ตอนที่ 10 หนี้บุญคุณ
“พี่แขจะมีความสุขใช่ไหมคะคุณพ่อ”
หลังจากเดชาธรและแขไขออกไปแล้ว คุณหญิงดวงดาราก็เดินขึ้นบ้านไปพร้อมกับเช็คเงินสดในมือ เขมจิราเข้าไปกอดบิดาเอาไว้
“ที่ผ่านมาพ่อตัดสินใจผิดมาตลอด และไม่เคยกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่จากที่ได้พูดคุยกับเขา คุณเดชาธรดีมากพอที่เราจะฝากให้เขาดูแลยัยแข”
“ว่าแต่...เขาจะชดใช้หนี้ห้าสิบล้านที่คุณแม่สร้างไว้ให้เราจริงๆ เหรอคะ เงินมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะคุณพ่อ” เขมจิราสงสัย “เขารวยมากขนาดนั้นเลยหรือ”
“ใช่ เขารวยมาก มากจนลูกจินตนาการถึงสมบัติที่เขามีไม่หมดเลยล่ะ”
บิดาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกสบายใจและวางใจได้ว่าลูกสาวคนโตของเขาจะมีชีวิตที่ดีและเต็มไปด้วยความสุขนับจากนี้
“ขึ้นนอนกันดีกว่าลูก หมดเรื่องวุ่นๆ เสียที”
บนรถ
“คุณจะพาฉันไปที่ไหนหรือคะ นี่มันไม่ใช่ทางออกจากกรุงเทพฯ ไปไร่แสงตะวันสักหน่อย” แขไขถามหลังจากที่มองสำรวจดีแล้วว่าเส้นทางที่เขากำลังไปไม่ใช่ทางไปไร่แสงตะวันแน่นอน
“นางฟ้าใจร้ายจังเลย ผมขับรถมาทั้งวันแล้วนะ คุณยังคิดจะให้ผมขับกลับไร่ไอ้นนท์ตอนนี้อีกเหรอครับ”
“ถ้าไม่ได้กลับไร่งั้นเรากำลังจะไปไหนคะ?”
คำถามของหล่อนยังไม่ทันได้รับคำตอบกลับมา ชายหนุ่มก็หักรถเลี้ยวเข้า ‘โรงแรมแกรนด์มิราเคิล’ โรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองกรุงที่ค่าห้องถูกสุดก็ปาเข้าไปเฉียดแสนบาทแล้ว
“เราจะนอนพักกันที่นี่ครับ” เขาตอบแล้วจอดรถที่หน้าโรงเรียน
มีพนักงานรีบวิ่งเข้ามารับกุญแจรถจากเขาเพื่อนำไปจอดยังที่จอดวีไอพีให้ แขไขเดินลงจากรถอย่างแปลกใจ สภาพเธอและเขาที่ยังสวมใส่ชุดของหมู่บ้านติดดาวอยู่เลย แบบนี้อาจถูกไล่ออกจากโรงแรมก็เป็นได้
“สวัสดีครับคุณชาย ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะครับ พอคุณชายบอกว่าจะแวะมาพัก ผมก็รีบจัดห้องสวีตดับเบิ้ลวีไอพีชั้นบนสุดไว้ให้ตามที่ต้องการเลยครับ”
ผู้จัดการของโรงแรมวิ่งเข้ามาต้อนรับเดชาธรด้วยท่าทางน้อบน้อม ยังไม่นับรวมพนักงานของโรงแรมที่ต่างยืนก้มหัวรอต้อนรับเขาขนาบข้างสองฝั่ง หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ เธอรีบดึงเขาเข้ามาใกล้แล้วกระซิบถาม
“นี่มันอะไรกันคะ ทำไมพวกเขาถึงได้...”
“ผมยังไม่ได้บอกคุณใช่ไหม นี่เป็นโรงแรมในเครือของคุณพ่อผมเอง ตอนเด็กๆ ผมเคยมาเที่ยวเล่นที่นี่บ้างในช่วงปิดเทอม แต่ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านของคุณตากับคุณยายเสียมากกว่า ก็...บ้านผมที่อยู่แถวไร่ไอ้นนท์นั่นแหละ”
“เดี๋ยวนะ คุณจะบอกว่าคุณคือทายาทของแกรนด์มิราเคิลกรุ๊ปเหรอคะ”
“ปิ๊งป่อง ไม่พอนะครับ ผมยังเป็นทายาทของเครืออัครพาณิชย์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาลแล้วก็พวกอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหลายอีกด้วย”
เขายิ้มเผล่เหมือนเด็กๆ ผู้จัดการโรงแรมกดเปิดลิฟต์เฉพาะของวีไอพีให้ทั้งสองเข้าไป ลิฟต์แก้วตรงดิ่งขึ้นไปที่ชั้นบนสุดซึ่งเป็นชั้นสำหรับผู้บริหารเท่านั้น แม้แต่แขกวีไอพีก็ไม่สามารถขึ้นมาใช้บริการที่ชั้นนี้ได้
แขไขชักจะหวั่นใจ เธอเคยคิดว่าเขเาป็นแค่หมอบ้านนอกคนหนึ่งที่ไม่คู่ควรกับเธอแม้ว่าเธอจะเผลอใจให้เขาทุกครั้งเวลาใกล้กันก็ตาม หากแต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่แบบนั้น เป็นเธอเองต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเขา
ชายคนนี้อยู่คนละโลกกับเธอเกินไป...
“เป็นไงครับ ชอบไหมนางฟ้า ตอนเด็กๆ ผมเคยมาที่นี่กับน้องชายอยู่บ้างเวลาคุณพ่อกับคุณแม่บอกจะพาพวกเราไปเที่ยวสวนสนุก ถึงจะมีเวลาแค่น้อยนิด แต่ก็เป็นสถานที่เดียวที่เราสี่คนได้ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด”
เดชาธรมองไปรอบๆ หวนคิดถึงความหลังครั้งวัยเยาว์ ด้วยคุณพ่อของเขาต้องบริหารกิจการโรงแรมที่มีอยู่ทั่วเอเชียและกำลังขยายสาขาไปยุโรป กับคุณแม่ที่ต้องบริหารกิจการโรงพยาบาล ทำให้ครอบครัวนี้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันน้อยเหลือเกิน
“ถึงสุดท้ายแล้วคุณพ่อกับคุณแม่จะตัดสินใจส่งผมไปอยู่กับคุณตาคุณยายที่ไร่ และส่งน้องชายไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าที่เกาะแถวภาคใต้ เพื่อเรียนรู้วิถีแบบคนธรรมดาทั่วไปก็เถอะนะ คุณอาจจะคิดว่าผมคงโตมาแบบหรูหราเหมือนเจ้าชายใช่ไหมล่ะ จริงๆ ไม่ใช่หรอกนะครับ”
ร่างสูงเดินไปนั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ราคาแพง เขาเริ่มเราอดีตของตัวเองให้เธอฟัง
“ผมโตมาแบบลูกหลานชาวไร่ไม่ต่างจากไอ้นนท์และหวานเย็น คุณตากับคุณยายต้องการใช้บั้นปลายชีวิตแบบคนธรรมดาด้วยการทำสวนทำไร่ ก็เลยไปซื้อที่และปลูกบ้านเล็กๆ ที่นั่น ผมใช้ชีวิตแบบปกติมาตลอด ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปร้องคาราโอเกะ ไม่ต้องไปออกงานสังคมที่ไหนเลย ชีวิตของผมจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปหรอกนะครับ”
เขาเอื้อมมือไปจับมือของหญิงสาวเอาไว้แล้วดึงเธอเข้ามาใกล้ ยกแขนขึ้นโอบเอวเล็กไว้หลวมๆ เงยหน้าขึ้นมองหล่อนด้วยสายออดอ้อน
“อย่าได้คิดว่าเราแตกต่างกันเชียวนะ คุณเป็นนางฟ้า ผมเป็นแค่คนธรรมดาที่กำลังพยายามเอื้อมมือไปเด็ดปีกนางฟ้าอยู่”
เขามองออก...เดชาธรรู้ว่าตอนนี้แขไขกำลังคิดอะไร
“ฉันมองไม่ออกจริงๆ ว่าคุณคือทายาทสองตระกูลมหาอำนาจของประเทศ คุณเหมือนลูกหมาถูกทิ้งมากกว่า”
“เพราะแบบนี้ผมถึงสบายใจเวลาอยู่กับคุณ มีแค่ไอ้นนท์ หวานเย็น และคุณเท่านั้นที่ปฏิบัติกับผมเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ทำเหมือนว่าผมเป็นราชามาจากไหน คุณก็รู้...ว่าแท้จริงแล้วบนบัลลังก์มันโดดเดี่ยวขนาดไหน ผมไม่ชอบการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวแบบนั้น โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ใช่คนยึดติดอะไรด้วย พวกท่านให้อิสระกับผมเต็มที่”
เขาซบหน้ากับลงหน้าท้องแบนราบของหญิงสาว แขไขมองไปรอบๆ ห้องที่กว้างใหญ่แต่ก็เงียบเหงาก่อนจะก้มมองเขาแล้วยกมือขึ้นลูบศีรษะของอีกฝ่าย
“บางที...คุณพ่อคุณแม่ของคุณอาจกำลังรออยู่ก็ได้นะคะ รอวันที่คุณพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างต่อจากพวกท่านด้วยตัวของคุณเอง ถึงได้ให้อิสระและความสุขกับคุณมาโดยตลอด”
“ผมรู้ครับ ที่เลือกเรียนบริหารควบคู่กับการเรียนหมอก็เพราะรู้ดีว่าสักวันผมต้องเข้ามาดูแลทุกอย่างต่อจากคุณพ่อหรือคุณแม่ เพียงแต่...ผมแค่ไม่อยากเดียวดายอยู่บนบังลังก์ของพระราชาคนเดียว ผมอยากมีคนอยู่เคียงข้างคอยผลักดันให้ผมได้พยายาม”
เดชาธรเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ ความหวานล้ำที่ส่งผ่านมาทางดวงตาคู่นั้นเธอรับรู้ได้ หากแต่ไม่สามารถยอมรับมัน
“สักวันคุณจะได้เจอคนๆ นั้นค่ะ”
“ผมว่าผมเจอแล้วนะ”
“อ๊ะ...” ร่างบางถูกระตุกให้นั่งลงบนตักของเขา
เดชาธรยกมือขึ้นลูบแก้มของหล่อน แขไขมองเขาแล้วหัวใจเต้นระรัวแต่ก็พยายามห้ามหัวใจของตัวเองเอาไว้
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์ผุดผ่องพอจะได้รับความรู้สึกดีๆ จากเขา
เธอแค่ติดหนี้บุญคุณที่ต้องชดใช้ให้เขาเท่านั้น...
“คุณสวยเหลือเกิน” เขาเอ่ยชมเสียงทุ้ม
ใบหน้าหล่อคมคายยื่นเข้ามาใกล้ แขไขเอียงหลบเพียงเล็กน้อยทำให้จมูกโด่งฝังลงกับแก้มเนียนนุ่ม ชายหนุ่มถูไถจมูกไล้ไปทั่วดวงหน้าสวยต่ำลงมาจนถึงซอกคอขาว
แขไขโอบกอดร่างหนาไว้แน่น แม้ในหัวใจจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอจะคิดเสียว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยเธอและครอบครัวเอาไว้ พอวันพรุ่งนี้ตื่นมา...เธอจะเป็นแขไขคนเดิมที่ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และทุกครั้งที่เขาพยายามก้าวขาเข้ามาในวังวนชีวิตของเธอ
เธอก็จะก้าวถอยหลังออกไป...
ผู้ชายแสนดีคนนี้ควรได้เจอกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมเท่านั้น ไม่มีวันที่เขาจะมองเธอเป็นของจริงอยู่แล้ว
หมับ!
ร่างสูงอุ้มหล่อนขึ้นพาไปที่เตียง สองกายนัวเนียปรนเปรอกันและกันอย่างดูดดื่ม มือหนาถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจากหมด เขาระดมจูบไปทั่วเรือนร่างงามด้วยโหยหามานาน
“อ๊ะ คุณหมอ...” เธอครางเรียกเขา
เม็ดบัวที่ถูกเขาดูดดื่มสร้างความเสียวกระสันให้แก่หล่อน แขไขกัดริมฝีปากยั่วยวน แอ่นกายเข้าหาบดเบียงร่างกำยำอย่างลืมอาย
“คุณสวยมาก สวยไปหมดทุกอย่าง”
ขณะสองมือบีบเคล้นเต้ากลมกลึง ตัวเขาก็เคลื่นต่ำจูบไล่จากหน้าท้องที่แบนราบไร้ไขมันลงไปจนถึงกุหลาบสวยไร้ซึ่งแพรไหมที่หญิงสาวดูแลและทำความสะอาดเป็นอย่างดีมาตลอด
เขาดูดกุหลาบงามจนเกิดรอยแดง สองมือจับเรียวขาสวยให้อ้าออกจนกลีบกุหลาบปรากฏเด่นชัดแก่สายตา เขาไม่ลังเลที่จะแลบลิ้นชิมรสชาติความหวานหอมของมัน แขไขกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น สามเดือนที่ไม่ได้ร่วมรักกับใครเลยทำให้เธอต้องการมากกว่าปกติ
“คุณหมอคะ อ๊า...”
ยามเมื่อลิ้นร้อนสอดใส่เข้ามา เสียงครางหวานก็ปลุกพลังให้เขาเร่งเครื่องมากกว่าเดิม ชายหนุ่มทั้งกวาด ทั้งต้อน และเกร็งลิ้นจนแข็งเพื่อการสอดใส่ที่มั่นคง จวบจนนาทีสุดท้ายของร่างบาง เขาก็ถอนลิ้นออก
เดชาธรถลกกางเกงลงแล้วควักเอามังกรหัวแดงล่ำของตนอกมา เขาถูไถส่วนปลายไปตามรอยแยกของกายสาว แขไขชะโงกมองตาเยิ้ม ดวงตาปรือสวยมองเขาอย่างเว้าวอนเขาให้เขาเร่งรีบ
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม เขาค่อยๆ กดท่อนลำเข้าไปอย่างช้าๆ เนิบนาบ แต่หนักแน่นและรุนแรง ความใหญ่โตคับแน่นทว่าสุขสม เมื่อมังกรสามารถพิชิตสาวงามได้ทั้งหมด เขาก็โน้มตัวลงไปหาเธอเพื่อมอบจูบอันแสนหวานให้เป็นรางวัล ร่างบางจูบเขาตอบ มือเล็กลูบไล้แผ่นหลังกว้างยั่วยวน
“ผมชอบคุณนางฟ้า ผมชอบคุณมากเลย”
เขาถอนจูบออกแล้วพูดขณะที่สะโพกยังคงขยับเข้าออกเป็นจังหวะ แขไขพยักหน้ารับพร้อมยิ้มหวาน สายตาของเธอที่มองเขาบ่งบอกชัดเจนว่าเธอรู้สึกแบบเดียวกัน เดชาธรใจฟู ดีใจที่ในที่สุดเธอก็เข้าใจและรับรู้ความรู้สึกที่เขามีเสียที แม้ว่าเรื่องของเธอกับเขาในตอนแรกจะเกิดจากความไม่ตั้งใจและความเมา หากแต่ทุกสิ่งหลังจากนั้นรวมถึงตอนนี้
เขาทำมันด้วยความตั้งใจทั้งหมด
“อ๊ะ อ๊ะ คุณหมอ อ๊ะ...” สติถูกดึงให้กลับมาเพราะเสียงร้องครางของหล่อนอีกครั้ง
“พร้อมกันนะครับ” เขาบอกพร้อมกับเร่งเครื่องในจังหวะสุดท้าย
เธอคือ...ของขวัญจากการทำดีของเขาจริงๆ ด้วย