ตอนที่ 2 ชื่อตอน นางเขินอายน่ารักยิ่ง

1425 คำ
ได้สนทนากับสตรีที่ตนชื่นชมคุณชายใหญ่สกุลฉู่ยกยิ้มดีใจขึ้นมา ในใจนั้นขบคิดอยู่เล็กน้อยและให้บ่าวชายไปนำตำราหายากของตนเองนั้นออกมาเพื่อเร่งทำคะแนนให้นางนั้นชมชอบเสีย “อาเป่ยเจ้าไปรื้อตำราเก่าของข้ามาให้คุณหนูชุนนั้นนำไปให้พี่ชายของคุณหนูคัดลอกเถิด หากว่าในกาลหน้าคุณชายสกุลชุนสอบได้ขึ้นมา ข้านั้นต้องเป็นคนแรกที่ไปคารวะน้ำชาแล้ว “ “อร่า คุณชาย ขอบคุณท่านมากเลยเจ้าค่ะ ตำราสอบจ้วงหยวนนั้นค้นหาได้ยากนัก ตำราคัดลอกที่มีขายอยู่ในเมืองหลวงก็ราคาแพงมากและคัดลอกออกมามิเต็มเล่ม ท่านพี่ของข้าทั้งสี่คนต่างได้ตำรากันเพียงคนล่ะส่วนนำมาแบ่งกันคัดลอกไปช่างน่าอับอายนักเจ้าค่ะ “ “โอว มีเรื่องอัปยศเช่นนี้ในเมืองหลวงด้วยเช่นนั้นหรือ ฮ่า ฮ่า เจ้าดูเอาเถิด หน้าจวนของบิดาข้านั้นมีดวงตรากิเลนครึ่งเสี้ยวหมายความว่าอย่างไร “ บุรุษชี้ไปและอมยิ้มส่งสายตาไปทางนางและเฉลยออกมาในที่สุด “บิดาของข้านั้นคือแม่ทัพฉู่ที่สืบสายเลือดเก่าแก่ตกทอดกันมาทั้งสกุลของจอมทัพ เจ้าว่าในเมืองหลวงมีคนเปิดสำนักศึกษาแล้วทุจริตสั่งสอนผู้คนจนรวยมิเท่าเทียมต่างชั้นกันได้เช่นนั้นหรือ คำตอบของข้าคือมิได้เด็ดขาดเลย หากบิดาของข้านั้นกลับมาแล้วข้าจะรายงานบิดาเสีย คุณหนูชุนท่านจงวางใจเถิด ต่อไปท่านก็ทำอาหารอ่อนๆมาส่งข้าหน่อยเถิด ปีนี้ข้านั้นมิใคร่จะสบายนัก อยากได้อาหารอ่อนจางที่ดื่มกินแล้วมิเจ็บปวดกระเพาะนัก ท่านทำมื้อเย็นมาให้ข้าทีเดียวพร้อมกับหมั่นโถวหวานหรือซาลาเปาก็ย่อมได้ ข้านั้นยังคงสั่งในจำนวนเท่าเดิมแต่ราคานั้นเพิ่มเติมได้ตามราคาของคุณหนูเถิด ท่านนั้นมิต้องกังวล ข้านั้นมีบิดาที่ร่ำรวย ต่อให้มิทำงานอีกร้อยปีข้างหน้าสกุลของข้ามิถูกปล้นชิงออกไปก็มิมีวันจะล้มละลายลงไปได้แน่ “ “อรา ขอบคุณคุณชายมากเลยนะเจ้าคะ ท่านพ่อของข้าต้องดีใจมาก วันนี้ท่านแม่ของข้าป่วย ท่านพ่อก็ออกไปรับงานแบกหามตั้งแต่เช้า ยังมิมีผู้ใดเห็นเงินนี้ หากท่านพ่อกลับมาต้องดีใจมากๆ นี่นับว่าหากท่านพ่อมิอยากออกไปทำงานก็ช่วยข้านั้นดูไฟในเตาต่อไปก็ย่อมได้ คุณชายมีพระคุณกับข้าแล้วนะเจ้าคะ “ “คุณหนูมิต้องเกรงใจ หมั่นโถวของเจ้านั้นหอมและหวานทำให้ข้านั้นชื่นชอบมันจริงๆ เจ้าอย่าคิดมากเลยคุณหนูชุน” ใบหน้าหวานรื้นน้ำตาขึ้นมา บุรุษแย้มรอยยิ้มจางๆดึงผ้าเช็ดหน้าของตนเองออกมาและส่งไปให้นาง “คุณหนูมาที่จวนข้าอย่าร้องไห้บ่อยเช่นนี้ ผู้ใดมาพบเข้าจะหาว่าข้านั้นทำสิ่งมิดีงามรังแกสาวงามลงไปได้ “ บุรุษเย้าแหย่นางเสียงทุ้มนุ่ม ใบหน้าหวานแดงขึ้นมาไปจนถึงลำคอและดึงผ้ามาปิดใบหน้าของนางไปเสี้ยวหนึ่ง เอ่ยตอบขออภัยออกไปในทันที “ข้านั้นต้องขออภัยคุณชายด้วยเจ้าค่ะ “ “อรืม คุณหนูชุนอย่ากังวลใจไปเลย ข้านั้นอยู่แต่ใจจวนผู้เดียวมิใคร่ออกไปสังคมที่อื่นใด จึงพูดจามิใคร่ดีนัก ขอคุณหนูโปรดอภัยที่นิสัยของข้านั้นมิน่าชื่นชมมากเท่าใด “ “อรื้อ มิใช่เช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ ค คุณชายท่านใจดีมากเลยเจ้าค่ะ “ เอ่ยจบเช่นนั้นใบหน้าหวานก็มุดลงไปในผ้าเช็ดหน้าแล้ว นางเขินอายมากจนบุรุษนั้นแทบจะครางเบาๆขึ้นมาในลำคอ บุรุษอยากดึงนางเข้ามากอดในอกเสียแล้ว แต่ทว่าก็ได้แต่ทำใจแล้วจริงๆ “พบกันคราแรกจะล่อลวงนางมากินเต้าหู้แล้วได้อย่างไร ปิ่นปักผมในอกก็จะหาทางให้นางก็คงมิได้ คิดแล้วก็มองนางอย่างพิจารณาแล้วเอ่ยถามนางออกไป “คุณหนูท่านมีคู่หมายแล้วหรือไม่ “ ใบหน้าหวานแดงขึ้นมาอีกครั้ง นางส่ายหัวไปมาเบาๆทั้งที่ยังมิเงยหน้าขึ้นมาเลยเสียด้วยซ้ำ บุรุษหายใจมิทั่วท้องเสียแล้วเลือดในกายนั้นพลันปั่นป่วนขึ้นมาและส่งปิ่นปักผมลงไปตรงหน้าของนาง และลุกขึ้นหนีหายไปในทันที “ปิ่นปักผมนี้ ข้าพบเจอเมื่อวานหลังจากที่ออกไป มันเข้ากันกับคุณหนูอยู่มิน้อย เจ้ารับมันไปเถิด ข้าซื้อมาเพื่อเจ้าเท่านั้น “ บุรุษเดินหนีหายไปแล้วอาเป่ยก็เดินมาอีกครั้ง “คุณชายนั้นมิใคร่ถูกใจผู้ใดเลยขอรับ คุณชายนั้นสนทนากับคุณหนูที่เป็นสตรีได้นานเพียงคนแรก เช่นนั้นคุณหนูโปรดเข้าใจด้วยเถิดขอรับ คุณชายนั้นคงเขินอายคุณหนูจึงหนีหายไปเสียแล้ว ทางนั้นเป็นท้ายจวน ด้านในนี้ต่างหากคือที่พักของคุณชาย “ อาเป่ยยิ้มและขายคุณชายออกมาจนหมดสิ้น จนเกิดเสียงดังขึ้นมา “อาเป่ย เจ้าอย่าปากมากให้มากนัก เร่งให้สตรีเดินไปส่งคุณหนูเสีย อยู่ที่นี่นานผู้คนจะนำไปครหานินทาได้ “ “ขอรับคุณชาย” ใบหน้าหวานมองปิ่นตรงหน้าแล้วหยิบมันขึ้นมาชม ปิ่นมิแพงมากแต่ทว่างดงามและเรียบง่ายใช้งานได้อย่างมิขัดเขินเป็นแน่ ใบหน้าหวานสบดวงตาของบุรุษที่ยืนพิงเสาเรือนปิดใบหน้าอยู่กึ่งหนึ่งแล้วหลุบดวงตาลงมา ก่อนจะเอ่ยวาจาขอบคุณคนออกไป “ขอบคุณคุณชายมากนะเจ้าคะ ปิ่นนี้เรียบง่ายข้าจะขอใช้ปักผมไปทุกวัน “ ใบหน้าคมดึงฝ่ามือออกจากใบหน้าตนและเร่งสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆนางอีกครั้ง “พรุ่งนี้อย่าลืมอาหารอ่อนๆของข้าเล่า ข้านั้นเจ็บในลำคอมาหลายวันแล้ว” “เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะมิลืม “ คนตัวโตยิ้มให้นางยืนมองนางเดินออกไปโดยมีสาวใช้มานำทางไป พอถึงหน้าจวนนางก็เอ่ยขอบคุณสาวใช้และเอ่ยว่านางนั้นกลับเองได้ มิคาดว่าสาวใช้นั้นมิยินยอมเดินตามนางไปส่งนางจนถึงในเรือน ยามที่พบว่ามารดาของนางนั้นป่วยไข้ก็ชี้ไปที่ต้นสมุนไพรที่มีอยู่ทั่วไปตามผืนดินและเอ่ยบอกแก่นางเสีย “หญ้าเปลี่ยนฤดูเหล่านั้นใช้ถอนพิษไข้ได้ดีนะเจ้าคะคุณหนู ต้มเพียงน้ำเดือดก็พักคลายความร้อนแล้วป้อนคนป่วยได้แล้วนะเจ้าคะ “ “อร่า ขอบคุณพี่สาว ข้านั้นจะมิลืมเลือนท่าน “ “มิได้เจ้าค่ะ ข้านั้นเป็นเพียงบ่าว คุณหนูอย่าได้ต้องกังวล “ สาวใช้สกุลฉู่ค้อมกายลงและย่อเข่าลงในท่าวั่นฝูก่อนจะเดินออกไปในทันที ใบหน้าหวานดีใจขึ้นมา นางเร่งก้มลงไปถอนหญ้านั้นด้วยตนเองและรีบนำไปต้มให้มารดาของนางดื่มในทันที ในวันต่อมามารดาของนางก็ลุกมาพูดคุยสนทนากันได้ ท่านพ่อของนาง ท่านอากับท่านอาสะไภ้ และท่านพี่ทั้งสี่นั้นก็ต่างดีใจไปในเรื่องต่างๆกัน ทว่าในยามนี้ในใจสกุลชุน คุณชายฉู่ผู้นี้นั้นมีพระคุณแล้ว และมิน่าเชื่อว่าในราตรีนั้น สำนักศึกษาและร้านคัดตำราสอบจ้วงหยวนถูกทางการนั้นเข้าไปรื้อค้นจนเละเทะไปหมด คนถูกลากร้องโหยหวนและครวญครางลั่น “ข้าน้อยผิดไปแล้วไต้เท้า ข้าเสียหนี้พนันจึงรับปากผู้คนให้รบกวนชนชั้นล่างเสีย ตำราจึงมิครบส่วน โอ๊ย อย่าตีข้าขอรับ ให้อภัยข้าด้วยเถิดไต้เท้า อ๊าก โอ๊ย หลังข้าหักแล้ว โอ๊ย ไต้เท้า ข้าแถมตำราลับของบุรุษให้ท่านด้วย ท่านอย่าตีข้าเลยนะขอรับ “ “ฮึ่ม เจ้าบัณฑิตวิปลาส หากมิใช่ว่าเจ้านั้นเคยมีผลงานใหญ่ ข้าจะส่งเจ้าเข้าไปทรมานในวังหลวงเสีย จดจำไว้ให้ดี รวยจนมิต่างกัน หากกล้ารับประโยชน์ใส่ตนอีก ข้านั้นจะทุบตีเจ้าไปให้ตาย “
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม