ตอนที่ 1 เด็กเส้นจืดชืด

1830 คำ
           อาหารนับสิบอย่างหน้าตาน่ากินบนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฉุยยั่วน้ำลาย ไม่ได้ช่วยให้ชายหนุ่มที่กำลังหงุดหงิดเจริญอาหารขึ้นมาได้เลย ทั้งๆ ที่ตอนแรกเขาหิวจนไส้แทบขาดจากการทำงานอย่างหนักและฝ่าการจราจรที่ติดแหง็กนับชั่วโมงกว่าจะเดินทางกลับมาถึงบ้านเพื่อให้ทันมื้อเย็นกับคนเป็นแม่ในทุกวัน            แต่การเป็นลูกชายคนเดียวที่พยายามทำทุกอย่างที่แม่ต้องการเพื่อให้แม่มีความสุข ไม่ได้ทำให้เขารอดพ้นจากสิ่งที่เขากลัวที่สุดได้เลย เมื่อเรื่องนั้นมันออกจากปากคนเป็นแม่ในวันนี้ และคนเป็นพ่อที่ไม่เคยขัดใจเมียรักได้ก็ไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนที่จะปกป้องเขาที่เป็นลูกเลยสักนิด            “แต่แม่ครับ”            ตุลา ท่านประธานหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้น คิ้วเข้มขมวดมุ่น ดวงตาคมกริบสีดำสนิทมีเสน่ห์ จมูกโด่งจัด รับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสด ผิวขาวเนียนละเอียดราวผู้หญิง ยกมือขึ้นเสยผมลวกๆ เพราะความอึดอัดกับสิ่งที่ออกจากปากของคนเป็นแม่            “ตุลาฟังแม่ก่อน”            คุณนายเกศกมลยกมือขึ้นมาห้ามเพื่อให้เขาหุบปาก ก่อนที่จะพูดอะไรที่เป็นการขัดใจและทำให้เธอที่เป็นแม่อารมณ์เสีย            ดูเอาเถอะ เธอมีลูกชายกับเขาแค่คนเดียว ก็ทุ่มเทตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนไม่มีเวลาไปหาแฟน จนป่านนี้อายุปาเข้าไปสามสิบสามปีแล้ว ก็ยังไร้วี่แววของลูกสะใภ้            อีกอย่างที่ทำให้เธอตัดสินใจเร่งรัดในเรื่องนี้ ก็เพราะนอกจากพ่อลูกชายตัวดีจะไม่ยอมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ยังชอบทำตัวเสี่ยงๆ กับแม่พวกผู้หญิงหิวเงินอีกต่างหาก ถ้าเธอไม่จัดการขั้นเด็ดขาด กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่ง จะมีแม่ผู้หญิงพวกนั้นอุ้มท้องมาร้องห่มร้องไห้ขอความรับผิดชอบที่หน้าบ้านก่อนล่ะสิ            “แม่แค่ให้ลูกรับน้องลูกแก้วไปเป็นเลขา มันยากเย็นตรงไหน”            เลขาหรอ เขารู้หรอก ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของแม่ไม่ใช่ต้องการให้ยัยน้องลูกแก้วลูกกวาดหน้าจืดนั่นมาเป็นแค่เลขาของเขาแน่ เพียงแค่ในตอนนี้ยังไม่อยากจะบอกความจริงให้เขาเอ่ยคัดค้านเสียมากกว่า            เพราะก่อนหน้านี้แม่มักจะพูดถึงเด็กนี่ให้เขาฟังบ่อยๆ แถมยังบอกหน้าตาเฉยว่าแม่ได้หมั้นหมายน้องหน้าจืดนี่ให้เขาเรียบร้อย รอแค่น้องหน้าจืดเรียนจบ แม่ก็จะจัดงานแต่งงานให้เขากับเธอโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งๆ ที่เขาเอ่ยปฏิเสธไปทุกครั้งที่แม่พูดถึงเรื่องนี้ก็ตาม            จะให้เขายอมรับการแต่งงานแบบคลุมถุงชนในครั้งนี้ได้อย่างไร ก็ในใจของเขาตอนนี้มีแต่พราวมุก เลขาสาวสวย ที่ถึงแม้เธอจะมีครอบครัวแล้ว แต่ใจของเขามันกลับไม่รักดี ตัดใจจากเธอไม่ได้เสียที แถมการใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงแบบหนุ่มโสดเปลี่ยนคู่นอนไปทั่ว มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาในชีวิต มันกลับไม่ได้ทำให้เขาลืมพราวมุกได้เลย            อีกอย่าง จะให้เขาแต่งงานกับยัยเด็กนั่นไปได้อย่างไร อายุห่างกันตั้งสิบปี แถมเจอหน้ากันเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอยังเป็นเด็กมัธยมต้นอยู่เลยมั้ง ในตอนนั้นเขาไปรับแม่ที่บ้านน้าผกากรอง แม่ก็แนะนำให้รู้จักกับเด็กนั่น ทั้งผอมแห้ง ทั้งขาวซีด ทั้งหน้าตาจืดชืด ท่าทางเหมือนเด็กแก่เรียนแบบนั้น เขาไม่ถูกใจเลยสักนิด จะให้อยู่กันไปได้ยังไง ไอ้ให้ทำหน้าที่สามีบนเตียง เขาเป็นผู้ชายยังไงมันก็พอไหว แต่ความสุขของเขาทั้งชีวิตจากนี้จะเหลืออะไร เขาจึงได้ค้านแม่หัวชนฝามาจนถึงทุกวันนี้            “ผมก็มีเลขาแล้วนี่ครับ ผมว่าถ้าแม่อยากให้น้องทำงานที่บริษัทเราจริงๆ ตำแหน่งอื่นก็มีว่างเยอะแยะ เดี๋ยวผมดูให้”            “น้องจบบริหารมา อีกอย่างน้องก็เคยฝึกงานตำแหน่งเลขามาแล้วด้วย”            คุณนายเกศกมลก็ยังไม่ละความพยายาม ยังคงนำเสนอลูกสาวของเพื่อนรักให้เขาอยู่ดี            “แล้วทำไมไม่ให้น้องลูกแก้วไปสมัครงานในที่ที่ฝึกงานมาล่ะครับ”            “ที่บริษัทนั้นก็เรียกตัวน้องไปทำงานนะ แต่แม่กับน้ากรองเห็นว่าเราเป็นคนกันเอง มาทำงานด้วยกันก็น่าจะดี”            ดีกับผีล่ะสิ ถ้ายัยเด็กจืดชืดนั่นเกิดมาหลงเสน่ห์ของเขาเข้าจะทำยังไง หน้าตาแบบนั้นไม่น่าจะมีแฟนแน่ๆ แล้วทีนี้เขาจะปฏิเสธแม่ยากขึ้นไปอีก            ถึงแม้เขาจะไม่มีทางได้สุขสมหวังกับเลขาหน้าห้องที่ หลงรักมาหลายปี แต่ก็ยังไม่อยากมีใครในชีวิต แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก สู้อยู่เป็นโสดตลอดไป อยากก็หาซื้อกิน จบภายในคืนเดียว ง่ายจะตาย และเขาก็ชอบชีวิตแบบนี้เสียแล้ว            “ผมขอคิดดูก่อนแล้วกันนะครับ”            “อย่าคิดนานล่ะ น้องเรียนจบแล้ว”            “ครับแม่”            “จ้ะ งั้นทานข้าวกันเถอะ ดูสิ อาหารที่ลูกชอบทั้งนั้น วันนี้แม่สั่งเป็นพิเศษเลยนะ”            หึ ใช่ อาหารที่เขาชอบทั้งนั้น แต่ตอนนี้มันเหมือนมีก้อนแข็งๆ มาจุกอยู่ที่คอหอยของเขา แทบกระเดือกอะไรไม่ลงคอแล้ว ที่สั่งให้แม่ครัวทำกับข้าวเสียเต็มโต๊ะแบบนี้ เพราะมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงแบบนี้นี่เอง            “พ่อครับ ทำไมพ่อไม่คิดจะช่วยผมบ้างเลย”            ลูกชายคนเดียวของบ้านร้องโอดครวญขึ้นทันทีที่คนเป็นแม่เดินออกไปจัดการเรื่องผลไม้หลังมื้ออาหาร ทำให้ตอนนี้เขากับพ่อ นั่งดูทีวีกันอยู่ในห้องนั่งเล่นเพียงแค่สองคนเท่านั้น            “ตุลา แกอยากเห็นพ่อโดนเนรเทศออกมานอนนอกห้องหรือไง”            ประมุขของบ้าน อดีตท่านประธานคนเก่าที่ตอนนี้เกษียณตัวเองมานั่งเล่นนอนเล่นที่บ้านกับภรรยา เพื่อรอเวลาเลี้ยงหลาน ตอบลูกชายไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขารู้ว่าภรรยาสุดที่รักต้องการจะทำอะไร และเขาเองก็ได้เห็นหน้าว่าที่ลูกสะใภ้แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าสวยมากๆ มารยาทดี แถมยังเรียนเก่ง ถ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนได้เห็นหน้าก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะถูกใจเธอ            “โห พ่อก็รู้ ว่าแม่คิดจะจับผมแต่งงานกับเด็กนั่นจริงๆ อย่างที่พูดมาตั้งหลายรอบแล้ว”            “อืม พ่อรู้ แต่แกก็รู้ ใครห้ามอะไรแม่แกได้บ้าง ถ้ารับน้องไปทำงานแล้วก็ไปคุยกันเอาเองแล้วกัน ว่าจะยอมให้ผู้ใหญ่จับแต่งงานกันไหม บางทีน้องอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้”            “โถ่ พ่อครับ แบบนั้นหรือจะมีใครเอา ทั้งผอมแห้งเป็นไม้เสียบลูกชิ้น ผิวก็ซีดอย่างกับจิ้งจกโดนประตูหนีบ หน้าตาก็จืดชืด ผมว่าแบบนั้นจะรีบจับผมให้อยู่หมัดสิครับ ไม่มีทางปฏิเสธการแต่งงานกับผมแน่นอน”            “แกไปเอาอะไรมาว่าน้องแบบนั้น พ่อว่าน้องออกจะสวย”            “ก็ผมเคยเจอเธอมาแล้วนี่ครับ ตอนไปรับแม่บ้านน้ากรอง แบบนั้นผมหมดอารมณ์แน่ๆ แต่งไปยังไงพ่อก็ไม่มีหลานให้อุ้มอยู่ดี”            “หึ เลยต้องไปทำตัวเสี่ยงๆ กับแม่ผู้หญิงเปรี้ยวซ่าก๋ากั่นหิวเงิน หิวผู้ชายพวกนั้นหรอยะ ถ้าแกทำใครท้อง แม่จะแหกอกแก จะไม่มีทางยอมรับแม่พวกนั้นแน่ๆ”            เสียงแหลมแหวขึ้นจนสองหนุ่มในห้องตกใจ ไม่คิดว่าการไปเตรียมผลไม้หลังมื้ออาหารจะกลับมาเร็วขนาดนี้ จึงทันได้ยินคำพูดของเขากับพ่อที่ทำให้คุณนายเกศกมลอารมณ์ขึ้นอย่างแรง            “แม่ครับ ผมไม่ทำใครท้องหรอกนะครับ ผมไม่ได้มั่วขนาดนั้น แล้วก็ป้องกันตัวเองอย่างดีด้วย สบายใจได้เลยว่าจะ ไม่มีทางมีใครอุ้มท้องมาเรียกร้องขอการรับผิดชอบแน่นอน”            “ให้มันจริงเถอะ อย่าทำตัวเสี่ยงๆ เด็ดขาด แกไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงพวกนั้น มันก็จ้องจะจับผู้ชายรวยๆ เพื่อหวังสบายทั้งนั้น”            รู้สิ ทำไมเขาจะไม่รู้ ถึงป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดทุกครั้ง และไม่เคยคิดจะสานต่อหรือคบกับใครจริงจัง มีแค่ความสัมพันธ์ชั่วคืนเท่านั้น ผู้หญิงพวกนั้น กินแค่ครั้งสองครั้งเขาก็เบื่อแล้ว ต่อให้สวยเซ็กซี่ลีลาเด็ดแค่ไหน ก็ยังไม่เคยมีใครมัดใจเขาให้อยู่หมัดหรือรู้สึกติดใจใครเลยสักครั้ง            “ผมรู้ครับแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”            “แล้วที่แกว่าน้องว่าขี้เหร่แบบนั้น แม่ขอเถียง ไม่จริงสักนิด น้องทั้งสวย ทั้งหุ่นดี ผิวนี่ขาวละเอียด นิสัยก็น่ารัก เรียนก็เก่ง แกต่างหากที่อาจจะต้องไปฟาดฟันกับหนุ่มๆ ที่มารุมจีบน้อง ส่วนน้องอาจไม่เลือกแก ไปเลือกหนุ่มๆ ที่เขาไม่สำส่อน ไม่เจ้าชู้ และนิสัยดีกว่าแกก็ได้ ถึงวันนั้นอย่ามาโอดครวญให้แม่บังคับน้องให้แต่งงานด้วยล่ะ”            “เอาอะไรมาพูดครับแม่ ผมนี่นะจะหลงยัยเด็กนั่นจนต้องขอให้แม่กับน้ากรองต้องบังคับให้เด็กนั่นแต่งงานด้วย ถ้าเด็กนั่นมีแฟนแล้วก็ดีเลยสิครับ ผมสบายใจละ มีคนรับยัยต้มจืดไปดูแล”            คุณนายเกศกมลฟาดมือลงที่ต้นแขนล่ำๆ ของลูกชายอย่างแรง โทษฐานที่พูดจาไม่เข้าหู มาดูถูกหนูลูกแก้วของเธอได้อย่างไร ลูกชายเธอนี่มันมีตาหามีแววไม่จริงๆ            “โอ๊ย แม่ครับ ผมเจ็บนะ”            “ก็ตีให้เจ็บไง จะได้ลดความปากแจ๋วลงไปได้บ้าง อีกอย่างนะ ลูกเจอหน้าน้องตั้งหลายปี ตอนนั้นน้องยังเด็ก ไม่ทันได้แตกเนื้อสาวเลย แต่ตอนนี้น้องโตเป็นสาวเต็มตัว อายุยี่สิบสองปีเต็มแล้ว แถมยังสวยมากๆ อย่างที่แม่บอกไปนั่นแหละ”            ร้อยไม่เชื่อ พันไม่เชื่อ ยังไงคนที่อยากได้ยัยเด็กจืดชืด มาเป็นสะใภ้ใจจะขาดแบบแม่ของเขา ก็ต้องอวยยศให้กันเป็นธรรมดา หึ สวยมากๆ หรือ จากสภาพเด็กขี้เหร่จืดชืดในตอนนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะวิวัฒนาการมาเป็นสาวสวยตัวเต็มวัยได้ อย่ามาหลอกคนฉลาดๆ ที่คลุกวงในกับผู้หญิงมาทุกรูปแบบอย่างนายตุลาซะให้ยาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม