ผมเหลือบตามองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะกระแทกลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูถูกโยนลงกับโซฟาก่อนจะดันตัวลุก ก้าวขาเข้าไปหาคนบางคนที่ไม่รู้ว่าจมอยู่กับความทุกข์อะไรหนักหนา
ของขวัญนั่งดื่มตั้งแต่ตีสี่จนมาถึงตีห้า คออ่อนที่ดื่มลงไปไม่กี่แก้วก็เมาได้สภาพตอนนี้จึงแตกต่างจากตอนปกติไปโดยปริยาย
ร่างบอบบางแม้นั่งอยู่นิ่งๆ ยังโอนเอน ใบหน้าเนียนเริ่มแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างกาย ตากลมสวยที่เคยน่าค้นหาหยาดเยิ้ม ปากอิ่มพึมพำอะไรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ
"อื้อ!" น้ำเสียงหงุดหงิดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากปะปนกับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ตอนที่ผมอุ้มตัวเธอขึ้นจากเคาน์เตอร์ในท่าเจ้าสาว
มือเรียวปัดป่ายตัวผมและพยายามลืมตาขึ้นมองเมื่อร่างกายลอยละลิ่วเหนือพื้น
"องศา อะ อุ้มหนูทำไม" ผมปรายตามองเด็กสาวในอ้อมกอด ปีนเกลียวใหญ่ยิ่งตอนเมาชื่อของเขากลับหลุดจากปากเธอเปล่าๆ ปราศจากคำว่าพี่แบบที่ควรจะเป็น
ปึก~
"โอ๊ย! หนูปวดหัว" ของขวัญโวยวายเมื่อผมโยนเธอลงบนเตียงกว้าง เครื่องปรับอากาศในห้องนอนทำงานอัตโนมัติ กลิ่นหอมจากน้ำหอมปรับอากาศผสานกับกลิ่นหอมสะอาดสะอ้านจากร่างบางสะกิดหัวใจแกร่งได้เป็นอย่างดี
"ทำไมทำกับหนูแบบนี้ องศาใจร้าย~"
"เงียบ"
"หมดรักกันแล้วเหรอ ไม่รักกันแล้วใช่ไหมถึงได้..."
"ไม่เคยรัก!" ผมหลุดปากพูดความจริงเมื่อใบหน้าผู้หญิงคนหนึ่งแทรกเข้ามาในความทรงจำ
คนเมาที่ฟูมฟายไร้สติในตอนแรกปรือตาขึ้นมองหน้าผมอย่างตกใจ ตากลมๆ คู่นั้นมีหยาดน้ำตาพร้อมกับริมฝีปากอวบอิ่มที่สั่นระริก
ของขวัญเหมือนตั้งใจจะพูดอะไรสักอย่าง ภาพผู้หญิงอีกคนที่นั่งร้องไห้ในผับกำลังฉายชัดพร้อมกับใบหน้าของขวัญที่เปื้อนน้ำตา
ผมช่วยของขวัญมาจนจะสุดทางแล้ว ผมควรปล่อยมือเธอง่ายๆ แบบนี้เหรอวะ? อีกแค่เดือนเดียวทุกอย่างก็จบแล้วไหม ถึงวันเกิดของขวัญเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ฝั่งเธอจะบอกความจริงทุกเรื่อง อธิบายว่าความทรงจำบางส่วนที่หายไปมันไม่เคยมีเรื่องราวของผมอยู่ในนั้นเหมือนที่ทุกคนพยายามปั้นเรื่องโกหก หากของขวัญรู้สึกดีต่อกันแล้วต้องมารู้ความจริงภายหลัง อย่างน้อยการช่วยเธอจนสุดทางมันก็อาจจะทำให้เด็กสาวเข้าใจและยอมจากกันแต่โดยดี
"มะ เมื่อกี้~"
"พี่ขอโทษ" ผมโน้มตัวลงไปประชิดร่างบางบนเตียงก่อนจะกดริมฝีปากลงบนเรียวปากเอิบอิ่มที่สั่นระริกเพราะความหวาดกลัว
ในตอนที่ปากแนบชิดกันผมมองเห็นตากลมคู่นั้นกลอกกลิ้งไปด้วยหยาดน้ำตาปะปนกับความรู้สึกสับสน บดจูบให้ลึกซึ้งขึ้น หวังสิ่งเดียวคือให้ของขวัญลืมเรื่องที่ผมพูดก่อนหน้านี้ซะ ลืมมันไปจนกระทั่งความเชื่อเรื่องดวงชะตาที่จะเปลี่ยนแปลงในวันเกิดค่อยให้เธอรับรู้ความจริง
ความต้องการของผมได้ผลตอนที่ผมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากบาง แขนเรียวตวัดขึ้นโอบรอบลำคอของผมก่อนจะยอมเผยอปากให้ผมจูบอย่างว่าง่าย ลิ้นเล็กตวัดจูบตอบเงอะงะ ความหวานจากปากอิ่มทำให้ผมอยากเดินหน้าต่อ ยิ่งเด็กสาวยินยอม สัญชาตญาณความเป็นชายก็ยิ่งยากที่จะหยุดยั้งได้อีกต่อไป
"อือ~" เสียงครวญครางเล็ดลอดออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อนิ้วยาวเหยียดวางทาบอกอวบพร้อมกับออกแรงขย้ำ เคล้นคลึงอย่างเบามือทว่ากลับทำร่างบางครางแทบไม่เป็นภาษา
ริมฝีปากผละออกจากกันก่อนที่ของขวัญจะเชิดใบหน้าขึ้น กลิ่นหอมจากซอกคอขาวผ่องทำผมควบคุมตัวเองยากกว่าเก่า ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอกคอพร้อมกับขบเม้มอย่างหยอกล้อ กลิ่นกายสาวกระตุ้นความแข็งแกร่งให้เดินหน้าค้นหาทุกอย่างต่อไป
"อ๊ะ~ องศา..." ริมฝีปากอวบอิ่มครางกระเส่าเมื่อชุดนอนตัวบางหลุดจากร่างกายสะอาดสะอ้าน ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นความอบอิ่มของก้อนเนื้อขาวผ่อง ขาเรียวบดเบียดเข้าหากันในตอนที่ผมดันตัวลงต่ำ ใช้ลิ้นและปากทักทายปลายถันสีหวานที่แข็งชันตอบรับทันทีที่ผมแตะปลายลิ้นละเลงลงไป
"อ๊ะ~ สะ เสียว"
ความอดทนขาดสะบั้นเมื่อคนตัวเล็กเปิดทางให้ผมด้วยความเต็มใจ นิ้วยาวเหยียดบีบเคล้นความอวบอิ่มขณะที่ปลายลิ้นตวัดรัวเร็วละเลงยอดถันและขบเม้มอย่างตะกละตะกลาม ของขวัญครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน สองมือทั้งกดและปล่อยสลับกันในยามที่ผมระรานหน้าอกของเธอหนักขึ้น เสียงกรีดร้องด้วยความเสียวถูกเปล่งออกมาเมื่อผมลากปลายลิ้นอย่างเชื่องช้าตามผิวเนียนละเอียด ความใจเย็นแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงเมื่อลิ้นสากสะกิดกับยอดถันเสมือนเป็นการหยอกล้อให้คนตัวเล็กคล้อยตาม
ความอดทนสะบั้นซ้ำเมื่อปากอวบอิ่มแตะลงที่แก้มสาก ผมมองคนใต้ร่างด้วยความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ไม่ถูก เมื่อผมหยุดการกระทำของขวัญจึงลืมตามองผมอย่างอ้อยอิ่ง อยู่ดีๆ ความน้อยใจก็ฉายชัดในตากลมคู่นั้น ความน้อยใจแปรเปลี่ยนเป็นอ้อนวอนจนผมต้องก้มลงไปจูบเธอใหม่ ใช้มืออีกข้างปลดกระดุมกางเกงยีนส์จะใช้เท้าถีบให้ร่วงลงไปอยู่ที่ปลายเตียง
"แน่ใจนะว่าต้องการแบบนี้" ผมเอ่ยถามขณะที่แยกเรียวขาขาวออกจากกัน ความใหญ่โตเกินมาตรฐานเหยียดขยายอวดความยิ่งใหญ่และความพร้อมที่เต็มร้อย ผมควบคุมตัวเองได้ดีมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ครั้งนี้ผมควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เลย
"ขวัญจะเป็นขององศา แค่องศาคนเดียว~"
"เลือกเองก็อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน" ผมแทรกกายที่กลางหว่างขา กดสายตามองต่ำตอนที่หัวเห็ดแดงก่ำจ่อปากทางรักที่เหมือนจะคับแคบมากเป็นพิเศษ
ไม่แน่ใจว่าผมไม่เก่งเรื่องเล้าโลมหรือมองว่าเรื่องผมและเธอมันเป็นแค่เซ็กซ์ เอวสอบขยับเข้าหาแรงๆ กระทั้นกระแทกลำรักเข้ากับจุดอ่อนไหว ตอกเข้าหนักๆ จนสุดความยาวของมันในครั้งเดียว
กึด! ปึก!
"กรี้ดดดด!" เสียงกรีดร้องและแรงผวาทำผมชะงัก บดกรามเข้าหากันแน่นเมื่อความคับแคบบีบรัดช่วงล่างจนปวดหนึบไปหมด
"อย่าบอกนะว่าเธอ..."
"จะ เจ็บ ฮึก! มันเจ็บ~" มวลน้ำตาพรั่งพลูออกมาจากตากลมสวย คราบเลือดที่เปรอะตามลำรักเมื่อผมถอดถอนแก่นกายช้าๆ บ่งบอกว่าผมไม่ได้เข้าใจผิด
ของขวัญไม่เคยผ่านมือใครมา ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์เหนือความคาดหมายจริงๆ!
"รู้ใช่ไหมว่าตัดสินใจไปแล้วมันกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว" คนใต้ร่างที่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นพยักหน้าทั้งน้ำตา
นิ้วสวยที่จิกบนแขนผมอย่างแรงตอนที่โดนผมกระแทกเปลี่ยนมาโอบกอดตัวผมเอาไว้หลวมๆ
ที่พูดว่าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว ก็แค่บอกให้รู้เท่านั้น ขึ้นชื่อว่าผู้ชายถ้ามาถึงขั้นนี้แล้วใครมันจะไปหยุดได้กัน!
ผมยกมือสางเส้นผมของตัวเองลวกๆ พยายามขยับเข้าออกในตัวของของขวัญอย่างใจเย็นทั้งที่แทบรอไม่ไหว ช่องทางรักที่ไม่เคยผ่านมือใครมาบีบรัดตัวตนของผมอย่างแรงจนเผลอเชิดใบหน้า หลุดเสียงครางออกมาอย่างพึงพอใจ
ใบหน้าของคนที่ผมตั้งใจไปเจอก่อนจะกลับมาหาของขวัญฉายชัดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนั้นออกมา
"...คัพเค้ก"