เช้าวันต่อมา กว่าไอยรินทร์จะลากสังขารลุกออกมาจากเตียงนอนได้ก็ปาไปเกือบแปดโมง เพราะทั้งร่างแทบเรียกได้ว่าเจ็บปวดไปหมด เมื่อคืนกว่าจะถูกปล่อยตัวก็เลยเช้าวันใหม่มาหลายชั่วโมงแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าเธอต้องเข้าเรียนเธอคงไม่ลุกจากเตียงแน่นอน
“อ่าว ตื่นแล้วเหรอ กินนี่สิ”
พอเดินออกมานอกห้องเสียงของเจ้าของห้องก็ดังขึ้น เพราะตอนนี้เขากำลังนั่งทานอาหารเช้าแบบง่ายๆที่เขามักจะทำกินเอง ไอยรินทร์เดินด้วยท่าทางติดขัดไปนั่งลงตรงข้ามกับเขาอย่างนึกอายจนสองแก้มแดงปลั่งจนคนมองอดกระตุกยิ้มไม่ได้
“ถ้าไม่ไหวพักอยู่นี่ก่อนก็ได้นะ ดีขึ้นค่อยกลับห้องเธอไป”
“มีเรียน ปีสี่แล้วขาดไม่ได้”
ไอยรินทร์บอกขึ้นพร้อมกับเริ่มทานอาหารตรงหน้าอย่างหิวโหยเมื่อเธอไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วโดยไม่รู้เลยว่ารนราชย์กำลังนั่งมองเธอกินอาหารที่เขาทำให้อย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะรีบเปลี่ยนท่าทีเมื่อเขาดันมีความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาอีกแล้ว
“แล้วเธอจะต้องกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนไหม เดี๋ยวฉันให้คนขับรถไปส่ง”
“ไม่เป็นไร ฉันมีชุดอยู่ที่ล็อกเกอร์มหาลัย”
“เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดเพราะๆไม่เป็นรึไง”
“ค่ะ ไอยต้องเข้าเรียนตอนเก้าโมง ไม่มีเวลาพอจะกลับไปเปลี่ยน พอใจรึยังคะ”
“อืม ดีขึ้นนิดหน่อย”
หลังจากทานอาหารเสร็จ รนราชย์ก็ขับรถไปส่งไอยรินทร์ที่มหาวิทยาลัย เพราะเขาบอกว่ามันเป็นทางผ่าน ซึ่งระหว่างทางเขาก็จอดให้เธอลงไปซื้อยาคุมกำเนิดด้วย ซึ่งไอยรินทร์ก็ไม่ได้ขัดข้องเมื่อเธอเองก็ไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์เหมือนกัน
“เดี๋ยวตอนเย็นฉันให้คนมารับ เธอเลิกเรียนกี่โมง”
“หือ? ไม่เป็นไรค่ะ พอดีไอยต้องไปทำงานต่อกว่าจะเสร็จก็สี่ทุ่มแล้ว”
“ทำงาน? ทำงานอะไร”
พอได้ยินว่าเธอทำงานรนราชย์ก็รีบถามขึ้นทันที เธอเรียนอยู่ทำไมต้องทำงานด้วย หรือเธอไม่มีเงินใช้ เพียงแค่เธอบอกว่าทำงานทำไมสมองของเขาถึงคิดไปมากมายอย่างนั้นก็ไม่รู้
“อ่าว ไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะคะไอยไม่ได้มีพ่อมีแม่มาเลี้ยงหรือส่งเรียนเหมือนคนอื่นๆเลยต้องทำงานตอนเย็น”
สุดท้ายเขาก็ได้รู้เหตุผล เมื่อไอยรินทร์โตมาในบ้านเด็กกำพร้า ที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อบิดามารดาของตนเอง รู้เพียงแค่ว่าเธอถูกคนส่งมาอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรกเกิดแต่โชคยังดีที่เธอเป็นเด็กฉลาดและเรียนเก่งเลยทำให้ได้ทุนต่างๆมากมายจนสามารถส่งเสียตัวเองจนใกล้จะเรียนจบมหาวิทยาลัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งสองนั่งเงียบมาจนกระทั่งถึงที่เรียนของไอยรินทร์ ก่อนเธอจะเอ่ยขอบคุณแล้วลงจากรถของรนราชย์ไป
“เดี๋ยวก่อน เอานี่ไป”
พอเดินไปได้ไม่ไกลร่างใหญ่ของรนราชย์ก็เดินมาดักหน้าของเธอเอาไว้แล้วยื่นบัตรเครดิตของเขาให้เธอหนึ่งใบ ทำเอาไอยรินทร์ถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อเธอบอกแล้วว่าไม่ได้อยากได้เงินเขาสักหน่อย
“ไม่เป็นไรคะ ไอยบอกแล้วว่าไม่ได้ต้องการเงิน ต้องการแค่ตัวแต่ถ้าแถมหัวใจมาให้ด้วยก็ยิ่งดี ไปนะคะจะสายแล้ว”
“เดี๋ยวก่อนสิ นี่! นี่...”
พอพูดจบไอยรินทร์ก็เดินหนีออกไปทันที ทำเอาคนที่อุตส่าหวังดีถึงกับยืนถือบัตรเครดิตเก้ออยู่ตรงนั้นแล้วมองตามร่างเล็กของเธอไปอย่างนึกเห็นใจพลางคิดว่ามันจะมีด้วยเหรอผู้หญิงที่ไม่ต้องการเงินจากเขา หรือว่าเธอกำลังเล่นตัวเพื่อให้ได้สิ่งที่มากกว่ากันแน่ เพราะการกระทำของไอยรินทร์มันดูไร้เหตุผลจนเกินไปเลยทำให้เขาไม่สามารถคิดบวกกับเธอได้เลยจริงๆ
“ไอย! นั่นใครน่ะ หน้าคุ้นๆนะ”
“หือ?”
“ก็คนหล่อๆสูงๆขับรถหรูๆที่มาส่งแกไง”
“อ้อ เสี่ยของฉันเอง ตอนนี้ฉันเป็นเด็กเสี่ยแล้วนะ”
“ห๊ะ! นี่แกพูดจริงเหรอ อย่างแกนี่นะเป็นเด็กเสี่ย”
“อืม อย่างฉันนี่แหละ และฉันจะเป็นเมียเสี่ยของฉันให้ได้ด้วย”
พอเดินเข้ามาในอาคาร เพื่อนร่วมห้องที่ค่อนข้างสนิทของไอยรินทร์ก็ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ เพราะเห็นตั้งแต่เพื่อนสาวเดินลงมาจากรถยนต์คันหรูนั่นแล้วแถมยังมีผู้ชายรูปร่างสูงแถมหล่อเดินตามมาอีกยิ่งทำให้ต่อมความอยากรู้มันมากขึ้นไปอีกจนอดที่จะถามออกมาไม่ได้ และไอยรินทร์ก็บอกไปตามความจริง เมื่อตอนนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นเด็กเสี่ยและจะพยายามขยับสถานะขึ้นไปเรื่อยๆจนกายเป็นเมียของเขาเลยคอยดู
“เจ้านายครับ...เจ้านาย...คุณราชย์!”
“ห๊ะ! แกจะตะโกนทำไมวะ ตกใจหมด”
“อ่าว ก็ผมเรียกตั้งหลายครั้งแล้ว แต่เจ้านายไม่สนใจ”
“เออๆๆ แล้วบอกให้เลิกเรียกเจ้านายๆ แกนี่มันจริงๆเลย มีอะไร!”
“นี่เป็นเอกสารสรุปการประชุม ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ ผมสังเกตเห็นตั้งแต่เช้าแล้วว่าเจ้านายดูแปลกๆ”
“ไม่มี ออกไปได้แล้ว รำคาญ”
“ครับ...”
ทางด้านรนราชย์ วันนี้เขาแทบไม่มีสมาธิทำงานเลยสักนิดเมื่อเอาแต่คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าที่เธอบอกว่าไม่มีพ่อมีแม่ แถมยังต้องทำงานส่งตัวเองเรียน แต่พอเขาให้บัตรเครดิตเธอกลับไม่ยอมเอา ยิ่งคิดมันยิ่งดูสับสน ไม่มีเงินแต่ไม่เอาเงิน เรื่องนี้ทำให้เขาแทบไม่มีสมาธิทำงานเอาแต่คิดวนไปวนมา
“หรือว่าเธอแสดงละครตบตาเราอยู่ แล้วทำไมต้องไปคิดถึงเด็กบ้าๆคนนั้นด้วย เดี๋ยวเธอก็เจอผู้ชายคนใหม่ก็คงไปง่ายๆแบบที่เคยทำ โอ๊ย! พอๆๆๆ เลิกคิดๆ”
รนราชย์ได้แต่พูดคนเดียวเหมือนคนบ้า เมื่อสมองดันคิดแต่เรื่องของไอยรินทร์ ทั้งๆพึ่งเจอกันได้แค่วันเดียว แต่ดูท่าเธอจะก้าวเข้ามาทำให้ชีวิตอันสงบสุขของเขายุ่งเหยิงเสียแล้ว
“แล้วเรามาทำบ้าอะไรที่นี่ เอาเวลาอันมีค่ามานั่งดูยัยเด็กบ้าเนี่ยนะ”
พอตกเย็น รนราชย์ผู้มีเวลาเป็นเงินเป็นทองกลับรีบขับรถออกจากบริษัทแล้วตอนนี้ก็กำลังนั่งมองไปที่ร้านกาแฟเล็กๆข้างมหาวิทยาลัยของไอยรินทร์ที่ตอนนี้เธอกำลังขะมักเขม้นทำงานอยู่ และดูจะยุ่งมากเมื่อทั้งร้านแทบไม่มีที่ให้ลูกค้านั่งจนต้องพากันยืนต่อคิวอยู่ด้านนอก
“แล้วทำไมลูกค้าถึงมีแต่ผู้ชายล่ะ หรือว่าไม่ต้อนรับลูกค้าผู้หญิงเหรอ...มีร้านแบบนั้นด้วยเหรอ”
พอนั่งดูไปได้สักพัก รนราชย์ก็อดที่จะจับสังเกตไม่ได้เมื่อเกือบทั้งร้านดันเป็นลูกค้าผู้ชายซะส่วนใหญ่
“อุตส่าให้บัตรเครดิตไปใช้ก็ไม่เอายังมาทำงานแบบนี้อีก ได้กี่บาทเชียว ไหนว่าอยากเป็นผู้หญิงของฉันไม่รู้รึไงว่าฉันรวยขนาดไหน”
รนราชย์นั่งดูอยู่นานสองนานก่อนจะเริ่มเบื่อเลยเดินลงไปดู เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนไอยรินทร์จะเลิกงาน
“คุณ! มาที่นี่ทำไม”
“ก็...แค่มาดื่มกาแฟ เอาอเมริกาโน่ไม่หวานแก้วนึง”
“อ่อ...ค่ะ...”
การปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิด ทำเอาไอยรินทร์ถึงกับตกใจ ก่อนรนราชย์จะสั่งเครื่องดื่มแก้เก้อแล้วเดินไปหาที่นั่ง ซึ่งก็ได้ซะมุมไกลๆเพราะที่อื่นถูกนั่งจนเต็มหมดแล้ว
“เมื่อวานกูอุตส่ามารอตั้งแต่สี่โมง นึกว่าพี่ไอยจะมา”
“แหม กูมาทุกวันยังไม่ได้แม้กระทั่งเบอร์โทร มึงพึ่งติดตาม ต่อคิวไปเลย”
“โธ่ ก็กูพึ่งเข้ามาเรียนที่นี่ ถ้ารู้ว่าจะมีนางฟ้าแบบพี่ไอยกูมาตั้งแต่เกิดละ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็เกินไป”
ในขณะที่นั่งรอกาแฟ รนราชย์ก็ดันได้ยินพวกนักศึกษาชายพากันคุยถึงไอยรินทร์ เลยอดที่จะเงี่ยหนูไปฟังไม่ได้ ก่อนจะได้รู้ว่าทำไมคนถึงเต็มร้านอย่างนี้
“ฮึ่ม!”
เขาครางออกมาอย่างไม่พอใจเมื่อตอนนี้ผู้หญิงที่พวกนั้นพูดถึงนั้นเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว เขาไม่ชอบให้ใครมาสนใจเธอเลยจริงๆก่อนจะลองมองไปรอบๆและก็เห็นว่าแทบทุกโต๊ะมองพากันมองไปที่คนของเขาด้วยรอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนรนราชย์อดคิดไม่ได้ว่าเธออาจจะเป็นดาราหรือคนดังรึเปล่า
“เอ่อ น้องครับ พี่ถามอะไรหน่อยดิ ผู้หญิงที่น้องพูดถึงน่ะเป็นใครเหรอ”
“อ้อ นั่นน่ะนะครับ นางฟ้าครับ”
รนราชย์อดไม่ได้ที่จะถามออกมาแต่คำตอบที่ได้ทำเอาเขาแทบอยากตบกบาลคนตอบให้หัวทิ่มสักทีจริงๆ
“พี่หมายถึง...เธอมีชื่อเสียงเหรอ”
“อ้อ ครับ เธอเป็นดาวมหาลัยที่สวยที่สุดในประเทศแล้วครับ”
“เอ๋ นี่น่ะนะสวยที่สุดในประเทศ”
“อ่าวพี่ ก็นี่แหละ ไม่งั้นหนุ่มๆจะเต็มร้านเหรอ นี่ยังน้อยนะ บางวันนี่อย่าหวังว่าจะได้นั่ง”
“อ้อ...”
ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งคิดว่าเด็กคนนี้ดูพูดเกินจริงมากไป แต่มันก็เกือบจะใกล้เคียงเมื่อคนเต็มร้านต่างสนใจมองไปที่เธอ รนราชย์นั่งอยู่ในร้านจนคนเริ่มหมดเมื่ออีกไม่นานร้านก็จะถึงเวลาปิดแล้ว
“มาหาไอยเหรอคะ”
พอเริ่มหมดลูกค้าไอยรินทร์ก็เดินยิ้มกว้างเข้ามาหาเขา ทำเอาคนที่ไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวยังไงได้แต่มองไปรอบๆร้านแล้วเอ่ยขึ้น
“ก็แค่แวะมา...”
“ค่ะ งั้นไอยไปเก็บร้านก่อนนะคะ คุณจะกลับก่อน...หรือว่ารอไอย...”
“ถ้าเห็นก็แสดงว่ายังอยู่”
“อ้อค่ะ งั้นไอยไปนะคะ”
ไอยรินทร์เดินกลับไปทำงานอีกเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะเดินกลับมาหารนราชย์ที่ยังคงนั่งรออย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่เคยนั่งอดทนรอใครได้เป็นสามสี่ชั่วโมงอย่างนี้มาก่อน แต่พอได้มองได้ดูเห็นเธอทำงานมันกลับเพลินไปเรื่อยๆจนเวลาล่วงเลยมาอย่างที่เห็น
“ขอบคุณนะคะที่มารอรับไอย...”
“ก็บอกว่าแค่ผ่านมา”
“โอเคค่ะแค่ผ่านมาก็ได้ แต่ก็ขอบคุณอยู่ดี”
และรนราชย์ก็รอจนเธอเลิกงานจริงๆ พอทั้งสองขึ้นมานั่งบนรถไอยรินทร์ที่รู้สึกดีใจเอ่ยขอบคุณออกมา
“แล้วนี่ เธอทำงานกลับดึกอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ”
“ก็ไม่ทุกวันหรอกค่ะ ช่วงนี้จะจบแล้วเลยยุ่งๆ ไปได้ก็ไป ไปไม่ได้ก็ไม่ไป”
“ไม่ไปได้ด้วยเหรอ”
“หือ? ก็ได้สิคะ ไอยเป็นแค่พนักงานพาร์ทไทม์”
“แล้ว...ได้เงินเท่าไหร่ทำงานแบบนั้น”
“ก็...พันนึง...บางทีก็พันห้า”
หญิงสาวบอกออกมาตามจริง เมื่อเธอเป็นพนักงานพิเศษที่ได้รับค่าจ้างเยอะกว่าคนอื่นๆเพราะลูกค้าของที่นี่ส่วนมากมาเพราะเธอทั้งนั้น วันไหนเธอมาทางร้านก็จะขายดีเป็นพิเศษเจ้าของเลยยอมจ่ายให้เธอมากกว่าคนอื่นๆ
“ฉันให้วันละหมื่น เลิกทำงาน”
“ห๊ะ! ไม่เอาหรอคะ ไอยบอกแล้วว่าไม่ได้อยากได้เงินคุณสักหน่อย แค่นี้ก็พอแล้ว”
“ถ้าไม่เอาข้อตกลงของเราก็ควรยกเลิก ฉันไม่ชอบให้ผู้หญิงของฉันมานั่งทำงานหนัก”
เขาบอกขึ้นเสียงนิ่ง ทำเอาไอยรินทร์ถึงกับหุบยิ้มทันที เธอแค่ไม่อยากได้ชื่อว่าเข้าหาเขาเพราะต้องการเงินเท่านั้นเอง
“ว่าไง หรือว่าจะยังทำต่อก็ได้นะ เรื่องของเราก็จบแค่นี้ด้วยเหมือนกัน”
“.................”
“โอเค เธอเงียบแสดงว่าเธอไม่อยากเป็นผู้หญิงของฉัน”
“อยาก...”
“งั้นเลิกทำงาน แล้วฉันจะโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน หรือจะเอาเป็นทุกวัน”
“ยังไงก็ได้ค่ะ”
และสุดท้ายเธอก็ยอมแพ้เขาจนได้ เพราะยังไงมันก็ควรเป็นอย่างนั้น ในเมื่อเป็นผู้หญิงของเขา เขาก็ต้องเลี้ยงและดูแลเธอมันก็ถูกแล้ว ไม่นานทั้งสองก็มาถึงหอพักของไอยรินทร์
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“ใครบอกมาส่ง ไปเอาเสื้อผ้ามา ฉันให้เวลาสิบนาที”
“ห๊ะ! อะไรนะคะ”
“อ่าว ผู้หญิงของฉันไม่อยู่กับฉันแล้วจะใช่ผู้หญิงของฉันรึไง”
และสุดท้ายไอยรินทร์ก็เดินไปเอาเสื้อผ้าของเธอใส่กระเป๋าลงมา เมื่อเธอเองก็อยากอยู่ใกล้เขาแต่แค่กลัวว่าเขาจะเบื่อหรือรำคาญเธอเสียก่อน แต่พอได้ยินที่เขาพูดเธอกลับรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก