- 4 -
ตบแลกจูบ [1]
เสียงเพลงบีทหนักถูกแทนที่เมื่อวงดนตรีสดลงจากเวที เวลานี้เป็นช่วงที่ครึกครื้นมากที่สุดเพราะร้านใกล้จะปิดแล้วทำให้มีดีเจคอยเปิดเพลงจังหวะหนัก ๆ ชวนให้ลุกขึ้นเต้นรวมไปถึงโต๊ะของฉันเองด้วยที่ไม่มีใครอยู่ติดเก้าอี้กันสักคน
แสงไฟสาดส่องไม่ว่าจะเป็นไฟดวงเล็กดวงใหญ่หรือจะเป็นสปอตไลต์มากสี มันเพิ่มความสนุกได้เท่าตัวแต่ก็ให้อาการมึนเมาเพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน แล้วยิ่งมีฤทธิ์แอลกอฮอล์ขับกล่อมอยู่ในร่างกายแล้วกลับยิ่งทวีคูณทำให้มัวเมามากขึ้น
"ก่อนจะจากกันวันนี้นะครับอยากให้ทุกคนยกแก้วของตัวเองขึ้นมาครับ...ผมเชื่อว่าทุกคนล้วนคู่ควรและเหมาะสมกับความรักดี ๆ ครับ ยกแก้วขึ้นมาแล้วดื่มให้หมดแก้วเลยครับ!"
เสียงของดีเจเอ่ยตามไมค์ที่ถือทำให้ผู้คนภายในร้านต่างก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นและดื่มมันจนหมดราวกับน้อมรับตามคำพูดของดีเจเมื่อครู่
แต่ไม่ใช่กับฉัน!
"ทุกคนคู่ควรกับความรักดี ๆ เหรอวะ" ฉันเอ่ยออกมาขณะที่สายตาก็ยังคงทอดมองไปยังแก้วของตัวเองที่ตอนนี้มีเเบียร์พร้อมน้ำแข็งที่ละลายไปครึ่งค่อนแล้ว
"ก็เออดิมึง คนสวย ๆ อย่างมึงก็เหมือนกันไอ้วา" จ๋าเลือดที่จะตอบเป็นคนแรก มันตบไหล่ฉันเบา ๆ ก่อนจะดันตัวของฉันให้นั่งลงและกอดคอเอาไว้เมื่อฉันเริ่มกลับไปคิดถึงความเจ็บปวดอีกครั้ง
"แล้วคนเลว ๆ อย่างไอ้พี่นอร์ทล่ะ มันควรได้พบเจอกับความรักดี ๆ ไหมวะ"
ประโยคนั้นของฉันทำให้เพื่อน ๆ ในโต๊ะต่างเงียบลงในทันที ที่ฉันถามน่ะไม่ได้อยากจะกวนอะไรหรอก แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าคนอย่างนั้นคู่ควรกับความรักดี ๆ หรือเปล่า
"ถึงแม้ว่ามันจะเลว จะเหี้ยแค่ไหน จะเจ้าชู้หรือมีคนอื่น คนแบบนั้นก็คู่ควรกับความรักดี ๆ เหรอวะ เหอะ! กูคนหนึ่งอะไม่เห็นด้วย คนแบบนั้นไม่สมควรที่จะมีความรักเลยด้วยซ้ำ!" พูดจบฉันก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มจนกระทั่งหมดแก้วแล้วจึงวางมันลงที่โต๊ะดังเดิม
"เออ กูก็ไม่เห็นด้วยอะ โดยเฉพาะไอ้ผู้ชายแบบนั้น คนเลว ๆ ทุกคนไม่คู่ควรกับการมีความรักดี ๆ โว้ย!" คราวนี้เป็นเสียงใบหม่อนที่ตะโกนออกมาหลังจากนั้นก็ยกแก้วของจัวเองขึ้นดื่มจนหมดเช่นเดียวกับฉัน
ความจริงแล้วใบหม่อนก็เคยพบเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ ฉันน่ะ แต่รายนั้นน่าจะหนักหนาสาหัสกว่าเยอะ แต่มันก็ผ่านมานานแล้ว ฉันเชื่อว่าใบหม่อนเองก็คงไม่เก็บเรื่องแย่ ๆ นั้นมาคิดอีกแต่เพียงแค่ตอบรับกับความเห็นของฉันอีกเสียงเท่านั้น
"ทุกคนล้วนคู่ควรแต่ความรักดี ๆ แต่ยกเว้นคนที่ทำเพื่อนกูเสียใจเว้ย!" จ๋าบอกพร้อมกับดึงฉันและใบหม่อนเข้าไปกอดทำให้ฉันหัวเราะออกมากับท่าทางของมัน
"เอ้า! ลืมกูเฉย กูกอดด้วยดิวะ" พลอยที่ยืนอยู่ก็รีบแทรกตัวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของจ๋าด้วยอีกคน
พวกเราสี่คนสนิทกันมาก เวลามีปัญหาอะไรก็จะมีพวกนี้แหละคอยอยู่ข้าง ๆ อ้อ! แล้วก็มีพวกพี่ ๆ ในโปรเจกต์อย่างพี่ภพ พี่เต แล้วก็วาโยน้องสาวฉันอีกคนที่ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือเรื่องทุกข์ใจอะไรพวกเขาก็จะอยู่เคียงข้างฉันเสมอ
"พอ ๆ เลิกซึ้งก่อน เหนื่อยจะร้องไห้และ"
"เออ ทิชชูก็หมดแล้วด้วย กูโยนตอนที่เพลงผ้าเช็ดหน้าเปิดเมื่อกี้จนหมดเลยอะ พนักงานด่ากูเปิงแน่"
"กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ มึนไฟว่ะ" ฉันบอกออกไปและลุกขึ้นก่อนที่มือของพลอยจะจับที่ต้นแขนของฉันไว้
"กูไปด้วย ปวดฉี่พอดี"
ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำพร้อม ๆ กับพลอยซึ่งกว่าจะฝ่าฝูงคนมาได้ก็ทำเอาแทบหอบ เพราะตอนนี้ผู้คนก็ต่างเดินพลุกพล่านรวมไปถึงการลุกขึ้นเต้นจนเต็มร้านไปหมด
"กูนั่งรอข้างนอกนะมึง" ฉันบอกกับพลอยที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูเพื่อรอเข้าห้องน้ำก่อนจะเดินออกมานั่งที่โซฟาด้านนอก ความจริงแค่อยากมานั่งพักแสงไฟน่ะ ด้านในมีแต่แสงอะไรไม่รู้เต็มหมด มันยิ่งทำให้ฉันมึนเข้าไปใหญ่ หากได้มานั่งพักก็คงทำให้ดีขึ้นบ้าง
แต่ทว่า...
"วา" เสียงเข้มคุ้นหูเอ่ยเรียกทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า
ถ้าหากให้เดาเขาคนนั้นก็คงไม่พ้นไอ้คนเฮงซวยที่ทำให้ฉันเสียใจอยู่ ณ ตอนนี้
ใช่...เขาคือพี่นอร์ท!
"เรามาคุยกันก่อนได้ไหม" น้ำเสียงเว้าวอนพร้อมทั้งแววตาของพี่นอร์ทไม่ได้ทำให้ฉันใจอ่อนหรือคิดอยากอยู่สนทนากับเขาเลยสักนิด หนำซ้ำยังอยากหนีไปให้ไกลไม่อยากอยู่ใกล้มากกว่าห้าเมตร
"ไม่ค่ะ" ฉันตอบเสียงแข็งและเบี่ยงสายตาหนีเพราะไม่คิดจะสนใจอะไรอีก เรื่องของฉันกับเขามันจบลงแล้ว และมันจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแน่นอน!
หมับ!
"วาฟังพี่ก่อน!" มือหนาตรงเข้ามาจับที่ข้อมือของฉันเอาไว้ก่อนจะออกแรงกระชากทำให้ร่างกายของฉันชนเข้ากับอกแกร่งของเขาอย่างแรง
"อ๊ะ! วาเจ็บ ปล่อยนะ!" ฉันพยายามแกะมือเหนียวออกแต่ก็ดูไม่เป็นผลเท่าไหร่นัก คนตัวโตออกแรงบีบให้แน่นขึ้นหลังจากนั้นก็ฉุดกระชากลากตัวให้ฉันเดินไปตามเขาบริเวณด้านหลังร้านโดยไม่สนใจแรงต้านทานอันน้อยนิดของฉันเลยแม้แต่น้อย
ฉันพยายามสะบัดตัวและต้านไว้สุดแรง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งฉันต่อต้านเขาก็ยิ่งออกแรงบีบที่ข้อมือของฉันมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งพี่นอร์ทพาฉันออกมาด้านนอกร้านซึ่งเป็นลานจอดรถเขาจึงปล่อยข้อมือของฉันออกก่อนจะจับรั้งร่างกายของฉันให้ประชิดตัวของเขาเพื่อล็อกปิดหนทางหนี
"ทำไมไม่ฟังกันบ้างวะ!"
"ไอ้สารเลว! ทำแบบนี้ทำไม ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"ก็ฟังกันก่อนดิ" พี่นอร์ทตะคอกกลับมาพร้อมกับจับใบหน้าของฉันเอาไว้พลางก้มใบหน้าลงจนตอนนี้เราอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น
ขยะแขยง...เป็นคำพูดเดียวที่อยู่ในใจของฉันตอนนี้ ฉันรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงคนตรงหน้ามากยิ่งกว่าของสกปรกในโลกนี้ซะอีก