Elite Club
นักรบ Talk
ร่างสูงเดินกลับขึ้นมานั่งบนโซนวีวีไอพีชั้นสามที่มีเพียงเจ้าของผับเท่านั้นที่สามารถขึ้นมาได้ภายในห้องประกอบด้วยผู้ชายทั้งหมด 7 คนที่เป็นกลุ่มเพื่อนกันและใช่พวกเขาคือเจ้าของผับร่วมกันโดยมีเสือที่ถือหุ้นมากกว่าใครเพื่อน
คนแรกที่นั่งเล่นเกมในมือถือเรือนผมสีแดงเพลิงท่าทางหัวร้อนง่ายคือต้าร์ ถัดไปคือผู้ชายเย็นชาและไม่สนโลกชื่อโซ่ ทั้งสองคนนี้เป็นทั้งเพื่อนและลูกพี่ลูกน้องของผมเองพวกเราเกิดในครอบครัวที่มีเชื้อสายจีนฮ่องกงมีแต่ผมเป็นลูกเสี้ยวเยอรมันเพราะแม่เป็นลูกครึ่งไทยเยอร์มัน
“อ้าวไอ้ห่ามาเงียบๆ นะมึงหายไปไหนมาตั้งนาน”เสียงแหบเอ่ยทักผมพรางทำสีหน้าเบิกบานใจมันชื่อเพทายเป็นเพื่อนอีกคนที่พูดมากและน่ารำคาญแต่ก็ดูปกติที่สุดแล้วในกลุ่มของเรา
อีกคนที่นั่งข้างเพทายผมสีน้ำตาลทองเจาะหูข้างขวาคนนี้ชื่อไฟ มันเรียนเครื่องกลคนละสาขากับผมแต่ก็ยังนัดเจอกันบ่อยๆ พูดถึงมันแล้วมันเป็นคนที่แทงสนุกเกอร์เก่งที่สุดในกลุ่มแล้วที่สำคัญมีเมียก่อนเพื่อนด้วยเมียแบบเมียจริงๆ จดทะเบียนกันแล้วน่ะ
และอีกสองคนที่นั่งข้างกันไอ้หน้าดุตาคมผมสีดำสนิทหน้าหล่อจัดมันชื่อเสือเรียนเครื่องกลเหมือนไอ้ไฟส่วนอีกคนที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จามีลายสักเต็มแขนขวามันชื่อไนต์เรียนโยธาเหมือนผม
“มึงไปไหนมา..” ต้าร์ละสายตาจากเกมแล้วหันมาถามผมสายตาของมันไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าและเท้าจรดหัวพร้อมกับขมวดคิ้วไปด้วย
“ดูดหรี่” ผมตอบนิ่งๆ ขี้เกียจพูดเยอะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแค่นี้มันตรัสรู้ได้
“เออ” เห็นไหมมันรู้โดยไม่ต้องขยายความผมเลยเดินไปนั่งโซฟาที่ยังว่าง
“แล้วเสื้อมึงไปไหน” ไม่สามารถหลุดรอดสายตามันไปได้สินะผมนิ่งไปสักพักเพราะกำลังหาคำตอบที่สั้นที่สุด
“ทิ้ง” ใช่ถึงจะหวงแต่คงไม่ได้คืนและไม่คิดจะเอาคืน
“เสื้อตัวนั้นมึงรักมากไม่ใช่หรอกูเห็นมึงใส่ตลอดจนคิดว่าถ้าหมาคาบไปทำรังมึงคงจะตามไปเก็บกลับมาใส่”ไอ้ต้าร์ร่ายยาวเหยียดก่อนจะวางมือถือลงบนโต๊ะผมไม่คิดว่าตัวเองในสายตาของมันจะเป็นแบบนี้
“เออทิ้งไปก็ดีใส่แต่ตัวเดิมรำคาญ”เพทายเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมกับวางแก้วเหล้าลงตรงหน้าผมบางทีก็สงสัยนะพวกมันมีปัญหาอะไรกับเสื้อของผมและอีกอย่างผมมีสีและลายแบบนั้นอีก 7 ตัว
“มึงข้อง?” ผมถามกลับอย่างไม่เข้าใจแค่เสื้อพวกมันก็จะมีปัญหาหรอ
“เออกูข้องเสื้อมีเยอะแยะใส่แต่ตัวเดิมกูถามจริงมึงชอบอะไรนักหนาลายไส้เดือนดินน่ะ”เพทายเดินมานั่งลงตรงขอบโซาฟาข้างผมผมก่อนจะกอดอกและแสดงความคิดเห็นเรื่องเสื้อต่อ
“ไร้สาระ”
“มึงว่าไงนะ” เพทายขมวดคิ้ว
“มันบอกมึงไร้สาระพูดไปก็เปลืองน้ำลาย”คำตอบที่ทำให้เพทายฉุนแน่นอนว่าไม่ใช่ผมเพราะผมไม่ตอบยาวขนาดนี้เปลืองพลังงาน
“ไอ้เชี้ยต้าร์มึงด่ากู”เพทายโวยวายเมื่อรู้สึกว่าโดนเพื่อนด่า
“กูด่าที่ไหนกูขยายความไอ้รบให้มึงเลยนะ”
“ไอ้สัสมึงนั่นแหละพูดเอง”
ผมหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบแล้วหันหน้าหนีแต่ไม่วายได้ยินเสียงไอ้ต้าร์กับเพทายพ่นน้ำลายใส่กันไม่หยุด
น่ารำคาญ!
นัยน์ตาคมเอื่อยเฉื่อยมองบรรยากาศภายนอกที่กำลังครึกครื้นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาเห็นว่าคนภายในห้องทำอะไรอยู่เพราะห้องนี้ทำกระจกทึบแบบพิเศษ
ร่างสูงใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดใดออกมาก่อนที่ความนิ่งเฉยจะถูกทำลายลงเมื่อเห็นเสื้อที่ตกเป็นประเด็นในโต๊ะผ่านหน้าไปแม้คนข้างล่างจะเดินอยู่ชั้นหนึ่งแต่เพราะชั้นสามสามารถเห็นได้ทุกมุมทำให้ผมเห็นได้ชัดว่าเป็นเสื้อของตัวเองโดยที่เธอสวมทับชุดเดรสสั้นเอาไว้
ก็ยังดีที่รู้จักใส่….
กับคนอื่นผมก็คงจะเดินผ่านไปแต่ไม่รู้ทำไมต้องยื่นมือไปช่วยเหลือเธอให้เสียเวลาด้วยและยังทิ้งเสื้อแจ็คเก็ตคลุมให้อีกแต่พอคิดย้อนกลับไปผมก็คงยังจะทำเหมือนเดิมคือ ช่วยเธอ
ผมพูดกับตัวเองในใจก่อนจะหันกลับมาที่โต๊ะเพื่อเติมเหล้าแต่สายตาของผมดันสบเข้ากับนัยน์ตาคมกริบของไอ้เสือพอดีมันมองผมนิ่งก่อนจะเหลือบตามองไปยังชั้นล่างที่มีร่างบางเดินอยู่จนลับสายตาไปมุมปากของมันยกยิ้มให้ผมก่อนจะเมินหน้าหนี
ไม่ใช่ว่ามันเห็นผมมองเธอหรอกนะ…
End
กาแฟ Talk
13.00 น.
“อื้อ..ปวดหัว”
ฉันพลิกตัวอยู่บนเตียงมาครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ไม่ยอมลุกเพราะอาการปวดผลพวงมาจากเมื่อคืนที่ดื่มหนักจนหาทางกลับแทบไม่ได้จนต้องให้คนขับรถที่บ้านมารับซึ่งเป็นปกติของฉันอยู่แล้ว
“ไปอาบน้ำสระผมหน่อยละกันเผื่อจะดีขึ้น”
ปกติเวลาไม่สดชื่นก็ต้องอาบน้ำสระผมเมื่อโดนน้ำเย็นชโลมร่างมันก็ช่วยได้มากโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดได้นอนพักอยู่ที่บ้านอีกวันแต่พูดตามตรงฉันเบื่อมากบ้านเงียบสุดๆ
ลืมเล่าว่าที่บ้านหลังนี้มีคุณตาบุญธรรมเป็นเจ้าของและท่านมีลูกสาวสองคนภายในรั้วบ้านเดียวกันนอกจากบ้านหลังที่ฉันอยู่ก็ยังมีบ้านอีกหลังคือบ้านของอัศวินหรือพี่วินนั่นแหละเพราะป้าดวงแม่ของพี่วินเป็นลูกสาวคนโตของท่านส่วนวาโยเป็นลูกของลูกสาวคนเล็กท่านแต่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่นะรายนั้นอยู่บ้านกับพ่อเขา
นี่คือเหตุผลที่ฉันไม่ชอบใจมากกับการเปลี่ยนแปลงปุ๊บปั๊บของเขาตั้งแต่เด็กจนโตเพราะอายุห่างกันปีเดียวฉันแทบจะตบหัวเขาได้อยู่ดีๆ ทำไมหันมาทำตัวประหลาดและบอกความรู้สึกที่มันไม่สมควรแบบนี้กันแล้วแทนที่ตาจะห้ามปรามเขากลับเห็นดีเห็นงามด้วย!!!
ติ๊ด
หลังจากที่อาบน้ำเรียบร้อยระหว่างที่นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงนอนก็มีแชทแจ้งเตือนขึ้นมา
นิด้าส่งอะไรมานะ….
อย่าลืมคิดเรื่องแฟนนะ
ฉันขมวดคิ้วทันทีแต่ก็เข้าใจได้เพื่อนอาจจะรีบเพราะเป็นห่วงไหนๆ ฉันก็ว่างแล้วลองเฟ้นหาว่าที่แฟนดูก็แล้วกันแต่ยังไม่ทันจะทำอะไรเพื่อนก็ส่งลิงก์เพจมาให้พร้อมข้อความกำกับอีกว่า
นิด้า : โปรไฟล์ดี
กาแฟ : ขอบใจมากแก
นิด้า : รีบคิดรีบเลือก
กาแฟ : แป๊บ
ฉันตอบกลับไปแค่นั้นก่อนจะเปิดดูที่เพื่อนส่งมาเป็นเพจของมหาลัยแอลพร้อมระบุข้อมูลของหนุ่มฮอตสิบอันดับฉันเลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ โดยที่คนไหนมีแฟนฉันก็เลื่อนผ่านหมดจนมาสะดุดที่คนนี้
หนุ่มฮอตอันดับ 9
ออสการ์ ชวัลกร ชื่อเล่น นักรบ
อายุ 22 ปี เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์
“หล่อขนาดนั้นทำไมอันดับไกลจัง”
ฉันพึมพำในใจพลางนึกถึงใบหน้าเรียบนิ่งของคนซึนเมื่อคืนแม้ในที่มืดมีไฟสลัวเขากลับโดดเด่นขึ้นมาจนฉันเผลอจ้องจนลมหายใจสะดุด
เอ๊ะ!ซึนและโสดงั้นหรอ
ไว้เท่าความคิดฉันก็หยิบไอแพดขึ้นมาเพื่อเสิร์ชหานามสกุลของเขาเพียงไม่นานข้อมูลจากเว็บต่างๆ ก็ขึ้นมาให้พรึ่บนามสกุลดังจริงด้วยเพราะรู้สึกคุ้นมากแน่นอนว่าเป็นลูกหลานในวงนักธุรกิจหรือไฮโซไฮซ้อจำเป็นต้องรู้จักนามสกุลดังๆ
และตระกูลชวัลกรก็เป็นหนึ่งในนั้นปกติลูกหลานบ้านนี้เหมือนจะเรียนที่มหาลัยแอลกันหมดแล้วฉันก็ไม่รู้จักใครหรอกได้ยินป้าดวงพูดกับคุณตาเพราะตอนพี่วินจะเข้ามหาลัยป้าดวงอยากให้ไปเรียนที่มหาลัยแอลเผื่อจะได้เป็นเพื่อนกับลูกหลานไฮโซคนอื่นแต่คุณตาตามใจพี่วินและเขาเลือกจะเรียนที่คิงเวลล์
“ไม่ใช่ว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ดีงั้นหรอ หล่อ เรียนต่างมหาลัยไม่จำเป็นต้องวุ่นวายกันมากที่สำคัญที่บ้านมีอำนาจมากกว่าบ้านเราด้วย……กรี๊ดคิดออกแล้วเขานี่แหละ”
ร่างบางกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างดีใจในที่สุดแฟนปลอมๆ ก็ไม่ได้หายากเลือกพี่นักรบนี่แหละคือตัวเลือกที่ดีที่สุดเสี่ยงน้อยสุดและไม่มีพิษมีภัยเท่าคนอื่นด้วยข่าวเสียหายก็ไม่มีคนแบบนี้ไม่มีแฟนได้ยังไง!!!