"คุณหมอวันนี้อาการพ่อของราเป็นยังไงบ้างคะ?" ราเม็งถามหมอคนที่เป็นเจ้าของคนไข้ ซึ่งดูแลอาการป่วยของพ่อเธอตั้งแต่เริ่มต้น หมออามถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมหันไปจ้องมองผ่านกระจกใส เพื่อจ้องมองดู ดร.เอกภพที่ยังหลับไม่ได้สติอยู่
" อาการคงเดิมครับ เราต้องรอครับ" หมออามบอกกับราเม็งน้ำเสียงแผ่วเบา ราเม็งได้ยินแบบนี้ทุกวันทั้งตอนเช้าและตอนเย็นก่อนกลับบ้านเธอก็จะแวะมาถามอาการของพ่อแบบนี้ตลอด ทุกวันราเม็งขับรถเก๋งโตโยต้าคันเก่าของพ่อของเธอมาที่ทำงานทุกวัน แต่ก่อนที่จะห้องแล็บเธอจะต้องมาเยี่มมพ่อของเธอทุกครั้ง เพื่อถามอาการของพ่อว่าวันนี้เป็นยังไรบ้าง
" ค่ะ งั้นราขอไปทำงานก่อนนะคะ " ราเม็งบอกกับหมอเจ้าของไข้ หมออามพยักหน้ารับ ราเม็งเดินหมุนตัวแยกออกไปทางไปห้องแล็บทันที ในใจได้แต่คิดเป็นห่วงพ่อเพราะอาการของพ่อที่เป็นอยู่ไม่มีทีท่าจะดีขึ้นเลย ราเม็งเดินไปด้วยความใจลอย เดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองเพื่อใส่ชุดโค้ทสีขาว
" พ่อรีบๆตื่นนะคะ รารอพ่อทุกวันเลย" ราเม็งหันไปมองรูปถ่ายของเธอและพ่อของเธอที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเธอ พลางพูดพึมพำออกมา เพราะเธอไม่อยากอยู่ที่บ้านของแด๊ดมาตินและมัมลินแล้ว เธออยากย้ายออกจากที่อันตรายกับร่างกายและคุณภาพชีวิตของเธอแล้ว ราเม็งพลางคิดถึงใบหน้าเควินที่ชอบยิ้มแบบพวกโรคจิตแล้ว มันทำให้เธอรู้สึกขนลุกขนชันไปตามร่างกาย แถมชวนให้คิดถึงเรื่องอย่างว่าที่ของเขาทำกับเธอเมื่อวาน หัวใจดวงน้อยยิ่งเต้นแรงโครมคราม ราเม็งรีบส่ายหน้าพร้อมรีบยื่นมือไปหยิบแฟ้มทำงานและเดินออกจากห้องไป
เควินบอกกับเลขาของเขาให้ติดประกาศรายชื่อที่บอร์ดบริหารหน้าห้องแล็บเรื่องการออกค่ายอาสากับรพ. ในเครือในเดือนหน้าที่จังหวัดเชียงรายบนภูเขาสูงเป็นที่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก ราเม็งเดินผ่านมาพอดีกับนักวิจัยคนอื่นๆกำลังยืนมองดูรายชื่อคนที่ได้ไปร่วมกิจกรรมด้วย เธอหยุดเดินแล้วตรวจดูรายชื่อเหมือนกัน
" น้องราได้ไปด้วยนะครับ ชื่อน้องราต่อจากชื่อพี่เลยครับ" คิงส์นักวิจัยที่แอบชอบราเม็งมานานแล้วบอกกับเธอ แต่ราเม็งคิดกับเขาแค่พี่ชาย ทั้งสองคนเรียนจบมาพร้อมกันเเต่เพราะคิงส์ดร็อปเรียนปีหนึ่งเลยจบพร้อมกันกับเธอ สำหรับมิตรภาพระหว่างสองคน ราเม็งหันมายิ้มหวานให้คิงส์
" เหรอพี่คิงส์ แต่คราวนี้ไปไกลจังราไม่อยากไปเลย " ราเม็งพูดออกมาพร้อมทำหน้างอง้ำลง เพราะเธอคิดถึงพ่อของเธอที่นอนป่วยไม่ได้สติอยู่ คิงส์ยิ้มออกมาเช่นกันพร้อมยื่นมือไปเบาผมบนหัวของราเม็งที่เธอเก้าไว้เบาๆ ราเม็งเงยหน้ามามองหน้าคิงส์แล้วยิ้มหวานส่งให้
" ไปเถอะ บรรยากาศดีน่าบนดอย ตอนเย็นมีปาร์ตี้รอบกองไฟด้วยนะครับ สนุกน๊า" ก้อนเมฆบอกกับราเม็ง ทั้งสองคนหัวเราะคิกคัก
" เอาเวลามาหัวเราะไปทำงานวิจัยของตัวเองดีกว่าไหม?" เสียงเควินพูดออกมาจากทางด้านหลังของราเม็ง ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขามายืนด้านหลังของราเม็งตั้งแต่ตอนไหน คิงส์หันหน้าไปมองพร้อมโค้งคำนับเล็กน้อย
" สวัสดีครับ ผอ. " คิงส์ทักทายเควินทันที นักวิจัยอีกสี่ห้าคนเดินแยกออกไปตอนไหนไม่รู้ ราเม็งแค่ได้ยินเสียงของเควินก็สะดุ้งเล็กน้อย หัวใจแทบหยุดเต้น มือไม้สั่นเทา ปากเล็กสั่น เธอยังยืนหันหลังให้เขาอยู่ไม่ได้หันมาทักทาย เพราะเมื่อเช้าก็ทักทายกันที่ห้องครัวที่บ้านของเขาแล้วแต่ทักทายแบบเควินไม่ใช่แบบเธอ เควินที่ยืนด้านหลังราเม็งเขาก้มลงมองคนตัวเล็กตรงหน้าเล็กน้อย พร้อมยกยิ้มเหี้ยมๆที่มุมปาก เขาพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตาคิงส์อีกครั้งพร้อมพยักหน้าให้
" อืม " เควินแค่ตอบแค่นั้น แต่เขายังยืนนิ่งๆอยู่ด้านหลังของราเม็งไม่ขยับไปไหนใบหน้าอันหล่อเหลาของเควินดูนิ่ง แถมริมฝีปากบางมีรอยยิ้มเหี้ยมผุดขึ้นที่มุม คิงส์กลืนน้ำลายเหนียวลงคอฝืดๆ
" ผมขอตัวครัับ ผอ. ไปเถอะน้องรา" คิงส์พูดออกมา พลางก้มลงไปมองราเม็งที่ยืนนิ่งกำมือเล็กแน่นอยู่ ราเม็งได้ยินคำชวนของคิงส์รีบเงยหน้าขึ้นพร้อมส่งยิ้มหวานให้
" ค่ะ " ราเม็งพูดออกมาพร้อมขยับตัวจะเดินไปกับคิงส์ แต่ทุกอย่างต้องดับฝันของราเม็งเพราะเสียงอันทรงอำนาจดังมาจากด้านหลังของเธอ
" คุณราเม็ง ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว" เควินพูดออกมาเสียงนิ่งๆไม่บ่งบอกอารมณ์ของเขา เควินจ้องมองการกระทำของคนตัวเล็กไม่วางตา ราเม็งเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคิงส์พร้อมยิ้มหวานให้ เควินส่ายหน้าเบาๆแววตาเริ่มดุดันขึ้นมา
" เดี๋ยวพี่ไปรอราที่ห้องนะครับ แล้วเจอกัน " คิงส์บอกกับราเม็ง พร้อมยื่นมือหนาไปเอาแฟ้มเอกสารจากมือเล็กของราเม็ง
" ไม่ต้องถือเอกสารให้หรอกเพราะผมจะคุยงานกับคุณราเม็งทั้งวัน เอกสารในมือเธอคงไม่ต้องเอาไปรอที่ห้องทำงานหรอก" เควินบอกกับคิงส์เสียงนิ่งแววตาดุดันน่ากลัว เขาจ้องมองมือหนาของคิงส์ที่ยื่นไปหามือเล็กราเม็ง มือหนาของคิงส์ชักกลับคืน ราเม็งกัดริมฝีปากล่างแน่น หัวใจเริ่มทำงานหนัก เธอทำหน้าขอความช่วยเหลือจากคิงส์ แต่คิงส์กับส่ายหน้าเบาๆและส่งยิ้มให้เป็นกำลังใจให้เธอ เขาเดินหมุนตัวออกไปทันที ราเม็งได้แต่มองตามหลังคิงส์อย่างใจหาย
" หึหึ " เควินจ้องมองราเม็งแล้วส่ายหน้า เพราะดูเธอจะพยายามขอความช่วยเหลือเหลือจากเพื่อนแต่โดนปฏิเสธออกไป ราเม็งสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ
" ตามมาป้า" เควินเดินเข้ามาใกล้ราเม็งพร้อมก้มลงไปใกล้ๆใบหูเล็กพร้อมกระซิบเบาๆเพื่อบอกกับเธอ ราเม็งยกมือเล็กผลักดันใบหน้าอันหล่อเหลาออกให้ห่าง เควินยกยิ้มที่มุมปากพร้อมเดินหันหลังไป ราเม็งหันมามองตาหลังเควินแล้วสูดหายใจเข้าปอดลึกๆอีกรอบ มือเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อสำรวจสเปรย์พริกไทย ราเม็งพลางยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ' เจอดีแน่ไอ้โรคจิต'
" เดินเร็วหน่อย" เควินบอกกับราเม็งที่ก้าวเดินช้าๆห่างๆเขา เควินส่ายหน้าเบาๆ ราเม็งขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงงงวย เพราะนี้ไม่ใช้ทางไปห้องทำงานของเขา
" ผอ.จะไปไหนคะ ทางนี้ไม่ได้ไปห้องทำงานของผอ.นี้คะ?" ราเม็งถามออกมาด้วยความสงสัย เควินปลายตามองพร้อมยกยิ้มออกมาที่มุมปาก
" หึหึ ก็ไม่ใช่น่ะซิ" เควินพูดออกมาพร้อมกดลิฟท์ ราเม็งถอยหลังเล็กน้อยให้ห่างเขาพร้อมหมุนตัว เท้าเล็กรีบก้าวและวิ่งทันที แต่เธอวิ่งไปได้ไม่ถึงสามก้าวด้วยซ้ำ
หมับ! มือเรียวของเควินคว้าเอาไว้ก่อน ราเม็งถึงกับอ้าปากค้าง เธอรับหันมามองดูข้อมือเล็กของตัวเอง หัวใจแทบหยุดเต้น จมูกเล็กเริ่มหายใจไม่ออก
" ไม่น่ะ นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง ปล่อยนะ!" ราเม็งร้องออกมา เพื่อให้คนแถวนัเนได้ยิน มือเล็กอีกข้างล้วงเข้าไปหาขวดสเปรย์พริกไทย เควินเห็นมือเล็กถือขวดสเปรย์พริกไทยเขาขบกรามแน่น มือเรียวอีกข้างดึงคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมใช้แขนเรียวล็อคคอเล็กไว้แน่น มืออีกข้างดึงขวดสเปรย์พริกไทยออกจากมือเล็กพร้อมเก็บที่กระเป๋าเสื้อของตัวเอง
" ปล่อยนะ ช่วยด้วยค่ะ ชะ.อื้ม" ราเม็งร้องให้คนช่วยแต่โดนมือเรียวของเควินปิดปากไว้แน่น จมูกเล็กพยายามหายใจเอาอากาศเข้าปอดทันที เขาลากคนตัวเล็กไปข้างในลิฟต์ทันที
" เงียบ แม่งเอาในลิฟต์เลยดีไหม" เควินเค้นเสียงรอดไรฟันกระซิบบอกคนตัวเล็กข้างใบหูเล็ก ราเม็งส่ายหน้ารัวๆพยายามดิ้นให้หลุด เควินขบกรามแน่น ' ฤิทธิ์เยอะ'
" อื้ม อื้ม" ราเม็งพยายามร้องออกมา พอดีประตูลิฟต์เปิดออก ราเม็งถึงกับตาค้างเพราะที่นี่เป็นชั้นของเควินทั้งชั้น แถมมีแค่เขาที่สามารถขึ้นมาบนนี้ได้คนอื่นห้ามเด็ดขาด หัวใจดวงน้อยแทบหลุดออกมาด้านนอก
" หึหึ กลัวหรือไงว่ะ?" เควินกระซิบเบาๆกับคนตัวเล็กตรงหน้า พร้อมดันคนตัวเล็กไปที่ห้องทำงานด้านบน พอเข้ามาถึงห้อง เควินค่อยคลายมือออกจากของคนตัวเล็ก ราเม็งรีบหายใจเข้าปอดถี่ๆ เควินจ้องมองแล้วยกยิ้มขึึ้นมาก เขาเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
" เอกสารเซ็นด้วย " เควินบอกกับราเม็งเสียงนิ่ง มันคือเอกสารปลอมลายเซ็นอีกแล้ว ราเม็งที่หายใจเหนื่อยหอบอยู่ รีบปลายตามองด้วยความสงสัยเพราะถ้าเซ็นเอกสารเกี่ยวกับเรื่องอวัยวะทำไมเขาต้องให้เธอมาเซ็นด้านบนด้วยทุกทีเซ็นด้านล่าง ราเม็งถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับเควิน
" ทำไมคิดว่าผมจะทำอะไรคุณหรือไง หึหึ" เควินพูดออกมาเสียงเหี้ยม เขาก้มลงไปตรวจดูเอกสารเช่นการ ราเม็งขบกรามแน่น ' ใครมันจะไปรู้ล่ะ ไอ้โรคจิต' เธอพลางคิดในใจพร้อมก้มลงอ่านเอกสารและลายเซ็นที่เธอต้องปลอม เควินเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมยยกยิ้มเหี้ยมๆ ' ก็ทำต้องทำงานก่อน หลังจากนั้นค่อยทำอย่างอื่นไงป้า' เขาพลางคิดในใจพร้อมใช้ลิ้นด้านกระพุ้งแก้มมือหนาลูบคางเบาๆ แล้วก้มทำงานต่อเช่นกัน
" หิวยัง?" เควินถามคนตัวเล็กออกมาเพราะเขาก้มมองนาฬิกาหรูที่ข้อมือของเขาแล้วเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ราเม็งเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาพร้อมถอนหายใจเบาๆ
" ค่ะ แต่ดิฉันจะลงไปทานด้านล่างค่ะ" ราเม็งพูดออกมา พร้อมก้มไปเซ็นเอกสารอีกครั้งเพราะใกล้เสร็จแล้วเหลืออีกไม่กี่หน้า เควินปลายตามองแล้วยักไหล่ให้
" ไม่ต้องกินบนนี้แหละ" เควินบอกกับคนตัวเล็กพร้อมกดสั่งอาหารทันที ราเม็งอ้าปากค้าง
" มะ..ไม่เป็นไรค่ะผอ. ดิฉันใกล้เสร็จแล้วเซ็นอีกไม่กี่หน้าเองค่ะ ผอ. " ราเม็งพูดออกมาขณะที่ที่ยังก้มเซ็นเอกสารอยู่ เควินเงยหน้าจากเอกสารขึ้นมาพร้อมยกยิ้มเหี้ยม
" ไม่! เพราะผมอยากทำมากกว่าเซ็นเอกสารด้วย" เควินพูดออกมาน้ำเสียงนิ่ง ไม่ได้สนใจที่นั่งต่างหน้าว่าเธอจะคิดอย่างไร ราเม็งชะงักมือเล็กพร้อมเงยหน้ามามองหน้าเขา
" ไม่ค่ะ" ราเม็งเซ็นเอกสารแผ่นสุดท้ายเสร็จพอดี พร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้
" หึหึ..." เควินหัวเราะในลำคอหนา ราเม็งเดินหมุนตัวตรงไปที่ประตูหน้าห้องทำงาน มือเล็กพยายามผลักดันประตูหน้าห้องให้เปิดแต่ประตูเปิดไม่ออก เควินยังก้มทำงานต่อไม่สนใจ
" ไม่ออกไปล่ะ" เควินเงยขึ้นมาถามคนตัวเล็กที่พยายามดันประตูห้องอยู่ เขาเซ็นเอกสารเสร็จพอดีเช่นกัน เควินดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ พร้อมเดินตรงเข้ามาหาราเม็งทันที ราเม็งพยายามดันประตูแต่ไม่ได้ผล
" หึหึ เชื่อสิไม่รอดล้านเปอร์เซ็นต์" เควินหัวเราะในลำคอหนาพร้อมเดินตรงเข้ามาช้าๆ ราเม็งอ้าปากค้าง