มาเฟียหนุ่มใหญ่กับเด็กสาวในชุดนักศึกษา

1236 คำ
     หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้ประกอบไปด้วย 2 เรื่องสั้น ได้แก่      1. Call me daddy เรียกป๋าสิลูก     2. เปลวไฟในม่านหมอก     ****************************************************************************           รถลีมูซีนคันใหญ่สีดำมันปลาบ ขับเคลื่อนออกจากเบลีโต้คาสิโนช้า ๆ โดยมีพลขับท่าทางเอาจริงเอาจังอยู่เบื้องหน้า         ด้านหลังเบาะนั้นเป็นร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้สวมสูทสีดาร์คช็อคโกแลต ใบหน้ายาวเหม่อมองออกไปนอกกระจกรถคิ้วเข้มพาดขวางอยู่บนนัยน์ตาสีน้ำตาลดุนั้นขมวดปมน้อย ๆ คล้ายกำลังเคร่งเครียดกับอะไรบางอย่าง กระนั้นก็ยังไม่สามารถลดทอนความคมสันแห่งบุรุษเพศลงได้         ความที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขครึ่งหนึ่งของผู้เป็นแม่ที่มาจากสเปน ทำให้เขาคมเข้มสูงใหญ่มากกว่าชายไทยทั่วไป จมูกโด่งเป็นสัน ปากหยักคาบไป๊ป์ไว้ที่มุมหนึ่ง ใบหน้านั้นถูกล้อมกรอบไว้ด้วยไรเคราเขียวครึ้มที่ไม่ได้โกนมาราวหนึ่งสัปดาห์ แต่หากความรกนั้นกลับยิ่งส่งให้เขาดูหล่อเหลาคมเข้มมากขึ้น           “ คุณมาร์ตินจะกลับบ้านเลยไหมครับ ”           วิทย์ ชายร่างสันทัดแต่มีกล้ามเนื้อล่ำสัน อายุอานามพอ ๆ กับผู้เป็นนาย ผู้ควบตำแหน่งมือขวาคนสนิทและพลขับประจำตัวของมาเฟียหนุ่มใหญ่เอ่ยถามขึ้น           “ ไม่ ขับไปเรื่อย ๆ ก่อน ” เขาตอบก่อนจะวางไป๊ป์ลง แล้วรินไวน์นำเข้าราคาแพงหูฉี่ลงไปที่แก้วแชมเปญจาระไน ไม่เสียเวลาที่จะละเลียดละเล็มให้รู้รสชาติตามธรรมเนียมการ ดื่มไวน์ หากแต่กระดกรวดทีเดียวหมดแก้วแล้วเติมมันใหม่แก้วแล้วแก้วเล่า           “ มาร์เซโล่เป็นยังไงบ้าง ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งเงียบไปนาน           “ คุณหนูมาร์ซเป็นไข้หวัดใหญ่ครับ แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วหลังจากที่ได้รับยา หมอบอกว่าต้องนอนโรงพยาบาลราวสี่ห้าวันผมจัดการจ้างพยาบาลพิเศษสองคนดูแลยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างที่คุณมาร์ตินสั่งเรียบร้อยแล้ว ”           “ ธาริกาอยู่ที่นั่นหรือเปล่า ”           “ ตอนที่ผมไป คุณธาริกาไม่อยู่ที่นั่นครับ อยู่แต่คุณนมสา ”มาร์ติเนซแสยะยิ้ม           “ มันเป็นแม่ยังไง ลูกเข้าโรงพยาบาลแต่ไม่อยู่เฝ้าลูกคงจะออกไปปาร์ตี้อย่างเคยสินะ ” เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ หากแต่มือคว้าขวดไวน์เปิดออกแล้วกระดกดื่มโดยไม่เทใส่แก้ว ดวงตาสีสนิมจ้องมองออกไปนอกกระจกรถอย่างเลื่อนลอย           อยู่ ๆ เขาก็หัวเราะลั่นรถ เล่นเอาวิทย์สะดุ้ง           “ นายคงจะคิดสินะวิทย์ ว่าพ่ออย่างฉันมันก็ไม่เอาไหน ยังจะมีหน้าไปว่าคนอื่น ” วิทย์ส่ายศีรษะ           “ ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น ผมโตมากับคุณมาร์ติน ทราบดีว่าคุณเป็นคนทำอะไรมีเหตุมีผล คุณมีเมตตากับคนอื่นเสมอ ชีวิตผมถ้าไม่ได้คุณท่านและคุณมาร์ตินช่วยไว้ ป่านนี้ก็คงกลายเป็นกุ๊ยติดยาข้างถนน ”           “ ฉันรู้วิทย์ ฉันรู้ว่านายซื่อสัตย์กับฉันเสมอ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนบนโลกจะเป็นเหมือนนายนี่นา ”           ผู้เป็นนายเอ่ยเบา ๆ หัวเราะหึ ๆ อยู่ในลำคอ ทว่าดวงตามีแววปวดร้าวก่อนกระดกน้ำสีแดงเข้มราวกับเลือดที่เหลือก้นขวดสาดเข้าคอจนเกลี้ยง           พลันวิทย์ก็เหยียบห้ามล้อทันควันจนกระทั่งล้อรถบดกับถนนดังเอี๊ยด ขวดแชมเปญหลุดจากมือใหญ่ พร้อมกับที่ศีรษะของผู้เป็นนายทิ่มเข้ากับเบาะเบื้องหน้า           “ ขอโทษครับคุณมาร์ติน มีคนวิ่งตัดหน้ารถ มันกะทันหัน ผมเลยต้องเบรก คุณมาร์ตินเป็นไรไหมครับ ” ผู้ถูกถามยันตัวลุกขึ้นมานั่งตามปกติ ก่อนโบกมือเป็นเชิงบอกว่าเขาปกติดี         “ ลงไปดูซิว่าคนเป็นอะไรหรือเปล่า ”         “ ครับ ” วิทย์รับคำพลางรีบเปิดประตูรถเดินลงไปยังถนน พบร่างบอบบางสวมชุดนักศึกษานอนหมดสติอยู่เบื้องหน้ารถ เขาใช้สายตาสำรวจตรวจตราว่ามีรอยแผลใด ๆ ที่เกิดจากรถชนหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มี และร่างนั้นอยู่ห่างจากหน้ารถราวหนึ่งเมตร จึงคาดเดาว่าเธอน่าจะตกใจจนหมดสติไปมากกว่าการโดนรถชน         ปี๊น ๆๆๆๆ !!!         เสียงรถคันหลังที่ตามมาบีบแตรสนั่นหวั่นไหว เนื่องจากไม่ทราบว่าเบื้องหน้ามีอุบัติเหตุ ผู้เป็นนายที่นั่งอยู่เบาะหลังจึงกดกระจกลงตะโกนสั่งลูกน้อง         “ อุ้มมาวางไว้บนเบาะข้างฉันก่อน ”         วิทย์จึงรีบหยิบกระเป๋าถือที่หล่นอยู่ข้างตัว พร้อมช้อนร่างบางนั้นขึ้นแล้วเปิดประตูรถเธอวางลงข้าง ๆ ผู้เป็นนาย ก่อนจะอ้อมกลับไปประจำที่นั่งคนขับแล้วออกรถ         มาร์ติเนซหันมามองร่างที่นั่งพิงเบาะหมดสติอยู่ข้าง ๆ เธอสวมเสื้อนักศึกษา กระโปรงพลีทยาวแค่หัวเข่า รองเท้าคัทชูไม่มีส้น ใบหน้าใสไร้เครื่องสำอางฉาบ เธอหลับตาพริ้มกระนั้นก็ยังเห็นขนตางอนยาวเป็นแพที่อยู่ใต้คิ้วโก่งเข้มตามธรรมชาติ จมูกโด่งเล็กที่รับกับริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูระเรื่อ เครื่องหน้าอันเหมาะเจาะอยู่ภายในกรอบใบหน้ารูปไข่ ผมยาวดำขลับเคลียอยู่ข้างแก้ม ระเรื่อยมาเกือบถึงสะเอว         น่ารักดี น่ารักแบบดอกไม้วัยแรกแย้ม..หนุ่มใหญ่บอกกับตัวเอง         “ ชนหรือเปล่า ”         “ เปล่าครับคุณมาร์ติน เมื่อครู่ผมเห็นเธอวิ่งออกมาจากผับข้างถนน แล้วพุ่งพรวดลงมาที่ถนน ”         มาร์ติเนซขมวดคิ้วแล้วส่ายศีรษะ สวมชุดนักศึกษายังจะมีหน้าเข้าผับ ในเวลาสี่ทุ่มกว่าแบบนี้ยังไม่กลับบ้านกลับช่อง ถ้าเป็นลูกเป็นเต้าจะจับตีเสียให้เข็ด         “ เอาไงดีครับคุณมาร์ติน ” ยังไม่ทันที่เขาจะตอบ ตาที่หลับพริ้มของเธอก็หรี่ปรือขึ้น เสียงหวานเอ่ยอ้อแอ้         “ ร้อน หนูร้อนจังเลย ร้อนมาก ”         เธอบนพึมพำทั้งที่ตายังหลับ เขาเอื้อมมือไปปรับแอร์ให้พุ่งตรงไปยังร่างของเธอ กระนั้นเธอก็ยังดิ้นยุกยิก เริ่มยกขาที่วางอยู่บนพรมหรูที่พื้นรถขึ้นมาบนเบาะหนัง ซึ่งนั่นทำให้กระโปรงพลีทร่นสูงขึ้นจนถึงโคนขา เสียงทุ้มเอ่ยดุ         “ นี่เธอ นั่งให้มันดี ๆ หน่อย บ้านอยู่ที่ไหน ฉันจะไปส่ง ” เธอพยายามเปิดเปลือกตาขึ้น ก่อนจะหันไปยังต้นเสียงที่นั่งอยู่ด้านข้าง         “ คุณฝรั่ง มาทำอะไรที่บ้านหนู ” เขาขมวดคิ้วอย่างระอา         “ เธอต่างหากที่อยู่บนรถของฉัน เป็นผู้หญิงแถมยังอยู่ในชุดนักศึกษายังกล้าที่จะดื่มจนเมามายไร้สติ ถ้าพ่อแม่เธอรู้จะเสียใจแค่ไหน ” เธอหัวเราะร่วน         “ หนูไม่เคยดื่ม ไม่เคยเมา แต่วันนี้โดนลุงชายหลอกให้ดื่มอะไรก็ไม่รู้ หนูวิ่งหนีออกมาเนี่ย แล้วพ่อแม่ก็ไม่ต้องพูดถึงหรอก ตายไปหมดแล้ว เรื่องนี้จะบอกป้ารัตน์ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีทางที่ป้าจะเชื่อหนู ป้ารักและเทิดทูนผัวยิ่งกว่าเทวดา ” เธอพล่ามออกมา ซึ่งเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม