ตอนที่ 4 ประจันหน้า

2258 คำ
อิงตะวันกลับเข้าบ้านใหญ่อีกครั้งในตอนค่ำ เพราะมัวแต่อยู่ช่วยเมฆลงต้นไม้ล็อตใหม่อยู่อีกหลายต้น จนเวลาล่วงเลยมาพอสมควร สาวน้อยร่างบอบบางใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยดินและปุ๋ยคอกเดินย่องเข้าไปในบ้านเพื่อหลบหน้าอรกมลเพราะเธอจะต้องโดนพี่สาวดุอีกเป็นแน่ที่แอบหนีออกไปแบบนี้ “อิง หายไปไหนมา” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นร่างอรกมลยืนหน้าบึ้งตึงอยู่หน้าบันไดทางขึ้นชั้นสองของบ้าน “ไปช่วยพี่เมฆปลูกต้นไม้มาค่ะ” อิงตะวันจำเป็นต้องก้มหน้าตอบไปตามความจริง พลางชะเง้อมองไปรอบ ๆ บ้านด้วยความสงสัย “เขากลับกันไปหมดแล้วเหรอคะ” “กลับไปหมดแล้ว แต่ว่าเราน่ะทำไมไม่อยู่คุยกับเขาก่อน หนีไปแบบนั้นไม่มีมารยาทเอาเสียเลย” “อยู่ให้เขาใช้คำพูดดูถูกเอาน่ะเหรอพี่ พี่ทนได้แต่หนูทนไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะได้กระโดดตบกบาลคุณหนูของพี่เสียเปล่า ๆ ” อิงตะวันกอดอกตอบอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับคำที่พี่สาวว่า “เราอยู่ในฐานะผู้อาศัย เขามีพระคุณให้ที่อยู่ที่กินอะไรที่ทำให้เขาได้ก็ทำไปเถอะ อย่าทำให้พี่หนักใจได้มั้ย” “ค่ะ ต่อไปนี้อิงจะเชื่อฟังพี่สาวที่แสนดีของอิงทุกอย่างเลยนะคะ แต่ตอนนี้ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหม็นกลิ่นปุ๋ยคอกทั้งตัวแล้วเนี่ย” เสียงใสตอบกลับแกมประชดประชัน อรกมลก็รู้ดีแต่ไม่อยากสาวความยืดจึงพยักหน้าเบา ๆ เพื่อให้น้องสาวเข้าห้องไป ส่วนตัวเองก็แยกตัวลงไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมนมอุ่น ๆ ให้กับน้องสาวเหมือนเช่นทุกครั้ง ภายในห้องนอนสีหวาน อิงตะวันทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ เตียงนอน พลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกลู่น้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ก่อนจะใช้มันปิดหน้าตัวเองไว้แล้วทิ้งศีรษะลงนอนบนพนักโซฟาอย่างหมดแรง บ้านที่แสนใหญ่โตโออ่า ถึงแม้จะอาศัยมาหลายสิบปีแต่มันไม่ทำให้หญิงสาวรู้สึกสบายไปด้วยเลย ทั้งถ้อยคำและสายตาดูถูกของทุกคนภายในบ้านที่มองมา เธอรู้ดีว่าที่แบบนี้คงไม่เหมาะกับเธอ ทั้งที่อยากออกไปใช้ชีวิตตามลำพังใจจะขาดแต่ก็โดนอรกมลพี่สาวที่แสนดีของเธอมักจะห้ามปรามไว้เสมอ ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้อิงตะวันผงกศีรษะขึ้นมองนาฬิกาตรงหัวเตียงอีกครั้ง สี่ทุ่ม... ในเวลาแบบนี้มีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่กล้ามาเคาะห้องของเธอซึ่งมักจะมาพร้อมกับนมร้อน ๆ ที่เตรียมมาให้ทุกคืนเสมอ “นมค่ะ” ทันทีที่ประตูเปิดออกกลับเป็นชดช้อยยืนถือแก้วนมแทน “เอ้า! อิงคิดว่าเป็นพี่อรเสียอีก” อิงตะวันรับแก้มนมมาไว้ในมือแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นในถาดที่ยังมีนมอีกแก้ว “ขอบคุณนะคะป้า” “พอดีป้าจะพานมขึ้นมาให้คุณหนูด้วยน่ะ ก็เลยอาสาแวะเอามาให้หนูอิงด้วยซะเลย” “โตขนาดนั้นเค้าคงไม่ดื่มนมแล้วล่ะป้า” อิงตะวันเบ้ปากพร้อมกับเหลือบไปมองประตูห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่แล้วก็ต้องหลบเข้าไปในห้องอย่างไวทันทีเมื่อหันไปเห็นร่างสูงของภูมิพัฒน์ที่เพิ่งจะปิดประตูเข้าห้องพอดิบพอดี หญิงสาวนำแก้วนมในมือวางไว้ตรงโต๊ะใกล้หัวเตียงแล้วจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อจะแต่งตัว คืนนี้มีนิยายที่ต้องอ่านอีกเล่มซึ่งเป็นของที่ระลึกจากปั้นหยาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางกลับบ้านนั่นเอง ก๊อกๆๆ เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวจึงละสายตาจากตู้เสื้อผ้าก่อนจะตรงดิ่งไปเปิดประตูออกทันที เพราะคิดว่าชดช้อยจะกลับมาเก็บแก้วคืน “อิงยังไม่ได้ดื่มเลยป้าค่อยมาเอา...คุณ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเห็นร่างสูงยืนกอดอกอยู่หน้าประตูห้อง ไม่ใช่ป้าชดช้อยแต่อย่างใดหากแต่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเธอนั่นเอง “ตกใจเหรอที่เป็นฉัน” “มีธุระอะไรไม่ทราบ” มือเล็ก ๆ รีบแง้มประตูไว้จนเหลือแค่ส่วนหัวที่โผล่ออกเท่านั้น เพราะชุดที่สวมใส่อยู่เป็นแค่ชุดคลุมอาบน้ำจึงดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก “จะมาหานมกิน!” “โอ้ย!” คำพูดสองแง่สองง่ามทำเอาคนฟังถึงกับหน้าแดงเลยไม่ทันระวัง ภูมิพัฒน์รีบผลักประตูห้องเข้าไปทันทีจนมันไปชนเข้ากับคนตัวเล็กที่ยืนอยู่อีกด้านของประตูเข้าอย่างจัง แต่ใช่ว่าเขาจะร้อนตัว ร่างสูงเดินเข้าไปสำรวจภายในห้องอย่างถือวิสาสะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งลงบนเตียงเสียหน้าตาเฉย “ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ที่นี่ไม่มีนมให้คุณกินหรอก ออกไป” อิงตะวันยืนท้าวสะเอวอยู่หน้าประตูด้วยความไม่พอใจแต่อีกคนกลับไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด “ก็เธอพูดเองนี่เมื่อกี้อ่ะ ว่าฉันไม่ดื่มนมแบบนั้นแล้วจะให้ฉันดื่มนมแบบไหนล่ะ” ภูมิพัฒน์แกล้งกวนโทสะพลางใช้สายตาโลมเลียไปทั่วสัดส่วนของหญิงสาวอย่างจงใจให้เธอสติแตก ในขณะที่คนถูกกล่าวหาถึงกับหน้าถอดสี ไม่คิดว่าสิ่งที่เธอพูดกับชดช้อยเมื่อครู่เขาจะได้ยินมันเต็ม ๆ มือเล็ก ๆ รีบเลื่อนมาปิดหน้าอกหน้าใจของตัวเองไว้อย่างหวงแหน ถึงแม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ชายหนุ่มตรงหน้าดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย “จะกินจะดื่มจะอะไรก็แล้วแต่ คุณก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่ห้องของฉัน” “ห้องของเธอเหรอ พูดมาได้ไง บ้านนี้ทั้งหลังมันเป็นของฉันต่างหาก ฉันจะเดิน จะนั่ง จะนอนตรงไหนมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน” ภูมิพัฒน์เถียงคอเป็นเอ็น แอบตกใจเล็กน้อยเมื่อยัยตัวเล็กแสนบอบบางที่ยอมให้เขาแกล้งในวัยเด็กจะโตมาเหมือนม้าพยศแบบนี้ “อ้อ...อย่างนั้นก็ได้ เชิญคุณตามสบายเลยนะคะ คุณจะนอน จะนั่งจะทำอะไรในห้องของฉันก็ตามสบาย ขออย่างเดียวอย่ายุ่งกับข้าวของของฉันก็พอ เดี๋ยวฉันออกไปนอนห้องรับรองก็ได้ กู๊ดไนท์ค่ะ” อิงตะวันแกล้งทำทีเป็นโบกไม้โบกมือก่อนจะเดินหยิบเสื้อผ้าที่เลือกไว้เมื่อครู่แล้วรีบสาวเท้าไปยังประตูห้องที่เปิดค้างไว้ทันที “มานี่เลย ยัยตัวแสบ เธอแกล้งยั่วโมโหฉันเหรอ...ฮะ!” ร่างสูงรีบถลาเข้าไปคว้าเอวบางของคนตัวเล็กที่กำลังจะออกจากห้องไว้ด้วยความรวดเร็ว จนคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับสะดุ้งเหวอเมื่อแผ่นหลังของตัวเองชนเข้ากับอกแข็งแรงของอีกคนเข้าอย่างจัง “ปล่อยนะ จะทำบ้าอะไรเนี่ยปล่อย!” อิงตะวันพยายามดิ้นหนีจนสุดกำลังซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นผลแต่กลับสร้างความสะใจให้กับอีกคนอย่างง่ายดาย “อย่าดิ้นสิ รู้ไหมก้นเธอมันโดนอะไรอะไรในตัวฉัน ถ้าเกิดฉันหน้ามืดขึ้นมาจะทำไง” “อี๋ ทุเรศ ! ฉันไม่ยอมให้คุณรังแกฉันเหมือนตอนเด็กอีกแล้วนะ ปล่อย ! ” ถึงแม้จะยอมยืนนิ่งแต่โดยดีเพราะไปสัมผัสโดนอะไรบางอย่างที่เขาว่าจริง ๆ หญิงสาวจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปแกะมือหนาที่กอดรัดอยู่ตรงเอวบาง ๆ ของเธอแทน “ตอนนั้นฉันยังเด็กเธอก็ยังเป็นเด็กฉันก็เลยแกล้งแบบประสาเด็ก ๆ แต่ตอนนี้เราโตกันแล้ว ฉันก็เลยอยากสอนวิธีแกล้งแบบผู้ใหญ่ให้เธอบ้าง เอาไหม” เสียงกระซิบแผ่วเบาตรงซอกคอขาวระหงของอิงตะวันทำเอาหญิงสาวถึงกับขนลุกชัน ในขณะที่มือหนาค่อย ๆ เปลี่ยนเป้าหมายเลื่อนขึ้นมาจับอยู่ตรงหน้าอกหน้าใจผ่านเสื้อคลุมอาบน้ำแทนก่อนจะแกล้งออกแรงบีบมันเบา ๆ พร้อม ๆ กับบางอย่างในกายที่กำลังตื่นขึ้นมาทันที “กะ...อุบ” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวถูกกลืนหายไปจนหมดสิ้น เมื่อคนตัวโตใช้ความว่องไวกว่าพลิกตัวให้เธอหันมาประจันหน้าก่อนจะก้มลงปิดปากเล็กนั่นด้วยปากของเขาเสียด้วยความรวดเร็ว ชายหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากลงไปบนเรียวปากเล็กของเธออย่างแรงจนได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ อิงตะวันหลับตาแน่นด้วยความตกใจน้ำตาไหลออกมาแทบไม่รู้ตัว “อ่อย อั๋น อ้ะ ไอ้ อ้า” มือเล็ก ๆ พยายามผลักอกแข็งแรงของเขาให้ออกห่างอย่างสุดแรง จนลืมไปว่าประตูห้องไม่ได้ถูกปิดไว้ตั้งแต่เมื่อครู่ “คุณพระ!!” เพล้ง! ถาดในมือหล่นลงบนพื้นเสียงดัง ในขณะที่คนสูงวัยยืนอ้าปากค้างอยู่หน้าประตูมือเหี่ยวย่นรีบปิดปากตัวเองไว้อย่าลืมตัว เพี้ยะ! “ไอ้ทุเรศ!!” เสียงฝ่ามือปะทะเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเข้าอย่างแรงจนหันไปตามแรงมือ เมื่อร่างกายเป็นอิสระอิงตะวันจึงรีบวิ่งไปหลบหลังชดช้อยเพื่อจะหาที่พึ่งทันที โชคดีที่คนในบ้านหลับไปหมดแล้วจึงไม่มีใครได้ยิน เว้นเสียแต่คนสูงวัยที่ยังคงยืนอึ้งกิมหมี่อยู่แบบเดิม “ผมแค่แวะมากินนมน่ะป้า อย่าคิดมาก” ภูมิพัฒน์ตอบหน้าตาเฉย ยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินผิวปากกลับไปที่ห้องด้วยความสบายใจราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชดช้อยจึงรีบลากตัวหญิงสาวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลงกลอนทันที “เกิดอะไรขึ้นทำไม...” “ก็คุณหนูตัวดีของป้านั่นแหละเข้ามาเรื่องหนูถึงในห้อง” อิงตะวันตอบพลางกระชับเสื้อคลุมที่หลุดลุ่ยให้กลับเข้าที่เช่นเดิม “แต่คุณหนูเธอไม่น่าจะทำแบบนั้นหรอก” “นี่ป้าจะบอกว่าหนูลากเขาเข้ามาข่มขืนในห้องเหรอคะ” หญิงสาวตัดพ้อก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนอนหนานุ่มของตัวเองอย่างหมดเรี่ยวแรง “ไม่ใช่แบบนั้นเพียงแต่ป้าแค่ไม่อยากจะเชื่อ” ชดช้อยลูบศีรษะหญิงสาวอย่างรักใคร่ ถึงแม้เธอจะเข้ามาในบ้านด้วยฐานะที่ไม่ชอบธรรมแต่ด้วยนิสัยใจคอที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ มันก็แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งตัวเองคิด อิงตะวันถึงแม้จะดื้อดึงและก้าวร้าวกับดวงตาและฉวีอยู่บ้างแต่นั่นเธอก็แค่เพียงตอบโต้กลับเท่านั้น หากไม่มีใครรังแกเธอก่อนเธอไม่มีวันเริ่มก่อนแน่นอน ข้อนั้นชดช้อยรู้ดี “ป้าต้องรายงายเรื่องนี้ให้คุณท่านทราบ” “ไม่ได้นะคะ หนูไม่อยากให้พี่อรไม่สบายใจ หนูรับรองค่ะว่าหนูจะไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับหนูอีกแน่ แล้วถ้าเกิดป้าบอกคุณภาคินดีไม่ดีคนอื่นอาจจะมองว่าหนูเป็นฝ่ายให้ท่าเขาอีก ป้าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะคะ” “อ่ะ ๆ ก็ได้ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังตัวไว้หน่อยก็แล้วกัน” ป้าชดช้อยปลอบประโลมก่อนจะเก็บแก้วนมที่หญิงสาวแทบไม่ได้แตะกลับไปด้วย ร่างบางรีบถลาไปที่หน้าโต๊ะแต่งตัว หยิบกระจกขึ้นมาส่องใบหน้าตัวเองก่อนที่มือเล็ก ๆ จะคว้าทิชชู่แผ่นแล้วแผ่นเล่าขึ้นมาเช็ดปากตัวเองอย่างนึกรังเกียจ นึกโกรธตัวเองขึ้นมาทันที ทั้งที่สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกรังแกแต่ก็ต้องมาพลาดท่าอีกจนได้ คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนัก ทางด้านภูมิพัฒน์ที่เก็บความงุ่นง่านกลับมาในห้องตัวเองจนเต็มกระเป๋าเพราะอารมณ์ที่ค้างเต่อ ชายหนุ่มปรี่ไปที่ระเบียงห้องทันทีเพราะคิดว่าลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามาจะช่วยดับไฟในกายที่กำลังลุกโชนให้มอดลงได้แต่เปล่าเลย มือหนาจึงคว้าสมาร์ตโฟนขึ้นมาเพื่อจะโทรหาประกายดาวผู้หญิงคนเดียวที่พอจะช่วยเขาได้ในยามนี้ แล้วก็ต้องรีบกดวางสายทันทีเมื่อเห็นร่างอวบอัดของแม่สาวใช้ช่างยั่วกำลังยืนยิ้มปริ่มอยู่ท่ามกลางความมืดเบื้องล่าง ดวงใจในชุดนอนบางโปร่งจนเห็นเนื้อด้านในอย่างชัดเจน กำลังยืนส่งยิ้มโบกไม้โบกมือให้คุณหนูของบ้านลงไปหา เพราะหล่อนจงใจยั่วเขาตั้งแต่เข้ามาในบ้านเมื่อเช้าแล้ว ในเมื่อกล้าเสนอมาแบบนี้ มีเหรอที่คนอย่างภูมิพัฒน์จะไม่สนอง “เอาว่ะ แก้ขัดไปก่อนก็ยังดี” ร่างสูงยกยิ้มก่อนจะหายเข้าไปในห้องเพื่อหยิบซองพลาสติกสีดำขนาดเล็กไว้ในมือก่อนจะเปิดประตูลงไปหาสาวใช้ข้างล่างทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม