โรมแรมงานแต่ง
ผมนอนข้างเธอขยับออกไปจากตัวเธอชิดเตียงอีกฝั่ง แต่เธอไม่ยอมปิดไฟนอนผมเองก็นอนไม่หลับถ้าไม่ปิดไฟสนิทจนหมด ซึ่งเธอก็ไม่ยอมให้ผมปิดไฟได้ง่ายๆ ผมจึงเอื้อมมือไปปิดเองแต่เธอก็ดึงมือผมออกจนเรายื้อแย่งกัน หน้าของผมชิดกับใบหน้าเธอทันทีจนผมต้องรีบก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้ริมฝีปากผมใกล้กับใบหน้าเธอเกินไป
พอผมก้มหน้าลงก็ดันไปเห็นหน้าอกของเธอที่มันล้นออกมานอกชุดนอนเต็ม 2 ตา
"อยากมีบ้างหรือไง..ถึงได้จ้องตาเขม็งแบบนั้น..?"
“ทุเรศ..”
ผมพูดได้แค่นั้นก็ลงจากตัวเธอทันทีแล้วลุกขึ้นนั่ง
“แต่งตัวบ้าอะไรแบบนี้ นี่มันชุดนอนหรือว่าชุดดาวยั่วกันแน่..?”
“อยากใส่บ้างละซิ..สลับกันเอามะฉันถอดให้..?”
“ไม่ต้อง..น่าเกลียดชุดทุเรศแบบนี้เธอใส่ได้คนเดียวแหละ..”
“เขาก็ใส่กันเยอะแยะ คุณไม่รู้เองมากกว่า”
“ใส่แบบนี้ฉันว่าไม่ต้องใส่ดีกว่านะ..”
“ก็คุณไม่ชอบชุดนอนยั่วๆแบบนี้นี่..ฉันรู้นะ..ว่าคุณน่าจะชอบแบบบล็อกเซอร์ตัวเดียวแล้วก็กล้ามแน่นๆมากกว่า...”
ผมหันหน้ามามองเธออย่างพอใจ
“หรือว่าไม่จริง..?”
“ฉันจะไปนอนที่โซฟา...”
“เชิญ..ก็ดี.เตียงนี้จะได้เป็นของฉันคนเดียว..”
เขาพูดจบก็ลุกขึ้นยืนหยิบหมอนของตัวเองไปนอนที่โซฟาข้างริมหน้าตาง ฉันมองเขาอย่างนึกขำ
“ฝันดีนะคะ..สามี”
เธอปิดไฟที่หัวเตียงตัวเองแล้วก็ล้มต้วลงนอนห่มผ้าอย่างสบายใจ ผมนี่โมโหจริงๆที่โดนเธอดัดหลัง ก็เพราะแบบนี้แหละผมถึงไม่ชอบผู้หญิงนิสัยเอาแต่ใจแล้วก็อยากเอาชนะ
...
วันรุ่งขึ้น
กริ๊งง กริ๊งง กริ๊งงง
เสียงโทรศัพท์หัวเตียงสั่นแต่เช้าเลยใครนะมารบกวนการนอนของฉันจริงๆ
“เป้..?”
ฉันพิกโทรศัพท์ดูข้างหลังจึงรู้ว่านี่ไม่ใช่โทรศัพท์ฉัน คงจะเป็นแฟนเขาซินะ
“แหม..โทรมาหากันแต่เช้าเลยนะ ขาดกันไม่ได้เลยว่างั้น..แหวะ”
ฉันมองไปที่โซฟาก็ไม่เห็นเขาแล้ว คงจะอาบน้ำอยู่มั้ง
“คุณวีวี่คะ..โทรศัพท์ของคุณค่ะ..”
ฉันตะโกนเข้าไปเรียกเขาในห้องน้ำ ได้ยินเหมือนเสียงฝักบัวปิดลง ฉันจึงวางลงที่เดิมแล้วก็พิกตัวไปนอนต่อ
“วันหลังอย่ามาเรียกชื่อฉันแบบนี้อีกนะ..”
เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเร่งรีบด้้วยเสื้อคลุมอาบน้ำ คงกลัวแฟนจะรอนานละซิถึงได้เปียกโช๊กไปทั้งตัวแบบนี้
“ทำไมละ..? ฉันยังเคยได้ยินมีคุณเรียกคุณว่าวีวี่เลย..”
“คนอื่นเรียกได้แต่เธอเรียกไม่ได้ ถ้าไปเผลอเรียกชื่อฉันแบบนี้ต่อหน้าพ่อกับแม่จะว่ายังไง..?”
“กลัวไปได้ ฉันรู้หรอกนะว่าอะไรเป็นอะไร...”
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วกดรับทันทีเดินออกไปนอกระเบียง ปิดประตูเพื่อไม่ให้ฉันได้ยิน
( วีวี่ครับผมคิดถึงคุณจังเลยครับ..)
( วีวี่ก็คิดถึงคุณครับ..)
( เมื่อคืนนี้อีนังชะนีมันให้วีวี่ไปนอนที่โซฟาด้วยนะครับ )
( ผมสงสารคุณจังเลย ผมจะไปตบอีนังชะนีให้นะครับ )
“ให้เสียงภาษาไทยโดย พันธมิตร...555”
ฉันมองออกไปนอกระเบียงเห็นเขาขยับปากเลยลองจินตนาการดูว่าเขากำลังพูดอะไรกับแฟนเขา
“555 ถ้าเขาไปฟ้องแฟนเขา แล้วพวกเขามารุมตบฉันจริงๆละ..ตายแล้วๆ...”
ฉันขำตัวเองจริงๆที่คิดเรืี่องราวเป็นตุเป็นตะ
กริ๊งงง กริ๊งงง กริ๊งงง
เสียงโทรศัพท์ฉันดังบ้าง
“แม่..”
ฉันกดรับสายแม่ทันทีจะโทรมาทำไมแต่เช้านะ
“ฮัลโหลแม่..?”
( แม่หาทริปฮันนีมูนให้แล้วนะ..เตรียมตัวได้เลยอีก 3 วันแกต้องออกเดินทาง )
“อะไรนะแม่..?”
( ก็ทริปฮันนีมูนแกไง..แต่งงานแล้วก็ต้องไปฮันนีมูนกันซิ..)
“ที่ไหน..?”
( บาหลี..)
“บาหลีเนี้ยนะ..? แค่พัทยา หัวหิน ก็พอแล้วมั้งแม่..”
( แม่ไม่ได้เป็นคนหาแต่แม่ของตาวีเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด...)
“แล้วนี่คุณวีเขารู้หรือยัง..?”
( รู้แล้วมั้ง..คุณป้าคงบอกแล้วแหละ )
“แต่แม่เพิ่งจะมาบอกหนูเนี้ยนะ..?”
( ก็มีเวลาเตรียมตัวตั้ง 3 วันนี่ไง ไปฮันนีมูนคราวนี้ก็จัดหลานมาให้พ่อกับแม่สักคนนะ..)
“ชาติหน้าคงได้อุ้มอะ..”
( เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ..?)
“เอ่อ...ปะปะเปล่าแม่ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะหนูจะไปอายน้ำเก็บของกลับคอนโด..”
ฉันวางสายจากแม่เสร็จ ฉันก็รู้สึกหงึดหงิดขึ้นมาทันที อีก 3 วันข้างหน้าฉันต้องไปแคสงานถ่ายแบบที่ภูเก็ตด้วย แล้วจะทำยังไงละเนี้ย
...
3 วันต่อมา
บาหลี
IG : My Dream
ฉันลงเครื่องเสร็จก็รีบมาถ่ายรูปเช็คอินเพื่อให้แม่รู้ว่าฉันถึงแล้วนะ
Check in ..Bali
My Dream : ทริปฮันนีมูนของ 2 เรา
In Joy : จร้า
“คุณวี..ฉันไปละนะแล้วเดี๋ยวเจอกันที่ไทย..?”
“อื้ม..”