“ไม่เห็นต้องมาเลี้ยงเลยค่ะ แล้วที่นี่ไม่แพงไปเหรอคะ”
“โธ่ ตอบแทนไอยที่ทำงานกับพวกเรามาตั้งนาน แค่นี้เล็กน้อย”
ทางด้านไอยรินทร์พอทำงานจนใกล้เวลาที่จะปิดร้าน เจ้าของร้านก็ดึงดันที่จะพาเธอออกมาเลี้ยงส่งหลังจากที่เธอบอกว่าขอลาออกด้วยเหตุผลว่าเรียนปีสี่มันหนักเกินกว่าจะมาทำงานได้ เจ้าของร้านเลยไม่ห้ามแต่ก็แอบเสียดาย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของไอยรินทร์ทั้งนั้น
“เอาโต๊ะตรงมุมนั่นเลยไหม เรามาหลายคนจะได้ไม่รบกวนคนอื่นด้วย”
“ยังไงก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวตอบรับอย่างไม่รู้จะขอบคุณยังไง ถ้าไม่ถูกบังคับเธอไม่มีวันลาออกจากที่นี่แน่ แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อรนราชย์สั่งเด็ดขาดขนาดนั้น
“ทำไมต้องมาทานที่นี่ด้วยล่ะ ร้านอาหารหรูๆดีๆกว่านี้มีตั้งเยอะ”
“โธ่ ก็ที่นี่มันใกล้นี่ครับ อีกอย่างอาหารก็อร่อยด้วย”
“เฮ้อ ถ้าไม่อร่อยนะแม่จะเล่นงานแก!...เดี๋ยวป้าไปเข้าห้องน้ำก่อนนะจ๊ะ ไปรอแล้วสั่งอาหารกันก่อนเลยนะ”
คุณหญิงกมลรัตน์เดินมากระซิบบอกบุตรชายอย่างคาดโทษเพราะร้านที่พามานั้นเป็นแค่ร้านอาหารธรรมดาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับลลนาแล้วเอ่ยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เมื่ออยากให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน เผื่อจะสนใจกันขึ้นมาบ้าง
“นั่นมันลูกค้าคนเมื่อวานนี่ ใช่ไหมฉันจำได้”
“หือ? อ้อใช่ๆ ที่นั่งสามสี่ชั่วโมงใช่ไหม”
“อย่าไปมองเขาสิ เสียมารยาท เขามาทานข้าวกับแฟนนี่”
ไอยรินทร์อดหันไปมองตามที่พวกเพื่อนร่วมงานพูดถึงไม่ได้ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อดันเป็นรนราชย์พลันหัวใจดวงน้อยกระตุกบีบรัดขึ้นมาทันทีที่เห็นคนที่มากับเขาและรอยยิ้มนั่น รอยยิ้มที่เธอไม่เคยได้รับจากเขาก่อนจะรีบหันกลับมาทันที
“น่าเสียดายเนาะ หล่อ ดูท่าทางรวยด้วยสิ ทำไมคนรวยมักคบกันเอง น่าจะมาคบกับคนจนๆแบบพวกเราบ้าง”
“พูดไปเรื่อย อาหารมาแล้ววววว”
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นอาหารที่สั่งก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ ก่อนทุกคนจะเริ่มลงมือทานอย่างเอร็ดอร่อยเว้นก็แต่เจ้าของงาน ที่แทบกลืนอะไรไม่ลงเมื่อภาพบาดตาบาดใจยังคงผุดขึ้นมาไม่หยุดจบแทบไม่กล้าหันไปมองที่โต๊ะของรนราชย์อีก
“เอ่อ...พี่ราชย์...งานยุ่งไหมคะช่วงนี้”
“หืม? ก็ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่”
“อ้อค่ะ พอดีน้ำตาลสนใจงานด้านส่งออก ถ้าเกิดจะขอคำแนะนำจากพี่ราชย์บ้าง พอจะได้ไหมคะ”
“ได้สิ ไม่นึกว่าเราก็สนใจงานด้านนี้ด้วย ถามพี่ได้ทุกอย่าง พี่จะช่วยอย่างเต็มที่”
“ขอบคุณนะคะ”
หล่อ รวย แถมฉลาดอีก โอ๊ย! เหมือนที่คุณแม่บอกไม่มีผิด รู้อย่างนี้แต่งงานด้วยตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆแล้ว พี่ราชย์ของน้ำตาล
ขณะที่นั่งรอคุณหญิงกมลรัตน์ ลลนาก็เลยชวนรนราชย์คุย เพราะดูท่าเขาคงจะนั่งเงียบอยู่อย่างนี้แน่ถ้าเธอไม่เป็นฝ่ายชวนคุยก่อน ทีแรกเธอก็ไม่ได้สนใจเขาหรอกนอกจากเงินทองของเขา แต่ตอนนี้เธอเริ่มคิดใหม่แล้ว เมื่อเขาดูเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างขนาดนี้ เธอจะไปหามาจากที่ไหน ในเมื่อเจอแล้วก็ควรจับให้อยู่หมัด
“เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณแม่ หายไปซะนานเลย”
“เปล่าๆ แม่แค่ท้องเสียนิดหน่อยนะ ว่าแต่คุยอะไรกันอยู่เอ่ย”
คุณหญิงกมลรัตน์ที่คิดว่าควรกลับมาได้แล้วหลังจากแอบไปยืนคุยโทรศัพท์กับมารดาของลลนามาเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักกัน ก่อนจะเดินมานั่งลงข้างกับบุตรชายอย่างอารมณ์ดี จากนั้นทั้งโต๊ะก็มีแต่เสียงของคุณหญิงกมลรัตน์ที่ชวนคุยไปเรื่อยและส่วนมากก็จะเป็นเรื่องน่ารักๆของลลนาและเรื่องราวน่าประทับใจของรนราชย์เพื่อกระตุ้นให้ทั้งสองรู้สึกดีต่อกันบ้าง
“หกโมงเย็นแล้วเหรอ...ไหนบอกทำงานถึงแค่เที่ยง”
พอทานอาหารเที่ยงกับมารดาและลลนาเสร็จ รนราชย์ก็กลับมาทำงานต่อเพื่อรอให้ไอยรินทร์โทรมาแต่เวลาก็ล่วงเลยไปจนกระทั่งเย็นเธอก็ยังไม่ติดต่อมา เขาเลยหยิบโทรศัพท์โทรออกไปหาเธอแทน
“อยู่ไหน”
“ห้องค่ะ”
“ไปทำไม”
“ก็...ทำงานเสร็จแล้ว เลยกลับห้อง”
“ไหนบอกว่าจะโทรมา”
“ก็...เห็นคุณน่าจะยุ่งเลยไม่อยากรบกวน”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
“คนบ้า! คิดจะโทรก็โทร คิดจะวางก็วางหรือว่ายังไม่ว่างอีก...เฮ้อ...”
ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดรู้เรื่องคนปลายสายก็กดวางไปเสียแล้ว ไอยรินทร์ที่กลับห้องของเธอมาตั้งแต่บ่ายได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอลืมคิดไปเลยว่าบางทีรนราชย์อาจมีแฟนอยู่แล้วก็เป็นได้และถ้าคิดไม่ผิดก็น่าจะเป็นผู้หญิงที่เธอเห็นวันนี้ คนที่ได้รอยยิ้มของเขาไป พอคิดมาถึงตรงนี้ทีไรไอยรินทร์ก็อยากร้องไห้ขึ้นมาทุกที
“แต่เราก็แค่ผู้หญิงของเขา ไม่ได้มีฐานะอะไรอยู่แล้วนี่จะไปคิดมากทำไม...”
คำพูดน้อยใจถูกพ่นออกมาไม่ขาดสาย เมื่อไม่รู้จะทำยังไงให้ความรู้สึกแย่ๆที่มีในใจมันหายไปสักที
ส่วนทางด้านรนราชย์ตอนนี้ก็กำลังโกรธ เมื่อเขาอุตส่ามานั่งทำงานรอให้เธอโทรให้ไปรับตั้งนานสองนาน แต่เธอกลับบอกว่าอยู่ห้องของเธอเสียอย่างนั้น ทำเอาคนรอถึงกับเกิดอาการหงุดหงิดทันทีที่วางสายไป
“อ่าว กลับแล้วเหรอครับเจ้านาย”
“อืม มีอะไรก็ส่งอีเมลทิ้งไว้ เดี๋ยวฉันเปิดอ่าน”
“ครับ แล้วพรุ่งนี้เจ้านายจะเข้ามาทำงานรึเปล่าครับ”
“ไม่รู้เว้ย!”
“อ่าว...เป็นอะไรไปอีกล่ะครั้งนี้...”
เทวาที่เห็นรนราชย์เดินออกมาจากห้องทำงานรีบเดินเข้ามาถามเพราะปกติบริษัทหยุดเสาร์และอาทิตย์ แต่รนราชย์ชอบมาทำงานไม่เคยเว้นแม้กระทั่งวันหยุด เขาเลยต้องถามเพราะเขาจะได้ทำตัวถูกแต่กลับโดนโวยวายใส่แล้วเดินหนีออกไปเสียดื้อๆอย่างนั้นเลยอดสับสนไม่ได้
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
“มีอะไรคะ”
“ลงมา”
“คะ?”
“บอกให้ลงมาข้างล่าง”
“ข้างล่างเหรอ? ข้างล่างไหนคะ”
“เธออยู่ห้องไหน ชั้นไหนบอกมา”
“ห๊ะ! พูดอะไรคะ...อย่าบอกนะว่าคุณ...”
ขณะที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ รนราชย์ก็โทรหาเธออีกรอบ ไอยรินทร์กดรับสายก่อนจะสับสนกับคำพูดของเขาอยู่พักหนึ่งแล้วจึงรีบวิ่งไปที่ระเบียงห้องแล้วมองลงไปด้านล่างที่ตอนนี้มีรถยนต์คันหรูของรนราชย์จอดอยู่
“ลงมาเดี๋ยวนี้ หรือจะให้ฉันขึ้นไป”
“แต่ไอย...”
“โอเค ฉันเห็นเธอแล้ว รออยู่นั่นเดี๋ยวฉันขึ้นไป”
“ห๊ะ ดะ...เดี๋ยวสิคะคุณราชย์ ฮัลโหล คุณราชย์! อ่าว”
รนราชย์ที่เงยหน้ามาเจอเธอที่ระเบียงพอดีบอกขึ้นผ่านโทรศัพท์เครื่องเล็กก่อนจะตัดสายทิ้งแล้วเดินออกจากรถมาทันที ทำเอาไอยรินทร์ที่เห็นอยู่รีบตะโกนเรียก แต่เขากลับไม่ได้สนใจก้าวเดินเข้ามาในหอพักของเธออย่างรวดเร็วจนไอยรินทร์รีบวิ่งเข้าไปในห้อง เมื่อตอนนี้มันรกไปหมดหลังจากไม่ได้ทำความสะอาดมาสามวันแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เฮ้ย! อะไรวะ นี่เดินหรือเหาะขึ้นมาเนี่ย!”
ยังไม่ทันที่จะได้เก็บอะไรเลยสักนิด เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นทำเอาร่างบางที่กำลังจะก้มเก็บของถึงกับชะงักไปทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
“อ๊าย มาเปิดแล้ว ใจเย็นๆสิคะ”
ผลั๊วะ
“อื้ออออออออ อุน อาด อื้มมมม”
พอประตูเปิดขึ้นเท่านั้น ร่างใหญ่ก็ถลาเข้ามาจูบเธอทันทีโดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว รนราชย์ดันร่างเล็กให้เดินถอยเข้ามาในห้องก่อนเขาจะใช้เท้าผลักประตูปิดเมื่อทั้งมือและปากต่างไม่ว่าง
ปากร้อนจาบจ้วงจูบไปบนปากเล็กหนักหน่วงรุนแรงจนไอยรินทร์ตกใจกับการกระทำของเขา มือเล็กพยายามจับเขาไว้แน่นอย่างเริ่มตื่นกลัวเพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร
ส่วนรนราชย์ตอนนี้เขาโกรธมากโกรธที่เธอไม่สนใจเขา โกรธที่เธอละเลยเขา โกรธที่เธอเข้ามาทำให้เขาแทบบ้าตายเพียงเพราะการเงียบหายไปของเธอ โกรธไปหมดแม้กระทั่งตนเองที่ดันมีความรู้สึกกับเด็กผู้หญิงคนนี้อย่างที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อน
“อ๊าาาาาา”
“.............”
รนราชย์จูบจนเริ่มรู้สึกดีขึ้นก่อนจะถอนจูบออกมามองจ้องหน้าไอยรินทร์นิ่งอย่างต้องการค้นหาความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ นี่แค่เพียงไม่กี่วันคนตรงหน้ากลับทำให้เขาลนลานแทบบ้าเพียงแค่เธอเงียบหายไปอย่างนี้
ส่วนไอยรินทร์พอหายใจเข้าปอดจนเต็มอิ่มแล้ว เธอก็เริ่มเงยหน้าขึ้นมามองรนราชย์ที่ตอนนี้เขาก็มองจ้องเธออยู่เหมือนกัน
“มีอะไรรึเปล่าคะ...ไอย...เอ่อไอยทำอะไรให้คุณราชย์ไม่พอใจรึเปล่า”
เธอถามขึ้นทั้งๆที่พอจะรู้ว่าเขาคงโกรธที่เธอกลับมาที่นี่โดยไม่บอกเขาก่อน
“เธอเป็นใคร”
“หือ? เอ่อ ไอย...ไอยรินทร์”
“ทำไมเธอต้องเข้ามาในชีวิตฉันด้วยห๊ะ!”
และคำพูดของเขาก็ทำเอาเธอรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที เพราะคิดว่าเขากำลังเสียใจที่เอาเธอเข้ามาในชีวิตของเขาอย่างนั้นเหรอ หรือว่าเธอเข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างเขากับคนที่เขารักอย่างนั้นเหรอพลันน้ำตาหญิงสาวก็คลอหน่วยขึ้นมาทันทีอย่างรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่ต้องการเธอแม้กระทั่งบิดากับมารดาของเธอยังทิ้งเธอไปตั้งแต่เกิด ไอยรินทร์ยกมือปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลของเธอทันที
“ไอยขอโทษที่เข้ามาทำให้ชีวิตของคุณยุ่งเหยิง ไอยเข้าใจดีว่าไอยเข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างพวกคุณ ไอยจะเป็นคนเดินออกไปเอง”
ไอยรินทร์พูดออกมาทั้งน้ำตาเมื่อเธอคิดว่าผู้หญิงที่เขาพามาทานข้าวด้วยคือแฟนสาวของเขา ทำเอารนราชย์ถึงกับขมวดคิ้วยุ่งทันที
“พูดอะไรของเธอ”
และก็เป็นรนราชย์ที่มึนงงกับสิ่งที่เธอพูดออกมา
“วันนี้ไอยเห็นคุณไปทานข้าวกับผู้หญิง...เธอเป็นแฟนของคุณใช่ไหมคะไอยลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ไอย...ไอยไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปเป็นมือที่สามของใคร ไอยขอโทษ”
“พูดบ้าอะไรของเธอห๊ะ!”
รนราชย์ตะคอกใส่หน้าของเธอเสียงดังเมื่อเธอคิดเองเออเองไปเสียทุกเรื่อง ตอนนั้นเขาพยายามไล่เธอไปไกลๆแต่เธอกลับยืนยันที่จะอยู่ แล้วพอมาตอนนี้บอกว่าจะเดินออกจากชีวิตของเขาไป เธอกำลังเล่นกับความรู้สึกของเขาอย่างนั้นเหรอ
“หรือว่าเพราะเรื่องนี้เธอเลยมาอยู่ที่นี่...ใช่ไหม”
“................”
“เฮ้อ ทำไมเข้าใจยากอย่างนี้ ไหนเธอบอกว่าอยากเป็นผู้หญิงของฉันโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แล้วทำไมตอนนี้เกิดเปลี่ยนใจ หรือว่าเธอมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าแล้ว”
“................”
“ถ้าเธอมีคนอื่นก็จบกันแค่นี้เถอะ”
พูดจบรนราชย์ก็ปล่อยมือจากร่างเล็กแล้วหันหลังเพื่อที่จะเดินออกจากห้องของเธอไป ทำเอไอยรินทร์ถึงกับตกใจรีบผวาเข้าไปกอดร่างใหญ่เอาไว้ทันที
“ไม่...ไอยไม่เคยคิดจะมีใคร...ไอย...ไอยรักคุณ”
“รักทั้งๆที่ฉันมีผู้หญิงคนอื่นอีกงั้นเหรอ”
“..................”
และไอยรินทร์ก็เงียบไปอีกครั้ง เมื่อเธอรักเขาก็จริง แต่พอมาคิดว่าเธอต้องแบ่งเขาให้กับผู้หญิงคนอื่นเธอกลับรู้สึกว่าไม่ต้องการแบบนั้น เธอต้องการให้เขาเป็นของเธอแค่คนเดียวเหมือนเด็กหวงของก็ไม่ปาน
“ไอยอยากเป็นของคุณคนเดียว...และอยากให้คุณเป็นของไอย...คนเดียวด้วย”
รนราชย์ค่อยๆหันกลับมามองคนที่บอกว่าอยากเป็นของเขาคนเดียว ก่อนจะยกแขนโอบกอดร่างเล็กเอาไว้
“ฉันไม่ได้มีใครอย่างที่เธอคิด ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ครอบครัวฉันต้องการให้แต่งงานด้วยก็จริงแต่ฉันยังไม่ได้ตกลง”
“แล้วทำไมคุณราชย์ถึงโกรธไอยละคะ...”
“ฉันไม่ชอบที่เธอหายเงียบไปแบบนั้นเลยจริงๆ ทีหลังจะทำอะไรไปไหนก็บอกฉันก่อน เข้าใจไหม”
“ค่ะ...”
ไอยรินทร์ถึงกับก้มหน้าหนีความอายเมื่อคำพูดของเขาทำให้เธอคิดไปเองว่าเขากำลังแคร์เธออยู่ หัวใจดวงน้อยอุ่นวาบขึ้นมาทันที
“คุณเริ่ม...รู้สึกดีกับไอยบ้างแล้วใช่ไหมคะ”
“เด็กบ้า ทำผิดยังมีหน้ามาพูดอีกนะ”
ไม่พูดเปล่า แต่เขายังดันเธอไปที่เตียงเล็กกลางห้อง
“ทำผิดต้องโดนทำโทษรู้ใช่ไหม”
“เหรอคะ...แล้วทำโทษแบบไหนกัน...”
“ก็ทำแบบผู้ใหญ่เขาทำกันไงล่ะ”
พูดจบร่างบางก็ถูกดันลงไปบนเตียงเล็กทันทีพร้อมกับที่ร่างใหญ่ตามลงมาทาบทับ สองสายตามองจ้องกันอย่างรู้ถึงความต้องการของกันและกัน ก่อนปากหยักจะกดจูบลงมาอีกครั้งซึ่งครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิงเมื่อมันทั้งนุ่มนวลอ่อนหวานจนหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว