งแสดงเท่านั้น
“อ่อเอ่อ ไม่เป็นไรหรอก”
“งั้นเราไปกันเถอะเราได้หนังสือครบแล้วอ่ะ” ฉันบอกก่อนจะเดินนำออกมาทันที ส่วนเขาก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นนั่นแหละจะเหม่ออะไรขนาดนั้นนะ หึ
“อ่อยเก่งซะด้วย” กึก! เสียงแซวกวนประสาททำให้ขาของฉันชะงัก
“...” ขวับ! ฉันหันไปมองตาขวาง
“มองหน้าหาเรื่อง?” ยังกวนตีนไม่เลิก
“เอาไปเก็บที่เดิม” พรึ่บ!! ฉันโยนหนังสือให้หยินมันเริ่มรำคาญละไอ้เวร!
“เฮ้ย!!ใครเอามาก็เอาไปเก็บดิ!!” ในห้องสมุดแต่ยังแหกปากสถุนจริง ๆ เลย
วันต่อมา...
เมี๊ยววว~เมี๊ยววว~เมี๊ยววว~
“แล้วจะขึ้นไปทำไมนะ?” ฉันกำลังยืนมองแมวน้อยที่มันขึ้นไปเกาะอยู่บนต้นไม้และร้องอยู่นานสองนานแล้ว ฉันกำลังคิดหาวิธีเอามันลงมาอยู่แต่ผลสรุปก็คือฉันต้องขึ้นไปสินะ
หมับ!! ฉันเริ่มปีนขึ้นไปบนต้นไม้และกอดแมวน้อยเอาไว้ สงสัยต้องเอาไปตรวจสุขภาพสักหน่อยเพราะว่าผอมและท้องป่องคงจะเป็นพยาธิแน่ ๆ
“ขึ้นไปทำอะไรเหรอ?” นี่เขาตั้งใจตามฉันอยู่หรือเปล่านะ?
“เก็บ...” ฉันพูดแค่นั้นก่อนจะชูแมวให้อาโปดู
“หึ แล้วขึ้นไปยังไงลงได้ไหมน่ะมาเราช่วย” เขาชูมือขึ้นมาเหมือนกับว่าจะให้ฉันกระโดดลงไปหาเขา
“เอ่อ แน่ใจนะ?” ฉันลังเลนิดหน่อยเพราะมันก็สูงอยู่เหมือนกันแหละ
“อืม ลงมาเลยไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวเรารับเอง”
“ก็ได้...”
พรึ่บ!!!ตุบ!!
จุ๊บ! ฉันตั้งใจให้ปากของเราชนกันก็เล็งมาตั้งแต่ด้านบนแล้วนิ หึ
“เอ่อ โทษนะ -////-” อาโปบอกอย่างเขินอาย ส่วนฉันก็แค่นิ่ง ๆ เท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นทันทีปัดกระโปรงนิดหน่อยก่อนจะพบว่ากระโปรงของฉันมันขาดจนเห็นขาอ่อนขาว ๆ
“....”
“กระโปรงเธอ...”
“ว้าย!” ฉันเห็นก่อนแล้วย่ะ!!
“เดี๋ยวเอาเสื้อไปคุมก่อนนะ” เขาถอดเสื้อคุมตัวเองมาพันเอวให้ฉัน
“ขอบใจนะเดี๋ยวเราซักมาคืนให้” ฉันบอกกับเขา
“ไม่เป็นไรเธอเอาไปใช้เลยก็ได้นะ” เหมือนว่าเสื้อตัวนี้จะเป็นเสื้อประจำตัวเขานะทำไมให้กันง่าย ๆ แบบนี้ ฉันมองเห็นว่าเวลาใครทำน้ำหกใส่เขาจะโกรธมาก ๆ เลยแหละ
“...” ฉันไม่ได้ตอบไป
“ว่าแต่เธอจะเลี้ยงแมวตัวนั้นเหรอ?”
“ยังไม่รู้สิ” เพราะฉันไม่ยังไม่อยากมีภาระคงจะต้องเอามันไปรักษาก่อนและประกาศหาบ้านให้มันนั่นแหละ
“อืม งั้นเราดูแลให้ไหม?”
“เราจะพามันไปหาหมอก่อนอ่ะ” ฉันบอกกับเขา
“เหรองั้นถ้า...”
“ไอ้อาโป!!” เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลุ่มเพื่อนของเขาเรียกและเดินเข้ามาซะก่อน
“งั้นเราไปก่อนนะ”
“เอ่อ เดี๋ยว...” ฉันไม่ฟังและเดินออกมาทันที
“ไอ้อาโปมันมีอะไรน่าสนใจนักเหรอ?” แต่เหมือนว่าเส้นทางของฉันจะไม่ง่ายเพราะเซย์มายืนแอ๊คอยู่ตรงหน้ของฉัน
“...” ฉันไม่ตอบและเดินผ่านไป
“ฉันว่าฉันน่าสนใจกว่าเยอะนะทำไมเธอไม่ลองเปลี่ยนเป้าหมายมาหาฉันดูล่ะ?” ก็ฉันอยากแก้แค้นเขาและพ่อของเขา แล้วฉันจะยุ่งกับเขาทำไม -_-^^
“....”
“กับมันละพูดจังที่ฉันนี่”
“นายสนใจฉันงั้นสิ?” ฉันถามออกไปตรงเพราะดูจากการกระทำของเขาแล้วมันฟ้องแบบนั้น
“ถ้าฉันบอกว่าสนใจล่ะ?” เขาเดินเข้ามาก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าของฉัน ฉันไม่ได้หลบแต่อย่างใด
“ฉันก็จะบอกว่า...”
“...ว่า?”
“ไสหัวไป =_=”