ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยา โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป
“ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไม่วางใจได้
“ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน”
“พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย”
“ครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ”
ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง
“พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยน่ะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางครั้ง”ไอโซนัทมีสีหน้าที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ารู้สึกน้อยใจอย่างนั้นจริงๆ
“พี่นัทก็อย่าคิดอะไรมากเลย วันนี้ฟีฟ่าก็มากับพี่นัทแล้วนี่ครับ”
“มันไม่เหมือนกัน ฟีฟ่าไปเที่ยวกับคนอื่นแต่มากับพี่แค่กินข้าว และมีเวลาไม่มากด้วย พี่เลยอดน้อยในไม่ได้ไง”
“ต่อไปนี่ฟีฟ่าจะมีเวลาให้พี่นัทให้มากขึ้น”ฟีฟ่าพูดไปไม่ทันได้คิด
“จริงนะ อย่าโกหกพี่นะ”
“ครับ”
เมื่ออาหารมาถึงฟีฟ่าก็รีบกินอย่างเร่งรีบ เพราะมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เขาได้ออกมากินข้าวนอกมหาวิทยาลัย ด้วยความกลัวว่าจะกลับเข้าไปทำงานไม่ทันเวลา
“ไม่ต้องรีบกินก็ได้”ไอโซนัทเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นฟีฟ่าเร่งรีบกินข้าว
“ฟีฟ่าต้องรีบ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วใกล้เวลาทำงาน”
“พี่อยากอยู่กับฟีฟ่านานๆจังเลย เอาแบบนี้ไปทำงานกับพี่ไหม เป็นเลขาหรือไม่ก็ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เดี๋ยวพี่หาตำแหน่งที่เหมาะสมกับน้องฟีฟ่าให้”
“คือ”ฟีฟ่าหยุดกินข้าวกะทันหันทันที เพราะเขาไม่คาดคิดมาก่อนแล้วจะถูกไอโซนัทชวนไปทำงาน
“ฟีฟ่าไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการบริหารงานเลย วันๆฟีฟ่าอยู่แต่กับห้องสมุดมีหนังสือเป็นเพื่อน”
“ความจริงนะ ชีวิตคนเราควรหาอะไรทำที่หลากหลาย ฟีฟ่าอาจเจอในสิ่งที่ใช่ก็ได้”
“เหรอ”
“ฟีฟ่าไม่อยากทำอะไรที่มันแตกต่างจากเดิมบ้างเหรอ ชีวิตจะได้มีสีสันและอีกอย่างมีพี่เป็นคนคอยดูอยู่ใกล้ชิดไม่ต้องห่วงหรอก พี่จะสอนงานให้ฟีฟ่าทุกอย่างเลย”
“ฟีฟ่าไม่กล้าทำอย่างอื่นหรอกครับ”
“ถ้างั้นฝากให้ฟีฟ่าคิดไว้ก็แล้วกันเนาะ เอ่อพี่มีทริปไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว ฟีฟ่าสนใจจะไปกับพี่ไหม”
“อ่ะ”ฟีฟ่าหยุดนิ่งเพราะเขาก็เคยคิดไว้ว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน ยิ่งฟีฟ่าได้ยินพ่อของเขาเล่าบ่อยๆตอนไปแข่งกีฬาที่ต่างประเทศ
“ก็อยากนะ แต่ขอคิดดูก่อน”
“คิดดูก่อนอีกแล้ว ถ้างั้นถ้าพี่เตรียมอะไรเรียบร้อยแล้วพี่จะถามฟีฟ่าอีกครั้งก็แล้วกันนะ
“ครับ”
ฟีฟ่าและไอโซนัทต่างเร่งรีบกินข้าวเพื่อจะได้กลับไปทำงาน ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานทั้งคู่กินพออิ่ม หลังจากนั้นไอโซนัทก็มาส่งฟีฟ่าหน้าหาวิทยาลัย
เมื่อฟีฟ่าเข้าไปในห้องสมุดได้เวลาเข้างานพอดี ซึ่งก็เห็นเจมี่ทำงานงานอย่างขะมักเขม้น เขาจึงรีบเดินไปหาเจมี่ทันที
“นักศึกษาเยอะมากเลยวันนี้”ฟีฟ่ารีบลงมือช่วยเจมมี่ทำงานทันที
“จะสอบแล้วไงเป็นปกตินี่”เจมี่เอ่ยขึ้นลอยๆ
“ใช่ ฟีฟ่าลืมไปเลย”
“แหม มีหนุ่มแวะเวียนมาหาตลอดจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างเลยนะ”เจมี่หันมายิ้มให้ฟีฟ่า
“พี่ก็ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
“ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็ตั้งสามคนนี่”
“ไม่พูดกับพี่แล้ว”ฟีฟ่าหันหน้าไปทางนักศึกษาที่มาใหม่
ซึ่งนักศึกษาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไนท์นักศึกษาและนักกีฬาข้างบ้านเขานั่นเอง เมื่อฟีฟ่าสบตาไนท์แวบหนึ่ง เขาต้องรีบหลบตาทันที แต่ไนท์ก็ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า
“เมื่อกี้ผมเห็นนะว่าพี่ออกไปข้างนอกและกลับมากับใคร”
ฟีฟ่าหันไปมองหน้าไนท์แวบหนึ่งด้วยสายตาปรามห้ามพูดอีก แต่ดูเหมือนไนท์จะไม่สนใจสายตาที่ฟีฟ่ามองอย่างตักเตือน
“ผมมันเด็กไม่มีอะไรนี่”ไนท์ซ้อนสายตามองฟีฟ่า
แต่ฟีฟ่าแกล้งทำเป็นไม่สนใจ และหันเหความสนใจไปในงานที่ทำ จนไนท์ยืนนิ่งมองด้วยเวลาไม่นานนัก เขาก็ต้องหยุดการกระทำทุกอย่าง เมื่อมีเสียงดังมาจากด้านหลังของเขา
“ถ้าเสร็จก็ออกไปได้แล้ว คนอื่นเขาก็รีบเหมือนกัน อย่าถือว่าเป็นกีฬาทีมชาติแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ”เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง
“ขอโทษด้วยนะ”ไนท์รีบหันหลังหลังและขอโทษนักศึกษาหนุ่มที่มีสีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน
ไนท์ถอยห่างออกมาและจ้องมองฟีฟ่าชั่วครู่และรีบเดินจากไป ส่วนฟีฟ่าเหลือบสายตามองเพียงครั้งเดียวและทำงานต่ออย่างสบายใจจนหมดเวลางาน
“เมื่อกลางวันไปกินข้าวกับพี่นัทเป็นไงบ้าง”เจมี่เอ่ยถามพร้อมเก็บของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋า
“ก็ไม่มีอะไรนี่ กินข้าวตามปกติดี”
“เหรอ พี่นัทได้ชวนไปเที่ยวไหนบ้างไหม”
“ไม่ได้ชวนไปไหนหรอก อ่อมีแต่ชวนไปต่างประเทศ”
“แล้วจะไปไหมล่ะ”
“ไม่รู้เลย”
“น่าจะไปนะ เพราะจะปิดเทอมแล้วมีเวลาหยุดหลายวันอยู่ด้วยนี่”
ฟีฟ่าหยุดคิดชั่วครู่ เพราะคำพูดของเจมมี่นั้นเป็นความจริง ในเมื่อหยุดหลายวันซึ่งน่าที่จะไปพักผ่อน
“สนใจใช่ไหมล่ะ”
“ยังไม่รู้”
“ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ยังมีเวลาคิดอีกหลายวันนี่ใช่ไหม”
ฟีฟ่านั้นก็ยังมีความคิดที่อยากไปอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ส่วนเจมี่ก็ยืนมองฟีฟ่า เพราะอยากทราบความคิดของฟีฟ่า ถ้าเมื่อเขารู้ความคิดของฟีฟ่าแล้ว เจมมี่จะไปบอกให้ไอโซนัททราบทันที ด้วยที่เจมีอยากให้ฟีฟ่าได้พบเจอคนดีๆอย่างไอโซนัท
“ใช่”ฟีฟ่าหันมายิ้มให้เจมี่
“ถ้างั้นเราไปกันเถอะ”เจมมี่ยิ้มกลับ
ทั้งสองได้เดินออกจากห้องสมุดและต่างไปยังรถของตัวเอง ในระหว่างทางนั้นฟีฟ่าได้เจอไนท์ที่มาดักรออยู่หน้ารถของเขา
“อ้าว จะกลับพร้อมพี่ใช่ไหม”
“เปล่า วันนี่ผมต้องซ้อม เพราะใกล้ช่วงคัดเลือกตัวทีมชาติแล้วครับ”
“มีอะไรหรือเปล่ามารอพี่ที่นี่”
“ผมรักพี่ฟีฟ่านะ”ไนท์พูดออกมาด้วยเสียงที่ดังพอประมาณ แต่เขาดูแล้วว่าแถวนั้นไม่มีใครไนท์จึงพูดออกมา
“มาพูดอะไรตรงนี้”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ตกใจพอสมควร
“ผมจะบอกกับพี่ฟีฟ่าบ่อยๆ เพราะผมไม่ไว้ใจพี่ฟีฟ่า ดูแล้วช่วงนี้ผมเสียเปรียบเยอะ”สาเหตุที่ไนท์พูดเช่นนี้เพราะเขาจะไม่ค่อยมีเวลามาอยู่กับฟีฟ่าเท่าไรนัก
“ถ้าไม่มีอะไรพี่กลับแล้วนะ”
“ครับ อย่าลืมคิดถึงผมทุกคืนนะ เดี๋ยวคืนนี้ผมจะส่งรูปตอนว่ายน้ำไปให้ดู”
“ใครเขาดูล่ะ”
ฟีฟ่าเริ่มหน้าแดงเขาจึงรีบขึ้นรถไปในทันทีด้วยความอาย ส่วนไนท์ยืนมองฟีฟ่าเข้าไปในรถด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย เพราะเขากลัวจะพลาดท่าเสียฟีฟ่าให้กับไอโซหนุ่มกับช่างยนต์หน้าปากซอย