อัคนีกระซิบบอกคนขี้เซา ก่อนจะหอมแก้มอีกฟอด แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป พอกลับออกมาก็พบว่าคนที่นอนอยู่ตื่นแล้ว ผมยาวยุ่งนิดๆ ใบหน้างามยู่ยี่เมื่อเห็นเขา
“เช้าแล้ว ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ”
เธอบิดกายไปมา ไล่ความเกียจคร้านหากเป็นยามปกติ เธอไม่มีวันตื่นเช้าแบบนี้แน่ แต่จะให้นอนกินบ้านกินเมืองต่อก็ไม่ควร เมื่อมีคนร่วมห้องอยู่ด้วย
“ผมว่าคุณไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนดีไหม เมื่อคืนก็ไม่อาบน้ำไม่นึกว่าจะซกมกแบบนี้” เขาแกล้งแซว
ดารากานต์หน้าแดง “ฉันไม่ได้ซกมกย่ะ ฉันแค่ป้องกันตัวจากคนบ้ากามเท่านั้นแหละ”
คำแก้ตัวของเธอฟังแปลกๆ จนคนได้ยินต้องนิ่วหน้า
“ไม่อาบน้ำเนี่ยนะ ป้องกันตัว ประหลาดจริง”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันไม่อยากตัวหอม เดี๋ยวคุณได้กลิ่นแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ คิดปลุกปล้ำฉันขึ้นมาจะทำยังไง ตัวเหม็นๆ แบบนี้แหละ คุณจะได้หมดอารมณ์”
เจ้าตัวคงไม่รู้ว่า วิธีการป้องกันตัวของเธอใช้ไม่ได้ผล เมื่อเนื้อตัวของเธอยังหอมกรุ่นน่าหอมน่าดมไปทั้งตัว คนพิสูจน์กลิ่นลอบยิ้มขำ
“วิธีของคุณได้ผลจริงๆ เมื่อคืนผมนอนหลับสนิท ไม่อยากทำอะไรคุณสักนิด”
เขาแสร้งทำหน้าตายเห็นพร้องไปกับเธอด้วย ทั้งที่ในใจแอบหัวเราะขำกลั้นไว้จนปวดแก้ม
“ถ้าคุณยังมีอารมณ์กับคนตัวเหม็น คุณก็โรคจิตแล้ว” ดารากานต์ย่นจมูกใส่เขา
อัคนีเกือบหลุดขำ “ผมลงไปข้างล่างก่อนนะ กลัวจะถูกหาว่าเป็นโรคจิตน่ะ”
เขาเดินออกไปจากห้องเปิดโอกาสให้เธอได้ทำธุระส่วนตัว ขืนยังอยู่ต่อ มีหวังได้หัวเราะแน่
“อีตาบ๊องเอ้ย!”
ดารากานต์แลบลิ้นใส่คนตัวใหญ่อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัว แล้วกลับออกมาในชุดใหม่
หญิงสาวเดินลงมาชั้นล่างมองหาร่างสูงใหญ่ ที่ลงมาก่อนหน้านี้ กลิ่นหอมของอาหารลอยฟุ้งมากระทบจมูก ท้องส่งเสียงร้องประท้วงเจ้าของทันที
“นี่คุณ มากินข้าวเช้าก่อน !” เสียงทุ้มของอัคนีตะโกนเรียก
ดารากานต์เดินไปตามเสียงและกลิ่นยั่วใจ พบว่าคนเรียกนั่งเอ้เต้อยู่ที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีชามข้าวต้ม และกาแฟวางอยู่ อีกทั้งยังมีขนมปังไข่ดาวไส้กรอกหมูแฮม กับไข่ลวกวางไว้ด้วย
“ตามสบายนะคุณ ชอบแบบไทยก็ทานข้าวต้ม ถ้าชอบแบบฝรั่งก็มีให้เลือกหลายอย่าง” เจ้าบ้านผายมือเชื้อเชิญ
ดารากานต์เป็นคนไม่เรื่องมากเรื่องกิน หญิงสาวเลือกรับประทานไส้กรอกและไข่ดาวเป็นอันดับแรก ตบท้ายด้วยข้าวต้มอีกชาม คนรับใช้สองคนที่คอยบริการแอบอมยิ้ม เมื่อครู่นายของพวกเธอก็จัดการกับไข่ลวกไปสามฟอง ต่อด้วยข้าวต้มเหมือนกัน สงสัยเมื่อคืนคงใช้พลังงานมาก ตามประสาคู่บ่าวสาว
เสร็จจากมื้ออาหาร อัคนีก็ไม่ยอมพาดารากานต์ไปส่ง เขาชวนเธอไปเที่ยวในไร่ของเขาแทน
“อยากเห็นไร่กาแฟไหม ขับรถขึ้นดอยไปไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงแล้ว ไร่กาแฟสุริยะไม่เปิดให้ใครเข้าชมง่ายๆ นะ ถ้าสนใจผมจะพาไปชม”
เขาวางเหยื่อล่อ ภาวนาให้หญิงสาวนึกอยากเห็นไร่กาแฟอันกว้างใหญ่ของเขา ซึ่งปลูกอยู่บนยอดดอยสูงเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพดี
“ไปกลับไม่กี่ชั่วโมงใช่ไหมคะ กลับลงมาคงไม่เย็นมากทันเข้าเมืองอยู่มั้ง” เธอถามเขา แววตาซ่อนความสนใจไว้แทบไม่มิด
อัคนีพยักหน้ารับ “ไปกลับประมาณครึ่งวันครับ”
“งั้นไปก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวอยากเห็นไร่ของเขาจึงยอมไปด้วย จากบ้านพักต้องขับรถขึ้นเขาสูงชันไปหลายกิโลกว่าจะถึงไร่กาแฟ ซึ่งปลูกอยู่ในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพื่อให้ได้กาแฟคุณภาพดี ที่นั่นมีน้ำตกอยู่ไม่ไกลจากไร่ หลังจากพาเดินชมไร่แล้วอัคนีก็พาภรรยาในนามของเขาไปเที่ยวน้ำตก
“คุณจะเล่นน้ำไหม น้ำที่นี่ใสน่าเล่นนะ”
อัคนีเอ่ยชวน เขาอยากถ่วงเวลา ให้เธออยู่ที่นี่นานๆ ไม่อยากพาเธอกลับบ้านอย่างที่เจ้าตัวต้องการ ไหนๆ ก็ตกกะไดพลอยโจน แต่งงานกันแล้ว เขาไม่คิดปล่อยให้เธอหลุดมือไป ชายหนุ่มจ้องร่างงามอย่างมีแผนการ เขาขับรถพาเธอไปยังจุดที่มีน้ำตก ซึ่งต้องจอดรถไว้ตรงทางเข้าและเดินเท้าเข้าไปอีกสิบนาที พอไปถึงก็พบกับน้ำตกที่ทอดตัวลงมาจากผาหินสูง สายน้ำไหลรี่แรงกระทบโขดหินเบื้อล่าง ความเย็นฉ่ำทำให้โดยรอบอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้นานาพันธุ์
“เล่นน้ำไหมคุณดาว น้ำใสน่าเล่นดีนะ” เจ้าถิ่นเอ่ยชวน แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ล่ะค่ะ ฉันขอนั่งเล่นแถวนี้ดีกว่า”
ดารากานต์ปฏิเสธ หญิงสาวพาตัวเองมาหาที่นั่งตรงโขดหินข้างน้ำตกมองดูสายน้ำอย่างชอบใจ เสียดายที่เธอไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย ทิ้งไว้ในรถเพราะเกรงจะทำตกน้ำ เลยอดถ่ายภาพสวยๆ ไปอวดใคร
“ผมอยากเล่น ขอผมเล่นสักพักนะแล้วค่อยกลับกัน” อัคนีบอกหญิงสาว
แล้วก็จัดการถอดเสื้อผ้าออกเหลือเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ขาสั้นตัวเดียว เขากระตุกยิ้มเมื่อเห็นแก้มนวลของเธอแดงระเรื่อขึ้น จงใจเดินช้าๆ อวดหุ่นล่ำบึกซึ่งลงทุนออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้ได้รูปร่างทรมานใจสาวนี้มา มันทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวเองทุกครั้งยามต้องถอดเสื้อผ้าเผยสัดส่วนให้หญิงสาวมอง ใครว่าผู้หญิงทะลึ่งไม่เป็นดูสิตอนนี้เจ้าสาวหมาดๆ ภรรยาป้ายแดงของเขามองเขาตาแป๋วอย่างลืมตัว เขาอยากมีอำนาจวิเศษจริงๆ จะได้รู้ว่าเจ้าหล่อนคิดอะไรอยู่ พ่อเลี้ยงหนุ่มลอบยิ้มขำ ขณะหย่อนกายลงแหวกว่ายในสายธาร
สายน้ำตกไหลแรงน้ำใสไหลเย็น ชวนให้คนมองอยากลงไปอาบเล่น ดารากานต์นั่งมองเจ้าของไร่หนุ่มกำลังดำผุดดำว่ายในสายน้ำอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะอดใจไม่ไหวยอมลงไปเล่นน้ำกับเขาด้วย ร่างบางลงไปทั้งชุดที่สวมมาแหวกว่ายเล่นอย่างสนุกสนาน โดยมีร่างหนาว่ายอยู่ใกล้ๆ
“น้ำที่นี่ใสจัง เย็นดีด้วย”
ดารากานต์ว่ายไปยังโขดหินใต้สายน้ำตก อัคนีตามไปนั่งลงข้างๆ สายตาคมแอบลอบมองเรือนกายงามผุดผ่อง เสื้อผ้าของเธอเปียกแนบตัวผ้าเนื้อบางมองทะลุเห็นบราเซียร์ตัวน้อย ทรวงอิ่มทะลักล้นอวบสะพรั่ง จนคนเห็นใจสั่นสะท้าน หวนนึกถึงสัมผัสเมื่อรุ่งเช้าขึ้นมาไม่ได้
“มองอะไร หันไปทางอื่นเลยนะอีตาลามก”
ดารากานต์เริ่มรู้สึกตัวว่าถูกสายตาของคนข้างกายแอบลอบมองเนื้อตัวของเธอ แก้มนวลร้อนวูบเมื่อพบแววตากรุ้มกริ่มของสามีในนามของตัวเอง หญิงสาวขยับลงไปแช่ตัวในน้ำหลบสายตาของคนจ้องอย่างนึกเขิน คนอะไรจ้องเอาๆ อย่างกับไม่เคยเห็นผู้หญิง
“ก็คุณสวยนี่ ผมเลยต้องมองไง” อัคนียิ้มกว้าง ขยับตามลงมาด้วย
“ไปไกลๆ เลยนะ อย่ามาลามกกับฉันนะ” หญิงสาวขู่ฟ่อ
“แหม มองแค่นี้ก็ทำมาเป็นหวง”
อัคนียอมว่ายถอยออกมาห่างจากร่างงาม ปล่อยให้เธอเพลิดเพลินกับความชุ่มฉ่ำของสายน้ำ จนผ่านไปครู่หนึ่งท้องฟ้าจู่ๆ ก็มีเมฆดำเคลื่อนเข้ามาปกคลุม ลมพัดแรงขึ้นแสดงว่าฝนกำลังจะตกลงมาในไม่ช้า ชายหนุ่มจึงตะโกนเรียกหญิงสาว
“คุณดาว รีบขึ้นจากน้ำเถอะ ฝนกำลังจะตก!”
ดารากานต์แหงนหน้ามองฟ้า เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มครึ้ม มีละอองฝนโปรยปรายลงมาบ้างแล้วก็รีบว่ายกลับเข้าฝั่ง แต่ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อขาของเธอเจ็บแปลบขึ้นมา ผลจากการแช่น้ำนานเกินไปเลยเป็นตะคริวที่น่อง ร่างบางพยายามหาที่ยึดเกาะแต่ไม่ทันการเมื่อขาขยับไม่ได้
“ช่วยด้วย คุณอัคนี ฉันเป็นตะคริว!” เธอร้องเรียกให้เขาช่วยเหลือ
อัคนีรีบกระโดดลงน้ำว่ายไปหาร่างที่กำลังตะเกียกตะกายด้วยความตกใจ กว่าจะไปถึงร่างบางก็จมลงไปใต้น้ำเสียแล้ว สายฝนก็เทกระหน่ำลงมาทำให้น้ำไหลรี่แรง ชายหนุ่มดำลงไปใต้น้ำควานหาร่างบางด้วยความร้อนรน ในที่สุดเขาก็พาตัวเธอขึ้นมาบนฝั่งได้
“คุณดาว ได้ยินผมมั้ย!”
อัคนีเขย่าร่างที่ไร้สติแรงๆ แต่เธอไม่ยอมลืมตาขึ้นมา ชายหนุ่มพยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการทำให้เธอสำรอกน้ำออกมา แต่ดารากานต์ก็ไม่ยอมฟื้นสักที ลมหายใจแผ่วอ่อนจนน่าตกใจ อัคนีจึงต้องผายปอดให้เธอ