ในวันที่อากาศร้อนจัด เสียงดังโป๊ง โป๊ง โป๊ง เคล้ง เคล้ง ลูกน้องเฮียหนึ่งวางประแจกระทบกับพื้น รถกระบะที่เอาไว้ขนผักคันนี้ช่วงล่างมีปัญหาจึงส่งมาซ่อมที่ร้านธนบดินทร์ ลูกค้าเร่งจะเอาก่อนเช้ามืดเพื่อเอาไปขนผักที่ตลาด
“สนใจย่าสิตาหนึ่ง” ย่าสมพิศเอ็ดหลานชายคนโตที่สายตามองออกไปข้างนอกตลอดเวลา จะห่วงงานอะไรนักหนา ไม่เห็นหรือไงว่าย่ากำลังจริงจัง
“ก็ผมฟังย่าพูดเข้าใจหมดแล้วครับ ย่าต้องการจะจัดการยังไงผมตามใจย่าครับ” ปฐพีพูดส่ง ๆ เขาน่ะหมดทางเลือกตั้งแต่ที่ย่าตัดสินใจมาพูดกับเขาแล้ว ย่ามาถามเขาแค่เป็นพิธีเท่านั้น
“แน่ใจนะว่าจะตามใจย่า”
“ผมเคยขัดย่าเหรอครับ”
“หนึ่งกำลังประชดย่า”
“ผมไม่ได้ประชดครับ ผมตามใจย่าเลย ย่าเลือกคนไหนก็คนนั้น ย่าก็รู้ว่าผมไม่เก่งเรื่องเลือกผู้หญิง ครั้งนี้ย่าเลือกให้ผมได้เลยครับ”
“แน่นะ ไม่ใช่ว่าย่าเลือกมาแล้วหนึ่งไม่สนใจไม่อยากได้นะ”
“แน่สิครับ ผมเชื่อว่าย่าจะหาคนดีให้ผมครับ”
“ได้ ย่าจะจัดการให้”
“ครับ ผมไปทำงานต่อนะครับ ลูกค้าเร่งเอารถด้วย อีกเดี๋ยวต้องไปรับน้องขิมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก”
“นั่นแหละ อีกหน่อยก็จะมีคนคอยไปรับไปส่งน้องขิมแล้ว เห็นไหมว่ามีแต่เรื่องดี ๆ”
“ค้าบย่า” ปฐพียิ้มแล้วเดินออกจากห้องทำงาน ให้หลังย่าสมพิศเขาก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ย่าสมพิศอยากให้หลานชายแต่งงานอีกครั้ง เพราะอยากให้เหลนสาวตัวน้อยวัย 4 ขวบครึ่งมีแม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ เขาที่ขี้เกียจจะทะเลาะกับคนแก่ก็เลยปล่อยให้ท่านทำตามใจตัวเอง ทำไงได้เคยตัดสินใจผิดพลาดมาแล้วหนึ่งครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ควรขัดย่าอีก
ปฐพี หรือที่คนอื่นเรียกกันก็เฮียหนึ่ง ช่างหนึ่ง เฮียหนึ่งมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อน้องขิม อายุ 4 ขวบครึ่ง กำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าชัง น้องขิมเป็นดวงใจของบ้านธนบดินทร์ แม่ของน้องขิมทนความยุ่งยากในการเลี้ยงลูกและดูแลครอบครัวไม่ได้จึงเลิกรากับเฮียหนึ่ง น้องขิมได้ 8 เดือนเธอก็ทิ้งลูกไว้และหนีไปพร้อมกับเงินก้อนหนึ่ง เฮียหนึ่งเสียใจอยู่ครึ่งปีกว่าจะกลับมาเป็นผู้เป็นคน คนที่เลี้ยงน้องขิมต่อจากนั้นจึงเป็นย่าสมพิศคนที่ไม่เห็นด้วยที่เฮียหนึ่งยืนกรานจะอยู่กินกับแม่ของขิม แต่ตอนนั้นเฮียหนึ่งดื้อรั้น จะอยู่กับแม่ของน้องขิมให้ได้ ย่าจึงไม่มีอะไรจะห้าม ห้ามไปเขาก็ไม่ฟัง สุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทิ้งเขาทิ้งลูกไปหาความสบาย
ตกเย็นตั้งวงเหล้าที่หน้าอู่ ตั้งวงรอเพื่อน ๆ เหมือนที่เคยทำเป็นประจำ เพื่อนคนไหนว่างก็มา คนไหนไม่ว่างก็คราวหน้าค่อยมา
“ได้ข่าวว่าย่าพิศจะหาเมียให้มึงเหรอวะ” นิ้งหน่องเพื่อนวัยเดียวกันของเฮียหนึ่งเอ่ย
“ข่าวไปไว” เฮียหนึ่งเอ่ยเสียงเรียบ ไม่ได้รู้สึกดีใจหรือเสียใจ เรื่องนี้เขายังไงก็ได้อยู่แล้ว แล้วแต่ย่าจะพิจารณา อย่างที่รู้กัน เขาขัดย่าก็มีแต่จะทะเลาะกัน
“ย่าคงกลัวมึงจะคว้าหลานสะใภ้มาให้แบบไม่ถูกใจอีก ถึงได้รีบหาให้มึงก่อน” มะเหมี่ยวพูดขึ้นบ้าง ผู้หญิงคนก่อนไอ้หนึ่งมันก็คว้ามาจากร้านเหล้า มันว่าเขารักมันนักรักมันหนาสุดท้ายแล้วก็ทนอยู่กับมันไม่ได้ มันต่างหากที่รักผู้หญิงคนนั้นนักหนา
“มึงก็เอาความจริงมาพูดเล่นอีกแล้วไอ้เหมี่ยว” เฮียอันหลานชายร้านขายส่งฝั่งตรงข้ามอู่เฮียหนึ่งแสยะยิ้ม
“เหมือนพวกมึงจะรู้เรื่องก่อนกูอีกนะ”
“ไม่รู้ได้ไง ย่าพิศเขาจ้องเรื่องนี้มานานแล้ว เขาอยากหาเมียให้มึง เมียที่ถูกใจย่า ว่าแต่มึงรู้หรือยังว่าเจ้าสาวของมึงเป็นใคร”
“ไม่รู้ ไม่ได้สนใจ” พูดแล้วก็ยกแก้วยาดองขึ้นดื่ม แก๊งนี้เขาสายยาดอง กินได้วันละ 7-8 กลม กินหนักแต่เช้าตื่นมาแยกย้ายกันทำงานปกติ ตกเย็นก็ตั้งวงอีกรอบ
“งานแต่งไอ้หนึ่งกูจะจัดโด่ไม่รู้ล้มมาให้มัน” นิ้งหน่องเอ่ย
“จัดมาเยอะเดี๋ยวมันก็ได้ล้มก่อนโด่” มะเหมี่ยวแซวทันควัน สรรพคุณยาเขาอะใช่ ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ แต่แก๊งพวกเขากินเมาก่อนได้โด่ นารีก็ไม่เคยรำพึง
“ว่าแต่กู กูเห็นล้มทุกคน” ปฐพีย้อนหลังจากที่ฟังเพื่อนแขวะมานาน
“เฮ้ย แบบนี้สาว ๆ ที่พยายามอ่อยมึงก็อกหักกันหมดสิวะ” เฮียอันนึกขึ้นมาได้ ไอ้หนึ่งมันเนื้อหอมใช่เล่น เหตุผลนี้ด้วยมั้งที่ย่าสมพิศรีบหาเมียให้มัน
หัวเรื่องคืนนี้ในวงเหล้าคือเรื่องเมียของไอ้หนึ่ง เจ้าของเรื่องได้แต่นั่งฟังเพื่อนพูดแซว ตัวเขาเองไม่รู้และไม่สนว่าเจ้าสาวจะเป็นใคร