SAY - JELLY 16 กำแพง

1507 คำ
ซ่าาา~ แกร๊ด!! ฉันอาบน้ำเสร็จก็ปิดน้ำก่อนจะเอาผ้ามาเช็ดตัวและเดินออกจากห้องน้ำ ในเมื่อฉันยังไม่สามารถกลับหอตัวเองได้ทั้งที่ตัวเปียกฉันเลยต้องอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนและค่อยกลับหอ ตึก...ตึก...ตึกก ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบกับเสื้อผ้าวางอยู่ที่ปลายเตียงห้องนี้เซย์ให้ฉันใช้ตามสบายเพราะเป็นห้องที่เตรียมไว้รับแขก ที่บ้านนี้หลังใหญ่และมีหลายห้องเขาเลยให้ฉันใช้ห้องหนึ่ง ฉันจัดการใส่เสื้อผ้าที่เขาเตรียมเอาไว้ให้มีทั้งชั้นในกางในพร้อม -////- รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันแหะที่มีคนมาเตรียมอะไรแบบนี้ให้ เมื่อแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินออกจากห้องเพื่อจะหอของตัวเอง เปรี๊ยง!!! ซ่า!!!! เปรี๊ยง!!! ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่าเกิดพายุทั้งลมทั้งฝนอย่างรุนแรง อยู่ใกล้ทะเลมันเป็นแบบนี้นี่เองสินะ ก๊อก ๆ “ฉันเข้าไปนะ” “....” เสียงของเซย์บอกฉันยังไม่ได้บอกอนุญาตเขาก็เปิดประตูเข้ามาเลย ก็นะนี่มันบ้านของเขานิเพราะงั้นจะเอาเข้าออกเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้ว “ยังกลับไม่ได้นะ” เขาบอกกับฉันเมื่อเข้ามาแล้ว “...?” ฉันมองของเขาอย่างงง ๆ “เพราะว่าเกิดพายุรุนแรงอย่างที่เธอเห็นนั่นแหละ ทำให้ต้นไม้ล้มปิดถนนหลายสายเลยไปไม่ได้” “อ่อ” ฉันตอบแค่ก่อนจะหันกลับไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้งมันแรงจริง ๆ นั่นแหละ “งั้นลงไปกินข้าวก่อนเถอะเธอคงยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า” หมับ! เขาบอกแต่ว่าทำไมจับมือด้วย “ปล่อยมือ” “ไม่ปล่อยอยากจับ” เขาตอบออกมาอย่างหน้าด้าน “แล้วเคยอยากตายไหม?” “ถ้าตายเพราะเธอฉันก็ยอม^^” “ประสาท-_-” ฉันด่าเขาแต่เขากลับยิ้มอย่างไม่สลดและเดินจับมือฉันออกจากห้องฉันพยายามสะบัดออกแต่ไม่ได้ผล เฮ้อ! ห้องอาหาร ครืนน!! “นั่งสิพี่เติร์ดเตรียมอาหารไว้แล้วแต่ไม่อร่อยเท่าไหร่หรอก” เขาพูดเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง อ่อ เพราะฉันมองหน้าของคนที่ชื่อเติร์ดและเหมือนว่าเขานั่นแหละที่เอาข้อมูลของฉันให้กับเซย์ “ฉันกินได้หมดแหละ” เรื่องอาหารฉันไม่เรื่องมากอะไรก็กินได้ทั้งนั้นแหละ ฉันมองอาหารมากมายบนโต๊ะเซย์คงบอกให้เขาเตรียมไว้ขนาดนี้สินะ “ทานให้อร่อยนะครับ” เติร์ดบอกกับฉัน “...” ฉันแค่พยักหน้าเท่านั้น “ออกไปได้แล้ว” เซย์ไล่เติร์ดออกไป “ครับบบบ” และเขาก็เดินออกไปภายในบ้านไม่มีใครนอกจากคนที่เติร์ด “อยากได้อะไรก็บอกฉัน บ้านนี้มีฉันกับพี่เติร์ดสองคนเพราะฉันไม่ชอบวุ่นวายเท่าไหร่เขาทำหน้าที่ทุกอย่างให้ฉัน” เขาอธิบาย “รวมทั้งเรื่องของฉันที่นายให้ไปสืบด้วยสินะ?” ฉันไปและก็กินข้าวไปด้วยไม่ได้กดดันแต่อย่างไร ความลับไม่มีในโลกนี้คือเรื่องจริงที่คนเราต้องยอมรับแม้จะเก่งแค่ไหนก็ต้องมีคนที่เก่งกว่าเราอยู่แล้วอย่างมั่นใจในตัวเองมากเกินไป “รู้ตั้งนานแล้วสินะ” “...” ฉันตั้งหน้าตั้งตากินข้าว “ไม่โกธรเหรอ?” เขามองหน้าฉัน “ฉันไม่สนใจหรอก” ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในโลกนี้ “ไม่สนใจแม้กระทั่งฉันสินะ...” น้ำเสียงของเขาทำให้ฉันเงยหน้ามองหน้าของเขาซึมเศร้าไปเลยและมองตาของเขาไม่วางตา ในนั้นแสดงความเจ็บปวดออกมาแต่ฉันเลือกที่จะสะบัดมันทิ้งไป “อืม” จากนั้นฉันก็ก้มหน้ากินข้าวต่อแม้ว่าภายในใจของฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจอะไร “เหอะ!!” ครืนนน!!เขาลุกออกไปจากโต๊ะทานข้าว... ฉันมองเขาเดินออกไปก่อนจะวางช้อนลงและพ่นลมหายใจออกอย่างแรงทิ้งตัวพิงเก้าอี้ ภายในหัวของฉันคิดอะไรไม่ออกเลยถ้าเรื่องของเขาฉันแทบไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง หลายชั่วโมงต่อมา ซ่าาา~ ครืนนนน!!!เปรี๊ยงง!!เปรี๊ยงงงงงง!!!!! ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วแต่ตอนนี้ไม่มีท่าทีว่าพายุจะสงบลงเลยสักนิด ฉันนั่งมองและรอเวลาอยู่นานแล้วออกไปไหนไม่ได้ส่วนเซย์คงงอนละมั้ง ไม่เห็นหน้าตั้งแต่ตอนนั้น “ท่าทางพายุจะหยุดอยากนอนนี่ก่อนแล้วกัน” เสียงของเซย์บอกกับฉันคิดว่าจะไม่มาคุยแล้วซะอีก “เดี๋ยวฉันกลับเองยืมรถหน่อย” “อย่าดื้อได้ไหม?!” เขาพูดเสียงดังใส่ฉัน “...” “จะทำอะไรดูสภาพอากาศด้วยออกไปก็มีแต่ตายลูกเดียวอย่าดื้อและขึ้นห้องนอนซะ” เขาบอกแบบนั้นแหละแต่ฉันไม่ได้กลัวตายสักหน่อย แต่ก็ยังตายตอนนี้ไม่ได้ด้วย Rrrrr และขณะที่เรากำลังเล่นเกมจ้องตาอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น มันวางอยู่บนโต๊ะทำให้เซย์ที่ยืนอยู่มองเห็นชื่อที่ขึ้นอยู่บนนั้น ‘อาโป’ “ไม่รับสายมันได้ไหม?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฉัน...ไม่จำเป็นต้องทำตามที่นายบอกนะ” ฉันพูดแบบนั้นออกไปก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดรับสาย ติ๊ด! “ฮัลโหล...” พรึ่บ!! และอยู่ ๆ ก็มีแรงกอดจากด้านหลังจะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่เซย์ เฮ้อออ (อยู่ไหน?) เขาถาม “อยู่หอไง” (วันนี้ไม่ได้ไปเรียนสินะเราตามไปแต่ไม่เจอ..) เขายอมรับมันออกมา “อ๊ะ!” ฉันเผลอหลุดเสียงออกมาเมื่อเซย์กอดรัดฉันแรงขึ้น ฉันพยายามแกะมือของเขาออกไปแต่ไม่ได้ผลเพราะมือเดียวมันไม่ถนัด “ก็เรารู้ไงว่าอาโปต้องตามไปอ่ะ เราเลยไม่เรียน...เรายังไม่พร้อมเจอ” นึกถึงเรื่องเมื่อเช้าก็ขยะแขยงขึ้นมายิ่งได้ยินเสียงที่มันคุยกับไอ้ไพรัตน์ยิ่งอยากอ้วก (เราขอโทษนะวันนี้มีพายุดูแลตัวเองดี ๆ นะ) “...” (เราเป็นห่วงเยลลี่นะ) “หอม...” เสียงพูดเบา ๆ ของเซย์อยู่ตรงบริเวรซอกคอของฉัน (อยู่กับใคร?!) “เสียงทีวีไม่มีอะไรหรอก แค่นี้ก่อนนะเราไม่ว่างเท่าไหร่อ่ะ” ฉันรีบบททันที “คุยเสร็จยัง?” เซย์ซุกไซร้ตามลำคอของฉัน (เยล...!!) ติ๊ด!! ฉันไม่ฟังอาโปกดวางสายทันที “เซย์!!!” พรึ่บ!! ฉันผลักเขาออกก่อนจะเรียกเสียงดัง ดูก็รู้ว่าเขาตั้งใจจะให้อาโปได้ยินเสียงของเขา “ก็ฉันเป็นเครื่องมือของเธอนิมันได้ยินเสียงฉันมันจะได้บ้าไงสะใจดีออก” ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ “แต่อย่าทำอะไรที่ฉันไม่อนุญาตเป็นเครื่องมือก็รอเวลาทำงานแค่นั้น อย่ามาเกินหน้าที่...” พรึ่บ!! เขาผลักฉันให้ล้มไปที่โซฟาก่อนที่จะขึ้นคร่อมร่างของฉันเอาไว้ “ปากร้ายไม่มีใครเกินเลยนะ” “ไม่ชอบก็อย่ามายุ่งสิ” เลิกสนใจฉันไปเลยยิ่งดี “ไม่เลิกฉันมันซาดิกส์อยู่แล้ว โคตรชอบเลยเวลาโดนเธอด่าอ่ะเยลลี่...” เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้หน้าของเขา แววตาบ่งบอกว่าที่เขาพูดมันจริงจังแค่ไหน “เซย์..” “ฉันชอบเธอนั่นคือความจริง เธอหนีมันไม่ได้หรอก” “ฉันไม่ชอบนายนั่นก็คือความจริงเหมือนกันนั่นแหละ...” “ไม่ชอบแล้วตอนนั้นจูบตอบทำไม ทำไมไม่ผลักออกหรือตบฉันแรง ๆ สักทีถ้าเธอทำแบบนั้นฉันจะเชื่อว่าเธอเกลียดฉัน” “...” กึก!! ฉันชะงักทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นมันเถียงไม่ออกเลยน่ะสิ “เถียงไม่ออกสินะนั่นเพราะว่าเธอเองก็รู้สึกอะไรกับฉันเหมือนกัน แต่กำแพงเธอมันสูงไงแต่ต่อให้เธอมีกำแพงแค่ไหนฉันก็จะข้ามไป ระเบิดกำแพงนั่นจนไม่สามารถก่อขึ้นมาได้อีกยิ่งดี...” “เพราะกำแพงมันค่อยดูแลใจฉันอยู่ไง” “ไม่จำเป็นเพราะฉันจะดูแลและรักษามันเอง...” ซ่าาา~ ครืนนนน!!!เปรี๊ยงง!!เปรี๊ยงงงงงง!!!!! พรึ่บ!!! “อื้อออ!!” เขาประกบปากลงมาพร้อมกับไฟที่ดับลงพอดีเสียงพายุรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับจูบของเขา “อื้ออ!!อ่าส์!!” ฉันดันหน้าอกของเขาออกไปแต่ไม่มีแรงพอเลยสักนิด ฉันไม่ยอมเปิดปากให้เขาส่งลิ้นเข้ามาแต่เขามันร้ายกาจส่งมือล้วงเข้าไปในเสื้อของฉัน “เซย์...อื้ออออออ” เขาอาศัยจังหวะที่ฉันตกใจส่งลิ้นเข้ามากวาดความหวานในช่องปากของฉัน ฉันเลิกต่อต้านและปล่อยให้เขาทำอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ... “อ่าส์...เยลลี่” “....”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม