ด้านคฤหาสน์หลังใหญ่ มังกรกัณฐ์มองเจณิสา ภรรยาตัวเองกับลูกชายที่นั่งกินขนมกันอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วก็ส่ายหน้า เวลาผ่านมานาน ภรรยาคนสวยก็ยังสวยงดงามดั่งเช่นครั้งแรกที่เจอกัน แม้อายุของเจณิสาจะมากแล้ว แต่ผิวพรรณยังคงผุดผ่องสวยงามเหมือนสาวแรกแย้ม ทรวดทรงองค์เอวก็ยั่วยวนเหมือนเช่นเดิม หลังจากเจณิสาคลอดลูก เขาก็ทำพิธีแบ่งชีวิตให้ภรรยาเพื่อจะอยู่ด้วยกันตลอดกาล
“ผมชักสงสัยแล้วสิว่าผมมีลูกชายคนเดียวหรือมีสองคนเจณิสา”
มังกรกัณฐ์เอ่ยขึ้นเมื่อภรรยาและลูกชายแย่งขนมกันทานเล่น
“แล้วคุณคิดว่าไงคะคุณมังกรกัณฐ์” เธอปล่อยมือจากขนมตรงหน้ามาถามสามีกลับ
“ผมว่าผมมีลูกสองคน คุณกับตรีศูล”
มังกรกัณฐ์ตอบภรรยาและมองหน้าลูกชายคนเดียวของตัวเอง ในตอนแรกอยากมีลูกสาวเพิ่มอีกคน แต่ตอนเจณิสาคลอดตรีศูลกว่าจะคลอดเจ็บท้องคลอดสามวันสามคืนและเขาไม่ปรารถนาจะเห็นความเจ็บปวดของเธออีกครั้งจึงมีแค่ตรีศูลคนเดียวแม้จะอยากมีลูกสาวมากก็ตาม แต่ยังโชคดีที่มีเดหลีเข้ามาเติมเต็มความฝันอยากมีลูกสาวให้ตัวเอง เขากับภรรยาและพ่อกับแม่เลี้ยงเดหลีน้อยตั้งแต่แบเบาะ และเดหลีกับตรีศูลก็มาพร้อมกัน ทั้งสองเปรียบเหมือนพี่น้องกันแม้จะต่างสายเลือดต่างเผ่าพันธุ์กัน
“สามค่ะ รวมเดหลีด้วยอีกคน” เจณิสาส่งยิ้มให้สามี
“พี่เดหลีก็กลับมาแล้วนะครับพ่อ แม่” ตรีศูลเอ่ยบอกพ่อกับแม่
“อือ...ทุกอย่างเป็นโชคชะตาที่เดหลีเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าลุงพาทีจะอยากผลักไสก็ตาม” มังกรกัณฐ์เอ่ย
“ตรีศูลไม่เข้าใจ ทำไมปู่พาทีถึงไม่อยากให้พี่เดหลีกลับมาอยู่ด้วย ที่บ้านเรา ที่โรงงานเรา ฟาร์มเรามีงานเยอะแยะที่รอพี่เดหลีมาช่วย” คนที่เก่งเกินอายุเอ่ยอย่างสงสัย ปีนี้ตรีศูลอายุยี่สิบเอ็ดปี แต่ก็เรียนจบปริญญาตรีตั้งแต่อายุยี่สิบปี
“ตรีศูลก็รู้ว่าปู่พาทีกับหนูเดหลีแตกต่างกันยังไง เดหลีเป็นมนุษย์ ปู่พาทีของลูกเป็นยักษ์” เจณิสาเอ่ย
“แล้วยังไงครับ ขนาดแม่ณิสากับย่าน้องยังรักปู่นาสูรกับรักพ่อได้เลย แล้วทำไมพี่เดหลีจะอยู่กับปู่พาทีไม่ได้”
ตรีศูลพอจะรู้เรื่องชะตาของทั้งสองจากพ่อและปู่ของตัวเองเล่าให้ฟังมาบ้าง
“มันไม่เหมือนกันตรีศูล ตลอดเวลาเกือบหนึ่งพันปีที่ปู่พาทีของลูกมีชีวิตอยู่ เขาไม่เคยมีชีวิตเพื่อตัวเองเลยสักครั้ง ชีวิตที่ผ่านมาของเขาทุ่มเทเพื่อพ่อกับปู่ของลูกมาตลอด แต่พอเป็นเรื่องของตัวเอง ปู่พาทีของลูกก็คิดไม่ตกว่าควรจะเดินตามชะตากำหนดหรือหนีโชคชะตาของตัวเอง” มังกรกัณฐ์เอ่ยบอกลูกชาย
“คืนนี้ผมจะไปค้างที่เขากับปู่นาสูรและย่าน้องนะครับ” พูดจบหนุ่มเลือดผสมก็หายตัวไปจากห้องนั่งเล่น ไม่รอให้พ่อกับแม่ตอบ
“ดูลูกชายคุณมังกรกัณฐ์สิคะ” เจณิสาส่ายหน้าให้กับความคิดเร็วทำเร็วของลูกชาย
“ไม่ใช่ของผมคนเดียวสักหน่อย เนี่ยก็เริ่มดึกแล้ว เราขึ้นห้องกันเถอะเจณิสา” มังกรกัณฐ์เอ่ยส่งสายตาหวานกรุ้มกริ่มอย่างมีความหมายให้ภรรยาและเจณิสาก็ก้มหน้าแดงอายหนีสายตากระหายของสามี
“ไปกันเถอะทูนหัว” แล้วเขาก็ตวัดมือครั้งเดียว เขาและภรรยาคนสวยก็มาอยู่บนห้องนอนส่วนตัวเรียบร้อย
ด้านคนน้อยเนื้อต่ำใจก็เดินลากกระเป๋าออกมาจากฟาร์มเรื่อยๆ ไม่สนใจว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว เธอเดินลากกระเป๋าเดินทางไปตามริมถนนเรื่อยๆ ทั้งน้ำตา และเหมือนฟ้าไม่เข้าข้างเธอ อยู่ๆ ฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะตกก็กระหน่ำมาอย่างรุนแรงจนต้องรีบวิ่งไปหลบใต้ต้นไม้ใหญ่
“คนใจร้าย! ใจร้าย! คุณพาทีไม่เคยแคร์เดหลีเลยใช่ไหมคะ อึก!”
เธอบ่นพึมพำตัดพ้อเจ้าชีวิตตัวเองและเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอเฝ้ามองมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก จะว่าแก่แดดก็ว่าได้ หัวใจและร่างกายนี้ของเธอมันพร้อมจะเป็นของเขามาตลอดและมีแค่เขาเท่านั้นที่จะได้ครอบครองมัน
เปรี้ยง! ซ่า!
เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังไปทั่วพร้อมกับฝนที่ตกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเนื้อตัวของเธอก็เปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำก็ไม่ปานในตอนนี้
ฮือๆๆ
“คนใจร้าย! คุณพาทีใจร้าย!”
เธอร้องตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าเสียงฝนแล้วยกมือปาดเช็ดน้ำตากับน้ำฝนที่ไหลเข้าตาตัวเองออกด้วยความเสียใจ
ด้านพาทีก็ยืนมองไปนอกระเบียงกระจกของห้องที่ตอนนี้ฝนกระหน่ำรุนแรง เขามองภาพที่สะท้อนในกระจกเป็นภาพของเดหลีที่กำลังตะโกนตัดพ้อเขาแข่งกับเสียงฝน
“เป็นแบบนี้ดีแล้วพาที”
เขาพึมพำกับตัวเองแล้วตวัดมือไล่ภาพตรงหน้าทิ้งแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำนอน ให้เด็กน้อยเจ็บปวดจากตนและตัดใจจากตนตอนนี้ดีกว่าปล่อยให้เดหลีถลำลึกไปมากกว่านี้ ไม่ใช่มองและอ่านใจของสาวน้อยไม่ออก เขารู้มาตลอดว่าเดหลีคิดเช่นไรกับตนเอง แต่เป็นตัวเขาเองที่ไม่สามารถจะทำเช่นนั้นกับเด็กที่ตัวเองเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะได้