เกาเจียวหั่วนำเครื่องประดับที่ได้มาจากตลาดหน้าชายแดนพร้อมผลไม้แห้งหลายชนิด ทั้งยังมีเขาสัตว์ โสม และของใช้ทั่วไป เขาตั้งใจนำมาฝากฟ่านรั่วเจี๋ย พร้อมอยากถามไถ่เรื่องที่นางมีโอกาสได้พบมู่หรูซื่อ
ชายหนุ่มก้าวผ่านทหารยามด้านหน้าและต้องหงุดหงิดใจ ทหารทั้งสองคนที่มารับผิดชอบจุดนี้ยังเด็กอยู่มาก อีกทั้งไม่ได้อยู่ในระเบียบ เกาเจียวหั่วจึงอบรมอยู่นาน พอเขาก้าวเข้าไปด้านในตำหนักเย็นซึ่งตั้งอยู่อย่างสันโดษก็ต้องแปลกใจ ปกติถ้าไม่เห็นฟ่านรั่วเจี๋ยอยู่กับแปลงผัก นางก็มักนั่งดูฝูงเป็ดเล่นน้ำ หรือไม่ก็ซุกซนไล่ปล้ำตือเมี่ยว แต่วันนี้หญิงสาวปล่อยเจ้าหมูแคระอยู่เพียงลำพัง มันกำลังหาไส้เดือนกิน
หัวคิ้วเข้มๆ ของเขาขมวด สังหรณ์ใจกลัวนางจะได้รับอันตราย ชายหนุ่มก้าวยาวๆ เพื่อตามหาหญิงสาวพลางร้องเรียกไปด้วย กระทั่งหางตาเห็นชายเสื้อสีน้ำเงินเนื้อผ้าหยาบเคลื่อนไหวอย่างลับๆ ล่อๆ เขาจึงถีบพื้นขึ้นลอยตัวไปเพื่อดักอยู่ด้านหน้า ทว่าเสียงจากด้านหลังที่ร้องเรียกทำให้เขานึกฉงน
“พี่หั่ว!”
ฟ่านรั่วเจี๋ยเรียกชายหนุ่มเสียงดัง นางโผเข้ามาหาเขาแสดงความดีใจที่ได้พบหน้ากัน ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงทั้งสองข้าง มองนางด้วยความฉงน ก่อนเอ่ยถาม “เมื่อครู่เจ้าอยู่ตรงนั้น”
“เหลวไหล สตรีโฉมงามอยู่ตรงหน้าท่านต่างหากเล่า”
“ฮ่าๆ ข้ายังไม่ได้ดื่มสุราและอากาศก็ไม่ได้ร้อนจนทำให้ตาลาย ไฉนจะไม่เห็นว่ามีคนอยู่ใกล้ๆ บ่อน้ำพุ”
ฟ่านรั่วเจี๋ยส่ายหน้าน้อยๆ นางยื่นมือออกไปบีบจมูกโด่งๆ ของชายหนุ่ม “แต่ข้าอยู่ตรงนี้ ท่านก็เห็นนี่นา”
ชายหนุ่มยกมือเกาศีรษะตน ในใจนึกสงสัย เมื่อครู่เขาเห็นชายเสื้อและเงาของมนุษย์แน่นอน
“แต่พี่...” ชายหนุ่มเตรียมเอ่ยอะไรออกมา ทว่าฟ่านรั่วเจี๋ยดึงมือเขาและพาให้ไปนั่งที่ศาลาเล็กใกล้สระน้ำ ซึ่งมีต้นไม้ร่มรื่นอันเป็นมุมโปรดของนาง
“พี่หั่ว ข้ามีสุราหมักผลไม้ผสมน้ำผึ้งป่าและยังผสมสมุนไพรพิเศษลงไป แล้วนี่มีผลอิงเถาไว้กินคู่กันอีกด้วย”
“เจ้าไม่ได้วางยาพี่ใช่หรือไม่”
ดวงตาคู่สวยของฟ่านรั่วเจี๋ยถลึงใส่ชายหนุ่ม ก่อนตีแขนเขาพอให้หายหมั่นไส้ “ชอบเย้าข้า เหตุใดต้องทำร้ายพี่หั่วเช่นนั้น”
“ก็เพราะอาเจี๋ยเป็นแม่หมอตำแยแห่งตำหนักเย็นซึ่งใครๆ ต่างยำเกรง”
“หึๆ ถ้าพวกข้างนอกยำเกรงข้าจริง ป่านนี้ข้าคงมีตำหนักใหญ่โตพร้อมบริวารหลายสิบชีวิตคอยเป็นแขนขาแล้วกระมัง”
เกาเจียวหั่วส่ายศีรษะน้อยๆ เขารู้ถึงจิตใจของฟ่านรั่วเจี๋ย ถึงนางชอบพูดจาโผงผาง มักทำเรื่องผิดศีลธรรม แต่นางนับว่าเป็นสตรีที่ใช้ได้ การอยู่ในตำหนักเย็นเช่นนี้นับว่าเป็นผลดีอย่างยิ่งยวด ด้วยฟ่านรั่วเจี๋ยมีความลับซึ่งจะให้ผู้อื่นล่วงรู้ไม่ได้ มิเช่นนั้นอาจนำภัยร้ายมาถึงชีวิตนาง
“อาการของเจ้าดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่” เขาว่าพลางมองใบหน้าหญิงสาวบริเวณด้านล่างมีผ้าปิดเอาไว้ กระนั้นก็มิอาจลบความงามได้ คิ้วเข้มเรียงเป็นแพสวย ขนตางอนยาวสีดำขลับ รับดวงตาคู่สวยหวานซึ้งซึ่งเป็นสีดำอมเทาสตรีโฉมงามเช่นนี้กลับถูกครหาว่าเป็นหญิงอัปลักษณ์ล่มเมือง!
“บางทีข้ายังมีอาการหนาวๆ ร้อนๆ ส่วนเรื่อง...” นางขยับผ้าที่ปิดใบหน้าของตนครึ่งล่างเล็กน้อย
“ไม่ต้องเป็นกังวล เจ้างามในสายตาพี่เสมอ อยู่ในตำหนักแห่งนี้ย่อมดีต่อเจ้ามากกว่าออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกหาเรื่องใส่ตัว”
เกาเจียวหั่วไม่ได้ตำหนินาง แต่ห่วงความปลอดภัยของหญิงสาว หลังจากมารดานางสิ้นชีพอย่างอนาถ ได้รับโทษ ‘คนหมู’ ด้วยข้อหาร้ายแรง นับจากนั้นฟ่านรั่วเจี๋ยก็อยู่ที่นี่ นางได้รับการดูแลจากครอบครัวเขา ทว่าหลายปีที่ผ่านมาชีวิตนางลุ่มๆ ดอนๆ มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป เขาจึงเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายคนเดียวของฟ่านรั่วเจี๋ย
“เฮอะ ข้าไม่ได้ไปเที่ยวเล่น ทั้งหมดล้วนเพื่อค้นหาสมุนไพรเพื่อนำมารักษาผู้คน”
“ฮ่าๆ สำนักการแพทย์ ณ ตำหนักเย็นของเจ้า คงมีแต่หมอตำแยอย่างอาเจี๋ยเป็นผู้ดูแล ส่วนคนไข้คงเป็นตือเมี่ยว แล้วก็...” ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะชี้มือไปยังฝูงเป็ด แต่เขาจับสังเกตได้ว่ามีเงาตะคุ่มๆ เคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังครัว เงาดังกล่าวมีการเปลี่ยนทิศทางรวดเร็ว เขาคะเนได้ว่าอีกฝ่ายมีฝีมือไม่ต่ำทราม!
“ผู้ใดอยู่ตรงนั้น อาเจี๋ย...หลบไป”
เกาเจียวหั่วเอ่ยจบจึงคำรามเสียงดัง เขาคว้าทวนคู่ใจแล้วพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว จุดหมายคือร่างที่เคลื่อนตัวอย่างมีพิรุธ!
ฟ่านรั่วเจี๋ยตกใจจนแทบเป็นลม แต่นางดึงสติตนกลับคืน หญิงสาววิ่งไล่หลังชายหนุ่ม เป็นตอนนั้นที่เห็นว่าร่างซึ่งคลานอยู่บนพื้นคือมู่ชิงซาน
“พี่หั่ว ตรงนู้นมีอะไรก็ไม่รู้” นางชี้มือไปอีกทาง หวังให้เกาเจียวหั่วไขว้เขว แต่ชายหนุ่มหาได้สนใจ ฟ่านรั่วเจี๋ยเลยคิดแผนใหม่อย่างเร่งรีบ นางกลัวเขาจะพบมู่ชิงซานเข้าเสียก่อน
หญิงสาวดึงแขนชายหนุ่มอย่างแรง ก่อนออกแรงผลักสุดชีวิต
“ทำอะไรอาเจี๋ย”
“นะ...นั่น แมงป่อง!” นางร้องโวยวายทำท่าเสียขวัญ พลางชี้ไปที่พื้นจากนั้นจึงถอยหลังด้วยความรวดเร็ว พอเห็นมู่ชิงซานคลานอยู่แถวนั้นก็ยกขาข้างหนึ่งถีบลำตัวเขา อีกฝ่ายตกใจและสีหน้าง้ำงอ เป็นตอนนั้นที่นางแก้ไขสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานด้วยการดึงเขาลงไปอยู่ในบ่อน้ำพุด้วยกัน
เสียงตูมดังขึ้นพร้อมผิวน้ำแตกกระจาย
เมื่อนางกับมู่ชิงซานลงไปอยู่ในบ่อน้ำพุ มือเรียวสวยจึงกดศีรษะเขาให้จมลงอยู่ใต้ผิวน้ำ แล้วใช้เรือนร่างตนบังร่างเขาจากสายตาเกาเจียวหั่ว
คราแรกคนตัวโตดิ้นขลุกขลัก มือใหญ่ป่ายแปะเนื้อตัวนาง กระทั่งเขาสัมผัสต้นขาอ่อนและจับเอวคอดนางไว้ได้ มู่ชิงซานจึงสงบลง แต่มันทำให้ใจดวงน้อยของหญิงสาวไหวระทึก ยามนี้นางกำลังนั่งซ้อนทับบนตัวเขา ตัวอุ่นๆที่มีความแข็งแกร่งไหวสั่น
ยามนี้ความอุ่นจากน้ำในบ่อน้ำพุยังมิอาจเทียบเท่าไอร้อนจากเรือนกายแกร่ง มือใหญ่ๆ ซุกซนไม่อยู่สุข เขาสัมผัสเรือนร่างนางอย่างย่ามใจ จากต้นขากลมเนียนเป็นเอวคอด แล้วเลื่อนไปที่หน้าอกอวบสวย ปลายนิ้วชี้ยาวๆแตะตรงยอดถัน แตะแล้วลากวนไปมาจนฟ่านรั่วเจี๋ยเกิดอาการซาบซ่าน นางจึงครางเสียงฮือและขยับบั้นท้ายตนทีละนิดอย่างเผลอไผล กระทั่งไปชิดกับสิ่งที่กำลังพองขยายและแผ่ความร้อนออกมา