อุปสรรคยังไม่หมดสิ้น

1604 คำ
เมื่อชายหนุ่มทั้งสองได้เดินจากไป ยิวรีบไปหาจันทันที พอเขาเห็นจันแค่นั้นแหละยิวแท่บน้ำตาไหล เพราะร่างกายของจันฟกซ้ำดำเขียว แล้วยังมีรอยผิวหนังไหม้เกรียมอยู่หลายแห่งไม่ว่าจะเป็นท่อนแขนและขา “จันเจ็บมากไหม”ยิวกอดร่างของจันไว้อย่างเอ็นดู “พี่ก็เจ็บด้วยใช่ไหม”จันร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ใช่พี่ก็เจ็บ แต่พี่โตแล้วและไม่ได้โดนหนักอย่างจัน แต่จันไม่ต้องกลัวนะอดทนเข้าไว้ พอไปถึงเมืองศิลานคร พี่จะให้ท่านแม่ทัพวิศรุฒหาหมอเก่งๆมารักษาจันเอง” “ขอบคุณพี่โสพลมากเลยครับ” ยิวไม่รู้จะจัดการกับแผลของจันอย่างไร เขาได้เพียงแต่หาผ้ามาพันแผลไว้ และในช่วงเวลาเดียวกันยิวต้องพาจันเดินทางไปยังเมืองศิลานครกับกลุ่มคนพวกนี้ด้วย ถึงแม้จะหิวปานใดทั้งสองก็ต้องอดทนเพื่อความอยู่รอดให้ได้ และเมื่อยิวได้ยินว่าอีกสองวันก็ถึงเมืองศิลานคร เขาดีใจอย่างมาก แต่ยิวก็ไม่รู้จะทนความหิวได้นานแค่ไหน เพราะตอนนี้เขาไม่มีอะไรเหลือที่พอจะขายได้เลย “ออกเดินทางได้แล้ว”หัวหน้าขบวนตะโกนเสียงดัง “เดินไหวไหมจัน” “ข้าเดินไหวอยู่แผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก” “อือ ถ้างั้นเราไปกัน” ในระหว่างเดินยิวดูแลจันเป็นอย่างดี พร้อมกับรู้สึกหวาดหวั่นกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง ยิ่งช่วงเช้าไม่มีอะไรตกถึงท้องแม้แต่อย่างเดียว มีเพียงน้ำที่พอประทังชีวิตไว้ได้ “ตอนเย็นเราจะกินอะไรกันล่ะ”ยิวตาลอยเหงื่อท่วมตัวหันมามองจันที่ดูอิดโรยอยู่ไม่ใช่น้อย “เดี๋ยวเราไปหาเผือกหามันกินกัน” “ไปหาตรงไหนล่ะ” “ในป่านี่แหละมีอยู่ พี่ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวข้าหาให้เอง” “เดินยังจะไม่ไหวอยู่แล้ว ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพี่หาให้แค่บอกพี่ว่าตรงทำอย่างไงแค่นั้นแหละ” “ความจริงเราไม่ต้องมาลำบากขนาดนี้ ถ้าไอ้นั่นมันไม่ขโมยย่ามของพี่ไป” “เรื่องมันผ่านมาแล้วอย่าพูดถึงมันเลย จันแค่คิดว่าไปถึงเมืองศิลานคร จันก็จะได้กินอิ่มนอนสบาย” “หวังว่าผมจะไปถึงนะ” “ทำไมพูดอย่างนั้น” “ไม่มีอะไรหรอก” ยิวใจคอไม่ดีเมื่อได้ยินน้ำเสียงสีหน้าและท่าทางของจันที่อิดโรยเหลือเกิน ซึ่งเป็นผลมาจากที่เขาไม่ได้กินข้าว และปวดแสบปวดร้อนจากบาดแผลที่โดนกิ่งไม้ติดไฟ ส่วนยิวก็ไม่ได้แตกต่างกันเพียงแต่ยิวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก เขาจึงยังพอทนต่อสถานการณ์ต่างๆได้พอสมควร ยิวและจันเดินทางแท่บจะไม่ไหว แต่โชคยังช่วยเพราะใกล้ค่ำพอดี หัวหน้าขบวนจึงหยุดพักค้างแรมทิ่ลำธาร ทั้งสองจึงรีบหาที่พักใกล้ๆริมน้ำ “เราพักตรงนี้แหละใกล้แม่น้ำดี”ยิวเอ่ยขึ้นและนั่งลงพร้อมๆกับจัน “ใกล้แม่น้ำ น่าจะมีปลาแต่ผมคงหาไม่ได้ ” “ใช่ เราจะมาไปหาเผือกมันที่ไหนกันดีล่ะ” ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคิดวิธีหาเผือกมันอยู่นั้น ก็ได้มีชายหญิงวัยกลางคนเข้ามาหาทั้งสอง “ไอ้จันมึงอยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่ตัว มึงก็รู้ว่าไอ้หนุ่มกับหัวหน้าขบวนเขาพวกเดียวกัน” “ก็มันมาขโมยย่ามของพี่ผมไปนี่ ของมีค่าตั้งเยอะอยู่ในย่าม” “มึงสองคนก็ไม่เก็บไว้ดีๆเอาอย่างนี้กูเห็นมีงมีผ้าห่มสองผืน ขอซักผืนได้ไหมแลกกับอาหารมื้อนี้” “ได้เอาของผมไป”จันหยิบผ้าห่มในย่ามของเขาให้ชายหญิงคู่นั้นทันที “จันให้เขาไปแล้วจะห่มอะไรล่ะ”ยิวมองด้วยสายตาละห้อย “ไม่ต้องห่มเมื่อก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ห่มเหมือนกัน” “ถ้างั้นเอาของผมไปด้วย แลกอาหารด้วยเหมือนกัน ทำไมพี่ทั้งสองไม่ไปเอาที่หัวหน้าขบวนล่ะ”ยิวมีท่าทีสงสัย “แพงขนาดนั้นใครจะไปซื้อไหว อาหารของเขาก็มีตั้งมากมาย เขาคงไม่มาสนใจอาหารของพวกกูหรอก” ยิวพยักหน้าเพราะเข้าใจเป็นอย่างที่ชายหญิงคู่นั้นบอกมา หลังจากนั้นเขาจึงรับข้าวสองห่อใบตองที่แลกมากับผ้าห่มสองผืน “เอาแบบนี้ไหมเรากินห่อเดียวกัน พี่ได้ยินว่าพรุ่งนี้เย็นๆจะถึงเมืองศิลานครแล้ว นั่นแสดงว่าเราจะได้นอนตากน้ำค้างคืนเดียวเอง อีกห่อหนึ่งเราไว้กินพรุ่งนี้เช้ากันดีไหม” “จริงเหรอพี่” “จริงสิ พี่จะโกหกทำไม” “ถ้างั้นข้าจะได้เข้าเมืองไปอยู่กับพี่และท่านแม่ทัพ ข้าจะได้เรียนหนังสือและเป็นทหารใช่ไหม” “ใช่ จัน พี่จะบอกให้ท่านแม่ทัพวิศรุฒทำในสิ่งที่จันต้องการ” “ขอบคุณพี่มากเลย เอ๊ะ ทำไมพี่ถึงรู้จักท่านแม่ทัพได้ พี่เป็นอะไรกับท่านแม่ทัพเหรอ” “เพื่อนสนิท” “ผมแท่บอดใจไม่ไหวแล้ว อุ๊ย”จันร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บแผล “เจ็บแผลเหรอ” “ไม่เป็นไรหรอก” ยิวเห็นจันมองไปรอบๆตัวและหยิบหญ้าชนิดหนึ่ง ซึ่งยิวก็ไม่รู้จักว่าคือหญ้าอะไร เขาเห็นแค่จันหยิบมาเคี้ยวๆและแปะไว้ที่แผล หลังจากนั้นก็เอาผ้าพันไว้อย่างเดิม ถึงแม้ว่ายิวจะรู้ถึงความสกปรกแต่เขาก็ไม่พูดอะไรออกมา เพราะยิวเข้าใจดีว่าในยุคนี้เป็นวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม “เรากินข้าวกันเถอะ”ยิวแบ่งข้าวกึ่งหนึ่งให้จันได้กิน เมื่อทั้งสองได้กินข้าวที่ไม่อิ่มแม้แต้น้อย ยิวและจันจึงเน้นดื่มน้ำในลำธารให้ได้มากที่สุด เพื่อประทังความหิวโหย “ข้าไม่รู้ว่าพี่มาจากไหน แต่ข้ารู้สึกว่าพี่แปลกไม่เหมือนอย่างพวกข้า” ยิวรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินจันพูดขึ้นมาเช่นนี้ เพราะตั้งแต่เดินทางมาจันไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย “เมืองที่พี่มานั้นไกลมาก พี่ก็ไม่รู้มาได้อย่างไง แต่เมื่อมาแล้วพี่ก็เป็นคนที่นี่แหละ” “เมืองที่พี่จากมาน่าจะสบายกว่านี้มากใช่ไหม” “สบายมากเลย อิสรเสรีไม่ลำบากแบบนี้หรอก มีที่นอนนุ่มๆมีไฟ ทีวี มือถือ โอ๊ย เยอะแยะมากมาย” “ผมอยากไปเมืองที่พี่อยู่จังเลย แล้วพี่จะกลับเมื่อไร” “ยังไม่รู้เลย”ยิวมีสีหน้าเศร้าลง “ถ้าพี่กลับผมไปด้วยได้ไหม” “ทำไมจะไม่ได้ แต่เอ๊ะไม่อยากเป็นทหารแล้วเหรอ” “ยังอยากเป็นอยู่ แต่เราก็สามารถไปมากันได้ไม่ใช่เหรอ” “ใช่” ยิวได้แต่พยักหน้าเพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปได้อย่างไร ถึงไปได้ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้หรือไม่ และข้อสำคัญถ้ากลับไปได้ ยิวก็คงไม่หวนมาที่นี่อีกแน่นอน “นอนเถอะไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อไปนะ” “อือ ข้าก็ง่วงนอนเต็มแก่แล้ว” ยิวประคองร่างของจันให้ล้มตัวลงนอน เพราะเขาสังเกตเห็นอาการของจันแย่มาก และในขณะเดียวกันเมื่อได้สัมผัสตัวของจัน ยิวรู้สึกถึงความร้อนบนตัวของจัน ยิวจึงหาผ้าบางๆชุบน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวของจัน กัสหยุดเขียนแล้วก้มหน้าลงเพื่อพักสมอง ต่อจากนั้นเขาจึงลุกขึ้นและไปยืนมองตรงหน้าต่าง เพื่อคลายความตึงเครียด แต่เมื่อสายตาของเขามองไปยังรถที่กำลังจอดอยู่นั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นรถของพีค ยิ่งกัสเห็นเขื่อนลงมาจากรถของพีค เขาถึงกับอึ้งมองตาค้างด้วยความรู้สึกที่สับสน กัสจึงรีบปิดผ้าม่านและมานั่งยังเก้าอี้ ความรู้สึกของกัสตอนนี้ล้านอารมณ์ เพราะวันนี้เขื่อนออกไปข้างนอกแต่เช้า กลับมาอีกทีมืดค่ำพร้อมกับพีคเป็นคนมาส่ง กัสจึงนั่งคิดวนมาวนไปอยู่หลายรอบ จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตู “อ้าว นี่ก็ดึกมากแล้วยังไม่นอนอีกเหรอ”เขื่อนเดินเข้ามาใกล้ๆกัสที่ยังนิ่งนิ่งๆ “เป็นอะไรหรือเปล่าไม่พูดไม่จา” “เปล่า วันนี้นายไปไหนมาเหรอ” “ไปดูหนังแล้วก็กินข้าว” “ไปคนเดียวเหรอ”ยิวตื่นเต้นระทึกใจยิ่งนัก เพราะเขาก็อยากรู้ว่าเขื่อนจะตอบว่าอะไร “ไปกับพี่พีค” “อือ พี่พีคใจดีเนาะ นายคงสนิทกับพี่พีคมากเลยใช่ไหม” “ก็ไม่ได้สนิทอะไรหรอก แค่รุ่นพี่รุ่นน้องอยู่ชมรมเดียวกันเหมือนกับนายนั่นแหละ” “ทำไมพี่พีคไม่เห็นชวนเราเลย” “เอ่อ อ่อ เดี๋ยวก็คงมาชวน”เขื่อนหน้าเจื่อนไปทันทีเมื่อได้ยินคำนี้จากกัส “อ่อ” “ถ้างั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ”เขื่อนเดินไปยังห้องน้ำทันทีเมื่อพูดจบ “อือ” กัสนิ่งนิ่งด้วยความอิจฉา และอดคิดไม่ได้พีคนั้นพึ่งพอใจเขื่อนอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่เข้าใจก่อนหน้านี้พีคก็ยังมีท่าทีกับเขาอยู่เหมือนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม