SOMETIME 06
**************************
ก็ใช่ไง สิ่งที่ผมทำมันไม่ใช่ความผิดของผม แต่มันทำให้เธอเสียใจผมก็ต้องขอโทษไม่ใช่ไง
ผมจะไม่สัญญากับเธอหรอกนะว่าต่อไปนี้ผมจะไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น มันจะต้องมีมาแน่สักวัน
ผมไม่รู้ว่าระหว่างเราสองคนจะไปได้ไกลมากแค่ไหนแต่ผมก็พยายามที่จะให้เราไปไกลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้ามันไปไม่ได้จริงๆ ก็ควรต้องจบแล้วเดินทางใครทางมัน
“รู้ใช่มั้ยว่าพี่หวงหวานมากแค่ไหน?” ผมมักจะย้ำคำนี้กับหวานเสมอ เพื่อที่จะเตือนสติเธอก่อนที่จะทำอะไรผิดพลาดลงไป
ผมรู้ว่าตอนนี้หวานไม่เหมือนเดิม อาจจะมีใครเข้ามาทำให้เธอเปลี่ยนไปก็ได้ ยิ่งผมหวงมากผมก็รักมาก และถ้ายิ่งรักมากผมก็แค้นมากเหมือนกัน และถ้ามันแค้นมากผมก็อยากทำลายมาก
ผมสามารถฆ่าคนที่ผมรักได้โดยที่ผมไม่ได้รู้สึกผิดอะไรได้ ผมเลือดเย็นกว่าที่คนอื่นรู้จักผมดีซะอีก ใครที่มันทรยศผมแม่งไม่ตายดีสักคน
“ค่ะ”
“ถ้าคิดที่จะมีคนอื่นเราสองคนก็ยืนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยกันไม่ได้” หวานเงยหน้ามองผมอย่างหวาดๆ
ผมไม่ได้ขู่เธอแต่ผมพูดเรื่องจริง ผมสามารถฆ่าเธอได้ด้วยมือของผมเอง และผมก็ไม่เสียใจเลยสักนิดถ้าเธอจะไม่อยู่บนโลกนี้
“พี่ยอมให้หวานหายไปจากโลกนี้ดีกว่าต้องมาทนเห็นคนของพี่ไปมีคนอื่น พี่ยอมติดคุกเพื่อที่หวานจะได้ไม่ต้องไปอยู่กับคนอื่น”
“หวานไม่ได้มีใครหรอกค่ะ หวานยังคงเป็นหวานเหมือนเดิม”
ถ้าเธอยืนยันแบบนี้ผมก็จะเชื่อเธอ เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีเรื่องผู้ชายเข้ามาให้ผมระคายเคืองใจเลย
“แต่ถ้าจะมีคนที่เปลี่ยนไปคนคนนั้นคงจะไม่ใช่หวาน”
“ตลอดระยะเวลาเจ็ดเดือนมานี้พี่ก็เหมือนเดิมกับหวานทุกอย่างนี่คะ”
ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร ผมก็เป็นของผมแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
หวานเองก็อยู่กับผมมานานเธอน่าจะรู้ดีว่าผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ใครมารักหรือชอบ เมื่อก่อนผมเคยเป็นยังไงวันนี้ผมก็ยังคงเป็นอย่างนั้น
“ค่ะ”
ผมยอมให้หวานไปเรียนเองโดยที่ไม่ได้ตามเธอไป และยอมให้เธอไปทำงานที่ห้องเพื่อนเธอด้วย
ถ้าเธอจะเปลี่ยนไปจริงๆ มันก็เป็นสิทธิ์ของเธอแต่ถ้าผมรู้มันก็เป็นสิทธิ์ของผมเหมือนกัน เพื่อนผมมีอยู่เต็มไปหมดการที่เรื่องของเธอจะเข้าหูผมคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร อยากรู้เรื่องของเธอมันไม่ยากหรอก
ผมเลิกสนใจเรื่องของหวานก่อนจะพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำแล้วตรงดิ่งไปบริษัทของพ่อ พ่อผมทำธุรกิจค้าอาวุธสงครามส่งออกให้ต่างประเทศ
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีใช่มั้ย แต่เปล่าเลยการที่เราร่วมลงทุนกับนักธุรกิจต่างประเทศเราย่อมมีผลประโยชน์ร่วมกัน
มันเป็นธุรกิจสีเทาค่อนข้างไปทางสีดำด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่แคร์นะเพราะธุรกิจนี้ไงผมถึงมีทุกวันนี้ได้
ผมไม่ได้เป็นคนชั่วหรือสารเลวอย่างที่คนอื่นๆ มองผม การที่ผมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดป่ะวะ
คนเราย่อมต้องการสิ่งที่มีค่ามากที่สุดให้ตัวเองกันทั้งนั้น และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
อีกอย่างธุรกิจที่ผมทำกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ก็ลงทุนไปเยอะเหมือนกัน เพราะงั้นผมจะไม่มีวันให้มันพังลงเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแน่นอน
ผมเคยพาหวานมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบไหนจะบอกให้ผมไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับที่นี่อีก
ผมคงทำตามที่เธอบอกไม่ได้หรอก ในเมื่อผมมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้เหมือนกัน อีกไม่นานพ่อก็จะส่งต่อธุรกิจนี้ให้ผมผมจะต้องสานต่ออุดมการณ์ของพ่อ
“ไอ้ลูกชาย”
พ่อฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจที่เห็นว่าผมเข้ามาที่นี่ นานเหมือนกันที่ผมไม่ได้เข้ามาหาพ่อเลยเพราะหวานไม่อยากให้ผมมา เธอมักจะบ่นอยู่ตลอดเวลาว่าที่แห่งนี้เป็นที่ที่ไม่ปลอดภัยของผม
ทีแรกผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเธอเท่าไหร่ จนมาเข้าใจตอนที่เธอบอกว่าถ้าตำรวจเข้ามาจับและพบของกลางหลายอย่างผมก็คงไม่พ้นจากคุกแน่
“ลมอะไรพัดแกมาหาพ่อได้ แล้วหนูหวานไม่ได้มากับแกด้วยไง?”
“หวานไปเรียนครับ”
ที่พ่อผมรู้เรื่องของหวานเป็นเพราะผมเป็นคนบอกพ่อเอง ผมบอกแล้วไงว่าถ้าผมเลือกที่จะเปิดเผยคนคนนั้นจะต้องสำคัญกับผมมาก แต่ดูเหมือนว่าหวานจะไม่รู้ตัวเองเลยว่ามีค่ากับผมมากแค่ไหน
“ไม่ได้เลิกกันแน่นะ”
ที่จริงพ่อเองก็ไม่ได้ชอบหวานเท่าไหร่เพราะหวานไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับธุรกิจของเรา แต่พ่อก็ห้ามผมไม่ได้ในเมื่อผมคิดจะรักไปแล้ว
ก่อนที่จะมาคบกับหวานผมก็เคยมีแฟนมาก่อนอยู่กันได้ไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำเธอก็ไปมีคนอื่น
แล้วคิดว่าผมจะปล่อยให้เธอไปมีคนอื่นหรือเปล่าล่ะ บอกเลยว่าไม่ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วด้วย
ใช่! ผมเป็นคนฆ่าเธอเองแหละ ฆ่าอย่างทรมานด้วย ใครที่มันคิดที่จะทรยศผมมันต้องตาย
ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหวานเพราะกลัวว่าเธอจะรับเรื่องนี้ของผมไม่ได้ คงไม่มีใครรับได้หรอกนะที่แฟนตัวเองเคยเป็นฆาตกรฆ่าคนมาก่อน
“ไม่ได้เลิกครับ หวานไม่มีทางเลิกกับผมแน่นอน” ผมไม่อยากฆ่าเธอเหมือนที่ฆ่าผู้หญิงคนอื่น
หวานเป็นผู้หญิงน่ารักอ่อนหวานเรียบร้อย ที่จริงหวานก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่พ่อถูกใจเธอนะ
แต่ก็นะบางทีพ่อก็ไม่ค่อยอยากให้ผมคบกับหวานเท่าไหร่เพราะเธอดูเหมือนจะไม่ชอบธุรกิจที่พ่อทำ
บางครั้งพ่อก็บอกให้ผมเลิกกับเธอ แล้วคบกับสูกสาวนักธุรกิจที่ร่วมหุ้นกับพ่อแทน
“งั้นแกคงยังไม่ได้ยินข่าวแฟนของแกสินะแทน” ผมหันขวับไปมองหน้าพ่อทันทีที่ได้ยินพ่อพูดแบบนั้นออกมา
ข่าวของหวานเหรอ ที่จริงแล้วก็พอได้ยินมานิดหน่อยแต่ผมเป็นคนไม่ชอบเสพข่าวไร้สาระเลยไม่ได้ติดใจหรือใส่ใจมากนัก
ใครที่ได้รู้เรื่องธุรกิจของพ่อพ่อจะสั่งคนให้ตามประกบอย่างใกล้ชิดเผื่อว่าคนคนนั้นจะเอาเรื่องของเราไปบอกคนอื่นจะได้สั่งเก็บทันที
เพราะงั้นการที่พ่อจะรู้เรื่องของหวานก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และหวานเองก็ไม่รู้ตัวด้วยว่ามีคนกำลังแอบตามดูเธอทุกฝีก้าว
“คนของพ่อมารายงานว่าหนูหวานชอบไปไหนมาไหนกับผู้ชายรุ่นพี่อยู่บ่อยๆ”
“ไร้สาระ”
ผมยังคงเชื่อว่าหวานไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้เด็ดขาด ทั้งที่ตอนนี้ใจผมแม่งเต้นแรงจนอยากจะไปหาเธอเพื่อฟังเรื่องนี้จากปากเธอเอง
เรื่องที่เธอไปไหนมาไหนกับรุ่นพี่นั้นผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติเพราะเรียนคณะเดียวกัน
“วันนี้สองคนนั้นก็นัดเจอกัน”
“ที่ไหน?”
“ไหนแกบอกว่าไร้สาระไง?”
พ่อยิ้มกรุ้มกริ่มเหมือนจับได้ว่าผมเองก็ร้อนใจกับเรื่องนี้มากเหมือนกัน จะไม่ให้ผมร้อนใจได้ยังไงนั่นมันคือคนของผมเลยนะเว้ย
วันนี้ถ้าผมจับได้ว่าหวานคิดที่จะนอกใจผมไม่ซื่อสัตย์กับผมผมจะใช้ปืนที่เหน็บไว้ข้างเอวฆ่าเธอทันที แต่ไม่ได้ทำให้ถึงตายหรอกนะ
ผมบอกแล้วว่าผมจะทรมานเธอให้ตายอย่างช้าๆ ให้สาสมกับสิ่งที่เธอทำกับผม ผมจะไม่ยอมเจ็บและโง่คนเดียว ทุกคนที่ทำกับผมแม่งจะต้องได้รับบทเรียน
“ไม่ตลกแล้วนะพ่อ”
พอเห็นว่าผมจริงจังและซีเรียสมากพ่อถึงได้ยอมบอกว่าหวานกับผู้ชายคนนั้นนัดกันที่ไหน
ผมตามไปแน่เอาให้มั่นใจไปเลยว่าเธอคิดที่จะทรยศความเชื่อใจที่ผมมีต่อเธอ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดผมก็พร้อมที่จะกลับมาเชื่อใจเธออีกครั้ง
ไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้างหนึ่ง
[TAN : SAID END]