ลักษิกานั่งมองภาพถ่ายของมารดาแล้วก็บอกกับท่านว่าเธอยินดีจะทำตามความต้องการของอนันตวิทย์ด้วยความเต็มใจ แม้ว่าอธิราชจะบอกว่าเขาไม่เคยมองว่ามันเป็นเรื่องของบุญคุณเลย เธอมองรูปร่างและ
การแต่งกายของตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่แล้วก็สะท้อนใจ เธอรู้สึกว่าสบายใจและปลอดภัยเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด อธิราชจะมองเธออย่างไรเธอจะเลือกมองข้ามมันไปก็แล้วกัน ไม่นานข่าวการแต่งงานของเธอ
ก็เป็นที่พูดถึงในบริษัท บางคนยินดีกับเธอแต่บางคนก็บอกว่าที่เธอได้แต่งงานนั้นก็เพราะอนันตวิทย์สงสารลูกนกปีกหักอย่างเธอ มีคำซุปซิบนินทามากมายแต่เธอก็เลือกที่จะไม่เก็บมาใส่ใจ อนันตวิทย์อยากให้เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านใหญ่ด้วยกันแต่ว่าหญิงสาวขอปฏิเสธและขอว่าจะย้ายเข้าไปหลังจากแต่งงานแล้ว อีกแค่เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นก็จะถึงงานแต่งงานของพวกเขา เพราะฉะนั้นภายในหนึ่งเดือนนี้เขาจะใช้ชีวิตอย่างอิสระให้เต็มที่ ใครจะมาว่าอะไรเขาไม่ได้
อธิราชออกมานั่งดื่มอยู่ที่ผับแห่งหนึ่ง วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะเรื่องงานผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีอะไรกวนใจเขา เวลานี้มีนักท่องราตรีมากหน้าหลายตาออกมาดื่ม เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น คืนนี้เขาเลือกดื่มเหล้าชั้นดีที่มีราคาแพงให้ร่างกายมันตื่นตัว มีสาวๆส่งสายตาเย้ายวนมาให้เขาอยู่ตลอดแต่ว่าเขายังไม่ถูกใจใครทั้งนั้น เมื่อรู้สึกเซ็งจึงต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างเดชวัต เดชวัตไม่รอช้าเมื่อเพื่อนชักชวนให้ออกมาท่องราตรีเพราะเขาเองก็กินดื่มหนักไม่แพ้อธิราช
“ไอ้อธิปวันนี้สาวๆสวยทั้งนั้นเลย ถูกใจใครหรือยัง”
“ยัง”
“เป็นไปได้ไงวะ”
“ไม่รู้สิก็มันยังไม่ถูกใจ” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบ เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“นั่นๆ น้องคนนั้นเดินตรงมาหาแกแล้ว”
“สวัสดีค่ะ มารีนขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ พอดีเพื่อนของมารีนกำลังจะกลับกันแล้ว”
“ครับ”
“ขอบคุณค่ะ พวกพี่ชื่ออะไรกันหรอคะ”
“พี่ชื่อเดชวัตครับคนสวย เรียกพี่ว่าพี่วัตก็พอครับ ส่วนคนที่นั่งหน้าตึงอยู่เนี่ยชื่ออธิปครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่วัตพี่อธิป”
“สั่งอะไรเพิ่มดีไหมครับเดี๋ยววันนี้เพื่อนพี่มันเลี้ยง” เดชวัตเอ่ยชวนหญิงสาวสายตาแพรวพราว
“ดื่มแบบพวกพี่ก็ได้ค่ะ”
“แบบพี่มันแรง เดี๋ยวพี่สั่งสำหรับผู้หญิงให้นะครับ”
“ขอบคุณค่ะสุดหล่อ” เดชวัตพูดคุยกับสาวข้างกายจนลืมเพื่อนสนิทของตนเองไปเลย อธิราชจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินไปเข้าห้องน้ำ บริเวณนี้มีผู้คนบางตา เขาได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังทะเลาะกันจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆเพื่อว่ามีใครต้องการความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ”
“ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”
“เรื่องของผัวเมียคนอื่นไม่เกี่ยว”
“เขาเป็นสามีของคุณหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มหันไปถามหญิงสาวทันที
“อะ เอ่อ...”
“แสดงว่าใช่ งั้นผมขอไม่ยุ่งด้วย” ผัวเมียตีกันทีไรคนเข้าไปช่วยสุดท้ายกลายเป็นหมาทุกที ท่าทางผู้ชายคงมาตามง้อแต่ว่าง้อไม่สำเร็จ มีแต่เรื่องวุ่นวายไปหมด เขากลับไปนอนที่คอนโดจะดีกว่า อธิราชขอตัวกลับก่อนส่วนเดชวัตก็ไปต่อกับสาวหมวยสุดเซ็กซี่ อธิราชหลับตาลงช้าๆแล้วก็หลับไปในที่สุด วันพรุ่งนี้คือวันเสาร์เขาสามารถนอนหลับพักผ่อนได้ยาวๆเลย แต่แล้วก็มีเสียงออดปลุกให้เขาตื่น เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้สั่งอะไรนี่หน่า เวลานี้เป็นใครกันที่มาหาเขาถึงคอนโดส่วนตัว
“มาที่นี่ได้ยังไง” เมื่อประตูเปิดออกเขาก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเพราะคนตรงหน้าคือลักษิกา ในมือของหญิงสาวหอบหิ้ววัตถุดิบในการทำอาหารมาเพียบ
“คุณพ่อให้ศิมาทำอาหารเช้าให้คุณค่ะ”
“ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงวันหยุดก็ไม่ได้พักผ่อน อย่าไปตามใจคุณพ่อมากนักสิเดี๋ยวจะได้ใจ ปกติฉันก็ไม่ได้ทานอาหารเช้าอยู่แล้วนะ พ่อนะพ่อวุ่นจริงๆ” ถ้าเป็นเขา เขาจะไม่ยอมทำตามคำสั่งแต่นอน เรื่องอะไรวันหยุดก็ยังจะใช้ให้ทำงานอยู่ได้
“ศิยินดีทำค่ะ อีกอย่างศิชอบทำอาหารไม่ได้ลำบากอะไรเลย” หญิงสาวตอบกลับคนตัวโตยิ้มๆ ชีวิตนี้ของเธอ
ก็มีแต่เขากับผู้เป็นพ่ออย่างอนันตวิทย์สองคน เธอจะทำเพื่อเขาหน่อยมันก็ไม่แปลกอะไรนี่
“งั้นก็ตามใจ” ชายหนุ่มกลับเข้าไปนอนในห้องนอนทันที ด้วยความที่ห้องนี้เป็นห้องชายโสดที่ไม่ทำอาหารทานเองจึงไม่มีข้าวของเครื่องใช้อะไรมากนักในห้องครัว ดีที่เธอรอบคอบเตรียมทุกอย่างมาเอง ลักษิการวบผมที่ยาวสลวยขึ้นเป็นหางม้าเผยให้เห็นลำคอขาวเนียน เธอกำลังเพลิดเพลินไปกับการทำอาหารให้ว่าที่สามีในอนาคตได้รับประทาน กลิ่นหอมของอาหารลอยไปเตะจมูกของคนตัวโต นี่ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยในกระเพาะ
ของชายหนุ่ม
“เสร็จเรียบร้อย หน้าตาน่าทานมากเลย” หญิงสาวยืนชื่นชมผลงานของตนเองโดยไม่รู้เลยว่ามีคนตัวโตมายืนจับจ้องเธอสักพักแล้ว
“อะ อ้าวคุณอธิปหิวแล้วใช่ไหมคะ”
“ฉันตื่นเพราะได้ยินเสียงร้องเพลงต่างหาก” ชายหนุ่มพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง เขาเพิ่งมาได้ยินเสียงหวานๆของเธอก็ตอนเดินมาใกล้ถึงห้องครัวแล้ว
“แหะๆ ขอโทษค่ะ มาทานข้าวกันเถอะค่ะ”
“ทำไมเตรียมไว้ที่เดียวล่ะ” ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความสงสัย เธอไม่ทานอาหารเช้าหรือ
“เดี๋ยวศิทานในครัวได้ค่ะ”
“ทำไมต้องทานในครัวล่ะ เธอไม่ใช่คนใช้นะ อย่าลืมสิว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน มานั่งสิ”
“ค่ะ”
หญิงสาวถอดแว่นตากลมๆของตนเองออกวางไว้บนโต๊ะ ชายหนุ่มแอบมองใบหน้าของลักษิกา
บางจังหวะก็พบว่าความจริงแล้วลักษิกาคือผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่ง ทั้งสองนั่งทานอาหารต่อไปเงียบๆ
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเพราะกำลังตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารเช้า ทั้งที่ตนเองเป็นคนบอกว่าเขานั้นมักจะไม่ได้ทานอาหารเช้าเป็นปกติ เมื่อคนทำเห็นดังนั้นก็รู้สึกดีใจที่เขาชอบอาหารที่เธอทำให้ทาน เธอจึงไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร มีสิ่งไหนไหมที่เขาแพ้
“ฉันแพ้กุ้งแล้วก็ไม่ชอบผักชีนี่ด้วย” ชายหนุ่มเขี่ยผักชีในจานออกไปให้พ้นทาง ท่าทางของเขาเหมือนกับเด็กชายตัวน้อยๆที่ไม่ชอบทานผัก
“ขอโทษค่ะ วันหลังศิจะระวังกว่านี้”
“เธอทำอาหารอร่อยเหมือนกันนะไปเรียนที่ไหนมา”
“ศิเคยไปทำงานร้านอาหารตอนเรียนน่ะค่ะ ศิอยากหาประสบการณ์”
“ดีแล้วจะได้มีความสามารถรอบด้าน” ชายหนุ่มเอ่ยชมเสร็จก็ก้มลงไปรับประทานต่อ
“คุณอธิปทานนี่ด้วยสิคะมันบำรุงสมอง ศิรู้ว่าคุณทำงานหนัก” หญิงสาวตักของบำรุงใส่จานของชายหนุ่ม
“ยังไม่ทันแต่งก็ทำหน้าที่ของตัวเองเลยนะ”
“ศิขอโทษค่ะถ้าทำให้คุณไม่พอใจ” หญิงสาวก้มหน้าลงกลัวจะทำอะไรให้เขาไม่พอใจอีก
“เปล่าๆแค่แซวเล่นเท่านั้นเอง จริงจังไปได้กินต่อสิ”
“ศิอิ่มแล้วค่ะ เดี๋ยวศิเอาจานไปล้างให้นะคะ”
“ขอบคุณมาก” ลักษิกากลับออกไปแล้วแต่กลิ่นหอมจางๆของอาหารยังคงอบอวลอยู่รอบห้อง เขารู้สึกดีไม่น้อยที่มีคนมาคอยเอาใจใส่เรื่องทั่วๆไปเพราะหลังจากที่มารดาเสียเขาก็เหมือนขาดอะไรบ้างอย่างไป
หนึ่งเดือนต่อมา
วันนี้เป็นวันที่เขาและลักษิกาต้องเข้าพิธีมงคลสมรสด้วยกัน งานถูกจัดขึ้นที่โรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่ง
เขาและลักษิกาทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดีเยี่ยม ชายหนุ่มยิ้มแย้มให้กับแขกที่มาร่วมงาน นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกใจชื้นว่าเขาไม่ได้ถูกบังคับให้มาทำอะไรแบบนี้กับเธอ เธอแอบมองเขาอยู่ตลอด ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีฐานะเป็นภรรยาของอธิราช ลูกชายคนเดียวของนักธุรกิจดัง
“คุณอธิปดื่มน้ำหน่อยสิคะ คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า” หญิงสาวยื่นแก้วน้ำให้กับคนตรวหน้าด้วยความเป็นห่วง เขาวุ่นกับงานแต่งมาตั้งแต่เช้าเพื่อไม่ให้งานเกิดความผิดพลาดใดๆขึ้น สาวๆที่มาในงานต่างอิจฉาเธอเป็นแถวที่ได้อธิราชไปครอบครอง
“ฉันล่ะอิจฉายัยศิจริงๆ แข่งบุญแข่งวาสนากันไม่ได้จริงๆ”
“นั่นสิ ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ว่าแต่คุณอธิปเขาไม่มีแฟนจริงๆหรอ”
“เรื่องนี้ไม่มีใครรู้หรอกถ้าคุณอธิปเขาไม่เปิดตัว” จบประโยคสองสาวก็หันไปสนใจอาหารตรงหน้าแทนคู่บ่าวสาว
“เธอเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรอ ขอบใจมาก” ชายหนุ่มรับน้ำจากหญิงสาวมาดื่ม รู้สึกสดชื่นมากๆ
“เหงื่อคุณออกค่ะ” หญิงสาวยื่นมือที่ถือทิชชูไปซับเหงื่อให้คนตัวโต นั่นเป็นภาพสวีทหวานที่ช่างภาพเก็บมันเอาไว้ได้ ผู้คนในงานต่างชื่นชมเจ้าสาวคนสวยกันไม่หยุดปาก เธอสวมชุดแต่งงานที่มีลูกไม้มิดชิดถึงข้อมือ เรียกได้ว่าไม่ได้เปิดเผยเนื้อหนังให้ใครได้เห็นเลย ถ้าจะมองอีกมุมก็คือเป็นความสวยที่สง่าผ่าเผย
“หวานจังเลยนะครับเพื่อน”
“อะ เอ่อคุณ...” หญิงสาวไม่รู้จักผู้ชายตรงหน้าแต่ถ้าให้เดาเขาคงจะเป็นเพื่อนกับอธิราชแน่ๆ
“ผมชื่อเดชวัตครับเป็นเพื่อนสนิทของไอ้อธิปมัน วันนี้คุณศศิสวยจังเลยครับ ถ้าเลิกสนใจไอ้อธิปแล้วผมพร้อมดูแลต่อนะครับคนสวย” ลักษิกาไม่ได้เฉิ่มเชยอย่างที่เพื่อนเขาบอกเลย ตรงกันข้ามเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆคนหนึ่ง ทำไมเพื่อนของเขาถึงตาถั่วขนาดนี้นะ มีเพชรในมือแต่กับมองข้ามไปหาเม็ดทราย
“ไอ้ห่านี่ พูดอะไรไปเรื่อย”
“ฮ่าๆ มีคนแถวนี้หวงด้วยเว้ย” เดชวัตหัวเราะออกมาเสียงดัง ไม่คิดว่าเพื่อนจะออกอาการแบบนี้ พิธีการต่างๆผ่านไปได้ด้วยดีเวลานี้เธอจดทะเบียนเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาเรียบร้อยแล้ว
“พ่อดีใจจริงๆที่พวกลูกมีวันนี้ ถ้าราตรียังอยู่ก็คงจะดีใจไม่ต่างกัน ถึงแม้จะไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรักแต่พ่อก็อยากจะขอให้ทั้งสองคนประคับประคองกันไปให้ตลอดรอดฝั่งนะ พ่อจะเอาใจช่วยอยู่ห่างๆที่สำคัญพ่อน่ะอยากอุ้มหลานเต็มแก่แล้วล่ะ ไปๆพวกเราออกไปจากห้องหอกันได้แล้ว” อนันตวิทย์หันไปบอกกับญาติคนอื่นๆ ทุกคนเลยพากันเดินออกไปจากห้องหอของอธิราช ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ในที่สุดงานในวันนี้ก็จบลงแล้ว
“ไม่เคยคิดเลยว่างานแต่งงานจะเหนื่อยขนาดนี้” ชายหนุ่มบอกกับคนข้างกายน้ำเสียงและแววตาดูอ่อนล้า
การที่ต้องยืนต้อนรับแขกมากมายทำให้ขาทั้งสองข้างของเขาล้าไปหมด
“ศินวดให้คุณดีไหมคะ” หญิงสาวบอกออกไปเสียงหวานและทำท่าจะย่อตัวลงไปนวดเท้าให้คนตัวโต แต่เขาเอ่ยห้ามเสียงแข็ง หญิงสาวหน้าเสียจนคนตัวโตต้องรีบกระแอมกลบเกลื่อน
“อย่าทำแบบนั้น เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆสักหน่อย ขึ้นมานั่งดีๆเถอะเธอเองก็คงจะเหนื่อยไม่ต่างกัน”
ชายหนุ่มเอ่ยห้ามการกระทำของลักษิกาเสียงดัง เขาไม่อยากให้เธอคิดว่าเขาเป็นพระเจ้าต้องคอยดูแลทุกฝีก้าว