"เปล่านี่ค่ะ..ฉันก็ทำตัวปกติแบบนี้ อีกอย่างฉันควรขอบคุณ ที่คุณนั้นช่วยเหลือด้วยซ้ำ พรุ่งนี้ฉันก็จะกลับบ้านแล้ว ฉันจะกลับไปยอมรับความจริงที่จะเกิดขึ้น เพราะยังไงฉันก็คงไม่สามารถหนีไปได้ตลอดชีวิตหากสิ่งนั้นมันคือการทดแทนผู้มีพระคุณ ฉันยิ่งควรกลับไปทำให้มันสมบูรณ์"
นารีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่ว เมื่อเธอคิดไตร่ตรองดีแล้วว่าควรกลับบ้านไปยอมรับความจริงที่จะเกิดขึ้นกับชีวิต หากชะตาฟ้าลิขิตได้กำหนดมาให้เธอต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ ฉะนั้นก็ควรจะก้มหน้ารับกรรมยอมรับกับมันในสิ่งที่กำลังจะเป็นไป
"ได้สิ พรุ่งนี้ผมจะไปส่ง" ชายหนุ่มพูดออกมา ในขณะที่เขาละสายตาจากเธอแล้วตักอาหารเข้าปาก ทำราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจในความรู้สึกของนารี ทั้งที่ความเป็นจริงเขานั้นกำลังกลัวว่า คนที่บ้านกสิเทพพาณิชย์จะทำร้ายเธอ ที่ได้หนีออกจากบ้าน เพราะทุกคนกำลังวุ่นวายตามหาเธอแทบพลิกแผ่นดิน
"ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ ขอบคุณมากนะคะสำหรับทุกอย่าง ถ้ามีโอกาสฉันจะทดแทนบุญคุณครั้งนี้ให้กับคุณ" นารีพูดออกมา พร้อมกับฉีกยิ้มบางๆ ที่มุมปาก อย่างน้อยผู้ชายตรงหน้า ก็ได้ช่วยเหลือเธอไว้ในยามตกยากหน้าสิ่วหน้าขวานแบบวันนั้น
"หึ! ..คุณได้ทดแทนสมใจอยากแน่" อาร์มันโด้หัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดออกมาด้วยวาจาที่ทำให้คนฟังนั้นสงสัย แต่นารีก็ไม่กล้าถามออกไป เพราะคงไม่มีเรื่องอะไร ที่หนักไปกว่าการที่จะต้องแต่งงานกับชายแปลกหน้าอีกแล้วในชีวิตนี้
"ฮัลโหล! ..ว้าว! มาทันมื้อเช้าพอดี" เสียงของแขกผู้มาเยือน ทำให้ทุกคนหันไปมองที่เธอเป็นตาเดียว หญิงสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ปราดเปรียว หน้าตาฝรั่งจ๋าเธอมีนามว่าลูเซีย เป็นผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาพัวพันกับอาร์มันโด้ และเธอก็เป็นถึงนางแบบ ที่มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบริษัทของชายหนุ่ม ที่ขึ้นชื่อในเรื่องเพชรน้ำงามที่สุดในวงการธุรกิจเพชรพลอย
"กู๊ดมอร์นิ่งค่ะคุณอาร์มันโด้ วันนี้ลูเซียตั้งใจมาตามคำสัญญาที่คุณให้เอาไว้ ที่บอกว่าจะให้แหวนเพชรกับลูเซียคุณยังจำได้หรือเปล่าคะ" หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับเหลือบตามองไปที่นารี เมื่อเธอนั้นไม่รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นใคร ถึงได้มานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับอาร์มันโด้ได้ตั้งแต่เช้า
"ไม่ลืมหรอกครับ เจสันช่วยไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงในห้องฉันมาให้คุณลูเซียที" คำพูดของอาร์มันโด้ทำให้ลูเซียฉีกยิ้มออกมาราวกับว่ากิ้งก่าได้ทองก็ไม่ปาน เมื่อเธอนั้นกำลังลำพองตน คิดว่าเป็นคนสำคัญของอาร์มันโด้ และอีกไม่นานเธอจะต้องได้มาเป็นนายหญิงของบ้านหลังนี้อย่างแน่นอน
"งามตา ตักข้าวให้คุณลูเซียสิ ยืนนิ่งอยู่ได้" ป้านวลเอ็ดงามตาออกไป เมื่อเธอนั้นยืนเหม่อใจลอย อิจฉาในสิ่งที่ลูเซียกำลังจะได้จากอาร์มันโด้
"อิ่มแล้วขอตัวนะคะ" นารีพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เมื่อเธอต้องรีบไปร้อยมาลัยให้ป้านวล เพื่อใช้บูชาในวันพระใหญ่ หลายพวง
"ไม่มีมารยาท.." ลูเซียพูดออกมาในขณะที่เจ้าของบ้านไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปสักคำ
"คุณนารีป้าให้งามตา เตรียมเข็มกับด้ายไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อยู่ที่โต๊ะห้องนั่งเล่น ตามสบายเลยนะ" ป้านวลพูดออกมา เพื่อปกป้องนารี ในขณะที่นางไม่ชอบใจลูเซียเลยสักนิด เพราะทุกครั้งที่นางแบบสาวมาบ้านหลังนี้ หล่อนมักทำตัวราวกับว่าจะมาเป็นนายหญิงของบ้าน
"ขอบคุณมากนะคะป้านวล เดี๋ยวนาจะร้อยให้ป้าอีกพวงเป็นพิเศษ" นารีพูดกับป้านวลอย่างเป็นกันเอง เมื่อเธอนั้นเริ่มสนิทและคุ้นเคยกับหญิงสูงวัยมากขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่น โดยที่ไม่ได้ชายตาแลมาที่ลูเซียเลยสักนิด
"เธอเป็นใครคะ คุณอาร์มันโด้ ทำไมถึงทำท่าทางหยิ่งผยอง ไม่ให้เกียรติคุณสักนิด" ลูเซียด้วยท่าทางและใบหน้าที่ไม่ชอบใจในนารีเป็นอย่างมาก
"เธอชื่อนารี เจสันเอาให้คุณลูเซียสิ" อาร์มันโด้แค่บอกชื่อเธอออกไป ก่อนจะสั่งให้เจสันส่งกล่องกำมะหยี่สีแดงให้กับลูเซีย
"ขอบคุณมากนะคะคุณอาร์มันโด้ เพชรน้ำงามเหลือเกิน" ลูเซียพูดพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา เมื่อเธอเปิดตลับกำมะหยี่ขึ้นแล้วพบว่าแหวนนั่นมีเพชรเม็ดโต ที่ระยิบระยับตา ก่อนจะสวมมันลงไปที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างสุขใจ เมื่อได้รับจากชายตรงหน้า ซึ่งลูเซียกำลังคิดว่าเขานั้นกำลังเสน่หาในตัวของหล่อน
"เวลาที่มันอยู่บนนิ้วของคุณช่างสวย สมกับราคาที่คุณนั้นควรค่ากับมัน" อาร์มันโด้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบ แต่สายตากลับมีเลศนัย เมื่อเขานั้นกำลังคิดว่าใครบางคนคงได้ยิน
ในขณะที่นารีกำลังนั่งพับเพียบที่พื้น เพื่อร้อยมาลัยหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ อาร์มันโด้ได้ชวนลูเซียมาที่ห้องนั่งเล่น ทั้งที่เขานั้นควรจะพาหล่อนไปที่ห้องรับแขกมากกว่า ทำให้ป้านวลถอนหายใจออกมาอย่างแรง เมื่อหญิงสูงวัยรู้สึกได้ ถึงสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังคิดจะทำ
"ลูเซียอยากจะตอบแทนคุณบ้าง คืนนี้คุณไปหาลูเซียที่คอนโดได้ไหมคะ" คำพูดของลูเซียนารีนั้นได้ยินอย่างชัดเจน จนเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองต้องมาพลอดรักกันในห้องนั่งเล่นนี้ด้วย
"ถ้าผมว่างจะแวะเข้าไป" อาร์มันโด้พูดออกมา แต่สายตาจับจ้องมองไปที่สาวร่างเล็ก เขากำลังหลงใหลในเสน่ห์ของเธอ สมัยนี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนมานั่งร้อยมาลัยแบบนารี เพราะยังไงซื้อเอาก็สะดวกดีกว่ากันตั้งเยอะ ไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วย
"คุณพูดแล้วนะว่าจะไป ไม่ว่านานแค่ไหนลูเซียก็จะรอ" ลูเซียไม่พูดเปล่า มือของเธอเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ค่อยๆ ลูบลงไปที่ต้นแขนของอาร์มันโด้ เมื่อหล่อนนั้นกำลังคิดว่าชายตรงหน้ามีใจให้
"คุณลูเซีย คิดว่าผมควรไปไหมล่ะครับ หืม.." อาร์มันโด้ยังคงเล่นละครบทนี้ต่อ เมื่อเขานั้นต้องการแต่งงานกับนารี ถ้าหากเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ก็จะต้องรับมือกับผู้หญิงของเขาให้ได้ นั่นคือความต้องการของผู้ชายอย่างอาร์มันโด้ ที่เวลานี้เขากำลังใช้สมองสั่งการมากกว่าหัวใจ
"ลูเซียยินดีให้บริการค่ะ" หล่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียง ที่สื่อถึงเรื่องบนเตียงอย่างชัดเจน จนนารีรู้สึกสะอิดสะเอียน กับคำพูดและการกระทำของชายหญิงคู่นี้ เธอจึงตัดสินใจหยิบพวงมาลัยที่ร้อยเสร็จแล้วหนึ่งพวงลงในพาน ก่อนจะใช้มืออีกข้างถือเข็มที่ร้อยมาลัยค้างไว้ยังไม่เสร็จขึ้นมา
"จะไปไหน" อาร์มันโด้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ