ติ่ง!
ฉันหันไปดูที่หน้าจอก็เห็นข้อความจากแม่สามี อุ๊ย! ผิดหรือเปล่าที่อยากจะเรียกแบบนี้ คริๆๆ
แม่สามีส่งข้อความมาบอกว่าคุณสามีกำลังจะไปที่ห้างฯ และท่านก็อยากให้ฉันตามคุณสามีไปด้วย ทำไมถึงอยากให้ฉันตามไปล่ะ หรือว่า...เลโอนัดใครไว้ และถ้าให้ฉันเดาก็คงไม่พ้นอีหนูของเขาแน่ๆ
ฉันหันไปปิดเตาแก๊สเมื่ออาหารที่ปรุงไว้สุกพอดี ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วส่งให้แม่บ้านที่คอยช่วยฉันปรุงอาหาร
“คุณต้นหลิวจะไปไหนคะ” แจนเอ่ยถามเมื่อเห็นฉันเดินออกมาจากครัวด้วยอาการเร่งรีบ แจนทำงานเป็นแม่บ้านของที่นี่และเธอก็ได้รับมอบหมายให้คอยตามดูแลฉันเป็นการส่วนตัว
“หลิวจะไปห้างฯ ค่ะ” แล้วเท้าของฉันก็ชะงักค้างก่อนจะก้าวพ้นประตูบ้านไป “ว่าแต่..” ฉันหันตัวกลับมาหาแจนเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ฉันไม่รู้ว่าห้างฯ ที่ว่านั้นอยู่ไหน
“จะไปหาคุณเลโอใช่ไหมคะ” แจนยิ้มอย่างรู้ใจ
“ค่ะ” ฉันจึงส่งยิ้มบางๆ ไปให้อย่างเขินอาย แจนจะมองว่าฉันเห่อสามีเกินไปหรือเปล่านะ
สามสิบนาทีต่อมา ฉันก็มาถึงห้างฯ ที่ว่านั่น ซึ่งเป็นห้างฯ ของครอบครัวสามีของฉันเอง ฉันให้คนขับรถรออยู่ที่ลานจอดแล้วให้แจนตามฉันมา ฉันพึ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกก็เลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเลโออยู่ชั้นไหน
“แจนคิดว่าคุณเลโอน่าจะอยู่ชั้นสามโซนกระเป๋าค่ะ” แจนบอกฉันเมื่อเห็นว่าฉันกวาดสายตาไปมองรอบๆ ด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“แจนรู้ได้ไง”
“คุณผู้หญิงส่งไลน์มาบอกค่ะ”
ฉันว่า ฉันพอจะเข้าใจในเจตนาของแม่สามีแล้วล่ะ ท่านคงอยากให้ฉันมาจัดการอะไรสักอย่างถึงได้เปิดทางและช่วยฉันขนาดนี้
ฉันเดินขึ้นบันไดเลื่อนมายังชั้นสามโดยมีแจนเป็นผู้นำทางฉัน ซึ่งดูเหมือนว่าแจนจะมาที่นี่บ่อยเพราะดูคล่องแคล่วมาก แจนพาฉันเดินเข้ามาในร้านกระเป๋าร้านหนึ่ง ซึ่งภายในร้านมีกระเป๋าสวยๆ และรูปแบบหรูหราเต็มไปหมด ฉันไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกระเป๋าสักเท่าไหร่แต่ก็พอรู้ว่ากระเป๋าพวกนี้ไม่ใช่ราคาที่จับต้องได้ง่ายแน่นอน
“ฉันจะเอารุ่นนี้และต้องได้เดี๋ยวนี้!” เสียงแหวดๆ เหมือนเด็กโดนขัดใจดังมาจากโซนกระเป๋าที่วางโชว์ในตู้กระจก ฉันจึงเดินไปดูด้วยความอยากรู้และอยากเห็นใบหน้าเจ้าของน้ำเสียงนั่นด้วย
“ขอโทษด้วยค่ะคุณลูกค้า กระเป๋าใบนี้มีคนจองไว้แล้วค่ะ” พนักงานตอบเธออย่างสุภาพ
“เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นแฟนของเจ้าของห้างฯ นี้นะ และฉันก็สามารถไล่พวกเธอออกได้ด้วย” แฟนเจ้าของห้างฯ เหรอ? ใครอีกล่ะเนี่ย
ฉันยืนมองผู้หญิงผมบรอนซ์ดัดลอนยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าวีเชฟสวยเฉี่ยวโดนใจชายไทยหลายคน ส่วนสูงที่ดูดีบวกกับเรียวขาสวยๆ ดูถ้าว่าเธอจะมีอาชีพเป็นนางแบบ
“เออ ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ”
“หยุดพูดขอโทษสักที! ฉันรำคาญ!” เธอยังตวาดใส่พนักงานไม่หยุดและไม่ยอมลดเสียงลงด้วย
“ตายแล้ว...ดูสิใครมาเอ่ย?” ฉันรีบหันหลังหลบมุมเมื่อเห็นผู้มาเยือนคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ฉันรู้จักด้วย เลโอ เขามากับยัยดีดี้ ผู้หญิงที่ไปหาเขาที่งานแต่งเมื่อวานนี้
“ดีดี๊” ผู้หญิงผมบรอนซ์หันมาจิกตาใส่ดีดี้แทบจะกินเลือดกินเนื้อกันเลยทีเดียว
“ใช่จ้ะ ฉันเอง เพื่อนเลิฟ” ดีดี้จี้ปากจี้คอพูดเหมือนสนิทแต่ดูอีกทีเหมือนกวนโอ๊ยซะมากกว่า
“เลโอยังไม่เลิกยุ่งกับมันอีกเหรอคะ” ผู้หญิงผมบรอนซ์พุ่งไปคว้าแขนของเลโออีกข้างพร้อมกับใช้หน้าอกหน้าใจที่บิ๊กบึ้มของเธอเข้าเบียดเสียดต้นแขนเลโออย่างจงใจ
“เอามื้อแกออกไปนะ ยัยเอมม่า” ดีดี๊พยายามรั้งเลโอให้มายืนข้างเธอ ผู้หญิงผมบรอนซ์คนนั้นชื่อเอมม่าสินะ
เอมม่าเองก็ไม่ยอมเช่นกัน ยิ่งดีดี้หวงเธอก็ยิ่งทำ เอมม่าแทบจะสิงร่างเลโอก็ว่าได้ สองสาวต่างยื้อแย่งเลโออย่างไม่มีใครยอมใคร ลูกคนอื่นๆต่างก็หันมามองอย่างสนใจศึกชิงชายในครั้งนี้
ผู้หญิงเยอะจังเลยนะ อีตาเลโอบ้า
“คุณต้นหลิวไม่เข้าไปหน่อยเหรอคะ” แจนถามฉัน
“จะเข้าไปยังไงอ่ะ” ฉันไม่อยากเข้าไปร่วมวงแย่งเขาหรอกนะ แค่นี้เขาก็มีสีหน้าอึดอัดมากพอแล้ว
“คุณต้นหลิวเป็นภรรยานะคะ จะปล่อยให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาอ้างตัวเป็นเจ้าของคุณเลโอได้ไงค่ะ”
อื้ม...รู้สึกเหมือนโดนเป่าหูเลยเฮะ และก็เหมือนจะได้ผลด้วย เพราะขาของฉันก้าวเดินออกมาจากมุมที่หลบ แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสามคน
“คอลเล็กชั่นที่โชว์อยู่ในตู้กระจกนั่น ฉันเหมา...” ทุกคนในร้านล่ะสายตาจากศึกชิงชายแล้วหันมาสนใจฉัน “ทั้งหมดนี้เก็บเงินที่เขา...” ฉันเซลูกตาไปหาเลโอ “...สามีของฉัน” ซึ่งเขาเองก็มีสีหน้าตกใจอยู่เล็กน้อย แค่เล็กน้อยจริงๆ แทบจะดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำ
พอรู้ว่าฉันเป็นใคร พนักงานในร้านต่างก้มหัวแสดงความเคารพฉันยกใหญ่ ฉันไม่ได้แสดงตัวเพื่อให้ใครมาทำความเคารพฉันนะ ฉันแค่ต้องการให้ผู้หญิงสองคนนี้รู้สถานะที่แท้จริงของตัวเองว่าควรอยู่ตรงไหนต่างหาก
เลโอสะบัดตัวเองออกจากมือกาวของสองสาวได้สำเร็จ เขาเดินมาหาฉันและทำให้สิ่งที่คาดไม่ถึง
“ทำตามที่ภรรยาฉันต้องการ” เลโอบอกพนักงานก่อนจะหันมายิ้มหวานกระชากใจให้ฉัน
“จัดการให้แล้วนะ ที่รัก”
ที่รัก! เลโอเรียกฉันว่าที่รัก อเมซิ่ง!
เลโอไม่พูดเปล่า เขายกแขนขึ้นโอบไหล่ฉันพร้อมกระชับอ้อมกอดเหมือนเราเป็นคู่รักที่แสนจะรักกันนักหนาทั้งที่ก่อนหน้าที่ฉันจะเดินเข้ามาพ่อตัวดีนี้ยังควงสาวอื่นอยู่เลย กลับลำเร็วจังนะพ่อไม้เลื้อย
สองสาวดีดี้และเอมม่าได้แต่ยืนอึ้งเมื่อผู้ชายของเธอเดินมาหาฉันอย่างหน้าตาเฉย ขนาดฉันเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลย
“คิดจะแสดง ก็แสดงให้มันเนียนๆ หน่อยสิ” เลโอกระซิบบอกเสียงเบา อุตส่าห์ดีใจนึกว่าเขาจะพิศวาสฉัน ก็แค่การแสดงสินะ
“ขอบคุณนะคะที่รัก” ฉันเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าเขาและเพื่อความเนียนอย่างที่เขาบอก ฉันจึงเลื่อนแขนข้างหนึ่งไปด้านหลังแล้วโอบรอบเอวหนาพร้อมกับซบหน้าเข้ากับแผงอกแน่นๆ และแอบชายตามองสองสาวอย่างเยาะเย้ย เขาเป็นของฉันย๊ะ! ฮ่าๆๆ สะใจ
“ไม่มีปัญหาครับ” จากโอบไหล่เลื่อนลงมาเป็นกอดรอบเอวแทน และฉันก็รู้สึกถึงแรงกอดที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ฉันพยายามขึงตัวเอาไว้ไม่ยอมแนบชิดตัวเขามากกว่านี้ แต่เลโอเองก็ไม่ยอม เขายิ่งรัดเอวฉันแน่นกว่าเดิมจนฉันแทบหายใจไม่ออก ฉันเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้กับเขาเหมือนยินดีกับการโดนกอดแต่แอบจิกกัดเขาด้วยสายตา ฉันรู้ว่าเขาดูกิริยาฉันออกแต่เหมือนเขาแกล้งยังไม่หน้ำใจพอ
“เค้าซื้อกระเป๋าให้ที่รักแล้ว เค้าขอรางวัลหน่อยสิคะ” เลโอโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ใจฉันนี้หายวับร่วงลงมาอยู่ที่ตาตุ่ม
“จะทำอะไร” ฉันกระซิบถามเมื่อใบหน้าของเลโออยู่ห่างเพียงคืบ
“ขอรางวัลไง”
ฟอดดดดด ฟอดดดด
เนื้อแก้มซ้ายขวาถูกริมฝีปากและจมูกโด่งของคนเจ้าเล่ห์ทั้งหอมทั้งขยี้ไม่มีชิ้นดีต่อหน้าผู้คนทั้งหลายที่อยู่ในร้านนี้ ฉันจ้องหน้าเขาแทบตาถลน นี่เขาเล่นบ้าอะไรเนี่ย รู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเกิดอาการร้อนวูบวาบอยู่ที่พวงแก้ม
“อุ๊ย ที่รักแก้มแดงด้วยอ่ะ ไม่สบายเหรอ เดี๋ยวเค้าพาไปหาหมอนะ ป๊ะ” แล้วเลโอก็เดินโอบเอวฉันออกมาจากร้าน โดยมีแจนที่วิ่งตามมาติดๆ เลโอไม่ได้หันไปมองหรือสนใจสองสาวนั่นอีกเลย เหมือนเลโอจะรำคาญพวกหล่อนเต็มทนถึงได้ทิ้งสองสาวไว้ในร้านอย่างไร้เยื่อใย
.
.
.
.