กลับเข้าห้องแล้วเจ้าอรุณก็จัดการไล่เถาวัลย์ผีไปอาบน้ำอาบท่า ใจดีแค่ไหนกันเชียวถึงยอมให้คนที่พูดอะไรก็ไม่ฟัง ทั้งยังเกือบสร้างความเดือดร้อนให้เขาอย่างนั้นมาร่วมชายคาด้วยอีกคืน ไม่เข้าใจตัวเองหรอกแต่ก็สงสารเดวี มากกว่าสงสารเดวีคือสงสารตัวเอง ไม่รู้จะหาเหาใส่หัวทำไม แต่ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงจะต้องมีทำข้อตกลงกันหน่อย รอจนกระทั่งเดวีจัดการกับเนื้อตัวตัวเองเสร็จ เจ้าอรุณที่นั่งไขว่ห้างรออยู่บนเตียงก็ส่งเสียงเรียกให้คนตัวใหญ่เข้ามาหา “เดวีมานี่หน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เดวีที่กำลังใช้ผ้าเช็ดตัวซับหยดน้ำจากปลายผมเปียกหมาดรีบก้าวมาอย่างฉับไว ลืมไปแล้วว่าต้องใส่เสื้อผ้า และผ้าเช็ดตัวผืนนั้น เจ้าอรุณก็ให้เอาไว้พันรอบเอวเพื่ออำพรางช่วงล่าง ไม่ใช่ให้เอาไปเช็ดผม แต่ช่างมันเถอะ รีบแก้ไขปัญหาที่มันคาราคาซังอยู่นี่ก่อนดีกว่า “มีอะไรเหรอ จะบอกว่าหายโกรธฉันแล้วใช่ไหม” ดูเหมือนเดวียังคงติดใจเร