พอทานข้าวเช้าเสร็จชายหนุ่มก็ขอตัวมาทำงาน วันนี้เป็นวันเริ่มงานวันแรก ใคร ๆ ต่างพากันแห่มาดูหน้าหมอประจำสถานีอนามัยคนใหม่ บ้างก็ป่วยมาจริง แต่ส่วนใหญ่แล้วมาแค่อยากเจอหมอที่ใคร ๆ ก็เล่าขานไปต่อ ๆ กันว่าหมอใหม่นั้นหล่อ อันนี้มะเขือไม่เถียง ยิ้มรับคำชื่นชมจากชาวบ้านอย่างไม่เคอะเขิน เพราะไปประจำที่ไหนใคร ๆ ก็มักบอกว่าเขาเป็นหมอหล่อใจดี เผลอแป๊บเดียวก็จะผ่านไปจะเป็นวันแล้ว
“อย่าลืมทานยาตามที่หมอสั่งนะครับป้า” เอ่ยเมื่อตรวจผู้ป่วยคนสุดท้ายของวันเสร็จ
“ขอบคุณมากจ้ะคุณหมอ”
“ยินดีครับป้า มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับ” ลุกขึ้นพยุงคุณป้าเดินออกไปส่งหน้าห้องตรวจ
“ป้าไปนะจ๊ะหมอ”
“ครับป้า กลับบ้านดี ๆ นะครับ”
เขายิ้มอ่อนโยนให้กับคุณป้าที่เดินจากไป มะเขือหมุนตัวเดินไปอีกทางเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะมาเก็บของ และผู้มาใหม่พอมาถึงก็ถามผู้ช่วยของเขาที่กำลังเก็บของอยู่ที่ทำงาน พอได้ความก็เดินมาหาหมอหนุ่มในห้องทำงานของเขา พอมาถึงก็ไร้เงาจึงร้องเรียกหา
“คุณหมอจ๊ะ คุณหมออยู่ไหมจ๊ะ” ชะโงกหน้าเข้าไปในห้องแล้วร้องเรียกสองสามครั้ง แต่ก็ยังเงียบ จึงหมุนตัวจะกลับไปถามผู้ช่วยหมอหนุ่มอีกครั้ง แต่คนที่อยากแกล้งสาวอ้วนมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของหล่อนแล้วตอนนี้ เขานิ่งเงียบแล้วพอจังหวะบุญป่วงหมุนตัวมานั้นทำให้หล่อนตกใจ
"ว้าย!"
ด้วยความตกใจร่างอ้วนจึงหงายหลังจะล้มลง โชคดีหมอหนุ่มเร็วเลยคว้าเอวหนาหลายชั้นของเธอไว้
“มะ...หมออย่า ปล่อยป่วงนะจ๊ะ” เธอบอกเขา พยายามจะดันตัวเองขึ้น
“หนัก!" เอ่ยเสียงทุ้มพลางหยักยิ้มให้หล่อน
“มะ...ไม่นะหมอ...” เธอละล่ำละลักบอกชายหนุ่มอย่างรู้ว่าเขาจะทำอะไร
"ว้าย!"
ตุ้บ!
ร่างอ้วนร่วงลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง โดยมีหมอหนุ่มสุดหล่อยืนยิ้มให้เธอ
“หมอบ้า! ปล่อยมาได้งออกมาเมื่อร่างใหญ่ของหมอหนุ่มกระแทกลงมาทาบทับตน
“แรงช้างจริง ๆ” มะเขือบ่นไม่จริงจังเท่าไรนัก แล้วดันตัวเองที่แนบทับไปกับร่างใหญ่ของสาวอ้วน มุมปากหนาหยักยิ้มพราวเสน่ห์ให้เธอ แล้วพูดหยอกเย้ เจ็บนะ”
“ก็หนัก ใครจะไปอุ้มไหว ตัวก็ใหญ่อย่างกับช้าง” เขาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วยื่นมือไปให้สาวอ้วนจับลุกขึ้น
“หมอปากเสีย คนเค้าอ้วนแล้วมันไปหนักส่วนไหนของหมอไม่ทราบ” น้ำเสียงเล็กเอ่ยแง่งอนออกมาอย่างไม่รู้ตัว แววตาตัดพ้อน้อยใจสะบัดค้อนให้บุรุษหนุ่มแล้วยื่นมือไปจับมือใหญ่ที่ยื่นมารอเพื่อจะจับลุกขึ้น แต่แรงและตัวของเธอหนักทำให้เจ้าของมือตัวปลิวล้มลงมาทาบทับหล่อน
ตุ้บ!
"โอ๊ย!"
อีกครั้งบุญป่วงร้อา
“ไขมันเยอะก็ดีเหมือนกันนะ ดูสิ ล้มลงมาพี่ยังไม่เจ็บเลย ขอบคุณที่เอาตัวรับพี่นะป่วง” จริง ๆ เมื่อกี้เขาทรงตัวไม่ดีเองจึงทำให้แรงช้างของบุญป่วงฉุดดึงเขาล้มลงมากระแทกหล่อนได้ ความไม่ถือตัวทำให้เขาพูดเป็นกันเองและกล้าเย้าแหย่หล่อนได้ ก็คนอะไรน่าแกล้งน่าหยอกเป็นบ้าเลย
“ไม่ต้องมาพูดเลยนะคุณหมอ ลุกขึ้นเลย ป่วงอึดอัด แล้วนี่ถ้าใครมาเห็นเข้าป่วงจะเอาหน้าไปไว้ไหน ป่วงเป็นสาวเป็นนาง แม้ไม่สวยก็เถอะ แต่ป่วงก็เป็นผู้หญิง ยังไงก็เสียหาย” เธอพูดพร้อมกับผลักดันร่างเหนือร่างเบี่ยงออกจากร่างตน แล้วพยายามรวบรวมแรงดันร่างอ้วนของตนลุกขึ้น แม้จะยังจุกเจ็บหลังอยู่ก็ตาม
ตอนนี้ทั้งสองลุกขึ้นยืนเป็นปกติแล้ว สาวอ้วนมองหน้าหมอหนุ่มอย่างเอาเรื่อง มืออ้วนป้อมสั้นเท้าสะเอว หน้าขึงขัง จนทำให้มะเขือนิ่งเงียบจ้องมองไม่พูดไม่จา รอดูท่าทีของบุญป่วงก่อนว่าจะพูดอะไร
“แม่ให้มาตามไปกินข้าวที่บ้าน”
“ครับ”
“กลับละ หมดหน้าที่แล้ว” พูดจบก็สลัดหน้าเบือนหนีไปทางอื่น แล้วใช้มือผลักคนตัวโตที่ยืนขวางทางประตูออกให้พ้นทางตน
“กลับพร้อมกันสิ”
“เอาจักรยานมา มันเก่า แค่ป่วงคนเดียว เหล็กเก่า ๆ ของตาแก่ก็จะหักแล้ว หมอเดินไปเองเถอะจ้ะ”
“โกรธเหรอ” ถามเสียงทุ้ม แล้วคว้าข้อมือใหญ่ของสาวอ้วนไว้
“เปล๊า...” หล่อนปฏิเสธเสียงสูง
“เสียงสูงแสดงว่าโกรธ ขอโทษนะครับ ก็น่าแกล้งเลยอยากแกล้ง จริง ๆ เอ็นดูหรอกนะถึงแกล้ง”
ประโยคของหมอหนุ่มทำให้บุญป่วงหน้าร้อนผ่าว สองแก้มแดงคล้ำซับสีเลือด ตัวอ้วนกลมบิดไปบิดมา ข้อมือเล็กก็บิดเร่าออกจากมือใหญ่ด้วยความเขินอาย
“ปะ...ปล่อย”
“เขิน...” โน้มหน้าลงมาใกล้คนหน้าแดง
“ปะ...เปล่า...” สะบัดมือใหญ่ออกจากมือมากุมหน้าของตนไว้ ขายหน้าชะมัดยัยป่วง มาเขินอะไรนี่...
หล่อนบ่นว่าตัวเองที่มาทำขายหน้าต่อหน้าหมอทะลึ่ง
“กลับเถอะ เดี๋ยวพี่เดินไปทีหลังได้”
เห็นว่าสาวอ้วนเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วเขาจึงพูดขึ้นแล้วเดินสวนหล่อนเข้าไปในห้องทำงานเพื่อเก็บข้าวของจะตามหล่อนไป แต่ก่อนจะไปบ้านผู้ใหญ่สนองคงต้องเอาข้าวของที่เอามาด้วยเมื่อเช้าไปเก็บที่บ้านพักเสียก่อน
คนบ้า! ปรับอารมณ์สีหน้าตามไม่ทันเลย หล่อนเอ่ยอย่างน้อยใจ เมื่อเขาเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานอย่างไม่สนใจเธอ เธอจึงเดินหน้าตึงออกจากห้องทำงานของเขาไปบอกข่าวคราวกับแม่ว่าคุณหมอหนุ่มจะตามไป