เสียงของหนักตกกระแทกพื้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นองค์รักษ์ผู้พิทักษ์หน้าประตูมังกรต่างรีบเปิดประตูห้องบรรทมแล้วพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทว่าเมื่อทหารองค์รักษ์ผู้มีความสามารถทั้งสองมาถึงตัวองค์จักรพรรดิ พวกเขากวาดสายตาประดุจเหยี่ยวมองไปทั่วก็หามีสิ่งปกติใดไม่
“ถวายบังคมฝ่าบาท เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รักษ์คนหนึ่งรีบเข้าไปถวายบังคมและพยุงโอรสวรรค์ขึ้น “ไม่ต้องเราลุกเองได้” หยางจื่อสะบัดชายเสื้อโบกมือไล่เสียงเครียด “ไม่มีอะไรเราแค่อ่านฏีกาจนเผลองีบหลับไป”
หลังจากเดินทางไปประพาสนอกวังพอกลับมาฏีการ้องเรียนเต็มโต๊ะไปหมด คืนนี้จักรพรรดิหนุ่มจึงต้องนั่งอ่านฏีกามากมายก่อนจะเข้านอนมิได้พลิกป้ายใครและไม่ได้เสด็จไปหวังหลัง แต่เหตุใดหนอพระองค์ถึงได้ฝันถึงฮองเฮาที่ถูกลืมองค์นั้น ฮองเฮาที่พระองค์ปฏิเสธการเข้าหอ แต่คืนนี้พระองค์กลับฝันว่ากำลังร่วมภิรมย์กลับฮองเฮาหนิงซูเยว่ออย่างเร่าร้อน นางที่ดูจืดชืดกลับทำให้พระองค์สุขสมได้อย่างน่าทึ่ง และที่ทึ่งมากขณะที่พระองค์กำลังมีความสุขแล้วบอกว่าจะให้นางเป็นหญิงงามคู่เตียงของพระองค์ไปตลอดนางกลับบอกว่าอยากเป็นเจ้าของเตียงคนเดียวแล้ว...
“ฝ่าบาทฝันร้ายเหรอพ่ะย่ะค่ะ จะให้กระหม่อมไปเชิญท่านนักพรตมาทำนายฝันดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้อง” หยางจื่อโบกมือห้าม คงอับอายมากกว่านี้หากจะต้องเล่าให้ใครฟังว่าพระองค์ฝันว่าถูกฮองเฮาที่ไม่เคยคิดจะใส่พระทัยถีบจนตกเตียง “ข้าแค่ฝันร้าย แต่นั่นก็แค่ความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงไปได้ พวกเจ้าไปทำงานของพวกเจ้าต่อเถอะ ข้าเริ่มง่วงแล้วอยากจะพักผ่อน”
“พ่ะย่ะค่ะ” องค์รักษ์ทั้งสองรีบกลับไปปฏิบัติหน้าที่ดังเดิมแต่ได้ยินเสียงโอรสสวรค์สั่งตามมา
“เรียกจางกงกงเข้ามาพบเราเดี๋ยวนี้” เมื่อขันทีชราเข้ามาพร้อมแส้ปัดในมือ โอรสสวรรค์ก็รีบสั่งต่อทันที “เตรียมเกี้ยวเราจะไปตำหนักลู่เอิน”
โอรสสวรรค์เดินออกมาจากห้องบรรทมอย่างหงุดหงิดพระทัย เป็นเพราะฝันเห็นหน้าฮองเฮาหนิงซูเยว่แท้ๆ คืนนี้พระองค์คงต้องแก้ฝันร้ายให้ตัวเองด้วยการเสด็จไปหาคนงามแห่งตำหนักลู่เอินเพื่อปลอบขวัญตัวเองเสียหน่อย
เสวียอวี้เจินงดงามราวกับดอกท้อแรกแย้ม ดวงหน้าหวานละมุนและชั้นเชิงในการเอาอกเอาใจของนางคงทำให้พระองค์สำราญใจขึ้นบ้าง
“ฝันร้ายไม่มีทางเป็นจริงไปได้ เพราะข้าไม่คิดจะไปเหยีบตำหนักเฟยเฟิงของเจ้าเลยสักนิดเดียวหนิงซูเยว่!”
ประเทศจีน เป็นปรากฏการณ์ของวงการบันเทิงไทยช่วงนี้ที่มีดารานักร้องหลายคนไปแจ้งเกิดในประเทศจีนกันมากมาย รวมถึงกองละครของดั่งฝันเองก็มีฉากถ่ายทำที่ประเทศจีนแห่งนี้ การเดินทางมาถ่ายละครในวันนี้ดั่งฝันต้องจัดหาชุดแบบจีนโบราณมาให้นักแสดงสวมใส่ ช่วงนี้งานของเธอวุ่นวายแต่ก็มีข่าวดีแว่วเข้ามาว่าอาทิตย์หน้าจะได้หยุดพักกองให้ทีมงานพักผ่อนกันสามวัน
“ฉันจะเที่ยว เที่ยว และเที่ยว” ภาพอาหารจีนเลิศรส สถานที่ท่องเที่ยวในฝัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือสถานที่เหล่หนุ่มหล่อในเมืองจีนแย่งกันผุดขึ้นมาในสมองของดั่งฝันราวกับดอกเห็ดในหน้าฝน
“ทีมคอสตูมพร้อมหรือยัง”
เสียงของแอดมินกองถ่ายทำให้ดั่งฝันสะดุ้งรีบคว้าชุดที่จัดเตรียมเอาไว้ออกมา จากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการโดยไม่รู้หรอกว่าอีกสามวันข้างหน้าโชคชะตากำลังพาเธอไปในเส้นทางที่ควรจะเป็นแต่ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดจะได้กิน เที่ยว เหล่หนุ่มหล่อ แต่ชะตาของเธอจะพลิกผันไปอย่างที่เธอเองก็คาดไม่ถึง
เธอไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคอสตูมอย่างที่คิดแต่เธอเกิดมาเพื่อสิ่งที่สำคัญกว่านี้
ราชวงศ์ชิง ปีที่สามของจักรพรรดิหยางจื่อ
โอรสสวรรค์สั่งปลดฮองเฮาจิ้นฮวาและแต่งตั้งหนิงซูเยว่ขึ้นเป็นฮองเฮาคนใหม่ ใครก็รู้ว่าฮ่องเต้ไร้หัวใจเพียงใดเพราะการแต่งตั้งฮองเฮาคนใหม่ก็มิได้มาจากความรักความพึงพอใจ แต่เป็นด้วยเหตุผลทางการเมืองล้วนๆ แม้กระทั่งคืนเข้าห้องหอ โอรสสวรรค์เองยังไม่แม้แต่จะเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว แต่กลับสะบัดชายชุดคลุมเดินออกจากห้องหอด้วยอาการเย็นชา นัยน์ตาเย็นเยียบประดุจก้อนน้ำแข็งในฤดูหนาว
ดั่งฝันลูกครึ่งไทยจีนอยู่ในร่างของหนิงซูเยว่ฮองเฮาองค์ปัจจุบัน เธอเป็นคอสตูมในกองถ่ายละครไทยเรื่องหนึ่งที่ยกกองเข้ามาถ่ายทำในเมืองจีน ระหว่างหยุดพักกองให้นักแสดงและทีมงานได้พักผ่อน ดั่งฝันใช้เวลาวันพักเดินทางไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์หม่าหวังตุยในเมืองฉางซาแต่ระหว่างชมมัมมี่เธอเกิดเป็นลมและจับพลัดจับผลูทะลุมิติข้ามภพข้ามชาติมายังราชวงศ์ชิงแห่งนี้ แรกเริ่มเธอตกใจแทบเสียสติแต่ก็ค่อยๆ ปรับตัวได้เพราะคุ้นเคยกับวงการมายา ความฉลาดและตั้งสติได้เร็วทำให้เธอตะล่อมถามนางกำนัลและขันทีรับใช้จนรู้ทุกอย่างจากนั้นเมื่อปรับสภาพได้ก็เริ่มคุ้นชินกับสิ่งต่างๆ จนกลายเป็นความพอใจที่ได้อยู่เสพสุขไม่ต้องทำงานหนักนอนดึกตื่นเช้าอีกต่อไป เมื่อก่อนเคยคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้นั่งกินนอนกินไม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ก็ในเมื่อตอนนี้ได้อย่างที่ปรารถนาแล้วจะเสียใจคิดมากไปทำไม สู้ใช้ชีวิตหรูๆ เสพสุขอย่างสบายแทนฮองเฮาหนิงซูเยว่ไม่ดีกว่าหรือ แต่ว่าก็แอบคิดถึงฮองเฮาหนิงซูเยว่ตัวจริงไม่ได้ถึงแม้ว่าจะได้เห็นกันแค่แวบเดียว ไม่รู้ป่านนี้ฮองเฮาตัวจริงจะไปอยู่ที่ไหน แล้วเหตุใดพวกเธอทั้งสองถึงมีหน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝด และทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องประหลาดขนาดนี้
ดั่งฝันถอนหายใจ สิ่งเดียวที่ยืนยันได้ว่าเธอมาจากอนาคตในยุคศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดจริงๆ คงเป็นรองเท้าคู่นี้กระมัง หนิงซูเยว่ไล่นางกำนัลออกไปแล้วเธอถึงกล้าหยิบรองเท้าผ้าใบที่ซุกซ่อนไว้อย่างดีออกมาดู มือบางลูบคลำมันเบาๆ รองเท้าผ้าใบคู่ใจกลางเก่ากลางใหม่สีดำที่ใส่ประจำเวลาไปทำงาน ทำให้ย้อนนึกถึงมัมมี่ในพิพิธภัณฑ์ซึ่งเธอไปยืนดูก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น มัมมี่นิรนามที่นักโบราณคดีขุดค้นแล้วพบว่ามีอายุอยู่ในสมัยราชวงศ์ชิงตอนต้นแต่ที่ประหลาดมัมมี่กลับสวมรองเท้าผ้าใบที่มีโลโก้จระเข้สีเขียวติดอยู่ด้านข้างซึ่งรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังกล่าวเพิ่งจะก่อตั้งที่ประเทศฝรั่งเศสในปี1993 มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่มัมมี่หญิงจีนนิรนามจะสวมรองเท้าแบรนด์เนมซึ่งเกิดในยุคหลังห่างกันมากขนาดนี้ นักโบราณคดีต่างมองหน้ากันหรือจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ‘การย้อนเวลาทำได้จริง’