- 2 -
ภาพบาดตา [2]
"โอ้โหยัยวา! ปากแกนี่นะ ไม่ใช่ไม่มีแฟนโว้ย พี่แค่ยังไม่อยากมี แกเข้าใจไหมว่าคนมันหล่อเลือกได้อะ"
ประโยคนั้นของพี่เตทำเอาฉันถึงกับกลอกตาไปมองอย่างนึกรำคาญ รวมไปถึงเสียงถอนหายใจจากพี่ภพและโยที่ดูท่าแล้วก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่
"อ้าว อะไรกันครับ ทำไมทำหน้างั้น ก็มันจริงอะ นี่ใคร นี่เตโชถาปัตย์นะครับ สุดหล่อแห่งถาปัตย์จะก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสิครับ" ว่าแล้วก็ทำหน้ายืดมั่นอกมั่นใจจนฉันได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับความหลงตัวเองของพี่เต
แต่มันก็จริงแหละพี่เตแกฮอตมาก ฉันเคยได้ยินมาว่ามีสาว ๆ ไปหาแกที่ตึกตั้งหลายคน บอกจะช่วยตัดโมอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วคนอย่างไอ้พี่เตก็ตอบตกลงสิรออะไร ได้คนมาช่วยงานมีเหรอจะปฏิเสธ แถมการตอบแทนก็คือพาผู้หญิงไปเลี้ยงข้าวดูหนัง พี่เตเจ้าเสน่ห์มากแต่ฉันก็ยังไม่เคยเห็นแฟนเป็นตัวเป็นตนของพี่แกสักที
"ช่างเหอะ แล้วสรุปมีใครอยากดูไพ่ไหม วันนี้อารมณ์ดีจะดูให้ฟรีไม่คิดเงินเลย" ฉันบอกยิ้ม ๆ แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้คิดเงินอะไรหรอก ฉันไม่ใช่หมอดูอาชีพและไม่ได้รับเปิดไพ่ให้ใครสุ่มสี่สุ่มห้า ต่อให้เอาเงินมากองตรงหน้าแต่ถ้าฉันไม่อยากดูให้ก็คือจบ!
"อารมณ์ดีจากที่ไหนมา ไอ้นอร์ท?" เป็นเสียงของพี่ภพที่ถามขึ้นทำเอาฉันได้แต่ยิ้มเขินและหลบสายตาลง
ใช่...ฉันกับพี่นอร์ทตอนนี้เราอยู่ในฐานะคนคุยกัน หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพี่นอร์ทก็เข้าหาฉันตลอด ซึ่งมันก็เป็นเวลาสองเดือนได้แล้วที่ฉันกับพี่นอร์ทกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่เรียกว่ากำลังคุย ๆ กันอยู่น่ะ
หลายคนอาจจะมองว่าฉันมูฟออนไว แล้วไง? ฉันไม่เคยสนใจกับคำพูดพวกนั้นเลยสักนิด ในเมื่อสาเหตุที่ไอ้พี่เอ็มขอเลิกกับฉันมันแรงและเจ็บปวดขนาดนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะฉันจะต้องเสียใจและเก็บมาคิดให้ปวดหัว สู้มูฟออนเปิดใจกับคนใหม่ซะยังดีกว่า!
"จะใครล่ะพี่ภพ ก็ต้องเป็นคนคนนั้นอยู่แล้ว" นี่ไม่ใช่คำตอบจากฉันแต่เป็นวาโยต่างหาก ฉันเล่าให้วาโยฟังแทบทุกอย่างรวมไปถึงเรื่องที่กำลังคุยกับพี่นอร์ทด้วยเช่นกัน
ความจริงแล้วฉันก็ยังไม่อยากจะเปิดเผยมากหรอกกลัวเสียใจอีกอะ แต่พี่นอร์ทดีกับฉันมาก อีกทั้งยังเขาเทคแคร์ฉันไม่ต่างจากแฟนคนหนึ่งเลยทำให้ฉันไม่อยากปิดบังกับคนอื่น พูดง่าย ๆ ก็คืออยากอวดนั่นแหละ^^
"ชิ อยากพูดไรก็พูดไปเถอะ" ฉันทำท่าทางไม่สนใจก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแต่ทว่ากลับต้องชะงักเพราะไม่ว่าจะควานหาเท่าไหร่ก็ไม่พบของที่ว่าเลยสักนิด "หายไปไหน..."
"หาอะไรอะพี่วา ไพ่ก็เอาออกมาแล้วนี่"
"กระเป๋าสตางค์อะ พี่จะคืนคีย์การ์ดห้องให้โยนั่นแหละแต่ไม่รู้ลืมไว้ที่ไหนอะ" ฉันจำได้ว่าหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากคอนโดฯ แล้วเรียบร้อยแต่ก็ไม่รู้ว่าเผลอไปวางทิ้งที่ไหนรึเปล่านี่สิ
ปกติแล้วฉันกับวาโยจะอยู่ที่บ้านและขับรถไปกลับมหาวิทยาลัย แต่เมื่อคืนฉันกับโยนอนค้างที่คอนโดฯ ที่แม่ซื้อไว้ให้น่ะ อีกทั้งในตอนเช้าฉันก็เป็นคนที่ออกจากห้องเป็นคนสุดท้ายด้วยเลยเป็นฝ่ายเก็บคีย์การ์ดไว้นี่สิ
"หายเหรอ พี่วาคิดดี ๆ ว่าลืมที่ไหน"
"จำไม่ได้อะ"
"เรื่องคีย์การ์ดโยไม่ห่วงหรอกเพราะโยมีอีกใบ แต่กระเป๋าตังพี่วานี่สิ ถ้าหายนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ" จริงอย่างพี่โยพูดนั้นแหละ ในนั้นมีบัตรที่สำคัญมากมายรวมไปถึงเอกสารต่าง ๆ ด้วย หากทำหายคงวุ่นกันใหญ่แน่
"อืม...เก็บไว้ไหนนะ"
"เมื่อเช้าไอ้นอร์ทมารับที่คอนโดฯ รึเปล่า อาจจะทำตกที่รถไอ้นอร์ทก็ได้นะ" เสียงของพี่ภพเอ่ยขึ้นทำให้ฉันนึกขึ้นได้ทันที จริงสิ...ฉันอาจจะทำตกไว้ที่รถของพี่นอร์ทก็ได้ ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ อย่าหายเลย
"ใช่แน่เลยอะพี่ภพ วาลองถามดูดีกว่า" ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดเข้าแอปพลิเคชั่นเพื่อส่งข้อความไปหาพี่นอร์ทและถามถึงกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง ตอนนี้พี่นอร์ทไม่ได้มีเรียนนะเขามีเรียนตอนสายและว่างหนึ่งชั่วโมงก่อนจะมีเรียนอีกทีช่วงบ่าย
"ไปหามันที่ตึกเลยไหมล่ะ พี่มีธุระจะไปที่ตึกนั้นพอดี" พี่เตพูดขึ้นทำให้ฉันหันไปมองหน้าเขาอย่างจ้องจับผิดจนลืมไปสนิทเลยว่ากำลังสนใจกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองอยู่
"ไปทำไรวะ" พี่ภพถามอีกเสียงทำให้ในตอนนี้สายตาของฉัน พี่ภพ และวาโยต่างก็มองพี่เตเป็นตาเดียว
"ไปหาสาวครับ จบเนอะ"
"ว่าแล้วเชียว อย่างพี่เตจะไปทำอะไรได้นอกจากไปหาสาว ๆ น่ะ" ฉันบ่นอุบอิบนึกแล้วว่าต้องเป็นอย่างที่คิดจริง ๆ นั่นแหละ
"ว่าไง จะไปไหม"
"ไปสิ ไปหาพี่นอร์ทที่ตึกก็ดีเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะมีสาว ๆ มาวอแวบ้างรึเปล่า" ฉันบอกอย่างไม่จริงจังนัก เพราะไม่คิดว่าพี่นอร์ทจะสนใจผู้หญิงคนไหนน่ะ ตลอดเวลาที่คุยกับพี่นอร์ทมาเขาค่อนข้างให้เกียรติและดูจริงจังกับฉันมาก เลยทำให้ฉันไม่ได้กังวลใจในเรื่องนี้เลยสักนิด
ตึกคณะดุริยางคศาสตร์
ฉันกับพี่เตเดินลงมาจากรถเมื่อเขาจอดรถที่บริเวณหน้าตึกเป็นที่เรียบร้อย พลันเมื่อฉันและพี่เตเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ทำให้รู้สึกถึงสายตาของคนรอบข้าง รวมไปถึงเสียงซุบซิบนินทาที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนเหล่านั้นพูดถึงอะไร
ก็คงเป็นเรื่องฉันกับพี่เตนั่นแหละ อย่างที่บอกว่าหลายคนคิดว่าฉันกับพี่เตมีซัมติงกันเพราะสนิทสนมกันมาก แต่ฉันก็ไม่คิดสนใจอยู่แล้ว ใครจะพูดอะไรก็พูดไป
"กูบอกแล้วว่าเขาคบกันจริง ๆ มึงดูสิเนี่ยเดินมาด้วยกันขนาดนี้"
"เออจริงด้วยว่ะ แต่เมื่อวันก่อนกูเห็นว่าพี่เตขับรถมารับพี่จอมที่ตึกไม่ใช่เหรอวะ หรือกูตกข่าวอะไรไป"
"แหมมึง พี่เตเจ้าชู้จะตายมึงก็รู้"
ประโยคหลังทำเอาฉันหลุดหัวเราะออกมาจนพี่เตหันมองด้วยหางตา
"ขำไรยัยวา"
"ก็ไม่ได้ยินเหรอที่คนเขาพูดกันอะ พี่เตเจ้าชู้จะตายมึงก็รู้" ฉันเลียนเสียงตามสิ่งที่ได้ยินแถมยังทำหน้าหยอกล้อจนพี่เตเอาแต่ทำหน้าบึ้ง
"ยัยตัวแสบ! เดี๋ยวเถอะ!" พี่เตล็อกคอฉันเอาไว้พลางยกมือยีที่เรือนผมของฉันจนยุ่งเหยิง ซึ่งการกระทำนั้นกลับทำให้คนอื่น ๆ ต่างหันไปซุบซิบกันยกใหญ่
"โอ๊ยพี่เต! ผมวายุ่งหมดแล้วเนี่ย!"
"สมน้ำหน้า อยากล้อพี่ดีนัก"
"ฮึ่ย เอามือออกไปเลย แล้วก็จะไปไหนก็ไป อยากไปหาสาวที่ไหนก็รีบไปเลย" ฉันออกปากไล่ด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด มาหาผู้ชายถึงตึกคณะทั้งทีแต่ก็โดนไอ้พี่เตแกล้งจนหัวฟู แล้วจะไม่ให้โกรธได้ยังไงกัน!
"เออไปก็ได้วะ นั่นไงไอ้นอร์ท มันยืนอยู่ตรงนั้นพอดี" ฉันมองไปตามระดับสายตาของพี่เตซึ่งก็เป็นพี่นอร์ทที่กำลังยืนอยู่จริง ๆ
มันค่อนข้างไกลทำให้ฉันมองเห็นไม่ชัดเจนว่าเขากำลังยืนคุยอยู่กับใคร แต่ที่รู้ ๆ ก็มีเพื่อนผู้ชายของเขาสี่คนและ...ผู้หญิง
มีผู้หญิงด้วยเหรอ...?
ฉันมองไปทางพี่นอร์ทอยู่ครู่หนึ่งแต่ทว่าไม่นานกลับเป็นต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
สิ่งที่เห็นคือผู้หญิงคนที่อยู่อยู่ข้างพี่นอร์ทนั้นทำท่าทางสนิทสนมกันมากและถัดมาผู้หญิงคนนั้นก็เขย่งปลายเท้าเพื่อแตะริมฝีปากลงบนแก้มของพี่นอร์ท ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร อีกทั้งเขายังหยอกล้อพูดคุยกับเธอคนนั้นต่ออีกด้วย
อะไรกัน...!
"วา พี่ว่าเรากลับ..."
ฉันหันมองหน้าพี่เตที่ตอนนี้เจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด มือหนารั้งแขนฉันไว้ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อกำบังไม่ให้ฉันเห็นภาพบาดตาบาดใจนั้นอีก
"พี่เตรอวาก่อนได้ไหม เดี๋ยววามานะ" ฉันเอ่ยบอกเสียงสั่นพลางปั้นยิ้มให้กับคนตรงหน้า แม้ว่าภายในใจจะแตกสลายมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ฉันอยากรู้...อยากรู้เรื่องทั้งหมดให้แน่ชัด ว่าสิ่งที่ฉันเห็นมันเป็นยังไงกันแน่
"กลับกันเถอะวา อย่าไปเลย"
"ไม่ค่ะ วาอยากรู้...อยากรู้ว่าเมื่อกี้มันคืออะไรกันแน่"
ฉันปฏิเสธและส่ายหน้าไปมาขณะที่หยาดน้ำตาก็เอ่อคลอจนแทบกัดกลั้นไม่อยู่ แม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วลึก ๆ แต่ฉันก็อยากได้ยินกับหู และฟังจากปากของเขาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่