วันจันทร์ต้นสัปดาห์ฟีฟ่ามาทำงานอย่างเช่นเคย หน้าที่ของฟีฟ่าคอยรับคืนหนังสือต่างๆ ที่บรรดานักศึกษาวนเวียนมาทั้งวัน ไม่เว้นแม้แต่เวลาเที่ยงวันซึ่งเป็นเวลากินข้าว ในส่วนของฟีฟ่านั้นไม่ต้องลงไปกินที่โรงอาหาร เพราะแม่ของฟีฟ่าได้จัดอาหารการกินมาพร้อมทุกวัน ฟีฟ่าจึงมานั่งกินในห้องเล็กๆสำหรับเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์
“กินม่วนเชียว”เจมี่ทัก เมื่อเขากินข้าวนอกมหาวิทยาลัยกับแฟนหนุ่มเสร็จ และกลับเข้ามาในห้องสมุด
“กินด้วยกันไหมพี่ วันนี้มีผัดกระเพาปลาหมึกไข่ดาว มีมะม่วงเปรียวจิ้มพริกเกลือด้วย แก้ง่วงนอนเป็นอย่างดี พี่เจมี่แกะกินเลย”
“พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ ช่วงบายชอบง่วงนอนอยู่ด้วย”
“เอาเลยเดี๋ยวฟีฟ่ากินตามทีหลัง”
“เมื่อคืนก่อนพี่นัทเป็นไงบ้าง”เจมี่ถาม
“ปากหวาน”
“แหม ไม่ชอบเหรอปากหวานน่ะ”
“ยังไม่รู้เลยตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไร”ฟีฟ่ายังก้มหน้ากินข้าวต่อไปอีก ทั้งๆที่ใจก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน
“แล้วทำไมไม่บอกเบอร์โทรพี่นัทไปล่ะ ให้มาถามพวกพี่อยู่ได้”
“ถ้าให้ไปก็เหมือนง่าย ถ้าไม่บอกให้เอาเบอร์พี่ก็เหมือนหยิ่ง แบบนี้แหละแฟร์ดี”
“ฉลาดพูดเนาะ”
“อิ่มแหละ กินมะม่วงต่อดีกว่า”
“มะม่วงฟีฟ่ามันก็หายง่วงนะ แต่อาจท้องเสียแทนน่ะซิ”เจมี่พูดขึ้นแต่เขาก็ยังกินเหมือนกัน
“ก็ดีท้องผูกมาหลายวันแล้ว”
“พวกเราท้องผูกไม่ดีนะ”เจมี่หัวเราะ
“จริงด้วยพี่แบบนี้ต้องกินเยอะๆ”ฟีฟ่าหัวเราะตาม
“ไปเหอะได้เวลาทำงาน”เจมี่เอ่ยขึ้น
“พี่ไปก่อนเถอะเดี๋ยวฟีฟ่าดื่มน้ำก่อน เก็บถ้วยชามไปล้างก่อน”
ฟีฟ่ารีบดื่มน้ำและเก็บถ้วยชามล้างคว่ำไว้ที่เดิม หลังจากนั้นเขารีบไปที่เค้าท์เตอร์ทันที เพื่อที่จะรับคืนหนังสือ
“หวัดดีครับพี่ฟีฟ่า”ไนท์ยืนหน้าเค้าท์เตอร์ยิ้มให้ฟีฟ่า
“ไม่ไปเรียนเหรอมาเตร็ดเตร่แถวห้องสมุด”
“ไม่มีเรียนแล้วครับ ที่มานี่ก็อยากเห็นหน้าพี่ฟีฟ่าตอนทำงาน จะน่ารักเหมือนตอนอยู่ที่บ้านหรือเปล่า”
“วันนี้มาแปลกจัง ไม่พูดกวนพี่เหมือนเมื่อวาน”ฟีฟ่าเงยหน้ามองไนท์นักศึกษาหนุ่ม
“ผมมีเรื่องานให้พี่ช่วยหน่อยน่ะครับ”
“ว่าแล้วเชียว แต่พี่ไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น จะมาช่วยเหลือคนอื่นหรอก”
“ผมคนอื่นที่ไหนล่ะ คนข้างบ้านพี่ฟีฟ่านี่ มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันซิ”
“เล่นพูดอย่างนี้เลยเหรอ ลองว่ามามีอะไรให้พี่ช่วย”
“หาหนังสือให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”
“ทำไมไม่หาเองล่ะ”
“ไม่มีเวลาเลยครับ ผมต้องไปประชุมที่สมาคมว่ายน้ำ จะมาหาหนังสือก็ไม่ทัน ก็เลยอยากรบกวนพี่ซักหน่อย ถ้าพี่ไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมหาเองก็ได้แต่มันช้า อาจจะไปประชุมไม่ทัน โค้ชอาจโดนตำหนิก็ได้นะ”
“จะมาตำหนิอะไรโค้ช ต้องตัวนักกีฬานั่นแหละสมควรโดนตำหนิ”
“โค้ชกับนักกีฬาถ้าโดนตำหนิก็โดนพร้อมกันนั่นแหละ”
ฟีฟ่านั่งคิดไปพร้อมกับรับคืนหนังสือให้กับนักศึกษา แถมยังมีไนท์มากวนสมาธิอีก ตรงนี้นี่แหละที่ฟีฟ่าก็กลัวตัวเองโดนตำหนิเหมือนกัน
“ก็ได้ เขียนรายชื่อหนังสือมา”ฟีฟ่าไม่อยากมีปัญหาหลายทางเขาจึงตัดปัญหานี้ รับปากไนท์ เพราะว่าไนท์จะได้ไม่มารบกวนในเวลางานอีก
“ขอบคุณพี่ฟีฟ่ามากนะครับ เดี๋ยวผมจะโพสต์รูปผมตอนใส่ชุดว่ายน้ำลงอีกนะครับ พี่จะได้ดูเพลินๆคนเดียวในห้องนอน”ไนท์ยิ้มหวานฉ่ำตรงหน้าฟีฟ่า
“มาพูดอะไรตรงนี้ ไปเลย เดี๋ยวใครมาได้ยินหาว่าพี่หื่น”
“หรือว่าไม่จริง”
“ยังไม่ไปอีกเดี๋ยวไม่หาให้เลยนะ”
“ครับพี่ ผมไปแล้วนะ เจอกันที่บ้านนครับ”
“คนอะไรกวนประสาท”ฟีฟ่าบ่นพีมพัม
“ใครน่ะ ดูสนิทกันมาก ที่ไม่ยอมให้เบอร์พี่นัทก็เพราะนักศึกษาคนนี้หรือเปล่า อย่าบอกนะว่าชอบกินเด็ก”เจมี่ยืนพูดข้างๆฟีฟ่า
“ไม่ใช่หรอกพี่ พ่อของฟีฟ่าเป็นโค้ชให้กับน้องเขา พ่อเลยให้มาอยู่ที่ข้างบ้าน”
“ถ้างั้นแล้วไป อย่างนี้พี่นัทก็มีสิทธิ์ใช่ไหม”
“ต้องถามพ่อฟีฟ่าก่อน”
“ไม่ต้องถามหรอกของอย่างนี้อยู่ที่ตัวเราไม่ใช่เหรอ ฟีฟ่าจะทำตามใจพ่อทุกอย่างเลย แล้วจะมีความสุขได้ไง”
“มีสิ ฟีฟ่ามีความสุขดีทุกอย่างเลยพี่”
“เอาที่สบายใจ ตามใจฟีฟ่าก็แล้วกัน แต่พี่ฝากพี่นัทไว้ในอ้อมกายอ้อมใจของฟีฟ่าด้วยนะ”
“คิดดูก่อน”ฟีฟ่าพูดไปยิ้มไปเพราะเขาก็มีใจเอียงเอนมาทางไอโซนัทพอสมควร แต่ก็ยังสงวนท่าทีและกลัวพ่อของเขารู้ เพราะถ้ารู้ความจริงเรื่องใหญ่แน่นอน
ใกล้เวลาเลิกงานฟีฟ่าก็ค้นหนังสือ ที่ไนท์ให้รายชื่อไว้ เมื่อหาจนครบฟีฟ่าจึงรีบกลับไปที่บ้านทันที โดยขึ้นแท็กซี่และได้ผ่านอู่ซ่อมรถของกัน ฟีฟ่าเลยให้แท็กซี่จอด เพื่อสอบถามว่าซ่อมเสร็จหรือยัง แต่ฟีฟ่ายังไม่ได้ถามหรือว่าพูดอะไรเลย เพียงแค่เดินมาที่หน้าอู่ซ่อมรถ กันนั้นได้เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“ถ้าเสร็จแล้วจะโทรไปบอก เสียเวลามึงเปล่าๆที่มาดูทุกวัน หรือว่าที่กูคิดไว้เป็นความจริง มึงไม่ได้มาดูรถแต่มาดูกูมากกว่า”
“ช่าง หลงตัวเองเกินไปหน่อยมั้ง”
“กูอาจหลงตัวเอง แต่มึงหลงกูแน่ๆไอ้ฟีฟ่า”
“หล่อตายชักเลย”ฟีฟ่าพูด
“น่ารักตายห่าเลย”กันพูดตาม
“ไอ้บ้า”พอฟีฟ่าด่าเสร็จรีบเดินไปขึ้นรถทันที
ฟีฟ่ารู้สึกหงุดหงิดทุกทีที่เจอช่างกัน ที่หลงตัวเองหาว่าเขาชอบ ฟีฟ่านั่งหน้าบูดหน้าบึ่งจนมาถึงหน้าบ้านของเขา เมื่อฟีฟ่าลงจากรถแท็กซี่เขาก็เข้าไปในบ้านของไนท์ เพื่อที่จะเอาหนังสือไปให้ ฟีฟ่าเดินอย่างเร่งรีบเพราะจะได้รีบกลับไปที่บ้านของเขา ฟีฟ่าเดินไปถึงที่สระว่ายน้ำเขาก็วางหนังสือลงไว้บนโต๊ะ แล้วยีนมองไนท์ว่ายน้ำท่ากรรเชียง ฟีฟ่ายืนดูจนไนท์ว่ายมาถึงขอบสระที่เขายืนอยู่
“เอาหนังสือมาให้แล้วนะ”
“อะไรนะ”ไนท์แกล้งไม่ได้ยิน
“เอาหนังสือมาให้แล้วนะ”
“อะไรนะไม่ได้ยิน ยืนคุยอย่างนั้นผมไม่ได้ยิน พี่ฟีฟ่านั่งลงก่อนซิ”ไนท์อยู่ในน้ำในท่าเกาะขอบสระ
“เรื่องมากจริงเลยทั้งโค้ชทั้งนักกีฬา”ฟีฟ่าจึงนั่งยองๆข้างขอบสระ
“ว่าพ่อตัวเองด้วยเหรอ”ไนท์ยิ้มตาใสแวววาว
“มันเรื่องจริงไม่ได้ว่าซักหน่อย ที่พี่มาเนี่ย เอาหนังสือมาให้วางอยู่บนโต๊ะโน้น”
“ขอบคุณพี่ฟีฟ่ามากเลยครับ ผมจะตอบแทนพี่อย่างไงดีบอกผมได้นะครับ”
“ไม่ต้องหรอก ที่ช่วยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอะไร”
“แต่คนได้รับก็ต้องตอบแทนใช่ไหมครับ”ไนท์ดันตัวขึ้นเหนือขอบสระและหันตัวนั่งลงกับพื้นสระ และห้อยขาลงในสระน้ำ
“แค่นี้แหละพี่ไปแล้วนะ”
“เดี่ยวก่อนซิ”
“อะไร”ฟีฟ่าหันมามองหน้า
“ไม่ต้องมองหน้าก็ได้อยากมองตรงไหนก็มองได้เลย ถือว่าตอบแทนพี่ก็แล้วกัน”
“คุยกันก็ต้องมองหน้าซิ ไม่ให้มองหน้าจะมองอะไรล่ะ”
“แล้วแต่พี่ก็แล้วกันอยากมองอะไร มองตรงไหนก็คุยกันได้ทั้งนั้นแหละ เพราะใช้หูฟังกับปากที่พูด ไมได้ใช้สายตาพูดนี่”
“ที่เรียกให้พี่อยู่ต่อเนี่ยมีอะไรหรือเปล่า จะพูดอะไรก็พูดไปอย่าไร้สาระ”
“ผมอยู่คนเดียวมันเหงา พอได้คุยกับพี่ก็คลายเหงาได้เยอะเลย”
“ที่คลายเหงาน่ะ พูดจาแซวแกล้งพี่มากกว่ามั้ง ไม่เคยพูดกับพี่ดีๆเป็นเรื่องเป็นราวเลย”
“ก็แกล้งพี่สนุกดี เวลาพี่โกรธนี่น่ารักเป็นบ้าเลย”ไนท์หันมามองหน้าฟีฟ่าที่นิ่งเฉย
“น่ารักเฉยๆไมได้เหรอทำไมต้องเป็นบ้าด้วย”
“ก็บ้ารักไง”
“แล้วไปบ้ารักใครล่ะ”
“คนแถวนี้มั้ง”
“ไม่เห็นมีเลย”ฟีฟ่ามองไปรอบๆบริเวณบ้าน
“ก็พี่ไง”
“อึ๊ย พูดไปเรื่อย”
“รู้อีกว่าผมพูดเล่น”ไนท์หัวเราะ
“เพลี้ยะ”
เมื่อฟีฟ่าตีไปที่แผ่นหลังของไนท์แล้วเขาก็รีบลุกขึ้นทันที ส่วนไนท์รีบจับมือของฟีฟ่าไว้ เพราะเขายังอยากคุยกับฟีฟ่าต่อ ด้วยความเป็นนักกีฬาแรงของไนท์จึงเยอะ เขาดึงมือของฟีฟ่าค่อนข้างแรง จนร่างฟีฟ่าเซล่นลงไปในน้ำ และจมลงดิ่งก้นสระฟีฟ่าได้สติจึงทะยานตัวขึ้นมา
ส่วนไนท์นั้นก็ตกใจกระโดดลงในสระ เพื่อไปคว้าร่างของฟีฟ่าที่กำลังดันร่างตัวเองสู่เหนือน้ำ ไนท์โอบกอดร่างของฟีฟ่าไว้ใต้วงแขน ส่วนฟีฟ่าก็ได้สัมผัสเรือนร่างแข็งแน่นที่โอบกอดเขาอยู่
“ปล่อย ไม่ต้องมากอดพี่ คนฉวยโอกาส พี่เปียกหมดแล้วเห็นไหมเนี่ย”
“ขอกอดอีกนิดได้ไหมตัวพี่นิ่มจังเลย”ไนท์รัดวงแขนให้แน่นไปอีก จนเนื้อกายของไนท์สัมผัสร่างของฟีฟ่า
“ปล่อยนะ ไอ้นั่นมันมาโดนพี่”ฟีฟ่าสลัดร่างของไนท์ให้หลุด แต่ยิ่งสลัดกับยิ่งแน่นยิ่งขึ้น จนฟีฟ่ายืนนิ่งเฉย
“ทำไมไม่ดิ้นแล้วล่ะ หรือว่าติดใจ”
“ก็ไม่ปล่อยแล้วจะดิ้นทำไมเปลืองแรง”
“แบบนี้ไม่สนุกเลย”ไนท์คลายกอดฟีฟ่า
“ก็แค่นี่แหละ”ฟีฟ่าพยายามกระโดดขึ้นขอบสระ
“มา เดี๋ยวผมช่วย”ไนท์จับที่ก้นของฟีฟ่าและดันขึ้น
“มาจับก้อนพี่ทำไม”ฟีฟ่าเสียงดัง
“ถ้าไม่ให้จับก้นจะให้จับตรงไหนดันขึ้นล่ะพี่”
“พี่ขึ้นเองได้ไม่ต้องมายุ่ง”
ถึงแม้ฟีฟ่าจะขึ้นจากสระเองได้ แต่ไนท์ก็ดันก้นของฟีฟ่าขึ้นไปอยู่ดี เพราะเขาได้สัมผัสบั้นท้ายของฟีฟ่าแล้วรู้สึกคึกคัก เพราะบั้นท้ายของฟีฟ่าค่อนข้างนุ่มติดมือ
“เดี๋ยวพี่จะฟ้องพ่อว่าน้องไนท์แกล้งพี่”เมื่อฟีฟ่าขึ้นบนขอบสระได้แล้ว เขาก็ยืนขึ้นหันหน้ามาพูดกับไนท์ทันที
“ผมแกล้งตอนไหนและแกล้งอะไรลองบอกมาซิ”
“ก็ตอน”ฟีฟ่านึกไม่ออก พูดไม่ถูก
“อ่อ ผมนึกออกแล้วแกล้งตอนที่ผมกอดพี่ใช่ไหม จะบอกโค้ชก็ได้นะผมไม่ว่าอะไรหรอก ก็มันเรื่องจริงนี่ว่าผมได้กอดพี่”
“ปากดีนัก ฝากไว้ก่อนเถอะ”ฟีฟ่าหันหลังกลับเดินอย่างรีบเร่ง เพราะรู้สึกโกรธไนท์มาก และเขาไม่สามรถที่จะบอกพ่อของเขาเรื่องที่ไนท์กอดได้
ไนท์ยืนมองร่างของฟีฟ่าเดินก้าวเท้าสั้นๆ มีท่าทีโมโหกระฟัดกระเฟียด เดินดุกดิ๊กแขน
กวักแกว่งไปมา เดินออกจากบ้านเขาไป เมื่อสายตาไม่อาจมองเห็นฟีฟ่าได้ เขาจึงหงายหลังว่ายน้ำท่ากรรเชียงต่อไปอย่างอารมณ์ดี