ตอนที่ 4 ไม่ตอบพี่จูบ

2023 คำ
@ห้องอาหาร นิชาดารีบเดินตามหลังอีกฝ่ายมาที่ห้องอาหารเมื่อรู้ตัวว่าทุกคนไปรวมตัวกันหมดแล้วเหลือแค่เธอ แต่ต้องรู้สึกผิดมากกว่าเก่าเมื่อทุกคนกำลังรอเธอจริงๆ ยกมือไหว้ขอโทษก่อนเดินมานั่งลงเก้าอี้ตัวข้างๆ พี่ภูผา ไม่วายถูกคำถากถางจากคุณย่ามาอยู่ดี "ชักช้า คนอื่นเขารอ" "ทานข้าวกันเถอะ" คนเป็นประมุขของบ้านบอกทุกคนลงมือได้ ให้เข้าใจว่าไม่ต้องไปสนใจเมียเขา นิชาดารู้สึกเกร็งมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาทานข้าวร่วมกันที่นี่จึงทำให้เธอทานไปหน่อยเดียว ไม่ค่อยตักกับข้าวมาทานเพราะกลัวมือไปโดนกับใครเข้าแล้วเกิดภาพไม่ดีให้คุณย่าไม่ชอบใจอีก จึงได้ทานแต่เมนูที่อยู่ตรงหน้าเป็นผัดผักกับไข่เจียวอย่างไม่เรื่องมาก กับข้าวที่อยู่ในช้อนกลางถูกตักลงมาในจานของนิชาดาเมนูแล้วเมนูเล่า ภูผาทำอย่างชิลๆ ส่วนคนอื่นๆ ที่เห็นทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ เท่านั้น ยกเว้นคุณผู้หญิงของบ้าน พอเห็นหลานชายตักไม่หยุดเกิดรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา อย่าบอกนะว่าหลานชายของเธอจะไปหลงเสน่ห์ยายเด็กนี่! ยกน้ำขึ้นจิบแล้วรีบเอาผ้าเช็ดปากเตรียมตัวจะออกจากห้องเพราะทานไม่ลง "มือก็มีกันทุกคน ไม่ได้พิกงพิการสักหน่อย ไม่รู้จักบริการตัวเอง" ทิ้งระเบิดลูกใหญ่เสร็จจึงเดินออกจากห้องอาหารไป นิชาดารู้ดีอยู่แก่ใจว่าท่านหมายถึงใคร หากแต่อย่างนั้นยิ้มบางๆ ให้คุณปู่ท่านจะได้ไม่เป็นห่วง "อย่าคิดมากเลยนะลูก ย่าเราก็เป็นแบบนี้แหละ" แล้วเป็นประเภทที่ไม่ชอบฟังนะหากใครเขาจะอธิบาย เอาแต่เดินหนี ลุกหนีมันอยู่อย่างนี้จนเขาขี้เกียจจะคุยแล้ว อายุอานามใกล้จะเข้าโรงกันหมดแล้วยังไม่รู้จักปล่อยวางบ้างเลย "ทานกันต่อเถอะ คราวหลังก็หัดแบ่งสองจาน" เอ่ยกับทุกคนในโต๊ะอาหารเสร็จแล้วหันไปตำหนิแม่ครัวกัน ทุกคนที่ยืนรออยู่ห่างๆ ต่างก้มหน้า ใช่ว่าไม่อยากแบ่งเสียเมื่อไหร่ คนเต็มโต๊ะอาหารขนาดนี้ แต่โดนคุณหญิงตำหนิมาน่ะสิว่าแบ่งทำไมให้เปลืองจานหลายใบ ไหนจะต้องมาทำความสะอาดแล้วเปลืองน้ำล้างที่เพิ่มมากขึ้น ใครถึงก็ถึง ใครไม่ถึงก็ไม่ต้องกิน พวกเธอที่รับเงินเดือนจากคุณผู้หญิงจะไปขัดท่านได้อย่างไรล่ะ ผ่านไปสี่สิบนาทีทุกคนต่างพากันอิ่มหมดแล้วจึงแยกย้าย ทำให้เหลือเพียงพ่อกับแม่ของภูผาและประมุขของบ้านเดินออกมาส่งหลานสาวหลานชายที่หน้าบ้าน "ยังไงผมก็จะกลับอยู่แล้ว งั้นผมขอไปส่งน้องนะครับปู่" ภูผารีบออกตัว ไม่ปฏิเสธว่าเขาอยากทำความรู้จักกับนิชาดามากขึ้น จะสี่สิบอยู่แล้วนะ ส่งมาครั้งแรกเขาปล่อยหลุดมือ ส่งมาครั้งที่สองคิดว่าเขาจะพลาดเหรอวะ เทวดาไม่ต้องบอกตรงๆ แต่ไอ้ภูผาไม่ได้โง่ "แต่มันไปคนละทางกันนะภูไม่เป็นไรหรอก" เพราะตอนมาก็ให้รถที่บ้านไปรับ ตอนกลับก็จะให้รถที่บ้านไปส่ง อีกอย่างคอนโดของนิชาดาก็ค่อนข้างอยู่ไกลด้วย "ไม่เป็นไรหรอกครับปู่ ปกติผมนอนดึกอยู่แล้วครับ" เริ่มแรกก็คือต้องทำคะแนนหรือเปล่า เขาคิดว่าต้องทำแน่ๆ ชายชรามองหน้าหลานชาย ถ้าบอกว่าไม่ไว้ใจมันก็จะตรงเกินไป แต่เขาเป็นปู่นะ อะไรที่หลานคิดจะทำทำไมเขาไม่รู้ แต่ภูผาต้องฟังอยู่แล้วหากเขาห้าม จึงได้เดินเข้าไปเอ่ยกับหลานชายพอให้ได้ยินกันแค่สองคน "ปู่ไว้ใจภูได้ใช่ไหม" แล้วชายชราก็ผละออกมองสบตากับหลานชายนิ่ง ทำเอาภูผาต้องพ่ายแพ้แก่สายตาของประมุขที่นี่ว่าหลานสาวคนนี้ท่านหวงจริงจังจึงได้พยักพเยิดหน้าให้ไป "ครับปู่" รับปากคนเป็นปู่เสร็จแล้วเดินกลับไปขึ้นรถโดยมีนิชาดาเดินตามมา งานยากเสียแล้วสิ คิดว่าจะลองรถเสียเผื่อได้นอนค้างสักคืน ปู่ก็ดันมารู้ทัน กำลังจะบอกนิชาดาให้มานั่งข้างหน้าเพื่อบอกทางเขา แต่เจ้าตัวก็ไวเหลือเกิน รีบเข้าไปนั่งด้านหลังราวกับรู้ทัน แต่บางทีนิชาดาควรให้เกียรติเขาบ้างเพราะเขาไม่ใช่คนขับรถของเธอ สั้นๆ คือเขาไม่ใช่คนใช้ของเธอ! อนาคตเขาอาจเป็นผัวก็ได้ใครจะไปรู้ เพราะฉะนั้นผัวเมียก็ต้องนั่งข้างกัน แต่พอมองไปด้านนอกรถเห็นชายชรามองมาไม่วางตาเขาจึงต้องทำตัวให้เป็นปกติแล้วรีบออกรถ เผื่อเปลี่ยนใจให้คนที่บ้านไปส่งเขาอดรู้เลยว่านิชาดาพักอยู่ที่ไหน ขณะที่รถวิ่งไปตามทางก็มีแต่ความเงียบ นิชาดาเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วจึงไม่กล้าเอ่ยอะไร ภูผาจึงได้ทำให้น้องวางใจและเชื่อใจตัวเองก่อนโดยเอาเรื่องเซนซิทีฟมาพูด และอยากแสดงความจริงใจ "พี่ได้ยินคุณปู่บอกว่าแม่นิดเสียแล้ว พี่เสียใจด้วยนะคะ" "ค่ะ" นิชาดาพยักหน้าบางๆ เหมือนจะชินแต่กลับไม่ชินพอได้ยินเรื่องนี้ ตั้งแต่เกิดมาเธอก็มีแค่แม่เพราะพ่อเสียตั้งแต่เธอยังไม่เกิด สั้นๆ คือเธอไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลย เคยเจอแต่ในรูป จึงทำให้เราสองแม่ลูกผูกพันกันมาก เธอจำได้ว่าตอนที่แม่เสียเธอร้องไห้จนเป็นลม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารับรู้มาตลอดว่าต้องมีสักวันที่แม่ล้มป่วยเพราะแม่เธอมีโรคประจำตัว แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ "แต่พี่ได้ยินคุณปู่เล่าว่าเคยชวนนิดไปอยู่ที่บ้านด้วยแต่นิดไม่ไป" "พี่ก็น่าจะเห็นนะคะว่าคุณย่าไม่ชอบนิด คุณปู่จึงให้นิดมาอยู่ที่คอนโดแทนค่ะ" กระทั่งบนรถสิ้นเสียงสนทนาไป ภูผาขับรถต่ออีกสามสิบนาทีก็มาถึงคอนโดนิชาดา มองดูเป็นคอนโดไม่ใหญ่มาก ราคาห้องคงตกที่หนึ่งล้านกว่าบาทเท่านั้น แต่ก็เหมาะสำหรับตัวคนเดียว เขารู้เพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจมา ไปออกงานก็บ่อยเห็นผ่านตามาหมดว่าราคาเท่าไหนเป็นอย่างไร ไม่งั้นส่วนหนึ่งก็คงจะมาจากนิชาดาด้วยเพราะหญิงสาวดูเจียมเนื้อเจียมตัว ถ้าว่ากันตรงๆ ระดับคุณปู่เขาแล้ว แค่นี้ขนขาเส้นหนึ่งก็ไม่ร่วง ภูผาก้าวลงจากรถตามนิชาดาแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้ากัน "นิดขอบคุณพี่ภูนะคะ พี่ส่งนิดแค่ตรงนี้ก็พอค่ะ" "จะไม่ชวนพี่ขึ้นไปดื่มน้ำหน่อยเหรอ พี่รู้สึกคอแห้งมาก ทานข้าวเมื่อกี้ดื่มน้ำไปหน่อยเดียว" ภูผาแสดงสีหน้าให้อีกคนเห็นใจ มือลูบไล้ตามลำคอ "เออ..คือ.." ครืด..ครืด.. เสียงสั่นเตือนในกระเป๋ากางเกงของภูผาทำให้ชายหนุ่มรีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของคุณปู่ ภูผากลอกตาบนทันที กดรับแล้วเอาโทรศัพท์แนบหู "ครับ" (ส่งน้องถึงคอนโดหรือยังภู) "ส่งแล้วครับ กำลังคุยเรื่องงาน พรุ่งนี้ผมว่าจะมารับน้องได้ไหมครับ" เขาก็ว่าจะขึ้นไปดื่มน้ำแล้วคุยกับนิชาดาเรื่องงานสักหน่อย จากนั้นจึงค่อยกลับ แต่ก็แบบนี้ เป็นปู่หรือเป็นหมอผีให้ใครตามติดรู้ไปหมดทุกเรื่อง (ไม่ลำบากเราใช่ไหม) "นิดเป็นน้องสาวผมไม่ใช่เหรอครับ" ทำให้คุณปู่วางใจ (อืมๆ) ชายชราจึงวางสายไป เดี๋ยวจะหาว่าจับผิดหลานตัวเองเปล่าๆ อย่างไรเสียเขาก็เตือนภูผาเอาไว้ก่อนแล้ว ถึงหลายชายจะค่อนข้างดื้อตามฉบับลูกและหลานเพียงคนเดียว ทว่ายังไงเขายังคงเชื่อว่าหลานชายคงเห็นหัวปู่ตัวเองอยู่บ้างล่ะ ภูผาเก็บโทรศัพท์มือถือยัดลงในกระเป๋ากางเกงอย่างเก่าแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็ง วันนี้สภาพอากาศไม่ค่อยดี เอาไว้วางแผนใหม่ให้แยบยลกว่านี้ก่อน จึงได้คุยเรื่องที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก "งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวพี่มารับไปทำงานพร้อมกันนะคะ" "ไม่เป็นไรค่ะพี่ภู พอดีตรงปากซอยนิดมีรถผ่านน่ะค่ะ" "พี่บอกคุณปู่แล้ว" ".." "น้องนิดกลัวพี่เหรอคะ" ภูผาเอามือกอดอกถามยิ้มๆ ออกมา "เปล่าค่ะ" เปล่าที่แปลว่าโกหก เธอกลัวเขาจริงๆ "หรือน้องนิดโกรธพี่เรื่องเมื่อเช้าคะ พี่ขอโทษนะคะ พี่นึกว่าน้องนิดจะเหมือนผู้หญิงหลายๆ คนที่พี่เคยเจอมา" แบบนี้จะทำคะแนนได้ไหมวะ แต่เมื่อกี้เขาชมเธออยู่นะ แบบว่าน้องไม่เหมือนคนอื่นงี้ วิเศษกว่านั้นมากขึ้นไปอีก "ไม่ใช่หรอกค่ะพี่ภู คือนิดไม่ได้คิดเรื่องนั้นหรอกค่ะ" ถึงตามจริงจะคิดมาตลอดก็ตาม ก็ดูหน้าเขาสิ คือหื่นกามมาก! "แล้วเรื่องอะไรคะ หรือยังเจ็บแผลจึงยังไม่พร้อมไปเริ่มงาน" ภูผายังคงไม่ยอม หากนิชาดาขอพักอีกสักอาทิตย์เขาก็ให้ได้ สบายๆ อยู่แล้ว "คือ.." ถ้าบอกว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาตรงๆ ได้ไหม เขาจะหาว่าเธอรังเกียจเขาไหมนะ แต่รู้สึกว่าเวลาอยู่ใกล้เขาไม่ค่อยปลอดภัยไง เจอกันแต่ที่ทำงานไม่ได้เหรอ "ถ้าไม่ตอบพี่จูบนะ" ภูผาทำด้วยความรวดเร็วโดยการรั้งแผ่นหลังเล็กเข้ามาหาตัวเอง ความหอมจากร่างกายนิชาดาที่เขายังตราตรึงปะทะจมูกมา คนอะไรตัวหอมมาก แล้วยิ่งได้มองริมฝีปากใกล้ๆ ยิ่งหน้าจูบ ดูจิ้มลิ้มไปหมดให้คนที่ไม่ค่อยขาดเรื่องอย่างว่าต้องการ นิชาดาเบิกตาโพลง มือสองข้างยกขึ้นดันแผงอกเขาออกให้ห่างตัวเพราะกลัวใครเห็น กระทั่งเขายอมปล่อยเธอออก "พี่ภู!" นิชาดาทำสีหน้าไม่ชอบ ก็เขาเป็นแบบนี้ไง ก็เพราะเขาเป็นแบบนี้! "พี่แค่ล้อเล่นเองค่ะ ก็น้องนิดตอบช้านี่คะ" จะได้กินวันไหนวะไอ้ภู เขาไม่เคยตะล่อมใครนานขนาดนี้มาก่อน อย่างมากก็แค่สิบนาที แต่กับนิชาดาคือเขาเจอเธอทั้งเช้าทั้งเย็นยังไม่เห็นวี่แวว หนึ่งแหละเธอด้วย สองคือคุณปู่ สามจะมีใครอีกก็ไม่รู้ แต่ขอเหอะอย่ามีเลย เขาต้องปิดจ๊อบนิชาดาให้ได้ภายในสามวัน เขาให้มากสุดแค่สามวันเท่านั้น "เอาเป็นว่าพรุ่งนี้พี่จะมารับนะคะ แต่งตัวสวยๆ รอ น้องนิดไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อเชิ้ตกับกระโปรงทรงเอทุกวันก็ได้ สวยๆ แซ่บๆ ได้พี่ไม่ถือ" เขาอยากเห็นนิชาดาที่มากกว่านี้ ไม่แน่ใจว่าเธอพอจะมีเดรสรัดรูปบ้างหรือเปล่า สีเจ็บๆ จี๊ดๆ ยิ่งดีเขาชอบ นิชาดาพยักหน้าช้าๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร "งั้นพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าพี่จะมารับเรา" คนมือไววางมือประคองแก้มเนียนอย่างถือวิสาสะก่อนลูบเบาๆ แล้วรีบไปขึ้นรถ ไม่อยากบอกว่าแค่ได้สัมผัสหน่อยเดียวลูกชายเขาตั้งลำรอแล้ว คืนนี้คงจะได้ใช้บริการชั่วคราวไปก่อนสิท่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม