เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี
ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ
ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที
“กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู”
“คือ เรา เอ่อ”
“อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก
“ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง
“ทำไม”
“เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง”
“น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า
มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย”
“ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง”
“ขอบใจนายมากนะที่เข้าใจเรา”
“ไม่ต้องขอบใจหรอก”
ฟีฟ่ามองหน้าช่างกันและอดสงสารไม่ได้ แต่ที่ฟีฟ่าปฏิเสธไปกับช่างกันนั้น เป็นเพราะว่านิสัยตรงข้ามกันสิ้นเชิง ถึงแม้การไปเที่ยวกับช่างกันครั้งก่อน ฟีฟ่าจะมีความสุขก็ตาม แต่เมื่อเขาคิดถ้าต้องมาอยู่ด้วยกันน่าจะเกิดความวุ่นวาย และต้องปรับตัวเขาหากันอย่างมาก ฟีฟาจึงตัดสินใจปฏิเสธความรักที่ช่างกันมอบให้
“มึงจะไปไหนก็ไป”ช่างกันยืนนิ่งๆ
ฟีฟ่าหลับตาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินไปยังรถของเขา ฟีฟ่าหันหน้ามายิ้มให้ช่างกัน แต่ไร้การยิ้มตอบฟีฟ่ารู้สึกใจเสียขึ้นมาทันที แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเข้าไปในรถและสตาร์ทรถออกไปอย่างเศร้าใจพอสมควร
เมื่อช่างกันทำใจได้พักหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจหยิบเป้สะพายที่หลัง และขับรถบิ๊กไบท์ออกไปอย่างซ้ำใจ โดยเปลื่ยนจุดมุ่งหมายไปยังกลุ่มเพื่อนบิ๊กไบท์ ที่เขาได้ปฏิเสธร่วมเดินทางในครั้งนี้ เพื่อที่จะไปเที่ยวกับฟีฟ่าแต่ก็ไม่เป็นดั่งหวัง
ฟีฟ่าได้เดินทางมาถึงในสนามบินเขาก็มองไปรอบๆ เพื่อหาไอโซนัทแต่ก็ยังหาไม่เจอ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียไอโซนัทดังมาจากด้านหลัง ฟีฟ่าจึงรีบหันหน้าไปหาไอโซนัททันที
“พี่ดีใจมากเลยที่น้องฟีฟ่าจะไปเที่ยวกับพี่”ไอโซนัทยิ้มอย่างเบิกกว้าง
“คือ”ฟีฟ่าก้มหน้าต่ำลงไม่กล้าพูดอะไร
“น้องฟีฟ่าเป็นอะไร”ไอโซนัทสงสัยในท่าทีของฟีฟ่า
“ฟีฟ่าจะมาส่งพี่นัทน่ะ”
“น้องฟีฟ่าไม่ไปกับพี่ด้วยเหรอ”
“ไม่ได้ไปด้วยครับ”
“ทำไม”ไอโซนัทตะลึงกับคำตอบที่ได้ยิน
“ฟีฟ่ารักพี่นัทเหมือนพี่ชายคนหนึ่งครับ”
“น้องฟีฟ่าตัดสินใจอีกครั้งก็ได้นะ พี่จะเลื่อนเที่ยวบินทันทีเลย เรากลับบ้านกันเถอะ”
“พี่นัทไปเที่ยวตามเดินเถอะครับ”
“ถ้าน้องฟีฟ่าไม่ไปพี่ก็ไม่ไป”
“พี่อย่าให้ฟีฟ่าลำบากใจซิครับ”
ไอโซนัทหยุดทุกอย่างเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก่อนหน้านี้เขาก็คิดอยู่แล้วว่าถ้าฟีฟ่าปฏิเสธ เขาจะยอมรับความจริงความเจ็บปวดทุกอย่าง แต่พอถึงเวลาขึ้นมาจริงๆเขาก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดไว้
“พี่ขอโทษ ถ้าพี่ทำให้น้องฟีฟ่าลำบากใจ”
“พี่นัท ฟีฟ่าขอโทษด้วยนะครับ”
“พี่เข้าใจ”
“ขอบคุณพี่นัทมากครับที่เข้าใจฟีฟ่า”
“ได้เวลาเช็ดอินแล้วนะ พี่เข้าไปข้างในก่อนนะ แต่พี่ก็ดีใจที่น้องฟีฟ่ายังมาส่งพี่ ไม่หนีหายไปไหน มีอะไรก็บอกพี่ตรงๆ”
“ครับพี่ชาย”
ไอโซพยักหน้าและหันหลังเดินเข้าไปในจุดเช็คอิน ฟีฟ่ารู้สึกใจหายเมื่อเห็นไอโซนัทค่อยๆเดินเข้าไปในจุดเช็ดอิน ในความรู้สึกและนึกคิดของฟีฟ่าที่ไม่เลือกไอโซนัท เพราะเขายังจำบรรดาเพื่อนๆของไอโซนัทได้อยู่ ซึ่งเขาก็รู้ตัวได้ว่าเข้ากับเพื่อนของไอโซนัทไม่ได้ ไหนจะพ่อแม่ญาติพี่น้องอีกหลายคน ซึงฟีฟ่าคิดว่าถ้าเขาได้เข้าไปสัมผัสตรงนั้นอีก คงไม่มีความสุขอย่างแน่นอน เขาจึงตัดสินไม่ไปกับไอโซนัท และข้อสำคัญฟีฟ่ารู้ใจตัวเองแล้วว่ารักใคร เมื่อฟีฟ่าได้สติกลับคืนมาเขาจึงรีบไปตามหาหัวใจตัวเอง
สายตาของฟีฟ่ามองไปรอบๆบริเวณสระว่ายน้ำทันที เพื่อมองหาใครสักคนที่กำลังรอเขาอยู่ ซึ่งผู้นั้นก็กำลังมองมาเหมือนกัน แล้วสายตาทั้งสองก็ปะทะกันพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใจของทั้งคู่ ฟีฟ่านั่งยิ้มแล้วโบกมือให้ไนท์ ในส่วนของไนท์มองแวบเดียวและรีบหันกลับเพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขัน
ฟีฟ่านั่งอยู่บนอัฒจรรย์อย่างอารมณ์สองทาง เขาหวังว่าไนท์จะประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะ และอีกใจหนึ่งฟีฟ่าตัดสินใจเลือกไนท์ เพราะค่ำคืนที่ผ่านมาเขามีความรู้สึกเอียงเอนมาทางไนท์มากกว่าคนอื่น และฟีฟ่าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เมื่อการแข่งขันจบสิ้นผลแข่งขัน ไนท์ผ่านคัดเลือกเข้าไปแข่งรายการซีเกมส์ ฟีฟ่านั่งยิ้มและมองไปยังไนท์ที่ในตอนนี้เขาไม่ได้มองมาทางฟีฟ่าเลย เพราะมีหลายคนต่างแสดงความยินดีกับเขามากมาย ทั้งหญิงชายหลายคนล้อมเขาจนฟีฟ่ามองไม่เห็นไนท์
บรรดาคนดูต่างทยอยออกจากสนามจนเกือบหมด แต่ฟีฟ่าก็ยังไม่เห็นไนท์เดินมาหาเขา แต่สิ่งที่ฟีฟ่าเห็นไนท์กำลังเก็บข้าวของเข้าไปในห้องแต่งตัว ซึ่งฟีฟ่าก็เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาก็อดน้อยใจไม่ได้เพราะฟีฟ่าอุตส่าห์ปฏิเสธสองหนุ่ม เพื่อมาดูไนท์แข่งว่ายน้ำ แต่เขากลับไม่มีเวลามาหา ฟีฟ่าเริ่มหน้าบึ่งอารมณ์ครุ่นเคือง เขาจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากสนาม พร้อมขับรถออกไปในทันที ฟีฟ่ายังไม่อยากกลับบ้านเขาจึงขับรถไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกหิวเขาจึงไปกินข้าวและเดินเล่นในห้างจนเย็นถึงกลับเข้ามาในบ้าน
เมื่อฟีฟ่าเข้ามาในบ้านเขาก็เห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ และสายตาทั้งสองก็จ้องมองเขาอย่างเขม็ง จนฟีฟ่าต้องหลบสายตาและกำลังจะนั่งลง
“ไม่ไปหาไนท์เหรอ”ยศผู้เป็นพ่อพูดขึ้น
“ไปหาทำไม”ฟีฟ่าแกล้งหันหน้าไปทางอื่น
“อ้าวสรุปลูกแม่ไม่เลือกใครซักคนเลย แม่ก็เข้าใจผิดนึกว่าลูกเลือกไนท์”
“แม่เข้าใจผิดแล้วแหละ”ฟีฟ่ายังหน้าบึ่งอยู่
“เหรอ”ยศอมยิ้ม
“ถ้างั้นก็ดี ลูกจะได้อยู่กับพ่อและแม่นานๆ”สินีเอ่ยขึ้น
“ครับ”
“ถ้าไม่ได้คิดอะไรก็ดีแล้ว แม่ทำกับข้าวให้ไนท์ไว้น่ะ เอาไปให้ไนท์ได้ไหม วันนี้คงเป็นสุดท้ายที่ไนท์จะอยู่บ้านเราแล้วด้วย”
“ฮ่ะ”ฟีฟ่าหันหน้าไปมองผู้เป็นแม่
“ใช่ พรุ่งนี้ไนท์ต้องไปเก็บตัวเตรียมแข่งซีเกมส์นี่”ยศเอ่ยขึ้น
“เหรอ”คำพูดกับความรู้สึกของหัวใจตอนในนี้ของฟีฟ่าต่างกันราวฟ้าดิน
“เอาข้าวไปไนท์เร็วๆเข้าป่านนี้หิวแย่แล้วมั้ง”
“ก็ได้ครับ”ฟีฟ่าหยิบปิ่นโตแล้วเดินไปยังบ้านที่ไนท์พักอยู่ โดยมีสายตาผู้เป็นพ่อและแม่มองตามและอมยิ้ม หลังจากนั้นหันหน้ามามองกันแล้วหัวเราะ
ฟีฟ่าเดินเข้าไปในบ้านพักของไนท์ เพียงเขาเปิดประตูเข้าไปก็เจอแต่เพียงความว่างเปล่า ฟีฟ่ามองไปรอบๆแล้วเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ใจของเขาคิดไปว่าไนท์นั้นคงยังไม่กลับหรือไม่ก็จากไปแล้ว ฟีฟ่าจึงนำปิ่นโตไปวางบนโต๊ะ แล้วเดินมองหาไนท์จนรอบแต่ก็ไม่เจอ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจเดินออกจากไป แต่ยังไม่ทันพ้นประตูเขาก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาโอบกอดจากด้านหลัง
“จะรีบไปไหน”
ฟีฟ่าพยายามแกะมือของไนท์ที่กอดเขาไว้แน่น พร้อมดิ้นร่างกายให้หลุดจากอ้อมกอด เพราะเขาคุ้นเคยเสียงของไนท์เป็นอย่างดี ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นไนท์
“ปล่อยพี่นะ”
“มาถึงที่แล้วจะปล่อยทำไม”
“พี่แค่เอาข้าวมาให้หมดหน้าที่ของพี่แล้ว”
“ยังไม่หมด” เมื่อไนท์พูดจบเขาก็หอมแก้มของฟีฟ่าทันที และเลื่อนลงมาไซร้ซอกคอของฟีฟ่า
“ปล่อยพี่นะ อย่ามาทำแบบนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ทำไมจะไม่เป็น เมื่อกลางวันพี่ยังไม่เชียร์ผมเลย แสดงว่าพี่ฟีฟ่าเลือกผมแล้วนี่ครับ”
“ใครบอก พี่ไปเชียร์พ่อพี่ต่างหาก”
“เหรอ แต่ผมยังจำรอยยิ้มที่พี่ส่งให้ผมก่อนแข่งได้เลยนะ”
“พี่ก็ยิ้มไปอย่างนั้นแหละ”
“แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น”
“อย่างมามะโน”
“ผมไม่ได้มะโน แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ยังไม่ได้พูดเรื่องที่พี่รับปากผมไว้เลย”
“รับปากอะไร”
“คนน่ารักลืมง่ายจังแบบนี้ต้องลงโทษ”ไนท์หอมแก้มฟีฟ่าอีกครั้ง
“จะหอมอะไรหนักหนาแก้มพี่ซ้ำไปหมดแล้ว”
“ไม่ใช่แก้มผมช่างมัน”
“เห็นแก่ตัว”
“ก็เหมือนพี่ฟีฟ่านั่นแหละ พี่ฟีฟ่าก็เห็นแก่ตัวด้วยเหมือนกัน”
“พี่เห็นแก่ตัวตอนไหน”
“ก็ตอนเมื่อกลางวันไง ทำไมพี่ฟีฟ่าไม่รอผมที่อัฒจันทร์ พอผมเปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกมาก็ไม่เห็นพี่แล้ว ผมจึงรีบกลับมาบ้านรอพี่ตั้งนานจนเย็น พี่ไปไหนมาหรือว่าไปหาช่างกันกับไอโซนัท”
“ไม่ต้องมาปากดี ตัวเองนั่นแหละ”ฟีฟ่ารู้สึกผิดนิดๆที่ไม่รอไนท์ เขาจึงยืนนิ่งๆไม่ดิ้นอย่างแต่ก่อน
“ไม่ต้องมาปากกับใจไม่ตรงกันหรอกครับ”
“ตัวเองนั่นแหละไม่ต้องมาโทษพี่”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น
“ก็ได้ครับผมผิด ถึงผมไม่รู้ว่าผิดอะไร ผมยอมรับผิดก็แล้วกัน เพราะผมอยากมีเวลาดีๆอยู่กับพี่นานๆ เพราะพรุ่งนี้ผมต้องไปเก็บตัว กว่าจะเจอพี่ตัวเป็นๆอีกนาน”
“น้องไนท์พูดอย่างกับพี่เป็นตัวอะไรอย่างนั้นนั่นแหละ”
“ก็เป็นตัวที่ผมรักไงครับ”
“ไม่ต้องมาปากหวานเลย”
“ก็ต้องหวานสิพี่ฟีฟ่าจะได้หลงผม”ไนท์กอดฟีฟ่าแน่นกว่าเดิมอีกเท่าตัว
“จะมายืนกอดกันอยู่อย่างนี้เหรอ”ฟีฟ่ารู้สึกเขินอายเขาจึงรีบเปลื่ยนเรื่องพูดทันที
“ถ้างั้นไปนอนกอดกันก็ได้ครับ”
“ทะลึ่ง”
“เอาล่ะผมไม่เถียงกับพี่แล้วแหละ แต่พี่ลืมสัญญาอะไรหรือเปล่าถ้าผมแข่งชนะ”
“ไม่ลืมหรอก แต่พรุ่งนี้จะไปเก็บตัวแล้วนี่ พี่จะพาไปเที่ยวหรือไปหารางวัลที่ไหนทันล่ะ”
“ใช่ ถ้างั้นเปลื่ยนเป็นตัวพี่ได้ไหม”
“จะเอาตัวพี่ไปทำอะไร”ฟีฟ่ารู้สึกอายนิดหน่อย
“พี่โตกว่าผมน่าจะรู้นะว่าจะเอาตัวพี่ไปทำอะไร”
“พี่ไม่รู้พี่ไม่เคย”
“ไม่เป็นไรถ้างั้นผมสอนให้พี่ฟีฟ่าก็แล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอก พี่จะกลับแล้ว”
“ผมยังไม่ให้กลับผมยังไม่รู้เลยทำไมพี่ถึงเลือกผมครับ”
“พี่ไม่ได้เลือกใครเลย”
ฟีฟ่าแกล้งพูดแล้วอมยิ้มนิดๆ เพราะเวลาที่เขาอยู่กับไนท์ ฟีฟ่ามีความสุข และเป็นตัวของตัวเอง ถึงไนท์จะอายุน้อยกว่าแต่สามารถเข้ากันได้ดี
“ผมไม่คิดเช่นนั้น เอาเป็นว่าผมคิดไปเองว่าพี่ฟีฟ่าเลือกผม แต่ผมมีเวลาไม่มากผมต้องขอมัดจำพี่ฟีฟ่าไว้ก่อน”
“มัดจำอะไร”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่สงสัย
“ก็อย่างนี้ไง”
ไนท์ปล่อยแขนออกและช้อนร่างของฟีฟ่าไว้ใต้วงแขน จึงทำให้สายตาทั้งสองประสานกันอย่างไม่ตั้งใจอีกครั้ง
“จะทำอะไรพี่”
“ทำอย่างคนที่เขารักทำไง”
“บ้า”ฟีฟ่าพูดจบหันหน้าไปทางอื่น
ไนท์ไม่พูดต่ออะไรอีกเลยเขาอุ้มร่างของฟีฟ่าเข้ามายังห้องนอน และวางลงบนเตียงอย่างนิ่มนวล
“มืดแล้วพี่จะกลับบ้าน”ฟีฟ่าพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่ไม่สำเร็จเพราะไนท์กดร่างไว้
“ขอมัดจำก่อนค่อยกลับได้ไหม”
“ไม่ได้”
“ไม่ได้ทำไมนอนนิ่งเลยล่ะ”
“น้องไนท์”ฟีฟ่าพูดเสียงดังขึ้นมา
ไนท์ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยเขาประกบปากของฟีฟ่าทันที จนฟีฟ่าไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก เขาจึงปล่อยตัวปล่อยใจตามแรงปรารถนาของตัวเองและไนท์ในค่ำคืนสุดท้ายก่อนที่ไนท์จะจากไปในที่แห่งนี้