ปลอมตัวซ่อนรัก

2170 คำ
บ่ายนี้อีกฉากหนึ่งซึ่งจะมีเลิฟซีนระหว่างนิวกับมีน จึงทำให้กัสตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าจะได้ใกล้ชิดพีคแบบถึงเนื้อโดนตัว นิวนั่งรอการมาของมีนในห้องเพียงลำพัง เพราะวินได้กลับบ้านไปในช่วงวันหยุดทีแรกนิวไม่อยากให้มีนมา แต่โดยลูกตื้อของมีนไม่ไหวเขาจึงจำใจให้มีนเข้ามาในห้องของเขา เมื่อถึงเวลาที่นัดหมายมีนได้มาถึงไม่ขาดไม่เกินเวลาพอดีประจวบเหมาะ “รอนานไหม”สายตาดุจพญาเสือของมีนพุ่งมุ่งไปยังร่างของนิว พร้อมยืนองอาจอยู่หน้าของนิว ซึ่งในขณะนี้นิวนั่งอยู่บนเก้าพลาสติกสีขาว “ไม่รู้นะ เพราะว่าเราอยู่ในห้องเป็นปกติ”นิวหลบตาต่ำมองพื้นห้องด้วยแพ้สายตาของมีน “อือ เราว่านิวจัดห้องได้สวยมากเลยนะ แล้วเพื่อนของนิวไปไหนล่ะ เราก็กะว่าจะได้มาเจอกันที่นี่” “กลับบ้านมาน่าจะมาพรุ่งนี้” “ดีเลย”รอยยิ้มของมีนจัดจ้านดั่งพริกหลายสิบเม็ด “ดีอะไร”แววตาของนิวเคลือบแคลงสงสัยในคำพูดของมีน “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่จะไม่ชวนให้เรานั่งซักหน่อยเหรอ” “นั่งสิ เดี๋ยวเราเอาน้ำมาให้”นิวลุกขึ้นยืนพร้อมก้าวเท้าไปยังตู้เย็น “เดี๋ยวก่อน”มีนเอื่อมมือจับแขนของนิวไว้แน่นพอสมควร “อะไร”สายตาของนิวมีท่าทีสงสัย และคิดไว้ในส่วนลึกว่ามีนต้องมีแผนในใจอย่างแน่นอน “เปลื่ยนเป็นอยากกินนิวได้ไหม”สายตาอันกรุ่มกริ่มมือที่เหนียวและกำลังแขนที่แข็งแกร่งได้ดึงร่างของนิวมานั่งอยู่บนตัก “นายจะทำอะไร” “ทำอย่างที่คนเขารักกันทำไง” “เราพึ่งรู้จักกันนะ” “เวลาไม่ใช่ปัญหาขอเพียงใจเราตรงกันแค่นั้นเป็นพอ เรื่องอื่นเราอย่าไปสนมันเลย” “คือ”นิวมีท่าทีลังเล “ไม่ต้องลังเลอะไรอีกต่อไป” นิวรู้สึกตื่นเต้นและหวั่นไหวกับคำพูดของมีน ที่ป้อนมาแต่ละคำทำให้ใจของนิวสุดจะต้านทานแรงรักของมีนได้ นิวจึงทำได้แต่เพียงนั่งนิ่งๆอมยิ้มนิดๆด้วยใจละลายในชั่วเวลานั้น เขารู้สึกถึงสัมผัสจากริมฝีปากของมีน ที่จับใบหน้าของเขาให้โน้มต่ำลงมาชนกับริมฝีปาก เพียงแค่สัมผัสนิดหน่อยใจของนิวนั้นล่วงหล่นหายไปในทันที “คัท น้องกัส พีคเก่งมากๆ”เจนนี่ผู้กำกับสาวกำมือชูขึ้นนิดหน่อยและดันลงด้วยความดีใจ “สาววายอย่างฉันเลือดกำเดาไหลหมดตัวแล้ว”เกรซแอคติ้งโค้ชที่ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ในวันนี้เท่าไร เพราะพีคและกัสแสดงได้อย่างถึงอามรณ์ กัสรู้สึกเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก เขาจึงยังนั่งบนตักของพีคอยู่เหมือนเดิม เหตุหนึ่งที่กัสยังไม่ลุกขึ้นจากตักของพีค เพราะพีคยังไม่ได้คลายกอดนิวเช่นเดียวกัน “พีค มันจบแล้ว เลิกกอดนิวได้ไหม”เกรซเอ่ยขึ้น “โทษทีลืมตัว”พีคอมยิ้มนิดๆพร้อมคลายกอดนิวที่เกร็งร่างไปทั้งตัว เมื่อพีคคลายกอด กัสจึงรีบลุกจากตักของพีค แล้วก้มหน้าต่ำด้วยความเขินอายที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย “วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้เป็นฉากสำคัญ เป็นการซ้อมครั้งแรกฉากสามคนนะ กัสเตรียมตัวไว้ด้วย เพราะจะเป็นฉากพีคของเรื่องและดราม่าหนักมาก” “ครับ ถ้างั้นผมกลับก่อนนะครับ”นิวยกมือไหว้ทุกคนรวมทั้งพีคด้วย “วันนี้ไม่ไปส่งน้องกัสเหรอนั่งเงียบเลย”เจนนี่เอ่ยขึ้น “ไปสิ”พีคลุกขึ้นยืนทันที แล้วเดินไปยังนิวที่กำลังเดินออกจากห้องชมรมละครเวที กัสเดินตัวเกร็งเคียงคู่พีคที่มีสีหน้านิ่งเฉย แต่นิวไม่ได้สนใจใบหน้าและท่าทางของพีคแต่อย่างใด เขาได้แต่ก้มหน้าเดินไปเรื่อยๆ จนถึงรถของพีคที่จอดอยู่ไม่ไกลมากนัก เมื่อถึงทั้งคู่ขึ้นเข้าไปยังในรถ หลังจากนั้นพีคก็ขับรถแล่นออกไปในทันที “พี่ไม่อยากเชื่อเลยว่ากัสจะมีมุมหวานๆด้วย”คำพูดของพีคดูเหมือนชม แต่สายตาของเขาไม่ได้บ่งบอกเหมือนอย่างที่พูด “ก็ไม่หวานขนาดนั้นหรอกครับ” “คนเก่ง มักจะถ่อมตัวอย่างนี้แหละ” “ก็ไม่ได้เก่งอะไรนะครับ” “ขนาดนี้ไม่เก่งจะให้เรียกว่าอะไรอีกล่ะ” “เรียกอะไรก็ได้”กัสเขินอายจนถึงกับจับนิ้วตัวเองเล่น “เรียกอะไรก็ได้ ถ้างั้นก็เรียกแบบนี้ดีกว่า น้องนิวน้องรัก”พีคหันมายิ้มให้กัสพร้อมกับเม้มปากพยักหน้าเล็กน้อย “อย่างงั้นก็ได้ครับ” ด้วยความเขินอายจึงทำให้นิวไม่ได้ฟังความหมายเป็นนัย ในสิ่งที่พีคพูดขึ้นมาอย่างตั้งใจ กัสจึงได้แต่คิดไปเพียงว่าพีคอาจเริ่มมีใจให้เขาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย “ยิ้มอะไรเหรอ ดูสิยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”พีคเห็นอากัปกิริยาของกัส เขาก็อมยิ้มตามนิวด้วยความเอ็นดู “ไม่มีอะไรหรอกครับพี่พีค” นิวไม่สามารถที่จะโต้ตอบหรือพูดจาต่อกับพีคได้ เพราะช่วงเวลานี้เขายังรู้สึกเขินอยู่ จนไม่อยากมองหน้าพีคที่กำลังขับรถมาส่งเขายังห้องเช่า ซึ่งก็ใช้เวลานานสมควรกว่าจะมาถึง “พรุ่งนี้เจอกันนะ”พีคยิ้มเต็มทั้งใบหน้า “ครับ”กัสยิ้มตอบอย่างขวยเขินและก้มหน้านิดนึงก่อนลงจากรถ เมื่อกัสมาถึงบนห้องของเขา กัสจึงไม่รอช้าเปิดโน๊คบุ๊คทันที เขาพร้อมที่จะเขียนนิยายอย่างมีความสุขอีกครั้ง ยิวได้สลัดความเศร้านั้นทิ้งไปตามคำแนะนำหัวหน้าขบวน และยิวก็ได้สิ่งของคืนทุกอย่างตั้งแต่แหวนและเครื่องรางของขลังในย่าม พร้อมมีดพกขนาดเล็กที่นำติดตัวไปด้วย ก่อนที่จะเข้าไปในเมืองศิลานคร ยิวได้ขอผ้าโพกศรีษะจากหัวหน้าขบวน โดยที่ยิวรับปากไว้ว่าถ้าถึงในเมืองแล้วให้หัวหน้าขบวนได้พาลูกชายไปหาเขาได้เลย ซึ่งยิวก็ได้ทำความรู้จักลูกชายหัวหน้าขบวนไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอายุนั้นน้อยกว่ายิวสามถึงสี่ปี เพราะยิวพึ่งจะย่างเข้ายี่สิบเอ็ด ลูกชายของหัวหน้าขบวนอายุราวๆสิบหกชื่อจอม ซึ่งรูปร่างสูงใหญ่กว่ายิวอย่างมาก ร่างกายผอมบางของยิวได้ยืนต่อคิวเพื่อเข้าเมืองศิลานคร ซึ่งยิวได้ต่อคิวไม่นานก็ขึ้นช่วงเวลาของเขาที่ต้องตอบคำถามของทหารเฝ้ายามประตูเมือง “เดี๋ยวก่อน”ทหารยามนายหนึ่งเรียกยิวให้ออกจากผู้คนที่ต่อแถว “ชื่ออะไร”ทหารนายนั้นถามห้วนๆ “ชื่อโสพล” “ผู้หญิงอะไรชื่อโสพล” เมื่อยิวได้ยินเช่นนี้ก็เป็นตามแผนการณ์ที่เขาวางไว้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาเป็นอิสตรี ยิวจึงต้องเปลื่ยนชื่อกะทันหัน เมื่อเขาลองแกล้งบอกชื่อโสพลไป และเหล่าทหารคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง “ข้าชื่อโสภี”ยิวพยายามปิดบังใบหน้า ซึ่งในปัจจุบันผมของยิวเริ่มยาวถึงบ่าจึงทำให้ดูเหมือนหญิงสาวมากขึ้นกว่าเดิม “หน้าตาสะสวยดี อย่างนี้ต้องคัดเข้าไปทำงานในวัง” “คือ ข้าคงไปไม่ได้หรอก” “เอ็งคิดจะขัดขืนเหรอ”ทหารคนเดิมเสียงห้วนขึ้น พร้อมจ้องมองยิวอย่างเขม็ง “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก คือข้าเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒ” “เอ็งเอาอะไรมาพูด ท่านแม่ทัพไม่เคยมีเมีย” “ข้าจะโกหกทำไม โกหกไปก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด เพราะความจริงถ้าข้าไม่ใช่ เมื่อท่านแม่ทัพเห็นข้าถ้าไม่ใช่ ก็คงโดนท่านแม่ทัพสังหารเป็นแน่”ยิวพยายามใช้คำพูดให้ดูเข้ากับยุคสมัยให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งพูดเขากับยิ่งงงพูดวกวนจนทหารต้องทบทวนคำพูดของยิว ก่อนจะโต้ตอบกลับมาอีกครั้ง “มันจะใช่อย่างที่เอ็งว่ารึ” “ก็ได้ ท่านคิดว่าแต่ไม่ใช่ ถ้าเกิดท่านแม่ทัพรู้ทีหลังพวกท่านอาจเดือดร้อนก็ได้ อ่อ ข้ายังรู้จักทหารคนสนิทของท่านแม่ทัพด้วยที่ชื่อทัน” เมื่อทหารคนเดิมได้ยินยิวพูดจาหนักแน่นและย้ำหลายรอบ เขาจึงเริ่มเชื่อคำของยิวบ้างแต่ยังไม่ไว้ใจซะทีเดียว ทหารคนนั้นจึงตัดสินใจส่งตัวยิวไปเรือนท่านแม่ทัพ แทนนำตัวเข้าไปเป็นข้าทาสในวัง เพราะอย่างน้อยถ้าเป็นเมียท่านแม่ทัพจริง อาจได้ความดีความชอบและมีรางวัลให้ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่มีปัญหาอะไรแค่ส่งเข้าไปในวังตามความคิดเดิม “ข้าจะให้นายทหารพาเอ็งไป แต่อย่ามีลูกไม้ใดๆรู้ไว้ด้วย มิเช่นนั้นคออาจจะไม่ได้อยู่บนบ่า” “ข้าจะมีลูกไม้อะไร เพราะถ้าข้าไปแล้วไม่ใช่เมียท่านแม่ทัพ คิดเหรอท่านแม่ทัพจะไว้ชีวิตข้า” “ท่านแม่ทัพไม่ทำอย่างนั้นหรอก เขาก็จะส่งเอ็งไปในวังเหมือนเดิม” ยิวไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากปลอมตัวเป็นหญิงเข้าไปเรือนท่านแม่ทัพ จากคำพูดและพูดจาของทหารคนนี้ทำให้ยิวแน่ใจมากยิ่งขึ้น ว่าท่านแม่ทัพวิศรุฒยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้โดนฆ่าตายอย่างคำบอกเหล่าของเสือเข้ม “เอ็งไปได้แล้ว” ยิวยังไม่ได้ทันตั้งตัวเตรียมใจแต่อย่างใด ทหารคนใหม่ก็เดินมาหาเขาและพาตัวเขาเดินเข้าไปในเมืองศิลานคร ก่อนเดินเข้าไปลึกขึ้น ยิวได้เห็นหัวหน้าขบวนกับลูกชายยิ้มให้อย่างยินดี ยิวจึงทำได้แค่ยิ้มตอบรับอย่างอ่อนๆ แล้วหันมาคุยกับทหารคนใหม่ที่กำลังจะพาเขาไปยังเรือนท่านแม่ทัพวิศรุฒ “ท่านเรือนแม่ทัพวิศรุฒอยู่อีกไกลไหม” “ไม่ไกลหรอก หรือว่าเอ็งจะกลัวขึ้นมาแล้ว ถ้ากลัวกลับใจตอนนี้ยังไม่สายนะ” “ทำไมข้าจะต้องกลัวด้วย” “ถ้าไม่กลัวก็ตามข้ามาและไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ” สายตาของยิวมองค้อนทหารคนใหม่ตอนทีเผลอ เพราะไม่กล้าแสดงออกมาตรงๆ ยิวจึงได้แค่เดินตามทหารคนใหม่อย่างเงียบๆจนมาถึงเรือนท่านแม่ทัพวิศรุฒ ยิวจึงรีบมองเข้าไปข้างในทันที ซึ่งเป็นเรือนไม้หลังใหญ่มีอาณาบริเวณกว้างขวางสุดลูกตา ยิ่งยิวมองไปรอบๆแล้วอดคิดไม่ได้ว่าเหมือนเรือนเหล่าอำมาตย์ ในละครจักรๆวงศ์ๆอีกมิติหนึ่งที่เขาจากมา “ยืนเหม่ออะไรหรือว่ากลัว”ทหารคนใหม่มองด้วยสายตาปรามาส “กลัวอะไรซะที่ไหน ทำไมต้องกลัวเพื่อ” “เอ็งนี่พูดจาแปลกประหลาด ไม่รู้ท่านแม่ทัพเอาเป็นเมียได้ไง” “พูดกับเมียท่านแม่ทัพดีๆนะไม่งั้นคอจะไม่อยู่บนบ่า” ด้วยความกลัวว่ายิวจะเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒจริงๆ ทหารที่พายิวมาจึงไม่พูดอะไรต่ออีกเลย ได้แต่เดินนำหน้ายิวมายังเรือนท่านแม่ทัพจึงถึงตีนบันได โดยทหารคนเดิมเดินขึ้นไปบันได้ขั้นสองขั้นสาม พอจะขึ้นขั้นสี่ทหารคนนั้นหยุดมองยิว แล้วใช้สายตาบ่งบอกให้ขึ้นตามมา ยิวจึงรีบขึ้นตามไปด้วยใจที่ระทึกจนถึงบนเรือนชาน และสิ่งที่พบเห็นมีหญิงสาวสูงวัยนั่งพับเพียบกินหมากพลู อยู่กับหญิงสาววัยอ่อนกว่าหลายคนกำลังนั่งพัดวีให้คลายร้อน “นั่งลง”ทหารคนเดิมกระซิบเบาๆให้ยิวได้นั่งลง ตอนแรกยิวได้นั่งขัดสมาธิตามทหาร แต่โดนสายตาของเหล่าหญิงสาวตรงหน้ามองอย่างใคร่สงสัย เขาจึงเปลื่ยนมานั่งพับเพียบเรียบร้อยอย่างกับในละคร “เอ็งพาใครมารึ”หญิงสาวสูงวัยเอ่ยขึ้นกับทหารและมองมายังยิวที่ก้มหน้าก้มตา “หญิงสาวผู้นี้ได้บอกข้าว่าเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒ” “ฮ่ะ วิศรุฒลูกข้าไปเมียมีตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่กลับมาจากเมืองโสรยาก็ไม่เห็นพูดเรื่องเช่นนี้ให้ข้าได้ฟังเลย” หญิงสาวสูงวัยอายุสี่สิบกลางๆมองยิวอย่างใคร่สงสัย และแปลกใจไปในตัวว่าบุตรของเขาแอบไปมีเมียตั้งแต่เมื่อไร โดยที่เธอไม่ได้รับรู้มาก่อนเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม