อีกด้านหนึ่งของครอบครัวข้าวใหม่ปลามัน
“นี่นาย ปล่อยนะ ไม่เอา อื้อ…” ดวงนภาดิ้นรน หวังจะให้หลุดพ้นจากการถูกกอดรัด เมื่ออ้อมกอดแข็งแรงราวปอกเหล็กของอภิชัยกระชับจนเธอแทบจะตัวแบน เท่านั้นไม่พอ จมูกและปากของเขายังซุกไซ้ไปตามซอกคอระหงอย่างกับคนไม่รู้จักพอกับเรื่องอย่างว่าอีกต่างหาก ทั้งที่เพิ่งผ่านค่ำคืนอันแสนหวานมาหมาดๆ แล้วแท้ๆ
“อย่าห้ามสิจ๊ะเมียจ๋า มีหน้าที่เป็นเมียก็บำรุงบำเรอผัวให้ดีสิ…ฮึ้ม หอม” อภิชัยยังไม่หยุด มือหนาปัดป่ายไปตามร่างอวบอิ่มอย่างหลงใหล
“หยุดนะ ใครเป็นเมียนายกัน” เธอเถียงหน้าตาบูดบึ้ง การแต่งงานที่เกิดจากความไม่เต็มใจ ไม่สามารถทำให้เธอยอมรับสถานะใหม่ที่เกิดขึ้นได้ แม้จะผ่านเรื่องนั้นมาแล้วก็เถอะ
“อ้าว พูดแบบนี้ท้าทายกันชัดๆ แบบนี้เขาเรียกว่าคนอ่อยผัว”
เขายังคงอารมณ์ดีกับการได้ปราบพยศคนในอ้อมแขน อา ยัยทอมน้อย ในที่สุดเธอก็ตกเป็นของฉัน
“ไอ้อ้นบ้า ปากเสีย เกลียดที่สุด เกลียดๆ ๆ” ดวงนภาทั้งต่อว่าและหยิกข่วนเขา หวังจะเป็นอิสระจากการถูกกอดรัด แต่กระนั้นก็เปล่าประโยชน์เมื่อเขาหาได้สะดุ้งสะเทือนไม่
“ยิ่งเกลียดนั่นแหละจะยิ่งได้ เดี๋ยวผัวจัดให้แบบเน้นๆ หนักๆ เลยดีป่ะ”
ว่าแค่นั้นเขาก็จัดการพลิกร่างเธอลงนอนราบกับเตียง ร่างอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือมีร่องรอยของการถูกขบกัด แต่แม้จะเห็นแบบนั้น อภิชัยก็ยังคงอยากจะคลุกวงในกับเธออีกครั้งไม่อยากห่างไปไหน
แต่แล้วเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นขัดจังหวะ ทำเอาอภิชัยหงุดหงิดไม่น้อย สุดท้ายก็ตัดสินใจสานต่อ ไม่อยากหยุด
“อย่า…รับโทรศัพท์ก่อน อื้อ” ดวงนภาบอกอู้อี้ขณะผลักใบหน้าคมออกจากลำคอ เมื่อชายหนุ่มยังซุกไซ้ไม่ยอมหยุด เดี๋ยวก็ไม่ได้ลุกออกจากที่นอนกันพอดี ไอ้บ้านี่รังแกเธอทั้งคืนไม่ยอมหมดเรี่ยวหมดแรง
โชคดีที่วันนี้ทั้งสองคนไม่ต้องเข้าบริษัท หลังจากเสร็จพิธีหมั้นเมื่อวาน เธอและเขาต่างก็เหนื่อยหอบด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งพิธีหมั้นที่จัดขึ้นมีเพียงแค่ญาติผู้ใหญ่และคนสนิทในครอบครัว โดยที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้แจ้งข่าวมงคลนี้กับใคร มีเพียงผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือกันเท่านั้นที่ทราบแล้ว
หลังจากงานหมั้น ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้ทั้งสองอยู่ใช้ชีวิตด้วยกันที่บ้านของฝ่ายชาย ก่อนที่จะมีพิธีฉลองงานมงคลสมรสในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ทั้งคู่รู้จักกันมานานตั้งแต่เด็ก เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา จนดวงนภาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศหลังจบมัธยม ทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งหญิงสาวกลับมาจากเรียนต่อที่อเมริกาเพื่อมาสานต่อกิจการของบริษัทต่อจากบิดา
ซึ่งทั้งบิดาของเธอและอภิชัย ต่างก็หมั้นหมายลูกๆ ของตนไว้ตั้งแต่เด็กๆ จนเมื่อดวงนภาเรียนจบปริญญาโท และกลับมาเจอกับอภิชัยอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอนานนับสิบปีตั้งแต่ตอนวัยรุ่น
ความสวยสง่าและมีเสน่ห์ของดวงนภา ทำให้อภิชัยแทบจะคลั่ง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำว่ายัยทอมน้อยที่ชอบชกตีกับเขาเมื่อหลายปีก่อน จะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นแผ่นหลังได้ขนาดนี้
แต่ถึงแม้จะถูกอกถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน ความปากกรรไกรและอวดดีของเจ้าหล่อนก็ยังคงทำให้เขาอารมณ์เสียได้ง่ายเสมอต้นเสมอปลาย กระนั้นก็ไม่คิดปฏิเสธสักนิดตอนที่พ่อกับแม่บอกว่าอยากให้หมั้นกับเธอ และพอรู้ว่าเธอไม่ยินยอม เขากลับโมโหจนต้องไปลากเธอมาคุยในสวนหลังบ้านของเจ้าหล่อนที่ค่อนข้างลับตาคน ข่มขู่เธอเอาไว้ว่าหากไม่ยอมแต่งงานกัน เขาจะแฉพฤติกรรมที่เคยเบี่ยงเบนของเธอทั้งหมด อยากให้พ่อแม่เสียใจก็ลองดู ผู้คนจะได้รู้ว่าเธอน่ะมันไร้น้ำยา ไม่กล้าแต่งงานกับผู้ชายเพราะใจเป็นคนลักเพศ
จำได้ว่าเจ้าหล่อนร้องไห้ น้ำตานองหน้า ตั้งใจจะต่อยปากเขาแต่ก็โดนเขาจูบปากแทน จากนั้นก็วิ่งหนีหายเข้าไปในบ้าน และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน เขาก็ได้รับข่าวดีว่าดวงนภายอมตกลงแต่งงานกับเขาแล้ว
แล้วทุกอย่างก็ดำเนินมา จนมาถึงตอนนี้ที่เขายังไม่ยอมรับโทรศัพท์ที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องนั่นล่ะ
“ลุกซี่ คนบ้า” มือน้อยผลักอกหนาพัลวัน
อภิชัยยอมผละออกห่างจากร่างอวบอิ่มอย่างเสียดาย ใครนะช่างโทรมากวนใจ อุตส่าห์ปิดเครื่องไว้ตั้งหลายวัน รู้อย่างนี้ไม่เปิดดีกว่า กว่าจะได้อยู่กับยัยนี่รอเวลามาตั้งนาน
พลันที่ยกโทรศัพท์เจ้าปัญหาขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้ามาขัดจังหวะ ตาคมก็เปิดกว้างขึ้นอย่างตกใจ
เฮ้ย น้องพิมพ์โทรมา ตายล่ะหว่า ทำไงดีวะ
“ใครโทรมา ทำไมไม่รับสายซะที” ดวงนภาถามขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มทำท่าทางแปลกๆ
“ถามทำไม หึงเหรอ” อภิชัยหันไปเอ่ยล้อๆ หน้าตากรุ้มกริ่มตามสไตล์ผู้ชายเจ้าชู้
“ใครหึงนายกัน หลงตัวเอง”
“หลงตัวเองก็ดีแล้วไง ไม่ใช่เธอที่หลงคนอื่น”
“หมายถึงอะไร” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจความหมาย
“หลงรักฉันแล้วล่ะซี่ เธอน่ะ” เขาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนจะคร่อมทับร่างงามเปลือยเปล่าไว้อีกครั้งเมื่อหญิงสาวทำท่าจะลุกหนีออกจากเตียง
“ฮื่อ อยู่เฉยๆ”
เขาดุเธอไม่จริงจังนัก ก่อนจะกรอกเสียงทุ้มไปตามสาย
“สวัสดีครับ”
“พี่อ้น พิมพ์โทรหาพี่อ้นตั้งหลายครั้งไม่ติดเลย ทำไมต้องปิดเครื่องด้วยล่ะคะ” ปลายสายถามเสียงเรียบ ไม่ได้มีความแง่งอนหรือจับผิดแต่อย่างใด
“ฮัลโหลๆ ได้ยินมั้ยครับ ฮัลโหล” ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงและกดตัดสายทันที จากนั้นจึงตั้งเสียงสั่นไว้เพื่อความปลอดภัย
“โกหกหน้าด้านๆ” ดวงนภาด่าผู้ชายที่อยู่เหนือร่างที่กำลังทำหน้ากระอักกระอ่วนใจพิกล
“โกหกอะไร ไม่มี ก็โทรมาแล้วไม่พูดก็เลยวางไปแล้ว สงสัยคงโทรผิดมั้ง” หันมาบอกคนเป็นภรรยาเสียงนุ่มไร้การสำนึกผิด ก่อนจะโอบกอดเอวคอดรั้งเข้ามาหาตัวให้อิงแอบแนบชิดยิ่งขึ้น
“ปล่อยซะทีไอ้คนบ้ากาม ไม่ต้องมาคลอเคลียเลยนะ ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้ลงไปข้างล่าง หิวข้าวจะตายอยู่แล้ว”
ดวงนภาปัดมือหนาที่กำลังไต่ยุบยับบนร่างกายออก
“ฟอด! ชื่นใจ” อภิชัยแกล้งหอมแก้มเนียนแรงๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะกระซิบชิดริมหู
“ไปก็ได้ ไว้คืนนี้ค่อยมาต่อ เสร็จแน่ยัยทอมน้อย” เย้าเสียงกระเส่า นัยน์ตากรุ้มกริ่ม
“ไอ้บ้า” มือบางทุบอกแกร่งแรงๆ ก่อนจะส่งสายตาขุ่นเคืองให้เขา
อภิชัยผละออกจากร่างหอมกรุ่นอย่างตัดใจแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากปิดประตูลงกลอนก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ เฮ้อ นี่เขากลายเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
คงตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้วที่เขาได้รู้จักกับเธอ หญิงสาวสวยแสนอ่อนหวาน น้องพิมพ์ ความเป็นมิตรและอัธยาศัยอันดีของหญิงสาว ทำให้เขาซึมซับเอาความรู้สึกดีๆ ที่มีให้เธอจนกลายเป็นความชอบ
แม้ไม่ได้รักใคร่อะไรมากมาย แต่การที่ได้คุยกันกับเธอทุกวัน มันทำให้เขาสุขใจอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกโหยหาอยากได้ยินเสียง อยากเจอหน้า
แต่สาวเจ้าก็ไม่ค่อยจะเปิดโอกาสให้เขาใกล้ชิดมากนัก เจอกันไม่กี่ครั้ง แถมทุกครั้งน้องนางยังหนีบเพื่อนกระทิงมาด้วย มาเป็น ก ข ค ไม่พอ ยังคอยขัดคอและขัดขวางไม่ให้เขาได้อยู่ใกล้น้องพิมพ์เลย ถ้าไม่เห็นว่าเป็นสาวประเภทสอง เขาคงคิดว่ามันก็แอบชอบน้องพิมพ์อยู่แน่ๆ
เขาจะทำยังไงดีนะ จะบอกน้องพิมพ์ยังไง เรื่องที่เขาหมั้นหมายแล้วและกำลังจะแต่งงาน แถมตอนนี้ก็กินตับคู่หมั้นไปแล้วเรียบร้อย เรียกได้เต็มปากว่าเขามีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว
เธอคงจะเจ็บไม่น้อยที่รู้ว่าตลอดเวลาเขาไม่ได้โสดสนิทเสียทีเดียว แล้วยังไปจีบเธอมาเป็นแฟนอีก
หากเขาจะต้องเลิกรากับน้องพิมพ์จริงๆ ก็แสนเสียดายนัก กว่าจะเอาชนะใจเธอได้ หมดค่าโทรศัพท์และค่าอินเทอร์เน็ตไปไม่รู้เท่าไหร่ เพียรโทรหาและไลน์หาทั้งเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน มีส่งดอกไม้ไปให้ แถมบางทีไปดักรอที่บริษัท แม้บางครั้งจะเสียเที่ยวก็ตาม
แต่หลังจากที่ผู้ใหญ่ของทั้งเขาและดวงนภาได้เจรจาตกลงกันเรื่องของลูกๆ ทั้งสองฝ่าย และกำหนดการหมั้นหมายแล้ว เขาก็ไม่ได้โทรหาพิมพ์อรบ่อยนัก จนกระทั่งเหลือเวลาเกือบสัปดาห์ที่จะถึงวันทำพิธีหมั้น เขาก็ไม่ได้โทรหาเธออีกเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เธอโทรมาเอง
“พี่ขอโทษนะน้องพิมพ์ พี่จะบอกความจริงกับพิมพ์เอง”
ชายหนุ่มตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะดูเป็นการทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนหนึ่งที่แสนดีและไม่มีความผิด แต่นี่คงเป็นหนทางที่ดีที่สุด
เพราะถ้าจะให้เขาเลิกกับเมียแล้วไปสานต่อกับพิมพ์อร เขาก็แสนเสียดายรสชาติสวาทจากผู้หญิงที่ตนเคยปรามาสว่ากระโดกกระเดกเหมือนทอมบอย เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาที่ได้กัดกินดวงนภาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ทำให้เขารู้สึกโหยหาความนุ่มนิ่มอิ่มเอมจากกายสาวราวกับผู้ชายมักมาก และยิ่งได้รู้ว่าเธอเป็นของเขาเพียงคนเดียว ก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจ ไม่น่าเชื่อว่ายัยทอมน้อยของเขาจะเป็นสาวพรหมจรรย์ที่แซบเหลือล้นและทนเหลือหลาย
ครั้นชายหนุ่มตัดสินใจได้แน่วแน่แล้ว จึงปลดเปลื้องผ้าเช็ดตัวผืนหนาที่พันกายอย่างหมิ่นเหม่ลงไปกองกับพื้น ก่อนจะก้าวเท้าลงไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำหรู และหลับตาลงเพื่อผ่อนคลาย หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากวันคืนอันชื่นมื่น ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นวันคืนอันขมขื่นของใครอีกคนเร็วๆ นี้…