เสียงเอสเอ็มเอสแจ้งว่ามีข้อความเข้ามา ยอดเงินเข้า10000บาท นับดาวกดอ่านข้อความยังไม่ทันจะเก็บโทรศัพท์ก็มีเสียงเรียกเข้ามาทันที
"สวัสดีค่ะคุณน้า"
"หนูนับน้าโอนค่าใช้จ่ายรายเดือนให้หนูเรียบร้อยแล้วนะจ้ะ น้าจะเอาสลิปแจ้งคุณพ่อเอง แล้ววันอาทิตย์นี้ไม่มีใครอยู่บ้านเราจะไปหัวหินกันหนูนับไม่ต้องมาทานข้าวกับคุณพ่อนะจ้ะ เท่านี้นะจ้ะ"
แล้วสายก็ถูกตัดไปทันที นับดาวหย่อนโทรศัพท์ลงใส่กระเป๋าผ้าของตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาแผ่วเบา เดือนนี้ก็คงไม่ได้พบกับคุณพ่ออีกตามเคย
คอนโดหรูกลางเมืองที่เธออาศัยอยู่ใก้ลมหาวิทยาลัยและสะดวกสบายทุกอย่างคุณลุงทนายความของคุณแม่ช่วยจัดการทั้งหมดให้ตั้งแต่เธอเรียนอยู่มอปลาย เกือบสิบปีมาแล้วที่เธอต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับความสวยงามหรูหราปรากฎแก่สายตาที่นี่เป็นบ้านของเธอแต่เพียงผู้เดียว
นับดาววางกระเป๋าของตัวเองเอาไว้ข้างโซฟาแล้วนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน เงินเดือนละหมื่นบาททุกเดือนเป็นสายใยที่ถูกผูกเธอกับคุณพ่อเอาไว้เพียงเท่านั้น ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายส่วนอื่นเธอต้องรับภาระเอาเอง เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ที่มีลูกสาวแสนสวยออกหน้าออกตาวัยสิบแปดปี กับภรรยาคนสวยที่ยืนเคียงข้าง เป็นฉากหน้าของผู้เป็นพ่อ
นับดาวยืนร้องไห้ปิ่มใจจะขาดในวันที่สูญเสียคุณแม่ไปด้วยโรคร้ายในวัย14ปีเด็กสาวกำลังโตต้องพบว่าคุณพ่อที่แสนจะเงียบขรึมมีภรรยาอีกคนพร้อมกับน้องสาววัย10ขวบ ช้อกยิ่งกว่าช้อกเมื่อพบว่าคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ธุรกิจของคุณพ่อเติบโตมาพร้อมกับคุณพ่อและคุณน้าที่เป็นเลขาคู่ใจคู่กาย คุณลุงทนายความจัดการดปิดพินัยกรรมของคุณแม่และข้อตกลงร่วมที่คุณพ่อคุณแม่ทำร่วมกันมา การอุปการะเลี้ยงดูในฐานะพ่อจึงมีแค่เงินเดือนที่ส่งเสียเท่านั้น นอกจากนั้นเงินส่วนตัวของคุณแม่มากกว่าสามสิบล้านบาทตกให้แก่ทายาทคือเธอแต่เพียงผู้เดียว
คุณพ่อและคุณน้าพยายามจะอ้างสิทธิ์ทุกอย่างในเงินก้อนนี้ แต่ทุกอย่างก็ทำไม่ได้เพราะคุณแม่ของเธอไม่อนุญาติให้คนทั้งสองใช้เงินก้อนนี้เลย ความบาดหมางเข้ามาแทนที่ และคุณพ่อยังจำต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเธอทุกเดือน เงินหลายแสนบาทแทบจะไม่เคยถูกถอนมาใช้ เด็กสาวที่โตเกินวัยไม่อาจจะทนใช้เงินนั้นได้เลย ภาพความรักของเธอกับพ่อสมัยวัยเด็กเลือนลางจนแทบหมดสิ้น ใบหน้าสวยใสไม่มีน้ำตาออกมาให้เห็นแล้ว เพราะเธอเจ็บช้ำมานานเกินไป
พระอาทิตย์ตกลงแล้ว แสงสีส้มทอดเข้ามาในห้อง เธอยิ้มกับภาพนั้นแล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นมา พระอาทิตย์ตกลงแล้ววันนี้ พรุ่งนี้เช้าก็วันใหม่เธอพร้อมจะเริ่มต้นใหม่เสมอ เงินสดในซองหลายร้อยบาทถูกวางเก็บเอาไว้ที่ลิ้นชักหัวเตียง เธอไม่สนว่าใครจะมองยังไงก็ช่าง เธอรู้ดีว่าเธอทำอะไรอยู่เท่านั้นเอง
บ้านเดี่ยวหลังเล็กเปิดไฟสว่าง รณพีร์วางถุงกับข้าวลงแล้วจัดการล้างมือ ก่อนจะเทอาหารใส่จาน สมองของเค้าวนเวียนคิดถึงแต่หน้าเด็กคนนั้น รอยยิ้มไม่แจ่มใสกับท่าทางระมัดระวังตัวทำให้เค้าสนใจเธอมากขึ้นไปอีก เสียงไมโครเวฟเตือนว่าอาหารอุ่นเสร็จแล้ว อาจารย์หนุ่มหยิบถ้วยกับข้าวออกมาแล้วลงมือทานข้าวเพียงลำพัง
กระโปรงยาวสีหวานกับเสื้อยืดสีขาวเรียบๆดูน่ารักน่ามอง รองเท้ารัดส้นราคาไม่กี่ร้อยบาทแต่ดูแพงเมื่อมาอยู่บนตัวคนใส่ นับดาวก้าวเร็วๆออกจากลิฟต์แล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆ เช้าขนาดนี้คงยังไม่มีใครมา แสงไฟในห้องส่องสว่างอยู่แล้ว มือบางเปิดประตูเข้าไป ก่อนจะสบตากับคนที่นั่งอยู่แล้ว
"สวัสดีค่ะอาจารย์"
เสียงหวานทักทายออกไป วันนี้เค้าสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์แต่ดูหล่อมากกว่าทุกวัน
"มาแต่เช้าเลยนะ" รณพีร์ถามออกไป "กาแฟไหมผมมีขนมปังมาเยอะเลย" ไม่ทันได้ตอบเค้าก็จัดการลุกไปชงกาแฟมาให้เธอแล้ว
นับดาวใจเต้นตุบตับขึ้นมาทันที เธอกำลังตื่นเต้นเหลือเกิน