" อื้มทุกอย่างดูดี " วราตรวจเช็คความพร้อมทุกอย่างอีกครั้ง " เอาล่ะ "
พูดจบก็เดินไปเปิดประตูรั้วหลังบ้าน " เฮง ๆ หน่อยนะ " แล้วหันมามองป้าย ' Open ' หน้าประตู
. . . . . . .
จากเที่ยงเปลี่ยนเป็นบ่าย สุดท้ายก็เข้าสู่ช่วงเย็น
" ฮ้าววว !!! " วราที่กำลังนั่งหาวหวอด ลูกค้าสักคนก็ไม่มี แต่ไม่เป็นไร เขาแค่อยากเปิด ไม่มีปัญหา ฮ่า ฮ่า
แกร๊ก !! กริ้ง ๆ เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้น บ่งบอกว่ามีใครสักคนเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับร่าง 2 ร่างที่ก้าวเข้ามา
" ภัตตาคารใช่หรือไม่ " ชายชาวยุโรป 2 คนที่แต่งตัวเหมือนขุนนางยุคโบราณเดินเข้ามา พร้อมกับเอ่ยถามด้วยภาษาไทยอย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่ทำไมมอมแมมอีกแล้วเนี่ย
" ใช่ครับ " วราลุกขึ้นตอบ " นักแสดงมาอีกแล้ว " เขาคิดในใจ คงเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ไทยมานานแล้วแน่นอน
" เลือกที่นั่งได้เลยครับ " วราบอกแขกผู้มาเยือนร้านอาหารของเขา
แขกทั้ง 2 พยักหน้าให้กัน พวกเขาหันมองเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่ดูแปลกตาแต่สัมผัสได้ถึงความหรูหรา พวกเขาเดินหาตำแหน่งที่ถูกใจและนั่งลง
" หืมมม " แขกทั้ง 2 อุทานพร้อมกัน
ร้านอาหารที่หรูหราในเมืองหลวงยังไม่สบายเท่านี้ ความนุ่มสบายของเก้าอี้นี่มันคืออะไรกัน พวกเขาหลับตาพริ้ม ดื่มด่ำกับความสบายที่ไม่ได้สัมผัสมาหลายวันจากการเดินทางไกล แต่ไม่นานเท่าไหร่ พวกเขาก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อวรานำเมนูมาให้และตามด้วยแก้วใส่น้ำที่ใสบริสุทธิ์แถมในน้ำยังมีน้ำแข็งลอยอยู่ด้วย ร้านของผู้ใช้เวทมนตร์หรือนี่ ช่างหรูหราเสียจริง ดูท่าแล้ว มื้อนี้คงต้องเสียหลายเหรียญทอง
" อยากได้ผ้าเย็น หรือ ผ้าอุ่นครับ " วราถามขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังมุ่งความสนใจไปที่แก้วน้ำ
" เอ่อ มันเป็นอย่างไร " ชาวต่างชาติคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าถามขึ้น
วรายิ้มให้ก่อนจะเดินไปนำผ้าทั้ง 2 อย่างมาให้พวกเขาดู
" นะ นี่มัน หรูหราเหลือเกิน " แขกผู้มาเยือนอุทานขึ้น พวกเขาเลือกผ้าเย็นเป็นเพราะการเดินทางผ่านอากาศที่ร้อนมาทั้งวัน
ในนี้อากาศก็ค่อนข้างเย็นสบาย ไม่หนาวและไม่ร้อน กระท่อมเล็ก ๆ กลางถิ่นทุรกันดารที่มีป้ายว่าภัตตาคาร มันช่างตลกเสียนี่กระไร พวกเขาจึงลองเดินเข้ามา ทั้ง ๆ ที่พวกเขาแค่หวังจะเข้ามาหลบแดดฝนเพื่อค้างแรม แต่พอเปิดประตูเข้ามากลับเจอสถานที่ ๆ สุดแสนจะสบายขนาดนี้
พวกเขาหยิบเมนูขึ้นมา " อาหารไทย อาหารนานาชาติ ของหวาน เครื่องดื่ม " พวกเขาพลิกไปพลิกมา พวกเขาอ่านออก แต่ไม่เข้าใจว่าคืออะไรบ้าง
" ผัดกะเพรา 50 บาท เพิ่มไข่ดาว 50 บาท " อะไรคือผัดกะเพรา อะไรคือบาท สงสัยจะเป็นค่าเงินของที่นี่ แต่มันมีมูลค่าเท่าไหร่นั้นเขาก็ไม่แน่ใจ เขาจึงเรียกเจ้าของร้านมา
" ครับ " วราเดินมาเมื่อลูกค้าเรียกกาเขา
" เจ้ากะเพราราคา 50 บาทนี้ เมื่อเทียบกับเหรียญทองนี่ เท่ากับกี่จานรึ " ผู้มาเยือนถามขึ้น
" เออ คงได้หลาย 100 จานมั้งครับ ผมไม่แน่ใจ อาจจะมากกว่านั้น " วราตอบพร้อมดูขนาดของเหรียญทอง
" เช่นนั้นเอง " แขกผู้มาเยือนพูดขึ้น " ราคาเทียบกับความหรูหราแล้ว นี่มันบ้ามาก อะไรกันนี่ " แขกผู้เป็นผู้ใหญ่กว่าคิดในใจพร้อมกับหันไปมองเพื่อนของเขา ทั้งคู่สบตากัน
" ข้าเข้าใจแล้ว แต่พวกข้าไม่รู้จักอาหารพวกนี้เลย เจ้าพอจะแนะนำอาหารให้พวกเราได้หรือไม่ " ชายผู้เป็นเด็กกว่าเอ่ยถามขึ้น
" ถ้างั้น ลองเลือกจากรูปดูไหมครับ แล้วเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง " วราเสนอ พวกเขาจึงเปิดเมนูขึ้นอีกครั้ง
" อืม ๆ เช่นนั้น ข้าขอถามเจ้าผัดกะเพรานี่ก่อนเลย มันคืออะไร " ผู้ที่ดูสูงวัยกว่าถามขึ้น พร้อมชี้ไปที่รูป
" มันคือผัดที่ใช้เนื้อสัตว์ลงไปทอดกับกระเทียมและพริกปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาลแล้วใส่ใบกะเพราเพื่อเพิ่มความหอมครับ " วราอธิบาย " รสชาติก็จะเผ็ด ๆ เค็ม ๆ นี่คือความภาคภูมิใจของพวกเราชาวไทยเลยนะครับ "
" เช่นนั้นหรือ ข้าสนใจจริง ๆ เจ้าอาหารที่เป็นเหมือนกับความภาคภูมิใจของเจ้า แต่เจ้ารสชาติเผ็ดข้าคงกินไม่ได้ " แขกผู้สูงวัยกว่าพูดขึ้น
" ลดความเผ็ดได้ครับ ถ้าคุณอยากลอง " วราเอ่ยขึ้น
" จริงรึ เช่นนั้น ข้าเอาเจ้านี่แหละ " เขายิ้มตอบ
" เอาเป็นเนื้ออะไรดีครับ หมู หมูกรอบ เนื้อวัว ไก่ ปลาหมึก กุ้ง เครื่องในไก่ " วราถาม
" หืม น่าสนใจทั้งสิ้น ข้าขอเป็นหมูกรอบก็แล้วกัน ข้าสงสัยว่ามันจะเป็นอย่างไร " เขาตอบ
" เพิ่มไข่ดาวด้วยไหมครับ ผมรับรองมันจะอร่อยมากขึ้น " วราเอ่ยถาม อยู่ไทยจนพูดชัด แต่ไม่เคยกินกะเพราและไม่รู้ค่าเงิน แปลกชมัด
" ถ้าเจ้าแนะนำ ข้าก็คงต้องรับไว้ " เขาตอบกลับ
" แล้วอีกท่านล่ะครับ " วราถามแขกที่อ่อนวัยกว่า
" ข้าขอเลือกดูก่อนนะ " เขาตอบ " มีแต่สิ่งน่าสนใจ " ใช่แล้ว มีแต่อาหารที่เขาไม่รู้จักเยอะแยะไปหมด
" แล้วเครื่องดื่มรับอะไรไหมครับ " วราถาม
" เจ้าก็เสิร์ฟน้ำเปล่าให้เราแล้วนี่ " แขกผู้สูงวัยกว่าพูดขึ้น
" เผื่อพวกคุณจะสนใจเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ หรือจะเป็นน้ำผลไม้ น้ำสมุนไพร ก็มีนะครับ " วราเสนอ " เรามีทั้งเสิร์ฟแบบแก้ว หรือแบบทั้งขวดก็ได้ทั้งสิ้นครับ " เขาพลิกเมนูไปหน้าเครื่องดื่ม
" เช่นนั้นพวกเราขอเป็นเจ้านี่ก็แล้วกัน " เขาจิ้มลงบนรูปเครื่องดื่มสีทองในแก้วที่มีฟองลอยอยู่ด้านบน
วราพยักหน้า " งั้นเดี๋ยวผมทำมาเสิร์ฟท่านนี้ก่อนนะครับ "
เขาเดินไปจัดการเปิดเบียร์ 1 ขวดที่ใส่แก้วแช่แข็ง 2 แก้วได้เท่า ๆ กันอย่างพอดี แล้วเดินออกมาเสิร์ฟ
" ว้าวว " เสียงลูกค้าทั้ง 2 ดังออกมา
พวกเขาจับแก้วมีหูที่เย็นเฉียบขึ้น แล้วยกเจ้าน้ำสีทองกรอกปากทันที
" อ้าาาห์ "
วราเดินไปเปิดตู้แช่ หยิบวัตถุดิบออกมา หั่นหมูกรอบ เอากระทะตั้งไฟ จนร้อน ใส่น้ำมัน เอากระเทียมและทุบพริกเม็ดเล็ก ๆ ใส่ไป 2 เม็ด ผัดให้หอม
" อืมมม " แขกทั้ง 2 ส่งเสียงขึ้นพร้อมกัน
จากนั้นใส่หมูกรอบลงไปผัดกับพริกกระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสปรุงรส ตัดด้วยน้ำตาลนิดหน่อย น้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ และเติมน้ำซุปลงไปเล็กน้อย จากนั้นก็ผัดให้เข้ากัน
" อื้มมมมม " แขกทั้ง 2 ส่งเสียงขึ้นอย่างพอใจอีกครั้ง
ตั้งกระทะอีกใบเพื่อทอดไข่ดาวที่ไข่แดงยังคงเยิ้ม ๆ ตักข้าวใส่จาน ตักกะเพราราดบนข้าว หั่นแตงกวาวางข้าง ๆ จากนั้นจัดการวางไข่ดาวไว้ข้างบน เอาช้อนวางข้าง ๆ และเดินออกมาเสิร์ฟ
" กะเพราหมูกรอบไข่ดาวราดข้าว ได้แล้วครับ " วราวางจานข้าวลงบนโต๊ะ
เอื้อก ! ทั้ง 2 กลืนน้ำลายพร้อมกัน นี่มันช่างหอมเหลือเกิน
" ลองค้นพบรสชาติด้วยตัวเองเลยครับ สามารถเพิ่มรสชาติด้วยพริกน้ำปลาที่นำมาให้ได้ด้วยนะครับ แต่ลองชิมก่อนดีกว่า เอ่อ แนะนำให้เจาะไข่แดงแล้วกินพร้อมกัน จะอร่อยมากครับ " วราอธิบาย
เขาหยิบช้อนขึ้นมาและทำตามที่เจ้าของร้านแนะนำ
จึ้ก !!
ไข่แดงลาวาไหลเยิ้มลาดลงบนหมูกรอบและข้าว เขาตักอาหารตรงหน้าเข้าปาก
หงับ !! เคี้ยวได้ 2 3 ทีก็นิ่งไป
" เป็นอย่างไรบ้างครับ " แขกผู้อ่อนวัยถามขึ้น
เอื้อก !! เขากลืนลงคอ หนังหมูที่กรอบแต่เนื้อนิ่ม รสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดนิด ๆ ช่วยให้อยากอาหารขึ้น และกลิ่นหอมของสมุนไพร
" อันตรายแล้ว " พูดจบเขาก็ซัดข้าวในจานแบบไม่รีรอ " อร่อยยย "
" ข้าเอาจานนี้ด้วย " ผู่อ่อนวัยเอ่ยขึ้นทันควันที่เห็นท่าทางของอีกคน " และเจ้านี่อีก 2 แก้ว "
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรยกเว้นแต่การสั่งอาหาร
" เก็บเงินด้วย " พวกเขาเรียกวรา
" ทั้งหมดเป็น . . "
" เอานี่ " เขาเอา 2 เหรียญทองวางบนโต๊ะ " พอหรือไม่ "
" เอ่อ คงเกรงว่าจะเกินไปเยอะเลยครับ " วราพูด " ผมคงรับไว้ไม่ด . . "
" ไม่ต้องทอน " พวกเขาเดินออกไป อาหารดี ๆ แบบนี้ ทำให้พวกเขาอยากกลับปราสาทไปไว ๆ เพื่อพาคนที่นั่นมาลิ้มรสด้วย หลังจากการที่เขาและบุตรชายคนโตแอบปลอมตัวมาดูความเป็นอยู่ของประชาชนและดินแดนแห้งแล้งทุรกันดาลต่าง ๆ ในอาณาจักรเล็ก ๆ ของเขา
" หึ หึ นักเวทย์ในตำนานรึ " ผู้สูงวัยพูดขึ้น พร้อมกับควบม้าเร่งกลับปราสาทพร้อมบุตรชายทันที